ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~ - ตอนที่ 16 กิริเมขระ:กำเนิดผู้ครั่งไคร้
- Home
- ผลลัพธ์จากการฝึกโหดในดันเจี้ยนสุดเลวร้าย100000ปี จนกลายเป็น~ ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก~
- ตอนที่ 16 กิริเมขระ:กำเนิดผู้ครั่งไคร้
วันแล้ววันเล่า พอพระอาทิตย์ขึ้นก็จะถูกแท่งไม้ของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นฟาด พอตกดึกก็จะถูกปลดปล่อย วันคืนแบบนั้นดำเนินเรื่อยมา ช่วงแรกตัวข้าก็หาโอกาสที่จะโจมตีเจ้านั่นตอนนอนอยู่เหมือนกัน แต่กับไม่มีช่องว่างแม้แต่น้อยกลับกันไม่แม้จะสร้างความเจ็บปาดให้ได้เลยด้วยซ้ำ จิตใจของข้าแตกสลายถูกหั่นเป็นชิ้นๆจนในที่สุดก็ไม่เหลือความรู้สึกอยากจะต่อต้านอีกแล้ว ช่วงนี้ก็มีแต่ต้องยอมเชื่อฟังและทำตามการทรมานอันโหดร้ายที่เจ้านั่นเรียกว่าการฝึก เท่านั้น
ไค ไฮเนมัน เจ้านั่นเป็นตัวอะไรกันแน่ ?ความแข็งแกร่งนั่นแตกต่างกับกิริเมขระผู้นี้อย่างสิ้นเชิง การเข้าไปท้าทายก็ราวกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ไม่ใช่การประลองเลยด้วยซ้ำ ใช่ ความรู้สึกสิ้นหวังนี่เหมือนกับตอนที่เผชิญหน้ากับนายเหนือหัวแห่งข้า ท่านมาร่า
เขาวงกตแห่งนี้【การทดสอบของเหล่าทวยเทพ (ก็อต ออร์ดิล)】ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าเทพผู้มีพรสวรรค์ ผ่าฟันหลบหนีโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อที่จะได้กลายเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ นั่นแหละคือเงือนไขและจุดมุ่งหมายของ【ระบบตำนานประตูสู่ความสำเร็จ(เกม)】ถ้าหากเคลียร์ไม่ได้ก็จะพินาศแต่ถ้าเคลียร์สำเร็จก็จะได้กลายเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ เป็นบททดสอบที่บ้าขนาดนั้นเลยล่ะหรือก็คือ เกมนี้มีไว้เพื่อทดสอบผู้ที่มีพลังพอที่จะได้กลายเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่หรือถ้ามีพลังที่ทัดเทียมเทพผู้ยิ่งใหญ่อยู่ก่อนแล้วล่ะก็มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถเอาชนะเจ้านั่นที่อยู่ส่วนที่ลึกที่สุดของดันเจี้ยนได้
ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ อย่างน้อยการกระทำของ ไค ไฮเนมันก็ดูขัดแย้งกัน วิธีที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนนั้นมีอยู่ด้วยกันสองวิธี
วิธีแรกคือ ใช้เส้นทางปกติ คือการละลุยลงไปตามชั้นเรื่อยๆ เส้นทางนี้ขอแค่ลงไปถึงชั้นที่ลึกที่สุดและให้เจ้านั่นพูดว่าผ่านก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาชนะ
ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง คือ การใช้รหัสการเข้าถึงในถานะเทพและเข้าท้าทายบททดสอบสุดท้าย ใช้พลังให้เจ้านั่นที่อยู่ชั้นที่ลึกที่สุดคุกเข่าให้ได้ แต่ว่าเจ้าที่อยู่ชั้นที่สุดนั่น ในบรรดาเทพด้วยกันแล้วก็ถือว่าแข็งแกร่งผิดธรรมชาติ
โดยทั่วไปการเข้าท้าทายโดยใช้เส้นทางปกติน่ะดีที่สุดแล้ว การใช้รหัสการเข้าถึงก็เป็นเพียงแค่การกระทำที่โง่เขลาเท่านั้น แต่ว่าถ้าเป็น ไค ไฮเนมัน ล่ะก็ น่าจะมีพลังพอที่จะทำให้เจ้านั่นยอมคุกเข่าได้
กฎเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่จะมอบให้เหล่าเทพที่จะทำการท้าทาย อย่างน้อยๆสำหรับ ไค ไฮเนมันแล้ว การท้าทายดันเจี้ยนแห่งนี้คงไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก
พอคิดจะตั้งคำถามแบบเดียวกัน ยามเช้าก็มาถึงแสงอาทิตย์สีชมพูสาดส่องบริเวณโดยรอบพร้อมกับ ไค ไฮเนมันถือไม้เล็กๆออกมาจากที่พัก
“ยืนขึ้น!!!”
พร้อมกับตะโกนเสียงดัง
『เยสเซอร์!』
ข้าดีดตัวขึ้นราวกับสปริง ยืนท่าตรงและเอามือทาบหน้าผาก
“โอย บอกซิว่าแกเป็นตัวอะไร!?”
『ฮะ!ตัวข้าน้อยเป็นเพียงแค่แมลงขยะที่คลานอยู่ตามพื้น!』
ข้าตอบกลับแบบนี้จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันในช่วงนี้ไปแล้ว ตอนแรกก็รู้สึกอับอายที่พูดคำเหล่านี้อยู่หรอกแต่ว่าตอนนี้กับไม่รู้สึกอะไรแล้วกลับรู้สึกเหมือนจะเต็มใจพูดมันอย่างน่าประหลาด
“อืม ตลอด30ปีที่ผ่านมานี้ จิตใจที่อ่อนปวกเปียกของแกก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไม่มีแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปแกได้จบการศึกษาในฐานะแมลงขยะไร้ค่า และได้กลายเป็นนักรบเต็มตัวแล้ว”
『ฮะ! ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ!』
อารมณ์ที่ยากจะอธิบายวนอยู่ในตัวข้า ทำให้ข้าตัวสั่น จู่ๆ ไค ไฮเนมัน ก็เปิดปากกว้างและพูดขึ้นว่า…
“กิริเมขระ ในฐานะที่แกได้กลายเป็นนักรบเต็มตัวแล้ว ฉันจะมอบรางวัลให้แก ต้องการโลกแบบไหน”
คำถามที่ไม่เข้าใจความหมายออกมาแล้ว
『มีโลกด้วยเหรอครับ?』
“อา ใช่แล้วล่ะ ดูเหมือนจะเป็นระบบของหนังสือเล่มนี้”
『ตัวข้าพเจ้าไม่รู้สิ่งไหนเป็นสิ่งไหน….』
“อะไรกัน ไม่ได้ต้องการหรอกเหรอ ถ้างั้น ฉันจะพาแกไปยังโลกอีกใบหนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าช้างอาศัยอยู่ ที่พึ่งสร้างเสร็จในหนังสือก่อนหน้านี้”
ไค ไฮเนมันพูดพึมพำกับตัวเอง จู่ๆวิสัยทัศน์ของข้าก็บิดเบี้ยว และแล้ว ตรงหน้าก็คือทิวทัศน์บ้านเกิดที่แสนคิดถึงพร้อมกับ ณ ใจกลางทุ่งราบแสนกว้างใหญ่มีสิ่งปลูกสร้างที่คลายกับวิหารตั้งตระหง่าน
『น-นี่มัน…』
ข้าพูดไม่ออก ไม่มีคำพูดไหนมาอธิบายกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ในตอนนี้ได้อีกแล้ว
ไค ไฮเนมัน สามารถสรรค์สร้างโลกขึ้นมาเองได้?นี่เป็นปาฏิหาริย์ที่แม้แต่เทพผู้ยิ่งใหญ่ก็ทำไม่ได้ขนาดนี้ อย่างน้อยการสร้างโลกที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดแบบนี้ออกมาก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่
จานนั้น วิสัยทัศน์ก็บิดเบี้ยวอีกครั้ง และตรงหน้าข้าก็ได้กลายเป็น ไค ไฮเนมัน
“เป็นไง แบบนี้พอได้ไหม?”
『คือว่า…โลกใบนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยพลังของท่านเหรอครับ?』
“ไม่ สิ่งที่แกเห็นก่อนหน้านี้คือโลกที่ถูกสร้างขึ้นโดยหนังสือภาพเล่มนี้ ที่ค้นพบในดันเจี้ยนแห่งนี้ ไม่ใช่พลังของฉันหรอก”
นั่นน่ะเป็นไปไม่ได้ ดันเจี้ยนแห่งนี้จะยังไงก็เป็นแค่บททดสอบที่เทพผู้ยิ่งใหญ่สร้างขึ้น ไม่มีทางมีของเหนือสามัญสำนึกแบบนั้นแน่
ไม่ว่าจะทำยังไง ไอเทมในเขาวงกตแห่งนี้ก็ไม่มีทางทำสิ่งที่ไร้สามัญสำนึกแบบนั้นออกมาได้แน่
แต่ว่า ถ้า ไค ไฮเนมัน ไม่ได้โกหกล่ะก็ ถ้าเป็นแบบนั้น ที่มาของความจริงทั้งหมดก็มาจากหนังสือเล่มนั้น
ไม่ว่าจะคิดยังไง ไค ไฮเนมัน ก็คือผู้ถือครองที่แท้จริงของไอเทมวิปริตแบบนั้นไปซะแล้ว
เป็นตัวตนแบบไหนกันเนี้ย ลำพังแค่ตัวเขาเองก็มีพลังเทียบเคียงกับเทพผู้ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แล้วนี่ยังได้รับพลังในการสรรค์สร้างโลกมาครองอีก ตัวข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีผู้ถือครองพลังมากมายขนาดนี้อยู่ด้วย
เพราะอย่างนั้นนี่เป็นข้อสงสัยที่ข้าอยากถามมาตลอด
『ตัวท่าน พยายามจะทำอะไรให้สำเร็จในดันเจี้ยนแห่งนี้เหรอครับ?』
สำหรับ ไค ไฮเนมัน การเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้ไม่ใช่อุปสรรคเลยด้วยซ้ำ ถ้าอย่างนั้น เหตุผลที่บุกตะลุยเส้นทางปกติในดันเจี้ยนแห่งนี้มีเป้าหมายอะไรกันแน่ นั้นคือสิ่งที่ข้าในตอนนี้ไม่ว่ายังไงก็อยากจะรู้ให้ได้
“อื-ม ก็น่าจะเป็น แข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ล่ะมั้ง?”
เป็นตัวตนที่เหนือชั้นกว่าตอนนี้?แถมยังออกจากปากผู้ที่มีพลังเทียบเคียงกับเทพผู้ยิ่งใหญ่ คิดแบบนั้นจริงๆเหรอ?
ชั่งเป็นความคิดที่ทั้งโลภและบ้าคลั่งยิ่งนัก
“ของมันแน่อยู่แล้ว ตัวฉันในตอนนี้ยังอ่อนหัด ก่อนหน้านี้ก็พึ่งได้ถุงมือจำกัดความสามารถมา ถ้าใช้ความสมารถของมัน ก็จะได้สัมผัสรสชาติของการต่อสู้ที่ดุเดือดและน่าตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิมยังไงล่ะ”
บ้าไปแล้ว ไม่ผิดแน่ ตัวตนที่อยู่ตรงหน้าทำให้สามัญสำนึกของข้าปลิวว่อน ไม่เคยเห็นเทพแบบนี้มาก่อน แต่ว่าเพราะความใสซื่อที่เต็มไปด้วยหายนะนั่น ทำให้ข้ารู้สึกตัวว่านั่นเป็นสิ่งที่ข้าเคยปรารถนาหาสิ่งใดเปรียบมาก่อน
(งั้นเหรอ สาเหตุที่น้ำตาไหลก่อนหน้านี้คือนี่เองสินะ)
ในที่สุดตัวข้าก็ได้เข้าใจ ทั้งความลังเล ความสับสน ความสงสัย แม้กระทั่งความภัคดีต่อผู้เป็นนายคนก่อนได้ปลิวหายไปหมดและถูกแทนที่ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้ามิอาจต้านทาน ต่อตัวตนที่อยู่ตรงหน้า
『แมลงขยะผู้นี้ ขอมอบความซื่อสัตว์แด่ท่านด้วยใจจริงนับแต่นี้ไป』
ตัวข้าคุกเข่าลงพื้นต่อหน้าผู้ที่เป็นนายเหนือหัวสูงสุดพร้อมกับกล่าวถ้อยคำเคารพจากจิตวิญญาณออกมา