—ผ่านไป100077ปีหลังจากเริ่มเกม
【บททดสอบของเหล่าทวยเทพ(ก็อต ออล์ดิล)】ณ ใต้ดินชั้น99
เดือนปีผ่านไปจนสติแทบเลือนราง
ช่วงกลางวันฉันก็จะออกสำรวจดันเจี้ยนตามปกติกับฟาฟที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงพอแล้ว ถ้าหากดูแล้วว่าที่ไหนปลอดภัยก็จะให้เฟนกับเก้าหางร่วมทางด้วยพร้อมกับสำรวจไปด้วยกัน
พอตกดึกหลังจากจบการสำรวจแล้วก็จะเล่นกับพวกอสูรในหนังสือภาพปราบปรามไม่ก็อ่านตำราง่ายๆเสร็จแล้วก็นอน
การใช้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายแบบนี้ดำเนินเรื่อยมา
แล้วก็ผลจากการอ่านตำราแบบไม่บันยะบันยังทำให้ได้รับสกิลที่ค่อนข้างมีประโยชน์ในการสำรวจ อย่าง【ความทรงจำสมบูรณ์】มา แม้ว่าจะจำกัดแค่จากพวกตำราเท่านั้น แต่ก็ตรงตามตัวอักษร ถ้าสิ่งใหนที่จำได้แล้วครั้งหนึ่งก็จะไม่มีวันลืม เป็นสกิลแบบนั้นแหละ ว่ากันว่า ปริมาณข้อมูลที่สมองของมนุษย์สามารถจดจำได้นั้นมีมากมายมหาศาล ทำให้ตัวตนของสกิลนี้มีความเป็นไปได้
อันที่จริงอยู่ที่นี่ตลอดไปก็ไม่ได้แย่ แต่พอคิดแบบนั้นในที่สุดก็มาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของชั้น99ไปซะแล้ว บันใดนำไปสู่ชั้นล่างตรงนั้นมีแผ่นโลหะที่มีตัวอักษรสลักไว้ว่า【ห้องทดสอบสุดท้าย】
“พร้อมรึยัง? จะไปแล้วนะ”
ตื่นเต้นเป็นบ้าเลยแฮะ!ฉันพยายามระงับความตื่นเต้นด้วยพลังทั้งหมดพร้อมกับหันไปคุยกับฟาฟที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พร้อมแล้วเจ้าค่ะ!”
เธอชูกำปั้นขวาขึ้นฟ้าพร้อมกับตอบกลับด้วยท่าทางร่าเริงเหมือนปกติ
พอลงถึงชั้นล่างสุดก็จะเจอกับพื้นที่ทรงกระบอกขนาดใหญ่ มีโต๊ะกับเก้าอี้ตั้งอยู่ตรงใจกลางของพื้นที่ที่ดำสนิทนั่นและสุภาพบุรุษหน้าสวยราวกับผู้หญิงสวมชุดสีดำสไตล์ตะวันตกกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้หรูหรา
เสื้อผ้าสีดำที่ใส่อยู่นั่นก็เหมือนเคยอ่านเจอในตำรา น่าจะเรียกว่า【สูท】ล่ะมั้งนะแล้วสิ่งที่ติดอยู่ตรงตาขวานั้นก็เคยอ่านเจอในตำราเหมือนกันเรียกว่า แว่นตาข้างเดียว สินะ
“อืม ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ นึกไม่ถึงเลยว่าเทพไร้นามจะลงมาถึงที่นี่ได้”
สุภาพบุรุษเหลือบตามองและปล่อยคำพูดที่เหมือนคาดไม่ถึงออกมาพร้อมกับปิดหนังสือและลุกจากเก้าอี้
ฉันดึงดาบที่มีใบดาบยาวเป็นพิเศษที่แบกไว้ข้างหลังออกมา นี่คือ【สายฝนกระหน่ำ】เป็นดาบที่มีลักษณะพิเศษที่ถูกเรียกว่า【ดาบญี่ปุ่น】เหมือนกับ【ผ่าอัสนี】ที่ฉันชอบใช้ เมื่ออัดพลังเวทย์ลงไปผลของมันจะเปลี่ยนไปและทำให้เกิดผลพิเศษอันน่าสะพรึงกลัว
【สายฝนกระหน่ำ】ได้รับจาก สิทธิประโยชน์พิเศษหลังจากเอาชนะเก้าหางได้โดยไม่ได้รับความเสียหายและตอนนี้เธอก็ได้กลายมาเป็นกำลังหลักของฉันแล้ว
“คือว่านะ ฉันน่ะเป็นมนุษย์ ส่วนที่อยู่ข้างๆนี่ก็……มังกรล่ะนะ”
“มังกรเจ้าค่ะ!”
“หา……ที่นี่คือ【บททดสอบของเหล่าทวยเทพ】เป็นระบบตำนานเทพซึ่งมีไว้เพื่อทดสอบเหล่าเทพที่จะได้กลายเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ เป็นแค่มนุษย์ไม่มีทางจะมาอยู่ที่นี่ได้”
เจ้านั่นขมวดคิ้วพร้อมกับปล่อยคำพูดที่ดูท่าทางหยุดหงิดออกมา
ดูเหมือนว่าเจ้านี้ก็มีนิสัยคิดอะไรเพ้อเจ้อเหมือนกัน อย่างแรกเลย โลกนี้มันจะไปมีพระเจ้าอยู่ได้ยังไง
“ถึงแกจะพูดยังไง มันก็คือความจริง ไช่ไหม ฟาฟ”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ !นายท่านบางที…เป็นมนุษย์เจ้าค่ะ!”
ฟาฟ ไอ้บางทีเนี้ยไม่ต้องใส่มาก็ได้ ว่าแต่ เหมือนจะเน้นแค่ตรงนั้นเป็นพิเศษซะด้วย
“อืม!ถึงจะมากเกินไปหน่อย แต่ดูเหมือนจะไม่มีทั้งมารยาทและสามัญสำนึกเลยสินะ ไหนๆ ข้าน้อย ขอดูหน่อยว่าพลังที่แท้จริงของพวกแกเป็นยังไง”
พร้อมกับมีวงแหวนสีแดงเข้มปรากฏขึ้นตรงแว่นตาข้างเดียว ดูเหมือนว่ากำลังประเมินฉันอยู่สินะ เอาเถอะ ฉันก็ไม่ได้มีพลังในการวิเคราะห์ความสามารถของคนอื่นด้วย
“เอ๊ะ?”
เจ้านั่นจ้องฉันและเบิกตากว้าง
“ไม่ไม่ไม่ไม่ เป็นไปไม่ได้!! นั่นมันอะไรน่ะ!!”
สุภาพบุรุษแว่นข้างเดียวมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมาพร้อมกับตะโกนสุดเสียง
“ตรวจสอบเสร็จแล้วสินะ ถ้างั้นก็ รีบมาฆ่ากันได้แล้ว”
เจ้านี้คือบอสสุดท้ายของดันเจี้ยนแห่งนี้ ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อจากนี้แหละ คือการต่อสู้สุดยอดที่เดิมพันด้วยชีวิต
ถ้าอย่างนั้น ในฐานะบุคคลแล้วฉันก็ต้องพยายามให้สุดความสามารถ
ฉันใช้【ปรับแต่งอาวุธ】ให้กับ【สายฝนกระหน่ำ】พร้อมกับใช้ 【พลังมหาศาล】เพื่อเพิ่มกำลังกายให้สูงขึ้น
ตั้งแต่ตอนนั้น 【วิชาดาบไคริวที่แท้จริงรูปแบบดาบเดียว】ของฉันจากเจ็ดท่า ได้เพิ่มมาอีกสาม จนตอนนี้กลายเป็นสิบท่าแล้ว ไม่ว่าท่าไหนก็เป็นท่าที่สามารถปลิดชีพในการโจมการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ทั้งนั้น แน่นอน ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ผลกับเจ้าบอสสุดท้ายนั่นง่ายๆหรอก แต่ว่าฉันมีไม้ตายลับอย่าง【ท่าแห่งจุดจบ】อยู่ เลวร้ายยังไง ถึงเจ้านั่นจะแข็งแกร่งขนาดไหนถ้าโดนเข้าไปละก็ สามารถกวดล้างไม่ให้เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวของเซลล์ได้แน่
เอาเถอะ ถ้าใช้งาน【ท่าแห่งจุดจบ】ละก็ ร่างกายจะหมดสภาพไปหนึ่งวันเต็ม ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ คิดว่าฟาฟกับพวกพ้องบ้าๆบอๆในหนังสือภาพปราบปราบ คงจะช่วยทำอะไรได้บ้างแหละ
ถ้าอย่างนั้นก็ขอดูหน่อยว่าจะมีฝีมือแค่ไหน พอจะโค้งตัวเหยียบลงพื้นพรมสีแดง—
“ด-ได้โปรดรอซักครู่—!!”
ชาย(?)แว่นตาข่างเดียวสีหน้าเปลี่ยนพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้น
“จะเอาอะไรอีกล่ะ?อย่าบอกนะว่า คงจะไม่พูดว่าจะทำให้ยอมแพ้โดยที่ฟันไม่โดนแม้แต่ครั้งเดียวหรอกนะ”
ไม่ได้ล้อเล่น ในที่สุด ก็คิดว่าจะได้สู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันทั้งที คำขู่ที่ชวนให้หมดกำลังใจแบบนั้นก็เข้าท่าดีไม่ไช่เหรอ
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง!! ว่าแต่ สเตตัสไร้สามัญสำนึกแบบนั้น เจ้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ จะว่ายังไงดีล่ะหลังจากใช้ประเมินเจ้านี้ก็ดูแปลกไป มันก็แค่ของที่แสดงอักษรภาพได้แค่นั้นแหละ เจ้านี้คงได้ประเมินคุงช่วยอะไรหลายๆอย่างมานานแล้ว ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล
“บ้าเนี่ย สำหรับคนที่พึ่งเคยเจอกันครั้งแรกแล้วเป็นคำพูดที่เสียมารยาทน่าดูเลยนะ จะยังไงก็ชั่ง รีบมาฆ่ากันได้แล้ว ตั้งตารอมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว รอแทบไม่ไหวแล้วเนี้ย”
พร้อมกับเปลี่ยนพลังเวทย์ให้เป็นโหมดต่อสู้โดยเฉพาะ
“ยอมแพ้ ข—ข้าน้อย ขอยอมแพ้!”
เสียงผู้หญิงเหมือนนักประชาสัมพันธ์ไหลออกมาก่อนที่จะยกมือสองข้างขึ้นเพื่อประกาศยอมแพ้
อะไรน่ะ ความกลัวตายอย่างกับไก่นี่ อสูรตัวเล็กตัวน้อยแถวนี้ยังมีความกล้ามากกว่านี้อีกนะเฮ้ย?
『ยอมรับการยืนยันคำประกาศยอมแพ้ของ ผู้คุมบททดสอบสุดท้าย—แอสทารอส
บททดสอบสุดท้ายจบลงเพียงเท่านี้ เนื่องจากเอาชนะโดยไม่ได้รับความเสียหาย สิทธิประโยชน์การเคลียร์คือ
มอบแอสทารอสให้กับไค ไฮเนมัน ในฐานะผู้ติดตาม』
“ร-ร-รอเดี๋ยวสิ! จะให้ไปเป็นผู้ติดตามของสัตว์ประหลาดพรรค์นั้นเนี้ย มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ!”
ใบหน้าที่ราวกับจะร้องให้ ไม่สิ ความจริงแล้วน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลผ่านหางตาไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับแอสทารอสที่กรีดร้องขึ้นฟ้า
『ผลจากการได้รับแอสทารอสเป็นผู้ติดตาม ทำให้ได้รับฉายา—【เจ้านายของปิศาจปอดแหก】』
เสียงของผู้หญิงเหมือนเครื่องจักรราวกับจะบอกว่าทุกสิ่งย่อมไม่แน่นอน
ปีศาจปอดแหกเนี้ย หมายถึงแอสทารอสผู้ปกครองดันเจี้ยนแห่งนี้น่ะนะ คงจะโดนเกลียดน่าดู
เสียงของผู้หญิงเหมือนเครื่องจักรยังมีต่อ
『ผลของฉายา【เจ้านายของปิศาจปอดแหก】 จะเริ่มทำการหลอมรวมสกิล—
【ปรับตัวเข้ากับพิษ】【ดูดซับอัมพาต】【ปรับตัวเข้ากับหิน】【ปรับตัวเข้ากับความร้อน】【ปรับตัวเข้ากับน้ำแข็ง】【ปรับตัวเข้ากับทราย】【ปรับตัวเข้ากับลม】【ปรับตัวเข้ากับน้ำ】【ปรับตัวเข้ากับสายฟ้า】【ปรับตัวเข้ากับแสง】【ปรับตัวเข้ากับความมืด】ทั้งหมดจะถูกหลอมเป็น【ปรับตัวเข้ากับสถาณะผิดปกติทั้งหมด】 』
ฉายา【เจ้านายของปิศาจปอดแหก】เนอะ
————————————————————————————
ฉายา:【เจ้านายของปิศาจปอดแหก】เกียรติยศที่จะมอบให้ผู้เป็นนายเหนือปีศาจปอดแหก สามารถหลอมรวมและพัฒนาสกิลพิเศษได้
——————————————————–
『บททดสอบของเหล่าทวยเทพถูกเคลียร์เป็นที่เรียบร้อย ยินดีด้วยค่ะ!
ผลจากการเคลียร์บททดสอบ ทำให้กลุ่มเป้าหมายของ【หนังสือภาพปราบปราม】จะถูกขยายให้ครอบคุมไปถึงตัวตนที่นอกเหนือจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ระดับอยู่เหนือเกณฑ์ที่กำหนด
ในขณะเดียวกัน ด้วยสิทธิพิเศษการเคลียร์บททดสอบ ความทรงจำของไค จะถูกบังคับให้เชื่อมต่อกับความทรงจำก่อนเริ่มบททดสอบ……….ความทรงจำได้รับการฟื้นฟูเรียบร้อย』
ความทรงจำวันวานที่แสนจะคิดถึงไหลเข้ามาในหัว……มันควรจะเป็นแบบนั้น แต่ตัวฉันเนี้ยเมื่อก่อนอ่อนปวกเปียกขนาดนี้เลยเหรอ บอกตามตรง จะมองยังไงก็น่าขยะแขยง นึงไม่ถึงเลยว่าตัวเองในตอนนี้จะเปลี่ยนไปมากจนรู้สึกย้อนแย้งยังไงก็ไม่รู้ เอาเถอะ ชินกับตัวเองในตอนนี้ไปแล้วนินะ พอกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น พริบตาต่อมาก็ได้มีวงแหวนเวทย์ปรากฏขึ้นตรงเท้าของพวกเรา
รู้ตัวอีกที่ก็มาอยู่ตรงใจกลางของแอ่งน้ำตกที่แสนคิดถึง(?)นั่นซะแล้วเมื่อโผล่ออกมาจากส่วนลึกของแอ่งน้ำตก พอหายใจเต็มปอดก็ให้ความรู้สึกเย็นสบาย นี่เหรอที่เขาเรียกว่าความเย็นของอากาศในยามค่ำคืน ถึงจะอยู่ในความทรงจำแต่ร่างกายก็ไม่ได้สัมผัสมันมาเป็นแสนปีแล้ว คงจะเป็นความคิดถึงในอดีตที่ฉันลืมมันไปสินะ
MANGA DISCUSSION