*ตอนนี้จะมีความคิดตัวละครปนกับผู้บรรยาย ผมขอเว้น1บรรทัดเพื่อแยกว่าอันไหนเป็นของใครนะครับ*

 

เอลเซ่ ฮานิช—ฮันเตอร์คลาสB ผู้ซึ่งประจำการอยู่ในเมืองบัลเซ หลังกลับจากภารกิจปราบอสูรเธอมักจะมานั่งดื่มเหล้าที่กิลด์อยู่เป็นประจำ

 

ได้ยินเสียงตกใจหลุดออกมาจากปากของคุณหนูมีอาที่เป็นพนักงานต้อนรับ ดูเหมือนคุณหนูมีอาจะเผลอหลุดปากเรื่องกิฟท์ของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอทำท่าทางเลิ่กลั่ก

อะไรก็ตามแต่ ดูเหมือนกิฟท์ของเจ้าหนุ่มคือ 【ไร้ความสามารถที่สุดในโลก】ชั่งเป็นเด็กหนุ่มที่อับโชคเสียจริง ถึงจะหน้าเห็นใจ แต่โดยพื้นฐาน ฮันเตอร์พลังเท่ากับความถูกต้อง จะบอกว่าทิศทางของอานาคตนั้นขึ้นอยู่กับกิฟท์ที่ถือครองอย่างไม่มีข้อยกเว้นก็ไม่ได้พูดเกินจริง

กิฟท์ไม่ได้เรื่องแบบนั้น การจะทำงานในฐานะฮันเตอร์คงเป็นเรื่องยาก ใช่แล้วล่ะ ดิฉันคิดแบบนั้นอย่างบริสุทธ์ใจ

หลังจากนั้นเจ้าหนุ่มก็เปิดเผยว่าตัวเองครอบครองไอเทมเสริมพลัง ทำให้ทั่วโถงกิลด์ตกอยู่ในความโกลาหล ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับไอเทมเสริมพลังมาก่อน ดีไม่ดี อาจจะมีค่าพอๆกับสมบัติระดับชาติเลยก็ได้

ในอีกด้านหนึ่ง เหล่าฮันเตอร์ที่เผอิญอยู่ในที่แห่งนี้พอดี เริ่มพูดคุยเรื่องเจ้าหนุ่มตามใจชอบ ในนั้นมีพวกที่สนใจผลของไอเทมกับจะหาซื้อได้ที่ไหนอยู่ประมาณ6ส่วน อีก4ส่วนที่เหลือแสดงอาการอิจฉาราวกับจะบอกว่าทำไมผู้มาใหม่ถึงครอบครองไอเทมระดับนั้นได้ ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็สัมผัสได้ถึงความกระหายที่เต็มไปด้วยความโลภเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของเจ้าพวกนั้นได้

“ดูเหมือนว่า ดิฉันจะต้องจัดการกับเรื่องนี้สินะ”

กระซิบบอกกับตัวเองแบบนั้น

ตามคาด พอเจ้าหนุ่มเดินออกจากิลด์ไป มีอาวิ่งเข้ามาหาดิฉันและถูกขอให้ช่วยดูแลเจ้าหนุ่ม มีอาเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง ถ้าเกิดเจ้าหนุ่มถูกจู่โจมคงไม่พ้นโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่เผลอหลุดปากเรื่องกิฟท์ออกมาต่อหน้าผู้คน ดิฉันก็ได้มีอาช่วยอะไรไว้หลายๆอย่าง เพราะแบบนั้น เลยยินยอมทันทีและออกจากกิลด์

ขณะที่ลบกลิ่นอายและเฝ้าดูเจ้าหนุ่มอยู่ห่างๆ เป็นไปตามที่มีอากังวล มีพวกอันธพาลตามหลังเจ้าหนุ่มไป อาจเป็นเพราะสถาณการณ์ไม่มั่นคงในประเทศนี้ ทำให้พวกสวะแบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

คงคิดว่าเป็นทางลัด เจ้าหนุ่มเดินเลี้ยวเข้าตรอกมืดไร้ผู้คน ตามคาดเจ้าหนุ่มถูกพวกอันธพาลเข้าล้อม พอคิดว่าจะออกไปช่วย พริบตาอันธพาลพวกนั้นกลับถูกจัดการไปซะแล้ว

“อ-อะไรกัน……”

คงจะเป็นศิลปะการต่อสู้ เพียงแต่ มันแตกต่างจากสิ่งที่เอลเซ่รู้มากเกินไป

 

อ่านการเคลื่อนไหวไม่ออกเลยซักนิด ไม่ถึงขั้นหายไปก็จริง แต่พอรู้ตัวอีกทีพวกอันธพาลก็บินขึ้นฟ้า ตกลงกระแทกพื้นไปซะแล้ว จุดที่เรียกว่าไม่เข้าใจนั่น ถ้าบอกว่าเป็นเวทย์มนต์คงจะยอมรับได้มากกว่า แต่มีสิ่งเดียวที่เข้าใจคือไม่ว่าจะเข้าท้าทายเจ้าหนุ่มนั่นซักกี่ครั้งก็คงไม่มีวันชนะ

นอกจากนั้น—

“รู้ตัวอยู่แล้วสินะ？”

 

กิฟท์ของเอลเซ่คือ【ตัวแทน】มีความสามารถในการสืบค้นโดยเฉพาะ เป็นกิฟท์ระดับพิเศษ มีสกิลที่ให้อรรถประโยชน์อยู่มากมาย เช่น ยกเลิกกับดักในดันเจี้ยนหรือปลดล็อกหีบสมบัติ ลักษณะสำคัญของกิฟท์นี้คือ ความสามารถในการลบกลิ่นอาย ซึ่งเรียกว่า ซ่อนเร้น ทั้งที่เป็นแบบนั้น ความสามารถของเอลเซ่กลับถูกเด็กหนุ่มมองออกอย่างทะลุปุโปร่ง ราวกับกำลังบอกว่าแกเองก็เข้ามาสิ

สกิลซ่อนเร้นยังทำงานปกติ การที่เอลเซ่ถูกจับได้นั้น น่าจะมาจากสิ่งที่เหมือนกับสัมผัสที่หกของตัวเขา ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่ามีเพียงผู้ที่ผ่านเหตุการณ์สุดเลวร้ายเกินกว่าที่เอลเซ่คาดคิดเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้

ถ้าได้เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วยังคิดว่าเขาเป็นฮันเตอร์มือใหม่ไร้ความสามารถอยู่อีกล่ะก็ คนผู้นั้นก็เป็นได้แค่หน้าใหม่ที่ไม่เคยผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตายมาก่อนเท่านั้น

 

ดูเหมือนว่า เจ้าหนุ่มนั่นจะไม่ได้ใช้ไอเทมเสริมพลังที่ตัวเองครอบครองอยู่แม้แต่น้อย กลับกันเลยต่างหาก เทคนิคการต่อสู้ระดับนั้น การที่มีค่าความแข็งแกร่งอยู่ที่1 ออกจะผิดธรรมชาติเกินไปด้วยซ้ำ ค่าความแข็งแกร่ง12ซึ่งเทียบเท่ากับฮันเตอร์ระดับกลางที่ประเมินได้ก่อนหน้านั้นยังมีความน่าเชื่อถือมากกว่าอีก แต่ว่า พอเจ้าหนุ่มขอให้วัดอีกครั้งค่าความแข็งแกร่งกับกลายเป็น1

หรือก็คือ เจ้าหนุ่มสามารถปรับค่าความสามารถของตัวเองได้อย่างอิสระ เป็นเพราะผลของไอเทมหรือความสามารถก็ไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งที่ไม่ผิดแน่ๆ คือไม่ใช่สิ่งที่กิฟท์【ไร้ความสามารถ】ของเจ้าหนุ่มนั่นทำได้แน่ เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือสามัญสำนึก

“สัตว์ประหลาดที่เล็ดลอดเข้ามาในชีวิตประจำวันอันน่าเบื่อหน่ายเหรอ”

น่าสนใจ！ชักจะตื่นเต้นขึ้นมาซะแล้วสิ！ถ้าดึงตัวเจ้าหนุ่มนั่นเข้ามาเป็นพวกได้ล่ะก็ อาจไปถึง『วิหารโบราณ』ซึ่งถูกเรียกว่าจุดที่ลึกที่สุดของทะเลพงไพรซิลเก้เลยก็ได้

 

สำรวจวิหารโบราณ คือความปรารถนาของพวกเอลเซ่ที่เป็นฮันเตอร์นักล่าสมบัติ เธอผ่านการประเมินที่จำเป็นสำหรับเลื่อนขั้นเป็นคลาสAเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่เงื่อนไขเฉพาะของคลาสAเท่านั้น ถ้ารายงานผลการสำรวจโบราณสถานแห่งนี้ได้ก็ถือว่าเคลียร์ เท่ากับได้รับการยืนยันเรื่องเลื่อนขั้นเป็นคลาสAเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

เด็กหนุ่มผู้ไม่คิดจะปกปิดพลังของตนแม้แต่น้อย ไม่ช้าก็เร็ว มันจะกลายเป็นความจริงที่รู้กันไปทั่ว หากเป็นเช่นนั้น ทุกคนต้องได้ข้อสรุปแบบเดียวกับเอลเซ่เป็นแน่

 

ฮันเตอร์นั้นขอแค่มีพลัง ทั้งชื่อเสียงและเกียรติยศก็จะหลั่งไหลเข้ามาเอง มีความสามารถซะอย่างเรื่องกิฟท์อะไรนั่นไม่สำคัญเลยซักนิด พวกที่ตัดสินคนอื่นจากกิฟท์ก็มีแค่ฮันเตอร์โง่เง่าที่มีถิ่นกำเนิดที่อาเมเลียเท่านั้นล่ะนะ ในไม่ช้าหน่วยสอดแนมจะหลั่งไหลเข้ามาทุกทิศทาง จะกลายเป็นว่าได้ตัวมายากขึ้น แต่ ระหว่างที่ทุกคนคิดว่าเขาไร้ความสามารถอยู่อย่างตอนนี้ล่ะก็ จับรวมปาร์ตี้ได้แน่

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ก่อนอื่นก็ต้องรวบรวมข้อมูลก่อนล่ะนะ”

การที่จะดึงตัวมาได้จำเป็นต้องรู้จักอีกฝ่ายซะก่อน ลองไปถามจากมีอาก่อนแล้วกัน

“ดิฉันนี่มันดวงดีซะจริง！”

 

เอลเซ่เริ่มออกวิ่งมุ่งหน้ากลับไปที่กิลด์พร้อมกับกลั้นหัวใจที่เต้นระรั่วไปด้วยความหวังและดีใจอย่างสุดขีดเอาไว้

 

 

***ช่วงนี้ติดสอบอาจไม่ได้ลงตอนใหม่ไปซักพักครับ