ก่อนอื่นก็ต้องตัดสินใจก่อนว่าหลังจากนี้จะเคลื่อนไหวยังไง
ผลสุดท้ายแล้ว กิฟท์ของฉันก็คือ【ผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุดในโลก】ยังไงก็ตาม จนถึงเมื่อกี้ฉันก็มั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พอได้ความทรงจำของ ไค ไฮเนมัน กลับคืนมา ทำให้รู้ว่าความแข็งแกร่งที่ตัวเองมีอยู่นั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
อย่างแรกเลย ไอ้คนที่หนีตายหัวซุกหัวซุนอย่างกับกบในกะลาแบบนั้นจะไปเอาชนะนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกในจินตนาการได้ยังไง แล้วก็【บททดสอบของเหล่าทวยเทพ】อะไรนั่น ตั้งชื่อซะใหญ่โต แต่พอลองมองย้อนกับไปดูแล้วก็คงไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น เพราะไม่ว่ายังไง ขนาดคนไร้ความสามารถอย่างฉันยังเคลียร์ได้ ในหมู่ของดันเจี้ยนด้วยกันแล้วระดับความยากคงน้อยที่สุดเลยล่ะมั้ง
อืมๆ โลกนี้ไม่ได้หวานหมูเหมือนกับดันเจี้ยนนั่นหรอก มีทั้งสี่มหาจอมมาร ผู้กล้ามังกร โลกนี้ยังเต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่ง ถ้าเป็นฉันก่อนที่จะได้ความทรงจำกลับมาล่ะก็คงคิดว่าอยากจะลองสู้ด้วยอยู่หรอก แต่ว่าโชคร้ายหน่อย ไม่มีอารมณ์ทำแบบนั้นแล้ว จะว่าไปไอ้ความรู้สึกเลวร้ายที่เหมือนอยากจะสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่งก่อนหน้านี้นี่มันยังไงกันนะ?ไม่ไม่ หยะแหยง! หยะแหยงสุดๆ!
เอาเป็นว่า ยังไงก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างรอบคอบไว้ก่อน พยายามไม่เรียกพวกอสูรในหนังสือภาพออกมาเป็นการดีที่สุด ผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งอย่างฟาฟก็ว่าไปอย่าง แต่ เฟนกับเก้าหางยังอ่อนประสบการณ์อยู่ ถึงจะว่าอย่างนั้น ก็อยากจะให้เคลื่อนไหวไปด้วยกันอยู่เหมือนกัน ในช่วงนี้ต้องออกคำสั่งพวกที่อาศัยอยู่ในหนังสือภาพอย่างเคร่งครัด จนกว่าจะกำหนดทิศทางได้แล้วว่าหลังจากนี้จะเคลื่อนไหวยังไง เอาเป็น ลองออกเที่ยวรอบโลกเพื่อให้ได้เป็นฮันเตอร์ที่เป็นที่ยอมรับเหมือนอย่างที่เคยไผ่ฝันไว้ดูดีไหมนะ?ไม่สิ สิ่งที่ควรทำที่สุดในตอนนี้ก็คือจะทำยังไงกับสถาณการณ์อันตรายที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างหาก พอหันไปมองรอบๆก็มีฝูงสัตว์ร้ายกำลังล้อมพวกเราสามคน(?)อยู่
“เลิกหนีแล้วรึ เอาเถอะ สำหรับปลาซิวปลาสร้อยอย่างแกแล้วก็ทำได้ไม่เลว ตอนที่หมอกลงก็ทำให้ฉันร้อนรนได้นิดหน่อยเลยล่ะนะ”
ชายที่ดูท่าทางใจดี(?)สวมชุดคลุมสีดำเดินออกมาจากหลังต้นไม้พร้อมกับเหล่าสัตว์ร้ายที่เหมือนพยายามปกป้องผู้เป็นนาย
หืม?ดูไม่เห็นจะแข็งแกร่งตรงไหนเลยแฮะ ในความทรงจำของไค ไฮเนมัน น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งนี่นา เอาเถอะ เดี๋ยวสู้ดูก็รู้เอง
“หืม?มีเพื่อนอยู่ด้วยรึ?ผู้หญิงตรงนั้นถึงจะเด็กไปหน่อยแต่ก็น่ารักใช่ย่อยนิ น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของพวกโรคจิตที่มีรสนิยมเล่นกับสาวน้อยมากเลยล่ะ ขายให้พ่อค้าทาสคงจะได้ราคาสูงน่าดู”
ชายผมแดงมองฟาฟด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ
“นายท่าน ฟาฟ– เจ้านั่นน่าขยะแขยงเจ้าค่ะ อยากฆ่าเจ้าค่ะ!”
ฟาฟพูดออกมาโดยไม่ซ่อนสีหน้ารังเกียจเลยซักนิด
“เดี๋ยวก่อนๆ พอดีมีเรื่องที่อยากถามเจ้านี้อยู่น่ะ”
ฉันพูดออกมาพร้อมกับลูบหัวฟาฟเหมือนอย่างเคยเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์
จะว่าไป เหมือนเคยได้ยินชายคนนี้พูดถึงแผนการอะไรซักอย่างนี่แหละ จะพยายามถามเท่าที่ทำได้ดูน่ะนะ แล้วอีกอย่างฟาฟกับฉันก็เหมือนกับมีสายเลือดเดียวกัน ใครจะยอมให้ทำเรื่องอันตรายแบบนั้นกัน
“ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยทำเอง เป็นแค่มนุษย์แท้ๆกลับอวดดีขนาดนั้น —อะไรล่ะ หรือจะให้ปล่อยไป?”
ปีศาจปอดแหก——แอสทารอส พูดออกมาและก้าวขาไปข้างหน้าพร้อมกับมือสองข้างใส่ถึงมือสีขาวบริสุทธ์
แกนี่นะ อ่อนแอแท้ๆยังจะเคลื่อนไหวไม่ดูตาม้าตาเรืออีก
“ไม่หรอก ฉันทำเอง พอดีมีเรื่องอยากรู้จากเจ้านี่นิดหน่อยน่ะ”
“มีเรื่องอยากรู้นิดหน่อย เจ้านายเนี้ยนะ——จากปลาซิวปลาสร้อยแบบนี้น่ะนะ?”
แอสทารอสถามออกมาพร้อมกับเหลียวมองฉันราวกับมองตัวอะไรซักอย่างที่น่ากลัวเอามากๆ
เสียมารยาทจังนะเจ้านี่ ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ปลาซิวปลาสร้อยเหรอ ก็จริง ถ้าให้เทียบกับพวกอสูรในดันเจี้ยนแล้ว ไม่รู้สึกถึงภายคุกคามเลยซักนิด
เพื่อที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเอง ฉันก็เลยฝึกโดยจำกัดพลังของตัวเองโดยใช้【ถุงมือผนึกเทพ】ตลอดเวลา แล้วก็ใช้ชีวิตแบบนั้นมาเป็นหมื่นๆปีแล้วด้วย อีกอย่างถ้าให้เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วความสามารถในการวัดความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ดูเหมือนจะลดลงไปพอสมควร แน่นอนว่าถึงจะลางๆแต่ก็มีการกำหนดเกณฑ์ความแข็งแกร่งไว้อยู่เหมือนกัน น่าจะมี อ่อนแอ อ่อนแอนิดหน่อย อ่อนแอมาก อ่อนแอจนหมดคำจะพูด แล้วก็ อ่อนแอพอๆกับหนอนแมลง จัดอันดับไว้ประมาณนี้ แต่ว่า คู่ต่อสู้ในครั้งไม่ใช่อสูรแต่เป็นมนุษย์ ทำให้การคาดคะเนเกิดความคลาดเคลื่อน ถามว่าเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่า100000ปีมานี้ ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์เลยยังไงล่ะ สิ่งที่ไม่รู้ย่อมประเมินไม่ได้
ไม่ว่าจะยังไง ที่หมอก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ประมาทไม่ได้ก็คือความจริง เพราะงั้นเรามาใส่ให้เต็มแรงกันเถอะ
พร้อมกับดึง【ฝ่าอัสนี】ออกจากฝักในไอเทมบ็อก
“พวกแก เข้าใจสถาณะการณ์ของตัวเองในตอนนี้รึเปล่า? หรือว่ากลัวจนสมองเพี้ยนไปหมดแล้ว?”
มีเสือดำล้อมรอบพวกเราประมาณ40ตัว ถ้าจากความทรงจำของฉันก่อนที่จะเข้าดันเจี้ยนแล้วล่ะก็นี่คงเป็นสถาณการณ์หน้าสิ้นหวังเลยมากเลยทีเดียว แต่ว่า ว่าแล้วเชียวสัมผัสถึงความเป็นภัยไม่ได้เลยซักนิด เอาเถอะ เดี๋ยวลองตรวจสอบดูก็รู้เอง
“【วิชาดาบไคริวที่แท้จริงรูปแบบดาบเดียว】กระบวนท่าที่หนึ่ง——เส้นมรณะ”
นี่คือ ท่าพื้นฐานที่สำหรับฉันแล้วถือว่าคุ้นชินที่สุดแล้ว
พร้อมกับคำพูดที่แฝงไปด้วยพลัง เส้นมรณะก็วิ่งเข้าหาพวกสัตว์ร้ายสีดำ ชั่วพริบตา พวกมันก็ได้กลายเป็นเศษเนื้อและตกลงสู่ผืนดิน
“เอ๊ะ?”
ชายผมแดงเบิกตากว้างอย่างตะลึงหลังจากได้เห็นพวกสัตว์ร้ายสีดำกลายเป็นเศษเนื้อต่อหน้าต่อตา
ตามที่แอสทารอสบอก เป็นพวกปลาซิวปลาสร้อยจริงๆสินะ เดิมทีแล้วโลกใบนี้ ล้วนเต็มไปด้วยอันตราย เพราะอย่างนั้นจะชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งเป็นตัวฉันที่ก่อนเข้าไปในดันเจี้ยนนั่นแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าการเคลื่อนไหวแบบไม่คิดหน้าคิดหลังมันเป็นยังไง
“เอาล่ะ ขอฟังเรื่องแผนที่พูดไว้ก่อนหน้านี้หน่อยก็แล้วกัน?”
ในหมู่ตำราที่ฉันได้รับจากเขาวงกตมีพวกตารำที่เขียนเกี่ยวกับการทรมานอยู่ด้วยแต่เพราะหนังสือที่ฉันอ่านมีแนวโน้มว่าฟาฟก็อยากอ่านด้วยและเพราะมันจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของฟาฟ ตอนนี้เลยยังไม่ได้อ่าน แต่ว่าในอนาคตอาจจะจำเป็นต้องศึกษาตำราพวกนั้นอย่างจริงจังก็ได้ เอาเป็นว่า ถึงจะไม่รู้วิธีทรมานก็เถอะ แต่ว่า ถ้าทำให้เจ็บปวดจนถึงที่สุดแล้วล่ะก็ คงจะคายออกมาเองแหละ เอาล่ะ วิธีฟื้นฟูก็มีอยู่หลายวิธี จริงอยู่ว่า【ฟื้นฟูขั้นสุดยอด】ใช้ได้แค่กับตัวเองเท่านั้น แต่ก็ยังมีพวกโพชั่นพิเศษหลายๆอย่างที่คนพบในดันเจี้ยนอยู่ ย้ำว่าหลายๆอย่างน่ะนะ
“อ-อย่าเข้ามานะ!! ไอ้สัตว์ประหลาด!!”
ชายผมแดงชักกริซออกมาแล้วฟันไปมาด้วยมือที่สั่นเทา ฉันเลยตัดแขนทั้งสองข้างของมันด้วย【ฝ่าอัสนี】ชายผมแดงกรีดร้องราวกับผ้าไหมถูกฉีกขณะที่กระดูกแทงทะลุผิวหนังและแขนทั้งสองข้างหันกลับด้านอย่างผิดปกติ
เสียงกรีดร้องนั่นเป็นสัญญาณให้ฉันเริ่มทำการสอบสวน
MANGA DISCUSSION