อลิส อิน ฮาร์ดกอร์แลนด์
☆เนมุริน
ผมทวินเทลยาวๆของเธอสะบัดไปมาอยู่ด้านหลัง เส้นผมนั้นดูกลมกลืนไปกับสายลมที่ไล่เฉดสีในตอนที่เธอกำลังบินผ่านระหว่างก้อนเมฆ ไม่ว่าจะค้นหามากซักแค่ไหนในโลกใบนี้ มันก็ไม่มีใครที่สามารถไล่ตามความเร็วของเนมุรินได้ทัน ต่อให้จะเป็นเสียง สายฟ้า หรือท็อปสปีด —เนมุรินก็สามารถทิ้งห่างจนไม่เห็นฝุ่นได้ เธอบินตรงไปยังที่หมายของตัวเอง ในตอนที่เธอกำลังบินอยู่นั้นมันไม่ได้มีเสียง เพราะแบบนั้นเธอจึงรู้สึกเหงาจนต้องพูดว่า “ซูมมมมม!” ออกมาในตอนที่กำลังบินอยู่ เธอบินตัดผ่านก้อนเมฆสายไหมพร้อมกับกินมันไปด้วย จากนั้นเธอลงมายังพื้นหินที่อยู่ด้านล่าง
ภายในฝัน ผู้คนเหล่านี้กำลังเฉลิมฉลองการขึ้นสู่บัลลังก์ของราชินี
“ราชินีรูลเลอร์จงเจริญ!”
“ท่านราชินีรูลเลอร์!”
“มองมาทางนี้ด้วย! ท่านราชินีมองมาที่ฉันด้วยล่ะ!”
งานเฉลิมฉลองการกำเนิดของราชินีองค์ใหม่ —ที่งดงาม เปี่ยมล้มปัญญา และมากเสน่ห์— ผู้คนต่างกู่ร้องสรรเสริญ ดีใจ หัวเราะ และร้องไห้ เนมุรินเองก็เริ่มจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน เมื่อเห็นเศษกระดาษสีที่พับเป็นรูปร่างต่างๆโปรยปรายไปทั่วบริเวณ เธอก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจมากกว่าใคร เศษกระดาษสีรูปเนมุรินกลายเป็นฟาฟที่มีสีขาวชมพู ฟาฟสีขาวและสีเขียวสว่าง ฟาฟสีขาวและสีไวน์แดง และฟาฟสีอื่นๆที่สดใสลอยอยู่ทั่วในอากาศ
“รสนิยมเรื่องสีของเธอนี่มันแย่สุดๆเลย ปอน” ฟาฟตัวจริงพูดออกมา
“แต่มันสวยจะตายนะ” เนมุรินตอบกลับ
“นี่มันเป็นการละเมิดสิทธิรูปภาพตัวบุคคลนะ ปอน”
“ไม่มีการละเมิดอะไรแบบนั้นในฝันหรอก!”
“เธอนี่พูดสวนได้ตลอดเลย ปอน”
“อะแฮ่ม เนมุรินน่ะถูกต้องเสมอ แต่ว่า… รูลเลอร์ เธอทำแบบเดียวกันทั้งในความฝันคนอื่นและตัวเองเสมอเลยเนอะ ว่าไหม?”
“การมีตัวตนที่ชัดเจนมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอกนะ ปอน”
จากนั้นสุดยอดอุปกรณ์รวบรวมข้อมูลอเนกประสงค์ก็โผล่ออกมาจากหัวของเนมุริน มันคือเสาอากาศของเนมุรินนั่นเอง ซึ่งมันจะสิ่งเสียงแหลมๆออกมาแบบซ้ำๆหากมีเมจิคัลเกิร์ลที่นอนหลับอยู่ ดังนั้นเนมุรินจึงบินตรงไปตามทิศทางที่เสาอากาศบอก ภาพของงานเทศกาลเฉลิมฉลองการขึ้นสู่บัลลังก์ของราชินีรูลเลอร์เริ่มหายไป จากนั้นเธอก็มองเห็นภาพของรถไฟหัวกระสุนที่วิ่งผ่านดินแดนรกร้าง ที่ด้านบนของรถไฟหัวกระสุนคือนางฟ้าตัวน้อย คนที่พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า “รถไฟหัวกระสุนนี่ก็เร็วดีนะ ว่าไหม?”
“โอ๋ นี่คงเป็นความฝันของมินาเอลสินะเนี่ย” เนมุรินพูด
“งั้นนี่คือมินาเอลหรือยูนาเอลกันล่ะ ปอน?”
“อ๊ะ อีกคนกำลังมาทางนี้แล้ว”
มันมีรถไฟที่กำลังแล่นอย่างช้าๆฝ่าฝุ่นควันเข้ามาจากสุดขอบฟ้า จากนั้นมันก็แล่นด้วยความเร็วมากพอที่จะแข่งกับรถไฟหัวกระสุนได้ ที่ด้านบนรถไฟเองก็มีนางฟ้าตัวน้อยนั่งอยู่ด้วยเช่นกัน เธอตะโกนออกมาว่า “ไป ไปเลย!”
“ฟาฟแยกไม่ออกหรอกนะ ปอน”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ? ทั้งสองคนฝันเรื่องเดียวกันงั้นเหรอ?”
“พวกเธอคือนางฟ้าฝาแฝดนะ ดังนั้นฟาฟคิดว่ามันคงเกิดขึ้นได้ ปอน”
“งั้นเหรอ คงเป็นแบบนั้นสินะ”
การแข่งขันกันของ CEO รถไฟระหว่างมินาเอลและยูนาเอลเข้าสู่ด่านสุดท้ายในตอนเสาอากาศของเนมุรินส่งเสียงร้องออกมาพอดี “มีเมจิคัลเกิร์ลกำลังฝันอยู่ล่ะ!”
“หวา คืนนี้สุดยอดเลย” เนมุรินพูดทิ้งการแข่งของฝาแฝดไว้ด้านหลังแล้วก็บินไปหาความฝันแห่งใหม่
“คราวนี้ความฝันของใครกันล่ะ ปอน?”
“หวา มีบ้านอยู่ตรงนี้ด้วย!”
บ้านเรียบง่ายสไตล์ดั้งเดิมตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนทุ่งหญ้า พอมองดูจากไกลๆแล้วมันจึงดูโดดเด่นมาก แต่ทุกอย่างที่อยู่ตรงนั้น —คุณแม่ที่กำลังตากผ้าอยู่ที่สวน คุณพ่อที่กำลังตัดเล็บอยู่ตรงระเบียง คุณยายที่กำลังดูละครในทีวีพร้อมกับจิบชาในห้องนั่งเล่น เด็กสาวที่ทำการบ้านอยู่ในห้องตัวเอง แล้วสุนัขที่นอนหลับอยู่ตรงบ้านสุนัข —มันดูเป็นอะไรที่ปกติธรรมดา แต่ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
“งั้นเด็กสาวที่เป็นร่างก่อนแปลงร่างก็คือ…” เนมุรินพึมพำ “ไม่นะ เดี๋ยวสิ เอ่อ ไม่ใช่คุณแม่ แล้วก็ไม่ใช่คุณพ่อด้วย คุณยายเองก็ไม่ใช่เมจิคัลเกิร์ลเหมือนกัน… อ๊ะ สุนัขนี่”
“สุนัขงั้นเหรอ ปอน?”
“ทามะนี่นา งั้นร่างก่อนการแปลงร่างของทามะก็คือสุนัขเหรอ?”
“ไม่ใช่แล้ว ปอน”
“งั้นก็เป็นความฝันประเภทที่ฝันว่าตัวเองคนอื่นสินะ”
ทามะหรือสุนัขที่กำลังนอนขดตัวอยู่ในบ้านสุนัขนั้นมีท่าทางที่ดูมีความสุขมาก แต่เพราะว่าที่นี่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ความฝันมันจึงไม่ได้ตื่นเต้น จนเนมุรินหาวออกมา
ฟาฟหมุนตัวจนฝุ่นเกิดฟุ้งกระจาย “เนมุริน ฟาฟขอถามอะไรหน่อยได้รึเปล่า ปอน?”
“อะไรเหรอ? ถ้าอยากเห็นความฝันของเมจิคัลรอยด์ล่ะก็ เราไม่ทำหรอกนะ เธอเอาแต่ฝันเรื่องกระโดดลงไปในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยเงิน เราเบื่อมากเลยล่ะ เราหวังว่ามันคงเป็นแค่ความฝันของหุ่นยนต์ล่ะนะ”
“ใครสนเรื่องนั้นล่ะ ปอน? นี่เธอจะย้ายความฝันไปเรื่อยๆต่ออีกเหรอ ปอน?”
“อื้อ”
“อย่างที่เคยทำสินะ ปอน?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“แม้ในชีวิตจริงจะไม่ได้เมจิคัลแคนดี้เหรอ ปอน?”
“ตามนั้นแหละ”
“แบบนั้นฟาฟก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่กับเธอนานไปกว่านี้แล้ว ปอน”
“จริงอ่า?”
“ตอนนี้ฟาฟยุ่งมากเลย ปอน ฟาฟอยู่กับเธอตลอดไม่ได้หรอก ปอน”
“ใจร้ายอ่ะ”
“ลาก่อน ปอน ถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็จะเรียกฟาฟก็ได้ แต่มันคงวุ่นวายหากเธอเรียกฟาฟตอนที่ใครบางคนฝัน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ฟาฟก็แนะนำว่าไม่ต้องเรียกหรอก ปอน”
“นี่ไม่เย็นชากับเนมุรินไปหน่อยเหรอ?”
“เธอคิดไปเองน่ะ ปอน”
“ไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเลย”
“อื้อ อื้อ งั้นก็ลาก่อน ปอน” ฟาฟหายไป แม้เนมุรินจะเขย่าเมจิคัลโฟนของเธอ มันก็ไม่ได้มีอะไรโผล่ขึ้นมาอีก
เนมุรินวางเมจิคัลโฟนไว้บนหัว จากนั้นก็หมุนมันไม่กี่ครั้งแล้วก็หายไป ถ้าหากฟาฟไม่ออกมา มันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องพกไปมารอบๆ ตั้งแต่ที่การแข่งขันเมจิคัลแคนดี้เริ่มขึ้น ฟาฟก็คงยุ่งมากแน่ เนมุรินก็บ่นอะไรไม่ได้เพราะดูเหมือนว่าฟาฟจะยุ่งมากจริงๆ
“แต่รู้ไหม เนมุรินไม่คิดว่าสิ่งที่เนมุรินทำมันไม่มีความหมายหรอก” เธอกอดอกแล้วมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยท่าทางจริงจัง ก้อนเมฆสายไหมแสนอร่อยที่ลอยอยู่ด้านบนกำลังถูกฝูงอีกาจิกกินอยู่
“เมื่อเมจิคัลเกิร์ลมีปัญหาในความฝัน เนมุรินก็จะช่วยพวกเธอ แม้ว่าบางครั้งจะผิดพลาดไปบ้าง แต่แน่นอนว่าเนมุรินนั้นมีประโยชน์นะ อีกอย่าง พอไม่มีเมจิคัลเกิร์ลที่กำลังฝันอยู่ เนมุรินก็จะออกไปจัดการฝันร้ายของคนที่ไม่ใช่เมจิคัลเกิร์ลด้วยนะ เนมุรินน่ะทั้งปฎิรูปไคจูอวกาศ ให้ร่มชูชีพกับคนที่ร่วงจากที่สูงแบบไม่รู้จบ ชุบชีวิตคนที่ถูกฆ่า แก้ไขปัญหาครอบครัว พาคนรักที่พรากจากคู่ครองกลับมาพบกัน ไปยังสถานที่ที่ผู้คนมีปัญหาเพราะไม่รู้ภาษาแล้วก็แปลให้พวกเขา แล้วก็ให้เสื้อผ้ากับคนที่จู่ๆก็พบว่าตัวเองเปลือยกายอยู่คนเดียวในเมือง เรื่องพวกนี้มีแต่เนมุรินคนเดียวที่ทำได้ แล้วฟาฟจะบอกว่าไม่มีเหตุผลอีกเหรอ? ฝันดีน่ะมันคือความสุขเล็กๆของคนที่หัวใจเหนื่อยล้า แล้วพอตื่นขึ้นมา มันก็จะมอบพลังสำหรับวันใหม่… บางครั้งเราแน่ใจว่ามันเป็นความจริงนะ อื้อ ใช่แล้ว เนมุรินน่ะถูกเสมอ” เนมุรินปลอบตัวเอง จากนั้นเสาอากาศของเธอก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง “มีเมจิคัลเกิร์ลกำลังฝันอยู่แหละ!”
“งืม วันนี้งานงอกจังเลยน้า” เนมุรินพูดอย่างดีอกดีใจ แต่บางทีเธออาจใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้องนัก
เนมุรินหมุนควงสว่านสามรอบครึ่งขึ้นไปในอากาศเพื่อลอยขึ้นไป จากนั้นก็พุ่งไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เธอสามารถไปถึงที่หมายได้ในพริบตาหากต้องการ จากนั้นเธอก็ลงมาที่พื้นพร้อมกับเสียงเอฟเฟค ฟุบบ! และสำรวจบริเวณโดยรอบ
เธออยู่ในป่าที่มีดอกไม้รูปใบหน้าบานอยู่ทุกที่ แถมดอกไม้แต่ละดอกก็ร้องเพลงออกมาอย่างไพเราะ แมลง นกตัวน้อย แล้วก็ปลาที่กระโดดลงไปในแอ่งน้ำ ล้วนแต่มีท่าทางเหมือนกับมนุษย์ —บางตัวนั้นร่าเริง บางตัวดูเศร้า บางตัวดูเหมือนกำลังถูกแกล้ง บางตัวกำลังร้องเพลงไปพร้อมกับดอกไม้ ทุกตัวล้วนสร้างเสียงอันไพเราะออกมาตามใจตน และเนื่องจากว่าพวกนั้นต่างแข่งกันให้อีกฝ่ายได้ยิน มันจึงกลายเป็นมหกรรมการแข่งส่งเสียงดังไปเลย
เนมุรินอุดหูตัวเองแล้วก็คิดว่า เมจิคัลเกิร์ลคนไหนที่มีความฝันแฟนตาซีแบบนี้กันนะ? เราเองก็เพิ่งเจอรูลเลอร์ มินาเอลกับยูนาเอลก็แข่งขันกันอยู่ใช่ไหมนะ? ลาพูเซลชอบแฟนตาซีแบบฮาร์ดคอร์มากกว่า ส่วนซิสเตอร์นานะกับวินเตอร์พริซั่นนั้นค่อนข้างไปในทางลามก คาลามิตี้ แมรี่เป็นอะไรที่เสื่อมทราม สโนไวท์นั้นค่อนข้างเงียบสงบ และนี่ต่างจากท็อปสปีดด้วย
เนมุรินยังคงครุ่นคิดต่อไป “ถ้าจะคิดว่าใครเป็นเจ้าของความฝันล่ะก็ ไปหาเธอตรงๆคงจะเร็วกว่าสินะ?”
เมื่อได้ยินเสียงร้องที่เหมือนกับเส้นไหมถูกฉีก เนมุรินก็บินออกไป
มีนกโดโดตัวใหญ่นั่งอยู่ข้างๆทางเดินของสัตว์ มันมีเลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณและเท้าขนาดใหญ่ของนกโดโดก็เต็มไปด้วยเลือดที่เหนียวหนืด
เนมุรินลงมาที่ด้านข้างนกโดโด “เลือดเต็มไปหมดเลย เธอดูไม่โอเคจัง แต่จริงๆแล้วโอเคไหม?” เธอถาม
นกโดโดตอบกลับมาด้วยเสียงทุ้มต่ำและก้องกังวาน “ไม่ ฉันไม่เจ็บ”
“หือ จริงเหรอ? เธอเลือดออกเยอะแยะเลยนะ”
“ก็…ฉันเหยียบเด็กสาวที่กระโจนออกมาจากข้างทาง แล้วพอเธอเลือดออกมาก… ฉันก็คิดว่า ไม่นะ นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย แต่พอเธอลุกขึ้นมาแล้วก็วิ่งออกไป ฉันก็รู้สึกเป็นห่วง ฉันว่าวิ่งออกไปทั้งๆเลือดท่วมแบบนั้นมันไม่ดีกับร่างกายเลย”
“ก็ถูกนะ แบบนั้นคงแย่ใช่ไหมล่ะ? แล้วเธอวิ่งไปทางไหนเหรอ?”
“ทางนั้นน่ะ ฉันเรียกเธอแล้ว แต่บางทีเธอคงไม่ได้ยิน”
เด็กสาวคนนั้นเป็นเมจิคัลเกิร์ลรึเปล่านะ? เนมุรินตามเธอไปทันที แต่ก็หันกลับมาเพราะคิดว่าควรจะทำความสะอาดด้วย เธอไขว้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าด้วยกัน จากนั้นเลือดที่อยู่บนพื้นก็ซึมเข้าไปในดิน เลือดที่เท้าของนกโดโดเองก็หายไปในอากาศ
“มัวแต่คิดไปก็ไม่ได้อะไรหรอก ทำเหมือนไม่เห็นอะไรเลยจะดีกว่านะ” เนมุรินบินออกไปพร้อมกับคำแนะนำนั้น
เนมุรินบินขึ้นสูงตามทิศทางที่นกโดโดบอกจนกระทั่งพบกับเธอ “นั่นไง! เด็กคนนั้น!”
เด็กสาวที่ดูเหมือนอลิสจาก การผจญภัยของอลิสในแดนมหัศจรรย์ แต่สวมชุดสีงานศพนั้นกำลังวิ่งอยู่คนเดียว
“หืมมม? เดี๋ยวสิ…ใครล่ะนั่น?”
เนมุรินเป็นบอสของการแชท ดังนั้นเพียงแค่เหลือบมองเธอก็รู้จักเมจิคัลเกิร์ลทุกคนในเมือง N เธอก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่า “หืม อย่างนี้นี่เอง” แต่เธอไม่เคยเห็นเมจิคัลเกิร์ลคนนี้มาก่อน เธอคืออลิสที่สวมชุดดำและมีรูปลักษณ์เหมือนกับคนป่วย ทั้งผิวขาวซีด รอยดำใต้ตา ความฝันคราวนี้ดูไม่เหมือนกับของทามะที่ฝันว่าตัวเองเป็นคนอื่น แบบนี้มันก็หมายความว่าเธอคือเมจิคัลเกิร์ลคนที่สิบหกที่ฟาฟพูดถึงก่อนหน้านี้นั่นเอง
เนมุรินบินลงมาเพื่อดูใบหน้าของเด็กสาว แต่เด็กสาวก็ไม่ได้สนใจ เธอยังคงมองไปข้างหน้าในตอนวิ่งเช่นเดิม
“สมาธิสุดยอดเลยน้า” เนมุรินพูดพร้อมตั้งข้อสังเกต “เหมือนกับมองเห็นแต่เป้าหมายของตัวเองเลย ยอดสุดๆ แต่…มันก็ดูน่ากลัวจัง”
เมจิคัลเกิร์ลคนนี้กำลังวิ่งไล่ตามอะไรกันนะ? แต่เนมุรินก็ไม่จำเป็นต้องคิดเลย เพราะว่ามันก็มีกระต่ายสีขาวกำลังวิ่งอยู่ข้างหน้าเธอ เธอคือเด็กสาวที่สวมชุดคอสตูมกระต่ายที่มีสีขาวทั่วทั้งตัวและยังมีที่คาดผมหูกระต่ายสีขาวน่ารักๆอยู่บนหัวด้วย —นอกเหนือจากหูกระต่ายแล้ว เธอดูเหมือนกับเมจิคัลเกิร์ลที่เนมุรินรู้จัก แต่ว่าเธอไม่ได้หันกลับมามอง ดังนั้นจึงมองไม่เห็นหน้า เพราะแบบนั้นเนมุรินจึงยืนยันอะไรไม่ได้
เมจิคัลเกิร์ลสีขาวที่วิ่งอยู่โดยที่ไม่ได้หันกลับมามองนั้นคงไม่ได้รู้ว่าอลิสชุดดำกำลังไล่ตามเธอมา ทำไมอลิสชุดดำถึงไล่ตามเด็กสาวชุดขาวกันล่ะ? นี่เธอต้องไล่ตามกระต่ายขาวเพราะเป็นอลิสงั้นเหรอ? หรือว่ามีเหตุผลอื่นกันนะ?
“หืมม…หืมมม ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกันเนี่ย? ชักน่าสนใจแล้วสิ”
พวกเธอออกมาจากป่าและมุ่งหน้าสู่ภูเขา เด็กสาวชุดขาวปีนขึ้นไปด้านบน ส่วนอลิสชุดดำก็วิ่งไล่หลังเธอตามมา เมื่อเด็กสาวชุดขาวมาถึงยอดเขา เธอก็วิ่งลงมาจากหน้าผาสูง อลิสชุดดำยังคงตามเธอไปโดยการกระโดดกางแขนและขาลงมาจากด้านบนหน้าผา
“โอ๋ เธอบินได้ด้วยเหรอเนี่ย?” เนมุรินพูดแล้วก็กระโดดตามเด็กสาวไปด้วย อลิสชุดดำมุ่งหน้าลงไปที่พื้นด้วยความเร็วสูง พอเวลาผ่านไปเนมุรินจึงรู้ว่า “เดี๋ยวสิ แบบนี้มันแค่ร่วงลงมาเฉยๆนี่นา?” และตัวของเด็กสาวก็ลงมาที่พื้น —ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือกระแทกเข้ากับพื้น
ผลลัพธ์นั้นไม่ได้มีแค่รูรูปร่างมนุษย์เกิดขึ้นตามที่เนมุรินคิดไว้ —ชะตากรรมของเด็กสาวมันเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แรงกระแทกที่เกิดขึ้นมันทำให้ตัวของเธอกลายเป็นก้อนเนื้อและบ่อเลือด มันเป็นเหมือนกับเรื่องราวอันวิปลาศ แย่ล่ะ เนมุรินคิดเช่นนั้นแล้วใส่โมเสคเซ็นเซอร์เอาไว้ แบบนี้มันจึงดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
เมจิคัลเกิร์ลสีขาวที่อลิสคว้าตัวเอาไว้ไม่ได้นั้นแม้จะตกลงมาด้านล่างเธอก็ยังคงปลอดภัยและวิ่งต่อไป ความฝันนี้มันโหดร้ายจนถึงท้ายที่สุด
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นความฝันประเภทที่จบลงด้วยเรื่องที่เจ้าของความฝันตายในตอนจบ สำหรับเมจิคัลเกิร์ลแล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะมีอะไรแบบนี้ เมจิคัลเกิร์ลส่วนใหญ่มักจะทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำในความฝันมากกว่า
“น่าสงสารจัง… ถ้าเรารู้ว่าเธอจะตาย เราคงหยุดเธอไว้แล้ว”
พอเนมุรินเข้าไปใกล้ๆโมเสคเซ็นเซอร์สีชมพู ก้อนเนื้อที่อยู่ข้างใต้ก็เกิดสั่น หัวใจที่เต้นอยู่ในก้อนเนื้อกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์ และก่อนที่เนมุรินจะทันได้ตกใจ ก้อนเนื้อมันก็กลายเป็นอลิส คนที่ปัดโมเสคออกไปแล้วเริ่มวิ่งอีกครั้ง
“หือ? อะไรน่ะ? นี่เธอยังไม่ตายเหรอ?”
เนมุรินรีบซ่อมรอยบุ๋มที่พื้น แล้วก็ทำให้ข้าวของที่กระจัดกระจายกันอยู่หายไปในอากาศก่อนที่จะตามอลิสชุดดำไป
“นี่ไม่ใช่ความฝันแบบที่เจ้าของจะตายตอนจบงั้นเหรอเนี่ย? มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีก็จริง แต่ว่า…นี่มันเป็นความฝันแบบไหนกันนะ?”
เพียงไม่นานอลิสก็มองเห็นแผ่นหลังของเมจิคัลเกิร์ลสีขาว อลิสนั้นวิ่งมาโดยตลอดแต่ก็ไม่เคยตามทันเลย แต่ในตอนนี้บางทีเมจิคัลสีขาวอาจจะเหนื่อย… หรืออาจจะไม่ เพราะอลิสนั้นยังคงเข้าใกล้ไม่ได้เช่นเดิม
“เธอทำได้นะ! อีกแค่นิดเดียว! นิดเดียวเอง!” เนมุรินส่งเสียงเชียร์
อลิสชุดดำยกแขนของตัวเองขึ้น แล้วเมื่อถึงจุดที่เธอสามารถสัมผัสเด็กสาวชุดขาวได้หากเข้าไปใกล้อีกนิด เธอก็ลื่นล้มไปข้างหน้า ด้วยความเร็วเท่านี้ การสะดุดเพียงแค่เล็กน้อยก็คือเรื่องหายนะ ตัวของเธอกลิ้งไปชนกับต้นไม้จนโค่นลงมา กระแทกเข้ากับก้อนหินจนแตก แถมพื้นดินยังถูกคว้านขึ้นมาด้วย จนกระทั่งตัวของเธอที่เนื้อตัวแหลกเละไปแล้วหยุดลงพร้อมกับนอนตะแคงข้าง เนมุรินมองกลับไปด้านหลังแล้วก็เห็นเต่าทะเลกำลังคลานอย่างเชื่องช้า เธอสะดุดสิ่งนี้นี่เอง
ในตอนนี้เด็กสาวดูน่าสยดสยองมาก มีกิ่งไม้แทงทะลุลำตัวของเธอ ข้อศอกขวาเองก็หมุนไปผิดทาง ข้อเท้าขวาก็ขาดออกจากร่าง ดวงตาขวาเองก็ห้อยลงมาจากเบ้า แถมกรามเองก็ยังฉีกขาดจนห้อยลงมาอีก เนมุรินใช้ฝ่ามือปิดตาตัวเองแล้วแอบมองจากระหว่างนิ้ว
แม้เด็กสาวจะมีบาดแผลร้ายแรง —จริงๆดูเหมือนตายไปแล้วเลยด้วยซ้ำ— แต่อลิสชุดดำก็ลุกขึ้นมา ข้อเท้าที่ฉีกขาด อวัยวะภายในที่ไหลออกมา ทุกอย่างก็ล้วนกลับมาเป็นปกติ
“โหย พลังฟื้นฟูสุดยอดเลย”
จากนั้นอลิสชุดดำก็วิ่งออกไปอีกครั้งทันที
“หืมม ความตั้งใจหนักแน่นสุดๆ เพราะว่ายังเป็นเด็กรึเปล่านะ?”
เมื่อฟื้นฟูต้นไม้กับก้อนหินและลบรอยเลือดเสร็จแล้ว เนมุรินก็บินออกไป “แต่เหมือนกับว่า… ที่เธอตายเพราะแรงกระแทกนี่เป็นเพราะความรู้สึกที่แรงกล้าตลอดเลย”
พวกเธอเข้าไปยังพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีเห็ดขนาดใหญ่ เด็กสาวชุดขาวมุ่งหน้าเข้าไปยังพื้นที่ระหว่างเห็ดพิษ บางครั้งเธอก็จะวิ่งเข้าไปหาแล้วถูกกระเด้งออกมา แต่เธอก็ไม่เคยช้าลงเลย เธอใช้ไหล่กระแทกเข้าไปที่เห็ดขนาดใหญ่จนมันส่ายไปมา เมจิคัลเกิร์ลสีขาววิ่งผ่านไปได้โดยที่ไม่มีปัญหา แต่เมื่ออลิสชุดดำพยายามจะตามไป เห็ดมันก็เหวี่ยงจากทางขวากลับมาทางซ้าย และหนอนผีเสื้อยักษ์ที่สูบมอระกู่อยู่ด้านบนก็ร่วงลงมา
จากนั้นเสียงกระแทกก็ดังขึ้น
ตัวของอลิสถูกบดจนคราบสีแดงค่อยๆซึมลงไปที่พื้นด้านล่างของหนอนผีเสื้ออย่างช้าๆ หนอนผีเสื้อนั้นไม่ได้แสดงความกระวนกระวายอะไรเรื่องของอลิสชุดดำ —ความจริงแล้ว มันก็ยังคงพ่นควันออกมาและไม่ได้ดูกังวลเรื่องที่ตัวเองร่วงลงมาด้วยซ้ำ แต่พออลิสชุดดำลุกขึ้น น้ำหนักมันจึงถูกถ่ายลงไปที่เธอ (ซึ่งก็คือหนอนผีเสื้อ) จนตัวของมันกลับหัวกลับหาง และในตอนที่หนอนผีเสื้อกำลังพยายามขยับตัวนั้น เนมุรินก็จับมันกลับไปวางไว้บนเห็ดแล้วก็ไล่ตามอลิสชุดดำต่อไป
“เหนื่อยจังที่ต้องตามแก้อะไรหลายๆเรื่องให้เธอเนี่ย”
พวกเธอออกมาจากเขตที่เต็มไปด้วยเห็ดและเข้าสู่ถนนที่กำลังซ่อมแซม เมจิคัลเกิร์ลสีขาววิ่งฝ่าเข้าไปกลางขบวนของควีนออฟฮาร์ตและเด็กสาวไพ่ที่พุ่งเข้าไปหา เพราะแบบนั้นมันจึงทำให้ควีนโกรธคนอวดดีที่ตัดฝ่าขบวนของเธออย่างบ้าคลั่ง แต่เด็กสาวชุดขาวก็ออกห่างไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอลิสชุดดำที่ตามมาด้านหลังจึงต้องเผชิญหน้ากับควีนที่โกรธจัด และด้วยคำสั่งของควีน เด็กสาวไพ่จึงจับตัวอลิสชุดดำเอาไว้
“เจ้าคนอวดดี! เอามันไปตัดหัว!”
อลิสชุดดำผู้น่าสงสารถูกตัดหัว เลือดนั้นไหลทะลักออกมาจนเห็นภาพของการตัดหัวได้อย่างชัดเจน การประหารชีวิตเป็นอะไรที่น่าสยดสยอง จนเด็กสาวไพ่ที่ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตเริ่มร้องไห้ แต่ดูเหมือนว่าควีนจะรู้สึกพอใจในเรื่องนั้น และขบวนก็เริ่มเดินต่อ เด็กสาวไพ่และควีนออกไป จากนั้นร่างของอลิสที่ถูกทิ้งเอาไว้ก็ลุกขึ้นอลิสชุดดำหยิบหัวของตัวเองแล้วก็ต่อเข้าด้วยกันกับร่างกายพร้อมกับเสียงเอฟเฟคที่เนมุรินไม่อยากได้ยิน แล้วเธอก็วิ่งออกไปอีกครั้ง
“เด็กคนนี้ยังไม่จบแค่นี้เหรอเนี่ย?”
อลิสชุดดำยังคงวิ่งตามเด็กสาวชุดขาวต่อไป แม้ว่าเด็กสาวชุดขาวจะวิ่งอย่างรวดเร็วจนอลิสไล่ตามไม่ทันและไม่รู้ว่ามีคนกำลังตามมาอยู่ก็ตาม
เนมุรินไม่รู้จักชื่อของอลิสชุดดำ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงต้องไล่ตามเด็กสาวชุดขาว และก็ไม่รู้ว่าเธอมีความสัมพันธ์แบบไหนกับเด็กสาวชุดขาวตั้งแต่แรก ทุกสิ่งที่เนมุรินรู้คือการจ้องมองใบหน้าของอลิส เธอกำลังไล่ตามอีกฝ่ายอย่างสิ้นหวัง จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่ก็ยังคงวิ่งต่อไปแม้ตัวเองจะกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อ
เธอกระโดดเข้าไปในเกมโครเกต์และหัวของเธอก็ถูกทุบด้วยค้อนไม้ เธอกระโดดเข้าไปในปาร์ตี้น้ำชาและถูกน้ำร้อนสาดลงมาบนหัวของเธอ แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย และยังคงวิ่งไล่ตามหลังเด็กสาวที่ไม่เคยเอื้อมถึงต่อไป เมื่อหินก้อนใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้า เธอก็ไม่ได้ลดความเร็วลง
“พอมองดูแล้วเรารู้สึกสงสารเธอมากเลย”
เนมุรินเอานิ้วชี้และนิ้วกลางของทั้งสองมือมาไขว้กัน จากนั้นก็เอามาแตะที่หน้าผาก “เนมุรินบีม!”
เนมุรินบีมทำลายก้อนหินขนาดใหญ่ที่ขวางทางอยู่ก่อนที่อลิสชุดดำจะมาถึง จนอลิสผ่านไปได้โดยที่ไม่ชนกับมัน แต่ก็ยังคงมีเศษก้อนหินปลิวไปหาเธอ จนสุดท้ายเธอก็ยังคงบาดเจ็บอยู่ดี
เนมุรินครางออกมา “เนมุรินน่ะชอบความฝันที่มันร่าเริงนะ แบบนี้มันไม่ร่าเริงเอาซะเลย ไม่ได้จะเป็นแฮปปี้เอนด์ดิ้งด้วย การที่ไม่ว่าจะวิ่งไล่ตามมากแค่ไหนก็ไม่มีทางตามทันนี่มันไม่น่าเบื่อเหรอ?”
เนมุรินจับตัวอลิสจากด้านข้าง “นี่ นี่”
แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง
“นี่ ฟังหน่อย”
ยังคงไม่มีการตอบสนองเช่นเดิม
“เมจิคัลเกิร์ลสีขาวที่วิ่งนำหน้าเธอน่ะเป็นของจริงนะรู้ไหม? เนมุรินรู้จักชื่อเด็กคนนั้นด้วย”
อลิสชุดดำหันกลับมาหาเนมุริน ท่าทางของเธอดูจริงจังมาก
“นี่ นี่ อลิสชุดดำ เธอชื่ออะไรเหรอ?” เนมุรินถาม
“ฮาร์ดกอร์อลิส” ในที่สุดเด็กสาวก็ตอบกลับ
“ชื่อฟังดูดีนะแถมยังดูโหดด้วย แล้วทำไมเธอถึงไล่ตามเด็กคนนั้นเหรอ?”
“เอ่อ…”
“ไม่อยากพูดเหรอ?”
“ไม่ ฉันแค่อยากจะขอบคุณเธอ”
“ขอบคุณเธอ?”
“เพราะเธอเคยช่วยฉันมาก่อน”
“แค่ขอบคุณเหรอ?”
“ก็…”
“ถ้าแค่ขอบคุณอย่างเดียว เนมุรินคงคิดว่าเธอนี่น่าเศร้าจังเลยน้าา คิดแบบนั้นไหม?”
“ก็…”
“นี่เป็นแค่เรื่องระหว่างเธอกับเนมุรินนะ โอเคไหม? ถ้าเธอบอกอะไรกับเนมุรินซักนิด แบบนั้นเนมุรินก็อาจช่วยได้นะ เนมุรินไม่เอาไปบอกใครหรอก”
“ก็…”
“ก็?”
“ก็…”
“ก็?”
“เพราะฉัน…สวมชุดสีดำ”
“อ่าหะ”
“ฉันเลยคิดว่าถ้าเมจิคัลเกิร์ลสีขาวอยู่กับฉันด้วย ถ้าสีขาวและสีดำอยู่ด้วยกันมันคงสวยแน่ๆ… ฉันคิดว่าพวกเราเข้ากันได้น่ะ”
“โอเค้” เนมุรินยิ้มออกมาอย่างสดใสพร้อมกับยกนิ้วโป้งขึ้นมา “เราชอบเธอจัง!”
อลิสนั้นสับสนเล็กน้อยและก้มหน้าลงอย่างเอียงอาย “ขอบ…คุณ”
“ไม่ต้องขอบคุณเราหรอกนะ แค่วิ่งต่อไป เดี๋ยวเนมุรินจะช่วยจนกว่าจะตามเด็กสาวชุดขาวทันให้เอง”
“ตาม…ทัน…ตามทัน…” ฮาร์ดกอร์อลิสพึมพำซ้ำแล้วซ้ำอีก และทุกครั้งที่พูดซ้ำเธอก็พูดมันเร็วยิ่งขึ้น เธอค่อยๆย่นระยะทางระหว่างตัวของเธอกับเมจิคัลเกิร์ลสีขาวได้ทีละนิด… แต่มันก็มีเหตุการณ์วุ่นวายขนานใหญ่บางอย่างอยู่ด้านหน้า
กองทัพหมากรุกสีแดงกับกองทัพหมากรุกสีขาวกำลังต่อสู้กันอย่างชุลมุนบนทุ่งราบ ควีนสีแดงตะโกนสั่งการราวกับคอหอยจะแตก ในขณะที่ควีนสีขาวยืนอยู่ที่แนวหน้าก็เข้าปะทะกับพวกสีแดง มันเป็นฉากที่ชวนสับสนมาก เพราะตัวเบี้ยไล่ล่าอัศวิน บิชอปเตะเรือ จนฝุ่นมันตลบอบอวลไปหมด มันไม่มีเส้นทางที่จะฝ่าเข้าไปได้เลย แต่เมจิคัลเกิร์ลสีขาวก็มุ่งหน้าไปยังสนามรบโดยไม่ลังเล
เนมุรินกางแขนออกแล้วตะโกนว่า “ไปตีกันที่อื่นนนนน!”
จากนั้นก็มีลมกรรโชกแรงพัดเข้ามา แล้วลมนั้นก็กลายเป็นพายุหมุน และพายุหมุนก็กลายเป็นทอร์นาโด ทอร์นาโดขนาดยักษ์พัดพาตัวหมากรุกที่มีขนาดเท่ามนุษย์ทั้งหมดไปยังที่อื่น หมากรุกทุกตัวล้วนบ่นออกมา ควีนทั้งสองเองก็พูดจาอย่างดุเดือดว่าจะฟ้องร้องเรื่องนี้กันยังไง แต่เนมุรินไม่ได้สนใจ เธอส่งพวกนั้นทั้งหมดไปยังสุดขอบฟ้า พอไม่มีอะไรมาขวางทางแล้ว ฮาร์ดกอร์อลิสก็ย่นระยะทางเข้าหาเด็กสาวชุดขาวได้
จากนั้นยังคงมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นตรงหน้า มังกรยักษ์ที่มีกรงเล็บยาวและเขี้ยวอันแหลมคมกำลังต่อสู้กับมอนเตอร์ที่มีขนาดเท่ากันจนฝุ่นตลบ ทั้งคู่ทำลายทุกอย่างที่มองเห็นจบราบจากการต่อสู้อันดุเดือด แรงปะทะจากมอนเตอร์ทั้งสองเข้าใกล้มาเรื่อยๆ และยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าพวกมันตัวใหญ่มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม —แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล— ก็ไม่สามารถผ่านมันไปได้โดยไร้บาดแผล แต่กระนั้น เมจิคัลเกิร์ลสีขาวก็มุ่งหน้าตรงเข้าไปหามอนเตอร์ ฮาร์ดกอร์อลิสก็เร่งความเร็วขึ้นเช่นกัน
เนมุรินชูนิ้วชี้ขึ้นไปบนฟ้า “ไคจู น่ะควรจะเป็นฝ่ายแพ้สิ!”
ก้อนเมฆแยกออกจากกัน จากนั้นก็มีเอเลี่ยนยักษ์ปรากฏตัวขึ้น และพื้นก็เกิดสั่นสะเทือนตอนที่มันลงมาบนพื้น มันเตะเข้าไปที่มังกร ต่อยเข้าไปที่มอนเตอร์ จากนั้นก็ยิงลำแสงเข้าไปหาสัตว์ร้ายที่โผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่าเมื่อมันอ่อนแอลง เมื่อพอใจกับการจัดการพวกมันโดยใช้เวลาน้อยกว่าสามนาทีแล้ว เอเลี่ยนก็กลับไปยังที่ที่ตัวเองมา
ในม่านควันที่โชยขึ้นมาจากการระเบิดของมอนเตอร์ทั้งสอง ฮาร์ดกอร์อลิสเร่งความเร็วขึ้นและเอื้อมมือเข้าไปหาเมจิคัลเกิร์ลสีขาว แต่เธอก็ทำไม่ได้ —นิ้วที่เกร็งของเธอสั่นไหว จนเธอไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปหาได้
เนมุรินกระโดดพร้อมพูดว่า “เนมุรินคิกกกกก!”
เนมุรินกระโดดเตะเข้าที่แผ่นหลังของอลิส จนทำให้ในที่สุดมือของเธอก็ยื่นไปด้านหน้าจนเข้าหาแผ่นหลังเด็กสาวชุดขาวได้ —จากนั้นมันก็มีเสียง ฟุบ ดังขึ้น แล้วเด็กสาวชุดขาวก็ถูกล้อมรอบไปด้วยควัน ด้วยแรงนั้นมันทำให้ตัวของอลิสล้มลงไปข้างหน้าจนตัวของเธอเต็มไปด้วยโคลน และในตอนที่เธอลุกขึ้น สิ่งที่เธอถืออยู่ในมือก็คือตุ๊กตาสัตว์
“หือ? อะไรล่ะเนี่ย? หมายความว่ายังไงหว่า?” เนมุรินพูด
มันตุ๊กตากระต่ายสีขาวที่ดูสกปรก ในตอนนี้เด็กสาวชุดขาวหายไปแล้ว ในจังหวะที่อลิสจับตัวของเธอได้ ตัวของเด็กสาวก็กลายเป็นตุ๊กตากระต่ายสีขาว อลิสจับตุ๊กตาสัตว์เอาไว้และกอดอย่างแนบแน่น ดูเหมือนว่าเธอจะดูห่างไกลจากการมีความสุขที่ได้มาจากสิ่งที่เธอไล่ตาม —ความจริงแล้วเธอดูเหงามาก
เนมุรินกอดอกและเอียงหัว “เราสงสัยจังว่าเกิดอะไรขึ้น” เธอเข้าหาอลิสที่กำลังก้มหน้าอยู่ แล้วก็แตะไหล่ของเธอ “นี่ นี่ ฮาร์ดกอร์อลิส”
“…อะไรล่ะ?”
“เธอพูดว่าอยากอยู่ด้วยกันกับเมจิคัลเกิร์ลสีขาวไม่ใช่เหรอ?”
“…อื้อ”
“แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไรนี่”
“อื้อ… ฉัน… เมจิคัลเกิร์ลสีขาวกับฉัน…” อลิสมองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับยังคงกอดตุ๊กตาสัตว์เอาไว้ “ฉันอยากให้พวกเราช่วยเหลือคนอื่น… เหมือนกับเวลาที่เธอช่วยฉัน ฉันอยากช่วยคนที่มีปัญหา”
เนมุรินพยักหน้าจากนั้นก็พยักหน้าอย่างช้าๆอีกครั้ง “เรามีเรื่องดีๆสามเรื่องจะบอกเธอนะ”
“เรื่องดีๆ?”
“เรื่องแรกคือในโลกความจริง พอเธอจับตัวอีกฝ่ายได้แล้วก็จะไม่กลายเป็นตุ๊กตากระต่ายหรอกนะ เรื่องที่สองคือในโลกความจริงเธอไม่ได้รวดเร็วแบบนี้หรอก เพราะแบบนั้นการตามเธอให้ทันมันง่ายกว่าแน่นอน ส่วนเรื่องที่สามคือ —อันนี้สำคัญมากนะ ดังนั้นตั้งใจฟังด้วย— เมจิคัลเกิร์ลสีขาวน่ะมีชื่อว่า—”
☆อาโกะ ฮาโทดะ
แม้ว่าตัวเองจะจำไม่ได้ แต่บางทีเธออาจจะมีความฝันที่ยาวนาน ตัวของเธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับชุ่มไปด้วยเหงื่อราวกับว่าเธอวิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ตัวเองทำได้ แถมยังหายใจเหนื่อยหอบด้วย เธอสูดอากาศเข้าและพ่นมันออกแบบซ้ำๆอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่สงบสติอารมณ์ของตัวเองแล้ว เธอก็ลุกขึ้น
เธอมีความรู้สึกว่าตัวเองฝันถึงเมจิคัลเกิร์ลสีขาว แต่เธอก็จำอะไรไม่ได้ อาโกะถอนหายใจและหยิบตุ๊กตากระต่ายที่อยู่ข้างหมอนขึ้นมาแล้วกอดมันเอาไว้ที่หน้าอก
เดี๋ยวสิ…นี่ฉันไปได้กระต่ายนี่มาจากที่ไหนกันน่ะ?
ความทรงจำเกี่ยวกับตุ๊กตากระต่ายตัวนี้มันคลุมเครือมาก จนเธอก็จำไม่ได้ว่ามันมาจากไหน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง อาโกะรู้สึกว่าสามารถเชื่อใจมันได้ จากนั้นเธอก็กอดเอาไว้แน่นกว่าเดิม
MANGA DISCUSSION