ก่อนที่การพูดคุยธุระจะเริ่มขึ้น เบ็นจึงชวนทุกคนให้ร่วมรับประทานอาหารกัน ซึ่งก็ไม่มีใครปฏิเสธแม้ว่าการมาในเวลาอาหารเย็นเช่นนี้จะดูเสียมารยาท เพราะเจ้าของบ้านก็จำเป็นต้องเชิญแขกมาทานอาหารด้วย แต่เวลาของภามก็เหลือไม่มากเขาจึงเลือกมาที่นี่หลังจากพาภรรยา และลูกของแอดเลอร์ย้ายไปที่ฟาร์มแล้ว
ขณะที่เบลล่ากำลังตักอาหารเพื่อเสิร์ฟแขกนั้น ภามก็ได้สังเกตปฏิกิริยาของเธอทุกอย่าง นั่นทำให้เขารู้ว่าเด็กสาวไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่มีแขกมาในวันนี้ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่อาจเดาได้ว่าสาเหตุนั้นมาจากเรื่องใดกันแน่ บีดีเลียที่นั่งอยู่ข้างภามก็สังเกตได้เช่นกัน เธอจึงกระซิบถามเขา
“ท่านว่านางไม่พอใจที่เรามาทานอาหารที่พวกเขาต้องประหยัดไว้จนหมดฤดูหนาวรึเปล่า?”
“แค่มันฝรั่งต้มคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก นางคงจะไม่อยากให้พ่อต้องไปต่อสู้แล้วแค่นั้นเอง” ภามตอบกลับอย่างไม่ได้กังวลอะไร
หลังจากมื้ออาหารจบลง ทั้งหมดก็ไปนั่งที่ห้องรับแขก การเจรจาในครั้งนี้แอดเลอร์เป็นคนอาสาคุยกับเบ็นเอง โดยที่ภามกับบีดีเลียแทบไม่ได้พูดอะไร ชายหนุ่มจึงหันไปสนใจทางด้านเด็กสาวบ้าง หลังจากที่เบลล่าล้างจานเสร็จเธอก็มายืนแอบฟังอยู่ที่ห้องด้านข้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่ภามจะรับรู้ได้
ภามเข้าใจดีถึงความลำบากใจของเบลล่า จากก่อนหน้านี้ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินทางมาที่ทุ่งหญ้าทางเหนือแห่งนี้ แอดเลอร์ได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับความเป็นมาของเบ็น
ในตอนที่ยังเป็นทหารอยู่ ชายผมม่วงนี้เป็นนักรบยอดฝีมือหน้าที่ในหน่วยรบของเขาก็คือแนวป้องกัน อาวุธหลักของเขาคือโล่กลมขนาดใหญ่ และหอกยาว เขาเป็นหัวหน้าหน่วยที่เชี่ยวชาญการจัดรูปแบบป้องกันหลากหลายชนิด กองทัพม้าศัตรูไม่อาจตีฝ่าแนวป้องกันของเขาได้เลย
ต่อมาหลังจากเกิดเหตุลอบสังหารดยุคเรโคลเต้ แม้ว่าเจ้าเมือง และบุตรสาวจะรอดชีวิตแต่ดัชเชสเรโคลเต้นั้นไม่อาจรอดพ้น หลังจากการเสียชีวิตของภรรยาดยุคก็สั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่จอมเวทย์ ทหารคุ้มกัน จนถึงคนรับใช้ ซึ่งทั้งหมดมีเวเบอร์คอยยุแยงทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องถูกไล่ออก
กลับมาที่การสนทนาของสหายเก่าทั้งสองตรงหน้าของภาม ทั้งแอดเลอร์ และเบ็นต่างก็มีความสุขที่ได้คุยกัน แม้ธุระที่จะมาคุยในครั้งนี้จะเป็นเรื่องสำคัญถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา แต่มันเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยเมื่อเทียบกับเรื่องสารทุกข์สุขดิบของสหายร่วมรบคนอื่นๆที่ทั้งสองต่างก็ผลัดกันถามหา
“ว่ายังไงนะ! เจ้าบ็อบมันมีลูกคนที่สี่แล้วเรอะ? อายุปาเข้าไปห้าสิบแล้วมันก็ยังทำได้นะ แหมสุดยอดจริงๆ” แอดเลอร์รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องที่เบ็นเล่าให้ฟังถึงเพื่อนคนอื่นๆ
“ว่าแต่หัวหน้าเถอะ ท่านไม่ได้เจอเพื่อนเก่าบ้างเลยรึไง? ถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย” เบ็นถามอย่างสงสัย
“ใช่ ข้าไม่ได้เจอใครเลยตั้งแต่ออกมาทำไร่ที่บ้าน เพราะข้าคิดว่าพวกมันจะต้องส่งคนมาเก็บข้าแน่ๆ แต่ตอนนี้ข้าย้ายไปอยู่กับท่านภามแล้วข้าจึงหมดห่วงแม้จะต้องออกไปต่อสู้ก็ตาม ทั้งลูก และเมียข้าจะได้อยู่อย่างปลอดภัยที่นั่น เอ่อ…ถึงแม้ว่าเจ้าไซเลอร์มันอยากจะติดตามท่านภามด้วยก็เถอะ” นักธนูวัยห้าสิบกล่าวอย่างมีความสุขออกหน้าออกตา ซึ่งนี่มาจากใจที่ผ่อนคลายจากความกดดันมาหลายปีนั่นเอง
“ที่นั่นสามารถปกป้องพวกเราจากนักฆ่าของโอเมก้าได้จริงๆเหรอ? แม้แต่กับดักเวทย์ หรือระบบตรวจจับด้วยอาคมพวกมันก็สามารถผ่านมาได้อย่างสบาย แล้วฟาร์มกลางป่าแบบนั้นทำได้อย่างไรล่ะ?” ตอนนี้เบ็นเริ่มถามด้วยความสนใจขึ้นมาแล้ว เพราะเขาที่เคยต่อสู้กับพวกนักฆ่านั้นรู้ดีว่าศัตรูฝีมือไม่ธรรมดา
“ฮ่าๆ ข้าละอยากให้เจ้าได้ไปเห็นที่นั่นเร็วๆเสียจริง เพียงแค่ป่าส่วนที่ลึกที่สุดบนเทือกเขาแม็กซิมัสก็ยากที่จะเข้าไปแล้ว รอบๆฟาร์มนั้นยังมีม่านพลังมายาคนภายนอกไม่สามารถมองเห็น และไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าไม่มีการนำทางจากผู้ที่ได้รับหน้าที่เท่านั้น แน่นอนว่าด้านในนั้นกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาทีเดียว” ชายผมสีน้ำตาลโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณหุบเขาลึกลับอย่างเต็มที่ และมันก็ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ในใจของเบ็นนั้นมีแต่ความตื่นเต้น เขาเชื่อทุกสิ่งที่หัวหน้าเก่าของตนบอก เขาเชื่อคำบอกเล่าของไซม่อนผู้เป็นทหารยามชรา เจ้าของโรงแรม และเป็นญาติสนิทของตน เขาเชื่อผลผลิตขนาดใหญ่นอกฤดูกาลมากมายที่เห็นด้วยตาตัวเอง ทุกสิ่งที่กล่าวขึ้นยืนยันได้ถึงเกษตรกรหนุ่มนามว่าภามได้เป็นอย่างดี
แต่ก็ยังมีเรื่องที่เขายังสงสัย เพราะตอนนี้เขารู้เพียงแค่ภามต้องการตัวเขาให้เข้าร่วม เพื่อต่อสู้กับอะไรบางอย่างเท่านั้น ในที่สุดจึงเป็นตัวของเบ็นเองที่ถามออกมา
“พวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า สรุปแล้วท่านภามต้องการให้ข้าไปทำงานอะไรหรือขอรับ?” เบ็นหันไปถามแขกของเขาที่นั่งเงียบมาตั้งนาน ทำให้ภามต้องยิ้มออกมาทันทีเพราะชายผมม่วงเริ่มสนใจเขาแล้ว
“เป้าหมายแท้จริงของข้าคือหยุดสงครามทางใต้ เพียงแต่ว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น เนื่องจากกลุ่มโอเมก้า และตระกูลขุนนางอีกมากมายอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ การทำลายพวกโอเมก้าจึงเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจทั้งหมด ข้าจึงเลือกรวบรวมคนจากผู้ที่เคยถูกพวกมันทำร้ายขึ้นมาก่อน” เป็นอีกครั้งที่อดีตทหารจากต่างโลกกล่าวอย่างตรงไปตรงมา การศึกครั้งนี้ไม่ง่ายเขาจึงต้องการผู้มีอุดมการณ์แรงกล้ามาเข้าร่วม จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องปิดบังอะไร
“ฮะ! ว่าไงนะ! นี่เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นรึ? แต่เรื่องใหญ่ขนาดนี้มันไม่เกินมือท่านไปหน่อยรึ ท่านเป็นเพียงชาวไร่ชาวสวน จะก่อตั้งกองทัพเข้าร่วมสงครามได้อย่างไร แล้วจะไม่ถูกหาว่าเป็นโจร หรือกบฏรึ?” แน่นอนว่าใครที่ได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวก็ต้องมีความคิดแบบนี้กันทั้งนั้น
“พวกเราอยู่ในที่ลับ คนอื่นอยู่ในที่แจ้งไม่มีทางที่พวกเขาจะรับรู้ว่าเราเป็นใคร กว่าเราจะเปิดเผยตัวก็เมื่อกำลังรบพร้อมเข้าสงครามเท่านั้น ที่ทำไปในตอนนี้ก็เป็นการปกป้องเมืองฮาเวสตี้ไปด้วย ไม่ให้พวกโอเมก้าเข้ามาครอบงำได้ และข้าก็ไม่ใช่เพียงแค่เกษตรกรแต่เป็นจอมเวทย์คนหนึ่ง” ชายหนุ่มชี้แจงเรื่องราวในเบื้องต้นเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้มั่นใจมากขึ้น
เบ็นรู้สึกประหลาดใจมากที่ภามบอกว่าตัวเองเป็นจอมเวทย์ แต่เมื่อคิดให้ดีอีกทีก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้เพราะผลผลิตจากสวนของเขานั้นใหญ่โต รสชาติดี และออกนอกฤดูกาลได้แม้จะเป็นยามที่แห้งแล้งหนาวเหน็บเช่นนี้
“ท่านภามที่ท่านเลือกพวกเราอดีตทหารซึ่งถูกไล่ออกเพราะแผนการของเวเบอร์ และโอเมก้า เพราะอะไรกัน ทั้งที่พวกเราเป็นแค่ทหารชั้นผู้น้อยธรรมดาๆ ไม่ได้มีฝีมืออะไร? แทนที่จะเลือกอัศวิน หรือจอมเวทย์เข้าร่วมด้วยมากกว่า” นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของเบ็น เพราะว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาดยุคจึงไม่เห็นค่า และปล่อยให้เขาต้องถูกไล่ออกไปโดยไม่ไยดีต่อความภักดีที่มีให้แม้แต่น้อย
“พวกโอเมก้าต้องการยึดครองที่ดินของข้า แม้ว่าพวกมันจะไม่มีทางทำสำเร็จแต่ก็อาจเข้ามาก่อกวนการค้าของข้าไม่เลิก จึงต้องถือว่าพวกมันเป็นศัตรูของข้าเช่นเดียวกัน ส่วนพวกท่านเป็นอดีตทหารผู้กล้าที่โดนกลั่นแกล้ง นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะพาพวกท่านกลับมาอย่างมีเกียรติ และขุดรากถอนโคนศัตรูทั้งหมด” เจ้าของฟาร์มอธิบายสาเหตุที่เขาไม่อาจถอยได้อีกแล้ว และเลือกเหล่าอดีตทหารมาร่วมต่อสู้
“อืม…ท่านสามารถรับรองความปลอดภัยของเบลล่าได้หรือไม่?” บุตรสาวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเบ็น
“ได้แน่นอน! หากเบลล่าไปทำงานที่ฟาร์มนางจะได้รับเงินตอบแทน มีที่พักส่วนตัว และอาหารอย่างดีสามมื้อ แน่นอนว่ามันคือผลผลิตจากฟาร์มของข้าเอง หน้าที่ของนางคือเลี้ยงวัวซอฟตั้นที่อยู่ด้านนอกนั้นให้กับข้า” ภามรีบโฆษณาผลตอบแทนพนักงานของเขาทันที
“อะไรนะ! แต่ยังไงข้าก็ต้องถามนางดู…”ยังไม่ทันพูดจบเบ็น ก็ถูกขัดขึ้น
“ข้าจะไปเจ้าค่ะ ท่านพ่อ!” เบลล่าที่แอบฟังอยู่ตอบออกมาทันที
MANGA DISCUSSION