ตอนที่ 2.03 Arc 2 - ตอนที่ 3 - นักสืบและคดีฆาตกรรม
ตอนที่ 3:
นักสืบและคดีฆาตกรรม
☆ ดีเทคเบล
ดีเทคเบล คือนักสืบ
เธอสวมผ้าคลุมและหมวกแบบนักสืบ มีไปป์กับแว่นขยายเป็นของตกแต่ง
ดูเหมือนกับเชอร์ล็อคโฮล์มเวอร์ชั่นผู้หญิง แต่เธอไม่ใช่เมจิคัลเกิร์ลที่แต่งชุดนักสืบ
ก่อนแปลงร่าง ชิโนบุ ฮิโอกะ นั้นทำงานเป็นนักสืบจริงๆ
ตอนสมัยอนุบาล ชิโนบุมีพี่ชายแก่กว่า 4 ปี เธอติดพี่ชายมาก ตามเขาไปทุกที่
เมื่อเธอรู้สึกเศร้า เธอก็อยู่รอบๆตัวเขาตลอด
เธอตามไปแม้กระทั่งตอนไปทริปรถบัสของชมรม
ซึ่งชมรมนั้นควรจะเป็นชมรมสำหรับเด็กประถมที่ได้ไป
เธอร้องไห้ และตะโกนออกมาบอกว่ามันไม่เห็นแฟร์เลย
แบบนี้ก็เท่ากับว่ามีแต่พี่ชายที่ได้ไปน่ะสิ
จนเธอไปขอร้องพ่อ และสุดท้ายเรื่องก็จบลงโดย การพูดคุยกับหัวหน้าของสมาคมเพื่อนบ้าน
ในทริปรถบัสนั้นเป็นการเที่ยวชมฟาร์มที่เมืองข้างเคียง
เป็นฤดูใบไม้ผลิ มีแสงแดดที่อบอุ่น เหมาะกับการให้เด็กๆเที่ยวชมอย่างสนุกสนาน
พวกเขาเล่นกับวัว ตะโกนเมื่อมองเห็นม้า ให้อาหารแกะและกระต่าย ลองรีดนมวัว
และขึ้นรถบัสกลับบ้าน และนั่นคือที่ที่ชิโนบุเผชิญหน้ากับโชคชะตาของตัวเอง
เธอตื่นเต้นมากจึงรีบนอนหลังจากกินอาหารเย็นเสร็จแล้ว
และนอนหลับจนถึงตอนออกเดินทาง ดังนั้นเธอจึงเหลือพลังเยอะแม้จะกลับมาจากฟาร์มแล้ว
บนหน้าจอนั้น มีนักสืบจิ๋วที่เฉลยตัวคนร้ายในคดีห้องปิดตาย
ในตอนนั้นชิโนบุไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวละครพูดเลย
เขาเป็นเด็กเหมือนกับฉัน แต่เฉลยแผนการร้ายของผู้ใหญ่ได้
เขาถูกนักสืบรุ่นพี่ยกย่องด้วย
อาวุธของเขาคือเครื่องมือไม่กี่อย่าง, มิตรที่เชื่อใจได้ และเหนืออะไรเลยคือ ความปราดเปรื่องของเขา
ในช่วงอายุของเด็กอนุบาล คำว่า “ฆาตกรรม” นั้นมันฟังดูตื่นเต้นมากกว่า “ครองโลก”
หรือ “ทำลายล้างมนุษย์ชาติ” ซะอีก เด็กบนหน้าจอนั้นคือฮีโร่ต่อสู้กับอาชญากรที่ทำการฆาตกรรมอยู่
ชิโนบุกำหมัดกับความสำเร็จของเด็กชายนักสืบท่ามกลางเสียงกรนในรถบัส
ชิโนบุกลายเป็นแฟนตัวยงของนักสืบจิ๋วคนนั้น เธอยังบอกพี่ชายให้ไปยืมมังงะต้นฉบับมาจากเพื่อนด้วย
และโชคดีที่หนังสือเป็นอักษร ฟุริกานะ เธอจึงเข้าใจคำศัพท์ส่วนมากได้
ข้อแก้ตัว, พล๊อตทวิส, ปริศนาห้องปิดตาย มันเป็นคำพูดที่มีเสน่ห์ดึงดูดชิโนบุ
เธอไม่ได้ตามพี่ชายอีกแล้ว พี่ของเธอเองก็บอกว่ารู้สึกโล่งใจ
แต่เขาเองก็ดูผิดหวังนิดหน่อย บางทีชิโนบุอาจเข้าใจผิดไปเองก็ได้
เธอขอให้พ่อเช่า DVD ให้ เธอดูอนิเมทุกตอนและมูฟวี่เองก็ด้วย
ความสนใจของเธอเปลี่ยนมาอยู่ที่แนวลึกลับ และก็อ่านหนังสือของพ่อ
ชั้นหนังสือของพ่อทำมาจากชั้นสีถูกๆ อัดแน่นไปด้วยหนังสือแนวลึกลับ
แต่เมื่อพ่อเจอเธอที่กำลังอ่านหนังสือของตัวเองอยู่
ก็ยึดหนังสือคืนไปพร้อมบอกว่าเป็นหนังสือของผู้ใหญ่ ดังนั้นเธอจึงแอบอ่าน
คราวนี้มันไม่มีฟุริกานะเลย ดังนั้นเธอจึงอ่านไปเรียนไปพร้อมๆกัน
ศัพท์ที่เธอไม่เข้าใจเธอก็เดาจากบริบทของประโยค
ในขณะที่เด็กคนอื่นดูอนิเมไม่ก็โทคุซัทสึ ตัวเธอแอบอ่านหนังสือลึกลับอยู่เงียบๆคนเดียว
เรื่องโปรดของเธอคือนักสืบจิ๋ว เป็นอนิเมที่เธอตกหลุมรัก นักสืบผู้ไม่เคยผิด ยอดเยี่ยม และละโมบ
ทั้งตอนประถมและมัธยมต้น เธออ่านนิยายสืบสวนทั้งวันทั้งคืน
ตอนมัธยมปลายเธอก็ก่อตั้งชมรมเรื่องลึกลับขึ้นมา
คนหนึ่งคนที่แก้ปริศนาห้องปิดตายได้ด้วยสมองอันยอดเยี่ยม จับฆาตกรได้เสมอ
อีกด้านหนึ่ง ตัวเอกต่อสู้กับองกรณ์ที่ทรงพลังเพื่อช่วยเด็กสาวผู้น่าสงสาร
การผจญภัยของนักสืบสุดเท่นี้ทำให้เธอหัวใจเต้นแรง
ตอนงานวัฒนธรรมของมัธยมปลาย ชมรมของเธอทำการแสดงละครที่ดัดแปลงจากนิยายของนักสืบชื่อดัง “หมู่บ้านแปดหลุมศพ”* ในโรงยิมของโรงเรียนถูกย้อมตกแต่งไปด้วยเลือด เธอถูกครูวิชาพลศึกษาตำหนิเรื่องของโรงยิม แต่การแสดงของเธอนั้นประสบความสำเร็จ
ผู้ชมรู้สึกสนุกสนานและตบมือดังสนั่นให้กับชิโนบุที่เล่นเป็น โคสุเกะ คินดะอิจิด้วย
แค่จำเรื่องนั้นได้ ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนความสุขไหลผ่านไปทั่วร่างกายแล้ว
*คินดะอิจิกับคดีหมู่บ้านแปดหลุมศพ แต่งโดย โยโคมิโซะ เซชิ เคยตีพิมพ์ในไทยโดยสำนักพิมพ์ JBOOK
แบบนี้รู้สึกเหมือนเป็นนักสืบเลย
ไม่สิ ถ้าฉันเป็นนักสืบจริงๆ คงจะสุดยอดกว่านี้แน่
บางทีสิ่งนี้อาจนำเธอไปยังเส้นทางของนักแสดง แต่ชิโนบุตัดสินใจว่าการเป็นนักสืบมันสำคัญกว่า
เธอไม่สนการคัดค้านจากพ่อแม่ ชิโนบุได้ที่สำนักงานนักสืบโดยตรงจากจูเนียร์คอลเลจ*
นั่นคือเรื่องเมื่อ 3 ปีก่อน
*มัธยมศึกษาที่สอนด้านสายอาชีพ
หลังจากนั้นเธอได้รับข้อความเชิญชวนเธอให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการคัดเลือกเมจิคัลเกิร์ล
เธอผ่านการทดสอบและในที่สุดก็ได้รับพลังมา
การกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลนี้มันต้องมีประโยชน์กับการสืบสวนแน่ๆ
สำหรับชิโนบุนั้น คำว่านักสืบมาก่อนเสมอ
เธอไม่เคยลืมช่วงเวลาที่กลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลครั้งแรก
เธอกลายเป็นเด็กสาวที่งดงาม แต่เดิมเธอก็ไม่ได้เป็นคนสวยหรือน่ารักอะไร แค่มองตัวเองในกระจกก็เพียงพอที่จะทำให้ใจเต้นแล้ว
เธอยืดตัวเล็กน้อยเพื่อเบนความสนใจตัวเอง
และพบว่าทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยอยู่ในอากาศด้วย
ข้อความนั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือแกล้งกัน
เธอหยิกแก้มตัวเองและความรู้สึกเจ็บนั้นมันบอกเธอว่าไม่ใช่ภาพหลอนหรือความฝัน
เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์เลย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นจริง
เธอกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลจริงๆ
ชุดของ ดีเทคเบล นั้นดูเรียบง่ายกว่าเมจิคัลเกิร์ลคนอื่น
มันทำให้เธอกลมกลืนไปกับคนในเมือง ทำให้เธอทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น
ความสามารถทางกายภาพนั้นเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ความอดทนที่เพิ่มขึ้นทำให้เธอทำงานได้โดยไม่ต้องพัก การมองตอนกลางคืนเองก็เยี่ยมยอดเช่นกัน ในตอนกลางคืนนั้นสามารถมองเห็นไม่เหมือนกับตอนกลางวัน
นี่มันคือทักษะสะกดรอยชั้นเยี่ยมชัดๆ
เมจิคัลเกิร์ลทุกคนนั้นจะมีความสามารถเฉพาะตัว และชิโนบุเองก็มีความสามารถที่เหมาะกับงานนักสืบของเธอ ด้วยพลังเวทของเธอ ชิโนบุสามารถแก้ปริศนาห้องปิดตาย และอาชญากรรมสมบูรณ์แบบได้ ไม่มีอาชญากรคนไหนหนีเงื้อมมือเธอได้เลย
แต่ช่างโชคร้าย ในชีวิตจริงของนักสืบมันไม่มี ปริศนาห้องปิดตาย หรือ อาชญากรไร้เงา
ชิโนบุทำงานเป็นนักสืบมา 3 ปีแล้ว
เธอทำงานสะกดรอยและจับตามองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต้องขอบคุณเวทมนตร์ของเธอล่ะนะ
ลูกค้าของเธอก็รักเธอ ลูกค้าบางคนก็จะให้เงินกับเธอเพื่อให้เธอเป็นนักสืบอิสระด้วย
ตอนนี้ เธอได้เรียนรู้ความเป็นจริงของการเป็นนักสืบแล้ว
ชิโนบุไม่คิดอะไรมาก หากต้องรับงานเรื่องคู่รักนอกใจ หรือ คนหนีออกจากบ้าน
แต่เด็กใหม่อย่างเธอต้องมาติดอยู่กับงานรับโทรศัพท์ เจ้านายเธอสั่งให้เธอทำความสะอาดกับเสิร์ฟชาอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นเธอถูกบังคับให้ต้องดูแลสัตว์เลี้ยง ช่วยทำความสะอาดบ้าน แม้กระทั่งยกกล่อง เจ้านายของเธอที่ดูเหมือนลุงแก่ๆใจดีชอบพูดว่า “นี่ก็เพื่อตัวเธอนะ” ไม่ก็ “นี่เป็นก้าวแรกของการเป็นนักสืบมือหนึ่ง” จากสิ่งที่สั่งให้เธอทำ สิ่งที่เขาพูด พ่วงด้วยรูปลักษณ์ ทำให้ดูเป็นเจ้านายที่น่ารังเกียจเอามากๆ
แต่เธอต้องการจะไขปริศนาอยู่เสมอ และชอบที่ไขปริศนานั้นจนสำเร็จได้
ชิโนบุไม่ยอมแพ้ เธอรู้ว่านักสืบที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง เธอจะไม่ละทิ้งความฝันของตัวเอง
______________________________________________________________________________
เมจิคัลเดซี่ ถูกกำจัดออกจากเกม
เธอพยายามจะโชว์ด้วยการกำจัดมอนเตอร์ด้วยเดซี่บีมของเธอ แต่มันย้อนกลับมาหาเพราะความสามารถของ “สเกเลตันทรงพลัง” ที่สะท้อนการโจมตีระยะไกลได้ หนึ่งนัดสังหาร ตามความสามารถของเธอ
หลังจากที่พูดคุยกับสมาชิกในปาร์ตี้ของเธอแล้ว สืบสวนที่เกิดเหตุ และวิเคราะห์ร่าง
ชิโนบุสรุปว่ามันเป็นเรื่องจริง หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่าการตายนั้นเป็นอุบัติเหตุ และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเตรียมการไว้ล่วงหน้าด้วย
แต่ความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ปัญหาจริงๆน่ะอยู่ที่อยู่อื่น
หลังจากที่ล็อกเอาท์ออกมาจากเกม ชิโนบุก็บอกเจ้านายตัวเองว่าจะลาพักร้อน
เจ้านายของเธอตะโกนใส่โทรศัพท์ “นี่เธอคิดว่าจะได้ลา 3 วันทั้งๆที่พวกเรายุ่งมากรึไง?”
ชิโนบุพูดกลับไปอย่างเบื่อหน่าย “ใช่ค่ะ, ท่าน, แน่นอนค่ะ” แล้วก็ปิดเครื่อง
หมอนั่นช่างโชคร้าย งานปกติของเธอตอนนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
ก่อนอื่น เธอค้นหาในอินเตอร์เน็ตโดยใช้เมจิคัลโฟน มีบางอย่างที่เธออยากถามดินแดนเวทมนตร์อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้อความและเมลที่เธอส่งไปหาดินแดนเวทมนตร์ถูกตีกลับตลอด
ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้งก็เหมือนเดิม เธอยอมแพ้เรื่องเมลแล้ว ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับการหาข้อมูลก่อน
เธอพิมพ์คำว่า 'เมจิคัล เดซี่' ลงไปและกด enter ค้นหา มีเว็บไซต์หนึ่งดึงดูดความสนใจของเธอด้วยบทความที่พูดถึงเรื่องฉากหลังของอนิเมเมจิคัลเดซี่
ที่ดูคล้ายกับสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ตรงกับข้อมูลที่ชิโนบุได้มาจาก ยูเมโนะชิม่า จีโนไซโค
เหมือนว่าจะรู้จักกันในฐานะที่แสวงบุญของโอตาคุ
เมจิคัลเดซี่นั้นฉายมานานแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมตอนเช้า 8 โมงวันอาทิตย์สำหรับเด็กอยู่
ในเวลานั้นที่แสวงบุญเต็มไปด้วยผู้คน
ชิโนบุปิดเมจิคัลโฟน และแปลงร่างเป็นเมจิคัลเกิร์ล ดึงหมวกลงมาปิดบังหน้าตา
เอาของที่จำเป็นใส่ลงไปในกระเป๋าแล้วออกจากอพาร์ทเมนท์
เธอมุ่งหน้าไปที่เขตโทโฮคุด้วยรถไฟหัวกระสุน กลางทางเธอเปลี่ยนเป็นรถไฟธรรรมดา และเปลี่ยนเป็นรถไฟเอกชนอีกครั้ง และลงที่สถานีที่ 3 อันว่างเปล่า
เธอเอาตั๋วใส่เข้าไปในช่องเก็บตั๋วของสถานีและเดินออกมาที่เมือง B
หลังจากมองซ้ายมองขวา ดูว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ แล้วก็จูบเบาๆไปที่ผนังของสถานี
ที่รอยแตกบนกำแพง มีใบหน้าของมนุษย์ปรากฏขึ้นมา
ใบหน้าที่กำแพงนั้นดูเหมือนชายวัยกลางคนแต่ออกเป็นแนวอนิเมหรือมังงะมากกว่าหากเทียบกับคนจริงๆ
วัตถุที่สัมผัสกับพลังเวทของเธอจะมีใบหน้าที่แตกต่างกันไปด้วยหลายสาเหตุ
ตัวอย่างคือ ในสถานีเก่าแก่แห่งนี้ ใบหน้าก็จะออกมาในรูปแบบนั้น
ดีเทคเบลมองดูใบหน้าที่เหมือนการ์ตูนขนาด 1 เมตรกำลังขยับดวงตาอย่างเชื่องช้า
“เรียกข้ารึ?”
เสียงฟังดูอู้อี้อยู่ในลำคอ เหมือนว่าเพื่อนบ้านคนนี้จะมีบุคลิกแบบนี้สินะ
“รู้จักคนที่ชื่อเมจิคัลเดซี่รึเปล่า?”
“ไม่, ข้าคิดว่าไม่.”
“เด็กผู้หญิงที่หน้าตาแบบนี้นะ”
เธอโชว์ภาพของเดซี่บนเมจิคัลโฟนให้เขาดู
“อ๊ะ ข้ารู้จักเด็กคนนี้ เธอมาช่วยคนรอบๆสถานีนี้บ่อยๆ”
“โอเค ขอบคุณที่ช่วยมากนะ”
เมื่อเธอจูบไปที่จมูกบนใบหน้าอีกครั้ง และใบหน้าก็เริ่มละลายสลายหายไป
นี่คือพลังเวทของดีเทคเบล ‘สามารถพูดคุยกับสิ่งก้อสร้างได้’
ทุกครั้งที่เธอจะใช้ เธอต้องทำการจูบเสมอ
แต่ยังไง คนที่ปรากฎออกมาก็จะไม่ทรยศเจ้านาย มันเป็นงานดูของนักสืบที่ดูแย่หน่อยๆ
ตอนที่เธอพยายามใช้กับสิ่งก่อสร้างที่ทุ่งร้าง ทุกใบหน้าที่ปรากฏออกมาพูดว่า “เราเป็นสมบัติของมาสเตอร์ เราไม่มีอิสระที่จะพูดอะไรหากมาสเตอร์ไม่ต้องการให้ทำ กรุณาหาคำใบ้ที่จะเคลียภารกิจตามปกติด้วย”
แม้เธอจะพยายามคุยกับสิ่งก่อสร้างอื่น แต่ผลก็ออกมาไม่แตกต่างกันมาก
ดีเทคเบลรู้สึกผิดหวัง เธอคิดว่าจะหาคำใบ้กับพลังของเธอได้ง่ายๆ
ทันที่ที่ออกมาจากสถานี เธอซื้อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่
ในชนบทนั้น ร้านค้าพวกนี้มีอยู่ทั่วทุกที่ ลานจอดรถเองก็ใหญ่
เธอนั่งลงที่ลานจอดรถแล้วเปิดอ่านหนังสือพิมพ์
ตามข้อมูลที่ได้มาจากนกโกะจัง ตอนที่ เมจิคัลเดซี่ ฉายอยู่นั้น เดซี่ยังเรียนอยู่ม.ต้น ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะคำนวนหาอายุย้อนหลัง
หากเธออยู่.ต้น เธอคงทำงานของเมจิคัลเกิร์ลที่ไกลจากบ้านตัวเองมากไม่ได้
ถ้าเธอไม่เคยย้ายบ้านเลย บ้านของพ่อแม่เธอก็ควรอยู่ใกล้ๆ
ถ้าเธอเป็นเมจิคัลเกิร์ล เธอต้องมีสำหรับคลายการแปลงร่าง
แม้เธอจะระวังไม่ให้ใครเห็น แต่ไม่มีใครสนใจหากสิ่งก่อสร้างมองดูอยู่หรอก
ต้องมีสิ่งก่อสร้างที่ไหนซักที่ที่เห็นเดซี่คลายการแปลงร่าง
จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ชิโนบุตามเส้นทางของเมจิคัลเดซี่ไปเรื่อยๆ
พยายามคิดว่าเธอพักอยู่ที่ไหน
ถ้าไม่มีสิ่งไหนตอบคำถามชิโนบุได้
เธอจะตามหาความเป็นไปได้ที่ว่าพ่อแม่ของเธอย้ายออกไปแล้ว และหากย้ายออกไปจริง
มันก็ต้องมีสิ่งก่อสร้างที่เห็น ความทรงจำของสิ่งก่อสร้างนั้นไม่เลือนหายไปหรอกนะ
แบบนี้มันจะพิสูจน์สถานะของ เมจิคัลเดซี่ ว่าเป็นหรือตายได้
นี่คือเป้าหมายของการสืบสวนครั้งนี้ แม้แต่ตัวดีเทคเบลเองก็ยังหวังว่าให้เธอยังมีชีวิตอยู่
ฟาลพูดในเกมไว้ว่าความเสียหายจะไม่ส่งผลมาที่โลกจริง
เธอเข้าร่วมเกมเพราะเชื่อคำพูดนั้น ชิโนบุเองก็เช่นกัน
นี่คือการยืนยันว่าคำพูดนั้นมันผิดหรือไม่
มีแต่ความรู้สึกที่ไม่สบายใจผลักดันเธอ เธอก็ควรระวังตัวกับเรื่องนี้ด้วย
ดีเทคเบลพับหนังสือพิมพ์ และเดินออกจากลานจอดรถ มีเวลา 3 วันเท่านั้น
______________________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
เหมือนกับคราวที่แล้ว เพจิกะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเอาข้าวกล่องไปให้นิโนมิยะคุง
แม้เพจิกะจะเดินเข้าไป แต่กลับไม่ได้ยินเสียงใครว่าเธอเลย
“ยัยนี่อีกแล้ว!” “เธอเป็นใครเนี่ย?” เสียงกระซิบเหล่านั้นลอยอยู่รอบๆตัวเธอ
ในครั้งแรกเธอรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก แม้จะรู้สึกเจ็บปวดลึกๆอยู่ในใจ
ครั้งที่สอง เธอไม่ได้รู้สึกมีความสุขอะไรเลย มีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้น
วันนี้คือวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง วันที่ความมืดมาเยือนเร็วกว่าปรกติ ไม่มีเด็กอยู่ในสนามเด็กเล่นเลย
มีเพียงเพจิกะที่แกว่งชิงช้าอยู่คนเดียว
คิดถึงเรื่องเกมแล้วมันทำให้เธอรู้สึกเศร้า
อย่างที่ฟาลอธิบาย เมื่อได้ยินการประกาศล็อกเอาท์ ไม่นานเธอก็รู้ตัวว่าเธอกลับมาอยู่บนเตียง
เธอมองไปที่นาฬิกา และแน่ใจว่าเวลาไม่ได้ผ่านไปซักนิดเดียว
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เป็นอะไร
เธอควรจะปฎิเสธแต่เธอทำไม่ได้ เหมือนว่าจะมีเมจิคัลเกิร์ลที่ถูกกำจัดไปแล้วด้วย
จำได้ว่าเห็นปาร์ตี้พวกเธอดูเศร้ามาก
ความเสียหายจะไม่สะท้อนมาสู่ความจริง นั่นคือสิ่งที่บอกในเกม
แต่เธอรู้ว่ามันมีอะไรมากกว่าเกม
และในท้ายที่สุดเป้าหมายหลักก็คือการต่อสู้ที่ไม่ได้เข้ากับเพจิกะเลย
เพจิกะถอนหายใจ
แม้แต่ในตอนนี้ เธอก็ยังคิดว่าปฎิเสธไม่ได้ กลัวที่จะพูดออกไป
หากเพจิกะถูกกำจัดโดยไม่ได้ทำอะไรเลย แน่นอนว่าเมจิคัลเกิร์ลคนอื่นคงผิดหวังในตัวเธอ
อาจจะโดนพูดจาไม่ดีใส่ หรือโดนทำร้าย แม้ความเสียหายจะไม่ถูกส่งไปยังความเป็นจริง แต่เธอก็ยังรู้สึกเจ็บ รู้สึกเจ็บเหมือนตอนที่พยายามหยิกแก้มตัวเองในเกม มันรู้สึกเหมือนกับทำที่โลกจริง
ความเจ็บปวดของความตายควรจะรู้สึกเหมือนการตายจริงๆ
แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีแล้ว เมจิคัลเกิร์ลคนอื่นไม่เคยคิดแบบนี้เลยเหรอ?
เกมฆ่ามอนเตอร์ดูไม่เห็นจะเข้ากับเมจิคัลเกิร์ลตรงไหนเลย งานของเมจิคัลเกิร์ลน่ะต้องช่วยเหลือผู้คนสิ
จริงอยู่ที่ว่าเมื่อพยายามช่วยเหลือผู้คนบางครั้งมันก็เกี่ยวข้องกับความรุนแรง ด้วยเหตุในการช่วยเหลือมนุษย์นั้น เมจิคัลเกิร์ลจึงได้รับพลังทั้งด้านกายภาพและเวทมนตร์
บางกรณีการใช้ความรุนแรงช่วยเหลือผู้อื่นนั้นอาจไม่เป็นไร แต่การกำจัดศัตรูเพื่อให้ได้มาซึ่งเมจิคัลแคนดี้ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เมจิคัลเกิร์ลควรจะทำ
และแน่นอน แม้เพจิกะจะตะโกนพูดมันออกมา
บางทีก็คงกลายเป็นแค่คนขี้ขลาดที่อยากจะหนีความจริงเท่านั้น
ไม่มีใครอยากจะฟังสิ่งที่เพจิกะพูด
เพจิกะถอนหายใจ
อย่างน้อยเธอก็คิดถึงเรื่องรางวัล รางวัลสำหรับเคลียเกมนั้นมากถึง 1 หมื่นล้านเยน
เงินมหาศาลเหมือนถูกล็อตเตอรี่ชุดใหญ่หลายชุดมาก
หากหนึ่งในปาร์ตี้ของเธอจัดการราชาปีศาจได้
เงินรางวัลก็ควรจะแบ่งอย่างเท่าๆกันตามที่สัญญากันไว้
แต่คนที่ไม่ได้ร่วมสู้อย่างเพจิกะ ยังจะมีโอกาสเหรอ?
สำหรับเพจิกะ มันดูไม่เป็นความจริงอะไรเลย
ถ้าเธอต้องเลือกล่ะก็ เธอเต็มใจเลือกแค่รางวัลเข้าร่วม 1 แสนเยน
ถ้าได้มาล่ะก็จะรีบฝากเข้าธนาคารอย่างเร็วและเก็บมันไว้อย่างปลอดภัยที่สุดเท่าที่ทำได้
เธอคิดว่าควรจะเอาเงินไปใช้ยังไงดี เพราะเธอทำอาหารเองได้ง่ายๆอยู่แล้ว
ดังนั้นก็ควรเอาไปซื้อเสื้อผ้า หรือแหวนและสร้อยคอ ไม่ก็ต่างหู…
…โอเค เจาะหูมันดูน่ากลัว ไม่เอาต่างหูดีกว่า
รองเท้า, กระเป๋า, ของแบรนด์เนมดังๆ, ของประดับในแฟชั่นโชว์
แบบนั้น 1 แสนเยนเคงไม่พอ ต้องเอาเงินจากที่ออมจากของขวัญปีใหม่มาเพิ่ม แม้มันจะไม่เข้ากับจิกะเลย แต่ถ้าเพจิกะใส่ล่ะก็คงสวยแน่ๆ
เพจิกะอยู่ในโลกแฟนตาซีของเธอโดยไม่รู้ตัวเลยว่าดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว เงาของเธอในสวนสาธารณะตอนกลางคืนก็ทอดยาวออกไป
เธอได้ยินเสียงฝีเท้าของใครซักคนเดินเข้ามาหา เมื่อเธอรู้ตัว เหนือเงาของเพจิกะมีรองเท้าหนามเบสบอลอยู่ พอมองขึ้นไปด้านบน เธอก็เห็นชุดเครื่องแบบเบสบอล
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ถึงกับอ้าปากค้าง
นิโนมิยะคุงยืนอยู่ตรงนั้น เขาลดกระเป๋าสีดำของชมรมเบสบอลลงมา
แม้เขาจะสวมชุดเครื่องแบบอยู่ เพจิกะก็เห็นว่าร่างกายนักกีฬาของเขานั้นกำลังหายใจเฮือกใหญ่ เป็นเพราะเขาวิ่งมา หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ สายตามองมาที่เพจิกะ
“เอ่อ…”
เขาพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้ เพจิกะกำมือเธอที่จับโซ่ชิงช้าอยู่แน่น มันถูกอยู่หุ้มด้วยไวนิลบางๆ
แต่เธอยังรู้สึกถึงความเย็นจากโลหะที่อยู่ข้างในได้
เธอเข้าใจว่าอุณหภูมิร่างกายตัวเองคงพุ่งสูงขึ้นแน่ๆ
“เธอใช่คนที่เอาข้าวกล่องมาให้รึเปล่า?”
เธอเด้งตัวขึ้นมาเหมือนกับสปริงและพยักหน้าซ้ำๆ กล้ามเนื้อที่ใบหน้าเธอเกร็งไปหมด
มือที่เคยจับอยู่ที่โซ่ชิงช้าตอนนี้เปลี่ยนมาจับอยู่ที่กระโปรงแล้ว
“เอ่อ ถึงจะน่าอาย แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ”
นิโนมิยะคุงยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ หากเอื้อมมือออกไป ก็จะสัมผัสลมหายใจของเขาได้
ได้กลิ่นเหงื่อของเขาจากตรงนี้ด้วย
นิโนมิยะคุงคือดวงดาวที่เอื้อมไม่ถึง
เธอไม่เคยคุยกับเขาที่โรงเรียนซักครั้ง ทำได้เพียงแค่มองเขาอยู่ห่างๆ
เหงื่อออก อุณหภูมิร่างกายพุ่งสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว เวียนศรีษะ
มันเป็นเรื่องจริงสินะที่มีคนบอกว่าความรักก็เหมือนกับการเป็นไข้หวัด
นิโนมิยะคุงเอามือไปจับที่หลังคอ เหมือนว่าจะรู้สึกลำบากใจอะไรซักอย่าง แต่เขาก็พูดออกมา
“เอ่อ เรื่องข้าวกล่อง ขอโทษที่ถามนะ แต่ว่าเธอช่วยทำให้อีกครั้งได้ไหม?”
เพจิกะพยักหน้าอีกครั้งและอีกครั้ง มากจนผมของเธอเด้งขึ้นลงไปมา
“มันอร่อยมากเลยครับ อร่อยจริงๆนะ ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กินทุกวันเลย!”
อาหารนั่นทำมาจากเวทมนตร์ของเพจิกะ เป็นเพราะพลังเวทของเธอทำให้มันอร่อย
นิโนมิยะคุงพยายามใช้ร่างกายและมือทำท่าทางบอกว่ามันอร่อยยังไง
“ผมอยากจะบอกเธอแบบนี้จริงๆ แต่ไม่มีใครในทีมรู้จักเธอเลย ผมถึงได้วิ่งไปรอบๆจนหาเธอเจอ
ถ้าเธอไม่ว่าอะไรล่ะก็ ผมขออะไรอีกอย่างนึงได้ไหม?”
นิโนมิยะคุงก้มหัวให้เพจิกะ จนเธอมองเห็นหลังหัวของนิโนมิยะคุง
ที่ชมรมเบสบอลมันมีกฏอยู่ว่าต้องโกนหัว นิโนมิยะคุงเองก็ด้วย
ความสะอาดของเขามาก่อนความอับอายสินะ บางทีถ้าเอามือไปสัมผัสล่ะก็อาจจะรู้สึกดีก็ได้
เพจิกะเริ่มขยับมือขวาตัวเอง
“เพราะคนในทีมเอาไปแบ่งกัน ผมเลยไม่ได้กินแบบเต็มที่เลยซักครั้ง”
นิโนมิยะคุงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เพจิกะเหลือบมองหน้าเขาและสบตากัน
เธอตกใจและดึงมือขวากลับ
เหงื่อออกมากขึ้น รู้สึกหายใจลำบากจนเริ่มหายใจทางปาก
นิโนมิยะคุงมองไปที่เพจิกะ เพจิกะเองก็มองไปที่นิโนมิยะคุงเช่นกัน
ทั้งคู่สบตากันและกัน
“ถึงพวกเราจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ถึงผมจะรู้สึกเหนื่อยมาก
แต่เพื่อข้าวกล่องนี้ผมตายเพื่อมันได้เลยล่ะ
เอ่อ คือ ถ้าไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย อยากกินด้วยกันกับผมไหมครับ?
ไม่สิ จริงๆแล้ว แม้ทุกคนในทีมจะไม่อยากกิน ผมเองก็ยังอยากกินข้าวกล่องนี้นะครับ
แบบนี้โอเคไหมครับ?”
เพจิกะรู้สึกเวียนศรีษะจนเกือบจะเป็นลม แต่เธอก็ยังพยักหน้า
“โอเคค่ะ”
เพราะเกร็งและเครียดเกินไป เสียงของเธอจึงฟังดูเรียบมาก
“จริงเหรอครับ? จริงๆนะ! ดีจัง! ขอบคุณมากๆเลย!”
นิโนมิยะคุงจับมือเพจิกะเขย่า และพูดขอบคุณซ้ำๆกับเธอ
ในขณะที่เพจิกะนั้นทำได้แค่มองเขาเพราะตัวเองหน้าซีดเผือด
เพจิกะคิดว่าสวนสาธารณะนี้เป็นจุดนัดพบที่ดีที่จะแชร์ข้าวกล่องกัน นิโนมิยะคุงก็เห็นด้วย
หลังจากนั้น เพจิกะก็มองดูเขาวิ่งออกไปพร้อมกับความมีชีวิตชีวา
เธอยืนไม่ไหวอีกแล้ว นั่งกลับลงไปบนชิงช้า
เธอรู้สึกหนาวและเหนียวตัว คงเป็นเพราะเธอเหงื่อออกเยอะแน่ๆ
หัวใจของเธอเริ่มเต้นแบบปกติ ร่างกายที่ร้อนรุ่มค่อยๆเย็นลง
แต่กระนั้น ภายในใจเธอก็ยังมีอะไรคุกกรุ่น
พลังเวทของเพจิกะที่เธอคิดว่าเป็นเพียงแค่ของแถม กลับกลายเป็นมีประโยชน์
นิโนมิยะคุงมีความสุข เขาขอบคุณเธอ เขายังบอกว่ายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กินทุกวัน
ใช่แล้ว ทำอาหารนี่แหละ เส้นทางใหม่ของถูกเปิดขึ้นต่อหน้าเพจิกะแล้ว
______________________________________________________________________________
☆ ชาโดว์เกล
หลายปีก่อน มีเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงรับใช้ตระกูลฮิโตโคจิมาจนถึงทุกวันนี้
นั่นคือคุณปู่ของคาโนเอะ
ตาและขาของคุณปู่แย่ลงเรื่อยๆ ใช้วีลแชร์อยู่ตลอด แต่ร่างกายและสมองไม่ได้แก่ตามอายุ
เขาจัดการทุกอย่าง
จัดการทรัพยากรมนุษย์, ลงทุน, ทำข้อตกลง, ฮั้วประมูล
เขาให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆแก่ผู้อื่น
มีข่าวลือว่า แม้จะอายุมากกว่า 80 แล้ว แต่ก็ยังมีลูกนอกสมรส ข่าวลือนั้นมาเข้าหูมาโมริด้วย มันอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
เขาทำงานทุกวันจนร่างกายทรุดโทรม แม้ใกล้จะตายแต่ตระกูลฮิโตโคจิก็ไม่เคยหยุด
อาจจะเรียกมันว่าสาเหตุก็ได้
แม้คาโนเอะจะปฎิบัติกับคนอื่นโดยไม่มีความเคารพแต่เธอเองก็รักคุณปู่
พูดได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า การพูดของเธอดูคล้ายคุณปู่เข้าไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ
พ่อแม่และพี่ชายเธอปล่อยให้เธอทำไป แต่ในโรงเรียนหญิงล้วนบอกได้เลยว่ามันพิลึกเอาการ
หลังจากที่เธอกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลแล้ว เห็นได้เลยว่าชุดของเธอ วีลแชร์ของเธอนั้นได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งที่เธอรัก ประดับตกแต่งด้วยทองคำล้ำค่า สร้างด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยม ออกมาเป็นบัลลังก์ที่งดงาม
ทำให้ดูเหมือนราชาผู้ที่เป็นผู้นำพาตระกูลก้าวไปข้างหน้า
ที่ปิดตาที่สร้างมาจากไม้ที่เป็นรูปนกของเธอคือสัญลักษณ์โรคตาของคุณปู่
เธอรักคุณปู่มาก แม้ขาของคุณปู่จะแย่ลงเรื่อยๆจนดูเหมือนแท่งไม้ก็ตาม
ชีวิตของคาโนเอะนั้นคล้ายกับคุณปู่ของเธอ
อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่มาโมริคิด
คิดแบบนั้นโดยไม่ลังเล
ไม่สิ
เธอคิดว่าตัวเองคงคิดมากไป เธอไม่ได้แสดงให้ใครเห็น เธอมักจะตัดสินใจเรื่องที่ถูกต้องในทันที
มีคนชมเชยเธอมากขึ้นเพราะเรื่องนี้
นั่นคือสิ่งที่คาโนเอะเป็น
มีแต่มาโมริที่อยู่ในห้องวิทย์ เธอมองออกไปนอกหน้าต่างดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
โดยปกติแล้วเธอจะคุยกับเพื่อนร่วมชั้น พร้อมกับอ่านหนังสือที่เธอเอามาโรงเรียนไปด้วย
เห็นได้ว่าเธอกำลังคิดมาก แต่มาโมริเห็นแล้วก็ไม่ได้กังวลอะไร
จากเมื่อวานถึงวันนี้ ลำดับความสำคัญทั้งหมดของเธอคือเกม
สำหรับคาโนเอะที่กำลังกลุ้มเรื่องเกมมาก หากมาโมริต้องเอาตัวเองไปอยู่ในที่เดียวกันกับเธอ
แค่คิดถึงมันเธอก็นอนไม่หลับแล้ว
“แม้ตอนนี้จะลำบาก แต่ฉันก็ยังมีข่าวดีมาฝากนะ” คาโนเอะพูด
“…นี่อ่านใจได้เหรอเนี่ย?”
“คิดว่าพวกเราอยู่ด้วยกันนานแค่ไหนแล้วล่ะ? ฉันว่ามันเป็นเหตุผลที่ดีพอแล้วนะ”
รู้สึกเหมือนโดนบอกว่าแค่นี้ทำไมไม่รู้ล่ะ มาโมริรู้สึกไม่สนุกด้วยเลย
ด้านนอกหน้าต่าง มองเห็นเด็กนักเรียนหลายที่กำลังเล่นฟุตบอลกันอย่างสนุกสนาน
แม้จะเป็นโรงเรียนหญิงล้วน แต่ก็มีคนอยู่หลายประเภทเช่นกัน
แม้จะเป็นฤดูใบไม้ร่วงแต่ก็ยังคงรู้สึกร้อน มาโมริเองก็รู้ร้อน เธอจึงคลายผ้าพันคอออก
“เรื่องเกมน่ะ”
ว่าแล้วต้องเรื่องเกม
“บางทีเธออาจจะไม่ชอบ ต่อสู้กับศัตรู สะสมเงินเพื่อซื้อไอเท็ม ด้วยพลังเวทของมาโมริน่ะ ตามเทคนิคแล้วมันโกงได้เลยนะ ความคิดนี้น่ะเธอไม่คิดว่ามันน่าสนใจเหรอ?”
“นายหญิงคะ ถ้าอยากให้ฉันทำล่ะก็ ฉันจะปฎิเสธมันได้งั้นเหรอ?”
ช่างน่าตลกจริง เป็นเพราะเธอพวกเราถึงต้องมาพัวพันกับเรื่องแบบนี้
คาโนเอะเหมือนดูไม่กังวลเลย เธอมองนักเรียนคนอื่นที่วิ่งไปมาจากที่หน้าต่าง
เธอยกเข่าขึ้นมาบนเก้าอี้ กระโปรงเผยอจนเห็นต้นขา
"นี่…เห็นต้นขาแล้วนะ"
“เมจิคัลเกิร์ลน่ะมีสองประเภท”
“แบบสายต่อสู้ กับ ไม่ใช่สายต่อสู้ ใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ เกมนี้น่ะถูกสร้างขึ้นเพื่อเมจิคัลเกิร์ลสายต่อสู้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคนที่เข้าร่วมจะเป็นสายต่อสู้ทั้งหมด ตัวอย่างก็ฉันกับเธอนี่แหละ แล้วยังมีเด็กคนอื่นที่ไม่อยากสู้ด้วย ทำไมเด็กพวกนี้ถึงเข้าร่วมเกมกันล่ะ?”
“อาจเป็นเพราะรางวัลก็ได้”
“พูดถึงรางวัล จำรางวัลที่พวกเราเคลียพื้นที่ครั้งล่าสุดได้ไหม? มันถูกโอนเข้าบัญชีพวกเรามาแล้วนะ โอนมาแบบปกติโดยใช้การแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ ไม่รู้ว่ามันรู้ได้ยังไง ชื่อเองก็ไม่ระบุด้วย
หืม นึกไม่ถึงเลย ถ้าพวกเราเคลีย 2 พื้นที่ จะได้รางวัล 2 ล้านเยน”
"2 ล้าน? จริงเหรอเนี่ย?"
"พวกเราเองก็ได้รางวัลเข้าร่วมเหมือนกันนะ เธอไปดูบัญชีสิ
แล้วหัดเรียนรู้เรื่องอื่นนอกจากรางวัลหน่อย"
มาโมริคิดว่าถ้าต่อยคาโนเอะไปนี่จะรู้สึกยังไงกันนะเธอคิดแบบนี้ราว 5 ครั้งต่อเดือน
“ฉันถามฟาลแล้ว เหมือนว่าไม่มีใครปฎิเสธการเข้าร่วมเป็นผู้เล่นทดสอบเลย”
“แม้แต่คนเดียว?”
น่าแปลกใจจริงๆ ถ้าถูกบังคับมา อย่างน้อยก็ต้องมีซักคนไม่ก็สองคนที่ปฎิเสธสิ
คนที่กลายเป็นเมจิคัลเกิร์ล ทุกคนควรจะมีความแข็งแกร่งสิ
“น่าแปลกใช่ไหมล่ะ? มีคนตั้งเยอะ แถมถูกบังคับเข้าร่วมด้วย กลับไม่มีคนปฎิเสธ คนที่แข็งแกร่งน่ะก็ควรปฎิเสธไปสิ มีคนที่ปรารถนาความสงบสุขมากกว่าการต่อสู้อยู่ด้วย แต่ทำไมถึงไม่มีคนปฎิเสธกันล่ะ?”
“นายหญิงคะ ท่านเองก็ไม่ได้ปฎิเสธไม่ใช่เหรอ?”
“เพราะฉันเป็นเด็กผู้หญิงนี่นะ บางครั้งอาจทำอะไรแปลกๆไปก็ได้ ”
"ค่ะ นายหญิงเนี่ยค่อนข้างแปลกเลยล่ะ"
"รูป,รส, กลิ่น, เสียง ไม่มีอะไรแตกต่างจากความเป็นจริง ดังนั้นมันหมายความว่าถ้าเธอบาดเจ็บก็ควรจะรู้สึกเจ็บในแบบเดียวกันด้วย ฟาลบอกว่าความเสียหายจะไม่ส่งผลมาถึงความจริง ดังนั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่ดีสำหรับเมจิคัลเกิร์ลที่ไม่ใช่สายต่อสู้มีโอกาสอยู่ แต่ทำไมตอนแรกถึงยอมรับคำเชิญชวนเล่นเกมล่ะ? "
คาโนเอะยกเข่าขึ้น กระโปรงเธอก็เปิดมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นในโรงเรียนหญิงล้วน
เหตุผลที่เธอมีแฟนคลับเยอะคงเพราะเจ้าตัวทำอะไรแปลกๆบ่อยครั้งล่ะมั้ง
“เหนื่อยจัง”
“งั้นเหรอคะ?”
หลังจากพูดจบมาโมริก็หันไปรอบๆ และเอาหน้าไปจ้องหัวกระโหลก เธอรู้สึกผิดหวัง
มันเป็นแค่ของตกแต่งของชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ ไม่เหมือนในเกม เจ้านี่ไม่โจมตีเธอ
อ่าใช่ เธอมักจะทำอะไรแบบนี้แล้วพบว่ามันสนุกดีนี่นะ
"เมจิคัลโฟนนี่เป็นอะไรไม่รู้ ฉันติดต่อดินแดนเวทมนตร์ไม่ได้เลย"
“ก็รู้นี่คะว่าฉันซ่อมเมจิคัลโฟนด้วยพลังเวทของตัวเองไม่ได้”
มีการป้องกันข้อมูลของเมจิคัลโฟนหลายชั้นมาก แม้คาโนเอะจะสั่งให้มาโมริใช้เวทมตร์ของเธอแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล
โชคดี ที่เธอแจ้งเหตุผลเท็จที่เครื่องเสียไป แล้วก็ได้รับเมจิคัลโฟนเครื่องใหม่มา
ตั้งแต่ที่คาโนเอะสั่ง คนที่ถามหาเหตุผลการปลอมแปลงก็คือมาโมริ เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นก็ทำให้เธอโกรธ
"อย่างที่พูด มันแปลกนะ"
เท้าของเธอห้อยลงมาจากเก้าอี้ กระโปรงก็กลับที่ตามเดิม มาโมริโล่งอก
เหมือนว่าฟุตบอลด้านนอกนั่นจะถึงจุดไคล์แม็กซ์แล้ว มันจบด้วยการเตะมุมอย่างสวยงาม มาโมริเห็นคนในทีมแตะมือกันและกัน
พวกนั้นหันหน้ามาทางนี้ เธอพวกเห็นพวกนั้นอ้าปาก 'อ๊ะ!' จากที่หน้าต่าง คาโนเอะยิ้มอย่างนุ่มนวลและโบกมือตอบกลับไป
มาโมริย่นคิ้วเมื่อได้ยินเสียงนักเรียนขึ้นบันไดมา
______________________________________________________________________________
หลังจากนั้น 3 วัน เธอก็กลับเข้าสู่เกม อาคารสีน้ำตาลจนเกือบดำและขยะหลายชิ้นอยู่รอบๆ
มีกลิ่นของดินพุ่งเข้ามาเตะจมูก ที่นี่คือที่เดียวกันกับตอนที่เริ่มเกม
เธอเปิดแผนที่ ตรวจสอบตำแหน่งของสมาชิกในปาร์ตี้ ก่อนอื่นเธอควรไปรวมตัวกับคาโนเอะ
“ให้ฉันรออยู่ตั้งนาน” พีเฟิลพูด “คราวหน้ามาให้เร็วกว่านี้ได้ไหม?”
“อื้อ อื้อ คราวหน้าจะวิ่งมาให้เร็วที่สุดเลย”
ดูเหมือนมาสก์วอนเดอร์จะรออยู่ตรงจุดที่ไม่ไกลกับที่พวกเธออยู่่
แม้เธอจะเป็นคนพิลึก หากเทียบกับพีเฟิลแล้ว เธอก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและเข้าหาง่ายกว่า
ไอคอนของมาสก์วอนเดอร์ยังอยู่และไม่ได้ขยับไปไหน พอถึงคราวหน้าฉันจะไปหาเธอก่อนเลย
แม้พีเฟิลจะโทษชาโดว์เกลว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้มาสาย แต่เธอไม่ได้พูดอะไรเรื่องที่มาสก์วอนเดอร์ไม่ได้ขยับ
มาโมริอยู่กับตระกูลฮิโตโคจิมากว่า 10 ปีแล้ว พวกเขาคือนักลงทุนที่มีความเป็นเลิศ
มีเพียงการจ่ายค่าสินไหม, สปิริต และการดูแลของพวกเขา
นอกเหนือจากนั้นเฉลี่ยแล้วพวกเขาก็ไม่ต่างจากคนอื่น
ชาโดว์เกลเข็นวีลแชร์ของพีเฟิล พวกเธอไปถึงอาคารที่ๆมาสก์วอนเดอร์รออยู่
เมื่อชาโดว์เกลยืดหลัง เธอรู้สึกเย็นนิดๆ เพราะเหงื่อออก
ต้องฝึกทำท่า วิคตอรี่โพส อยู่แน่ๆ ชาโดว์เกลรู้สึกเหนื่อยใจ แต่ก็เปิดประตูอาคารเข้าไป
ที่ด้านใน เธอเจอมาสก์วอนเดอร์ล้มอยู่ แขนของเธอเอื้อมไปด้านหน้า
เหมือนพยายามจะคว้าอะไรซักอย่าง
เธอนอนแน่นิ่ง ใบหน้าจมอยู่กับพื้น ผ้าคลุมสีม่วงชุ่มไปด้วยของเหลวสีดำแดง
ไม่ใช่แค่ผ้าคลุม แต่มันสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง
ที่มาของของเหลวสีดำแดงนั้นมาจากด้านหลังศรีษะ
ด้านข้างของเธอมีหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่
พีเฟิลเข้ามาที่บ่อเลือดด้วยวีลแชร์ของเธอ และเข้าไปหามาสก์วอนเดอร์
เธอหยิบเมจิคัลโฟนของมาสก์วอนเดอร์ขึ้นมาและเปิดดู
“หืม…แหงล่ะ… ไอเท็มและแคนดี้หายไปหมด”
เสียงของพีเฟิลเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการตรวจดูผลทดลองของตัวเอง
ชาโดว์เกลฟังคำพูดของเธอแล้วรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา
______________________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
เพจิกะมีหม้อของตัวเองแล้ว
แต่ละเมือง ไอเท็มที่ขายในร้านค้าก็แตกต่างกัน ในเมืองทุ่งร้างมีโพชั่น ส่วนในเมืองภูเขามีหนังสือภาพ
เมื่อเดินหน้าต่อ ก็มีไอเท็มที่แข็งแกร่งกว่ารออยู่ข้างหน้า
ในเมืองทุ่งร้างมีขายแค่ อาวุธ และ โล่ แต่ที่เมืองทุ่งหญ้านั้นเปลี่ยนเป็น อาวุธ+1 และ โล่+1 ในเมืองภูเขาก็กลายเป็น อาวุธ+2 และ โล่+2
เมื่อกดติดตั้งแล้ว รูปร่างมันดูซับซ้อนขึ้น และความทนทานเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
และยังเปลี่ยนให้เข้ากับเมจิคัลเกิร์ลแต่ละคนอีกด้วย
เมื่อติดตั้งลงในเมจิคัลโฟน เพจิกะได้ไม้พายทำอาหาร
ส่วนริโอเน็ตต้าได้กรงเล็บมาเพิ่มความยาวที่มือของเธอ
มันชื่อว่า อาวุธ+X ดูประหลาดมากก็จริงแต่ก็เข้ากันได้ดีกับเธอ
มีทั้งไอเท็มธรรมดาและไอเท็มสุ่มที่จะได้จากการซื้อไอเท็ม ‘R’
เมื่อเริ่มเกม ไอเท็ม ‘R’ นั้นก็ได้รับความนิยมมาก
ไอเท็มแรกที่พวกเธอได้คือ ‘แผนที่’ ซึ่งเป็นไอเท็มที่มีประโยชน์มาก
ถ้าเป็นไอเท็มแบบนี้ใช้ 100 แคนดี้เพื่อการสุ่ม ก็ไม่ต้องเสียใจอะไรมาก
แต่ความจริงมันช่างโหดร้าย
ครั้งที่ 2 ที่ซื้อไอเท็ม ‘R’ ก็คือแผนที่
ครั้งที่ 3 ก็คือแผนที่
คร้ังที่ 4 ก็ยังเป็นแผนที่
เมื่อเจอแบบเดิมครั้งที่ 2 พวกเธอก็ยิ้มแบบขมขื่น
พอครั้งที่ 3 รอยยิ้มก็หายไป หลังจากครั้งที่ 4 อารมณ์ก็ผสมกันทั้งความสงสัยและโกรธเกรี้ยว
ไอเท็ม R นี่อะไรของมันเนี่ย? ทำไมมันเปิดได้แต่ แผนที่ ล่ะ?
“บางไอเท็มในหมวดหมู่ R ก็มีความหายากต่างกัน ดังนั้นความเป็นไปได้จึงหลากหลายนะ ปอน!”
หลังจากที่กดปุ่มช่วยเหลือและถามหาคำตอบ ฟาลก็ตอบกลับมาแบบไม่กลัวอะไรเลย
"แล้วทำไมพวกเราถึงเปิดได้แต่แผนที่เนี่ย" ริโอเน็ตต้าพูดออกมาด้วยเสียงที่ทำให้ตัวสั่นได้เลย
แม้ริมฝีปากของเธอจะสั่น แต่ฟาลก็ยังใจเย็น
"แผนที่น่ะเป็นไอเท็มที่หาได้ง่ายมากน่ะ ปอน! เป็นธรรมดาที่จะเจอ 4-5 ครั้งติดกัน พยายามต่อไปนะ ปอน! เราแน่ใจว่าเธอต้องได้ซุปเปอร์แรร์ไอเท็มแน่นอน ปอน! "
ริโอเน็ตต้าขว้างแผนที่ไปตรงผนังร้านค้า และมีข้อความปรากฏขึ้นมา
ตอนนี้แผนที่ขายอยู่ที่ราคา 3 แคนดี้
ตั้งแต่นั้นไอเท็ม R ก็ถูกหัวหน้าทีมสั่งว่าห้ามซื้อเด็ดขาด
พวกก็อบลินที่ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่ภูเขานั้นดรอปแคนดี้เยอะ
และไอเท็มส่วนใหญ่ที่ร้านค้ามันราคาถูก ดังนั้นจำนวนแคนดี้ที่พวกเรามีจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่มิโยคาตะ โนนาโกะพูดซ้ำๆว่า ‘ดิฉันอยากซื้อไอเท็ม R! ดิฉันอยากซื้อไอเท็ม R!’
จนแคลนเทลยอมให้เธอซื้อ
ตอนนี้แคลนเทลมีหอกยาวสำหรับเอาไว้โจมตีอยู่ที่มือขวา ที่มือซ้ายมีโล่ขนาดใหญ่
บางที แคลนเทลคงรู้สึกว่าในตอนนี้ไม่ควรจะขี้เหนียว เลยไม่ปฎิเสธคำขอของโนนาโกะ
แม้ริโอเน็ตต้าจะลังเล แต่ในที่สุดเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย
พวกเธอใช้แคนดี้ 1000 ชิ้น ซื้อไอเท็ม R 10 ครั้ง
ผลที่ได้คือ
แผนที่ 8 , พลั่ว 1, และหม้อ 1
พลั่วนั้นดูเหมือนจะเป็นพลั่วธรรมดาที่ยาว 1 เมตร หม้อเองก็เป็นขนาดปกติ
ไม่ใช่ของใช้เวทมนตร์ มันไม่ได้ความสามารถพิเศษอะไรเลย
ตอนนี้ ริโอเน็ตต้าฉุนเฉียวมาก เธอเริ่มตะโกนออกมาว่าเอาแคนดี้ 1000 ชิ้นไปใช้โง่ๆแบบนี้ได้ยังไง ด่ามิโยคาตะ โนนาโกะว่างี่เง่าสิ้นดี ด่ากันไปมาจนทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง
พอได้ยินทั้งสองคนทะเลาะกัน แคลนเทลก็เริ่มด่าทั้งคู่
ทั้งคู่ทะเลาะกันจนกระทั่งแบ่งเป็นกลุ่มต่อสู้กับกลุ่มลาดตระเวน และแยกย้ายกันออกไป
อีกไม่นาน มิโยคาตะ โนนาโกะ คงจะอารมณ์ดีเอง
ตอนที่ลาดตระเวนอยู่นั้น หากพวกเธอเจอศัตรู เพจิกะก็จะหนีและหลีกเลี่ยง ส่วนมิโยคาตะ โนนาโกะนั้นเป็นคนจัดการ
พวกเธอเจอก็อบลินหนึ่งในสี่ตัวยอมแพ้
"นั่ลล๊ากกกกกกกกกกก!" มิโยคาตะพูดอย่างดีใจมาก เธอผูกริบบิ้นที่รอบคอก็อบลินด้วย
เมื่อพวกมันโจมตี เพจิกะมองเห็นแค่ก็อบลิน 4 ตัว หลังจากมิโยคาตะฝึกแล้ว แม้หน้าตาของพวกมันจะดูเหมือนกัน แต่ก็บอกได้ว่าน่ารักกว่านิดหน่อย
มองดูทั้งคู่แล้วก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจดีจัง
แต่อารมณ์ของริโอเน็ตต้านั้นแย่ลง
พอตกกลางคืน พวกเธอกลับมารวมกลุ่มกับกลุ่มต่อสู้ ในตอนนั้นแคลนเทลกับริโอเน็ตต้านิ่งเงียบ เสียงกีบเท้าของแคลนเทลบนพื้นฟังดูเหนื่อย ริโอเน็ตต้าก็หันหน้าไปมา
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?”
และเธอก็ระเบิดความโกรธออกมา
“ทำไมเจ้า หนูยักษ์ มันต้องคอยมาปิดทางพวกเราด้วย!?”
ก่อนหน้านี้ พวกเธอโดนกลุ่มๆหนึ่งไล่ไปให้พ้นทาง บอกว่าห้ามมาล่าในเขตนี้
ตอนนี้ในพื้นที่ภูเขา เหมือนว่าจะเจอปัญหาเดิมอีกครั้ง
ริโอเน็ตต้าโกรธทุกคนที่มองตาเธอ แต่มันก็ดูปกติสำหรับเธออยู่แล้ว
มิโยคาตะ โนนาโกะ จับก็อบลินของเธอแล้วยกขึ้น แน่นอนว่าเธอไม่ให้ริโอเน็ตต้าแตะต้อง
เมื่อเริ่มได้กลิ่นก็อบลิน ริโอเน็ตต้าก็เริ่มตะโกน
เมื่อกลายเป็นแบบนั้น พวกเธอก็เริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง
แคลนเทลก็ด่าจนพวกเธอหยุด
ทันใดนั้นสายตาทุกคนก็มาหยุดอยู่ที่เพจิกะ
“นั่นเธอทำอะไรน่ะ?”
“เอ่อ…คือหม้อ…”
“ก็รู้อยู่ว่าตัวเองผลาญแคนดี้ไปเยอะแล้ว เธอไม่เห็นต้องมาบังคับให้ดูเลย
แค่นึกถึงเรื่องใช้แคนดี้ไป 1000 นึง แล้วได้ไอ้นั่นมากับพลั่วมา ก็ทำให้ฉันตื่นได้ทั้งคืนแล้วเนี่ย”
ในเกมนั้นไม่จำเป็นต้องนอนหลับ แต่ยังต้องกินและดื่ม ในอีกแง่คือหลับไม่ได้นั่นเอง
“แล้วนั่นอะไรของเธอน่ะ? เอามือไปใส่หม้อทำไม- หืม?”
จมูกของริโอเน็ตต้าขยับ
ฟุดฟิด ฟุดฟิด
เธอพยายามดมกลิ่นที่มาจากหม้อ เข้ามาใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้น เพจิกะยิ้มแบบฝืนๆ และกลัวเล็กน้อย
เธอพยายามอธิบายว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
“พะ…เอ่อ พลังเวทของฉัน… จะพูดว่ายังไงดี อย่างที่บอกไปค่ะ… เอ่อ…เป็นเวทมนตร์ทำอาหาร…
ตอนนี้พวกเรามีหม้อแล้ว ฉันเลยคิดว่า… ฟู่ว ฮะฮะฮะ มันไม่…เหมือนกับเสบียงนะคะ…ไม่ต้องเสียแคนดี้ด้วย… เพราะฉันทำอะไรก็ได้ ดังนั่น…บางที… เอ่อ ฉันคิดแบบว่า…ว่า…บางทีรสชาติมันดีกว่าเสบียงน่ะค่ะ”
“ดูเธอมั่นใจจังนะ”
“ฉันไม่ได้มั่นใจหรอกค่ะ จริงคือ…เอ่อ เห็นว่าไม่มีอาหาร ก็เลย… แถมพวกเราไม่มีภาชนะอย่างอื่นด้วย ดังนั้น…ขอโทษค่ะ ฉันเลยต้องใช้ใบไม้แทน… ”
“ใบไม้เหรอ!? เป็นตัวเลือกภาชนะที่น่าสนใจซะจริง”
"ดิฉันว่า คนที่เอาแต่บ่นเนี่ยก็ไม่ต้องกินสิ ถูกไหม?"
เมื่อมิโยคาตะ โนนาโกะหัวเราะ ก็อบลินตัวเล็กของเธอก็กระโดดขึ้นมาด้วย ริโอเน็ตต้าเลยเดาะลิ้นไม่พอใจ เธอจึงย้ายไปนั่งบนก้อนหินใกล้ๆแทน
เวทมนตร์ของเพจิกะนั้นสามารถทำอาหารได้มากตามที่เธอต้องการ แต่กลางแจ้งแบบนี้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ใบไม้เป็นพาชนะ
มันมีทั้งอาหารที่กินยากและกินง่าย เธอจึงคิดถึงอาหารที่อร่อยๆ กินง่ายๆ
“พูดซะขนาดนั้นแต่ได้แค่ข้าวปั้นเนี่ยนะ? ”
ริโอเน็ตต้าเห็นอาหารของเพจิกะแล้วดูถูก
“ทำไมฉันต้องกินไอ้อาหารบ้านนอกนี่ด้วย? เกินเสบียงอย่างเดิมยังจะดีกว่าอีก”
เธอกัดเข้าไปที่ข้าวปั้นราวกับมันเป็นยาพิษ แต่มันก็ทำให้เธอคิ้วขมวด
แคลนเทลกับมิโยคาตะมองดูริโอเน็ตต้าอย่างระวัง ริโอเน็ตต้าไม่ได้สนใจสายตาทั้งสองคน เธอกัดเข้าไปคำที่สอง และคำที่สาม
เธอกินต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ได้พูดอะไรจนหมดเกลี้ยง
มิโยคาตะเองก็กินข้าวปั้นบ้าง
"นี่มัน…" เธอพูดพร้อมกับอ้าปากกว้าง และก็กินต่อไม่หยุดเหมือนริโอเน็ตต้า ก็อบลินตัวเล็กของเธอเมื่อเห็นเจ้านายตัวเองแบบนั้นก็กินข้าวปั้นตาม
แคลนเทลนั้นกินข้าวปั้นอย่างนิ่ง แต่หางของเธอกลับส่ายไปมา
ตอนนี้ทุกคนดูเหมือนจะเอร็ดอร่อยกับอาหาร
เพจิกะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และเริ่มกินข้าวปั้นของตัวเอง
ทุกคนทำเหมือนกันหมดเลย เธอจำไม่ได้จริงๆว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ช่วงเวลาที่รู้สึกมีความสุขแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพราะเธออยากให้ทุกคนสนิทกัน เพจิกะจึงทำอาหารจากเวทมนตร์ของเธอ
แต่เมื่อไม่นานมานี้ มันเกิดขึ้นครั้งหนึ่งตอนที่เธอกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ล
มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจำไม่ได้ แต่ทำไมเธอถึงจำไม่ได้นะ?
ริโอเน็ตต้า มิโยคาตะ และแคลนเทล ทุกคนกำลังกินข้าวปั้นของเธออยู่
ก่อนหน้านี้พวกเธอยังโกรธเรื่องที่ถูกไล่ออกจากสนามล่าอยู่เลย แต่ตอนนี้พวกเธอก้มหน้าก้มตากินกันเต็มที่
เวทมนตร์ของเพจิกะ สิ่งที่เธอคิดว่าเป็นเพียงแค่ของแถม
ทำให้นิโนมิยะคุงและทุกคนมีความสุข
การที่ทำอาหารได้นี่มันไม่เสียเปล่าจริงๆด้วย
______________________________________________________________________________
☆ นกโกะจัง
โรงเรียนประถมมานาเบะกาวะ ชั้นป.4 ห้อง 2 รู้จักกันในชื่อห้องเด็กดี
เด็กทุกคนนั้นพร้อมใจทำสิ่งต่างๆอย่างพร้อมเพรียงกันไม่ว่าจะเป็นงานกีฬาหรืองานวัฒนธรรม ทุกคนไม่เคยว่าร้ายหรือถูกตำหนิในเรื่องผิดพลาด
หากได้ผลลัพธ์ที่ดี ทุกคนก็จะดีใจ แม้หากจะทำพลาดสุดท้ายทุกคนก็จะหัวเราะ
เรื่องทะเลาะระหว่างเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง กลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า การพูดจาไม่ดี
ทั้งหมดนั้นไม่มีอยู่เลย
อาจารย์โฮมรูมของพวกเขาคือคุณโนงุจิ เมื่อปีที่แล้วนั้นเขาเป็นอาจารย์ของเด็กป.6 ทุกคนรู้ดีว่าเขามีนิสัยชอบตะโกนใส่นักเรียน
ชื่อเล่นของเขาคือ สี่เหลี่ยม เพราะรูปหน้าของเขานั้นเป็นสี่เหลี่ยม
เมื่อคุณโนงุจิเข้ามาที่ชั้น ป.4 ห้อง 2 เขาเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่สดใสร่าเริงมาก
เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่ได้ตะโกนใส่นักเรียนอีกเลย
แต่ทำไมชั้น ป.4 ห้อง 2 ถึงได้มีบรรยากาศแบบนั้นกันนะ? คนที่รู้ความจริงมีเพียง โนริโกะ โนโนฮาระ
ไม่ว่าใครก็ตามที่อารมณ์ไม่ดี เธอจะเปลี่ยนให้หัวใจของคนๆนั้นเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนาน
ไม่ว่าใครก็ตามที่รู้สึกเศร้า โกรธเกรี้ยว ขี้อิจฉา หรือมีความรู้สึกด้านลบ เมื่ออยู่ใน ห้องเด็กดี ความรู้สึกเหล่านั้นจะลดลงเสมอ
เธอควบคุมทุกคนให้กลายเป็นคนที่สดใสร่าเริง
เธอใช้พลังของตัวเองกระจายความรู้สึกของตนไปสู่ผู้อื่น
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เมจิคัลเกิร์ลนกโกะจัง ถึงเปลี่ยนชั้นเรียนที่แสนจะมืดมนกลายเป็นอย่างอื่นได้
โนริโกะ โนโนฮาระ เป็นเมจิคัลเกิร์ลที่มุ่งมั่นมาก
เธอมุ่งมั่นขนาดไหนน่ะเหรอ?
ตั้งแต่วินาทีที่เธอกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ล จนถึงตอนนี้เธอใช้เวลาในร่างเมจิคัลเกิร์ลมากกว่าร่างมนุษย์ไปแล้ว
เธอกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลตอนอายุ 4 ปี ตอนนี้เธออายุ 10 ปี เป็นเมจิคัลเกิร์ลผู้มีประสบการณ์ 6 ปี
ในฐานะเมจิคัลเกิร์ลเธอมีความรู้ที่จะใช้ชีวิต และรู้ที่จะสร้างทางลัด
เมื่อเธอพูดเรื่องสร้างทางลัดนั้น ไม่ได้หมายความว่าเธอเกียจคร้าน
เธอรู้ทางหนีมากกว่าเมจิคัลเกิร์ลหน้าใหม่ ดินแดนเวทมนตร์นั้นไม่ยิดหยุ่น พวกนั้นรั้นหัวชนฝา ตัดสินใจแบบไม่โอนอ่อน เหมือนกับพวกเจ้าหน้าที่ในโลกจริงนั่นแหละ
จุดเริ่มที่โนริโกะกลายเป็นนกโกะจัง ทุกอย่างที่เธอพูดกับเมจิคัลเดซี่เป็นเรื่องจริง
แต่ในความรั้นหัวชนฝาก็ยังมีความหละหลวม ซึ่งระบบตรวจสอบความปลอดภัยของดินแดนเวทมนตร์นั้นหละหลวมมาก ในเขตของนกโกะจังนั้นมันต่ำกว่ามาตราฐานซะอีก
สำหรับเมจิคัลเกิร์ลบางคนนั้นจะมีพี่เลี้ยง
เป็นคนที่จะส่งรายงานกลับไปยังดินแดนเวทมนตร์ ซึ่งรับบทตัวกลางระหว่างสองฝ่าย
เพราะว่าดินแดนเวทมนตร์นั้นไม่ได้ดูแลพวกเธอโดยตรง
ซึ่งกฎนั้นจะเข้มงวดหรือไม่มันขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพี่เลี้ยง
พี่เลี้ยงบางคนก็หละหลวม, ไม่มีระเบียบ, หรือเห็นแก่ตัว ก็จะไม่รายงานกลับไปหากไม่ได้จริงจัง
สำหรับกลุ่มของนกโกะจัง บางทีพี่เลี้ยงของเธอไม่เคยรายงานอะไรกลับไปดินแดนเวทมนตร์เลยก็ได้ เธอไม่ได้ตำหนินกโกะจังเรื่องที่จะปรับปรุงความเป็นอยู่ของตัวเองแทนที่จะออกไปช่วยคนอื่น
เธอเป็นคนที่ไม่เด่นในชั้นเรียนมาก จะแก้ปัญหาอะไรก็แอบใช้เวทมนตร์ หลังจากโรงเรียนเลิกเธอก็ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ทำให้หัวใจที่หนักอึ้งของเธอเบาลงเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็กลับบ้านไปทำงานบ้าน
เวทมนตร์ของนกโกะจังนั้นใช้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ดั่งใจนึก เธอต้องกระจายอารมณ์ตัวเองออกไป หากเธออยากทำให้ใครมีความสุข เธอต้องนึก นึก และนึกเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขออกมาให้ได้ จากนั้นเวทมนตร์ของเธอก็จะสำเร็จ
ต้องขอบคุณความเยาว์วัยที่ตัวเองอายุ 10 ปี เธอจึงการเป็นผู้เชี่ยวชาญการหลอกตัวเอง
เพราะแม่ของเธอรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โนริโกะจึงต้องรับหน้าที่ทำงานบ้านทุกอย่าง
มันทำให้เธอเหนื่อยมาก ไม่มีเวลาที่จะแบ่งเอาเวทมนตร์ของเธอไปช่วยโลกหรอก เพราะเธอต้องดูแลตัวเองก่อน
แต่เธอก็ยังหยุดมันไว้ อย่างน้อยก็จนถึงตอนนี้
ราวครึ่งปีก่อน พี่เลี้ยงของนกโกะจังถูกไล่ออก เหตุผลก็คือเธอทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดี และมันถูกเปิดเผยออกมา เมจิคัลเกิร์ลน่ะควรเต็มไปด้วยความฝันและความหวังสิ แต่กลับไปทำเรื่องไม่ดีเนี่ยนะ!
ผ่านไปไม่นาน ดินแดนเวทมนตร์ก็ส่งพี่เลี้ยงคนใหม่ที่จริงจังกับหน้าที่ตัวเองมาแทนอย่างรวดเร็ว
คงเป็นเพราะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
ดินแดนเวทมนตร์จึงมองหาพี่เลี้ยงที่จริงจังมาให้เธอโดยเฉพาะ
นกโกะจังต้องทำงานของเมจิคัลเกิร์ล ต้องออกไปข้างนอกช่วยเหลือผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
แต่พี่เลี้ยงสุดจริงจังนั่นก็ส่งรายงานไปว่า ‘เด็กคนนี้เป็นเมจิคัลเกิร์ลที่ไม่กระตือรือร้นเลย แถมให้ความสำคัญกับเรื่องของตัวเองมากกว่าคนอื่นอีก’
แย่ยิ่งกว่านั้น พี่เลี้ยงยังสามารถถอนเธอออกจากการเป็นเมจิคัลเกิร์ลได้ด้วย
ในตอนที่เธอพยายามนำชั้นเรียนของตัวเองไปยังทางที่ดีกว่า เธอก็ช่วยเหลือผู้คนในเมือง
ในตอนที่ทำแบบนั้นเธอก็ทำงานบ้านไปด้วย ตอนนี้เธอตั้งใจไปที่เกม
เธอไม่ได้สนใจตัวเกมจริงๆหรอก ไม่มีเวลามาดูแลเมจิคัลเกิร์ลรุ่นใหม่ด้วย
เธอสนใจแค่รางวัลเข้าร่วมกับรางวัลเคลียเกมเท่านั้น
ถ้าเธอมีโอกาสที่จะได้เงินกว่าพันล้าน เธอก็จะพยายามอย่างที่สุด
นกโกะจังดูบัญชีธนาคารของเธอ ปีที่แล้วเธอไม่มีเงินฝากเข้ามาเลย ตอนนี้เธอมีแล้ว 1 หมื่นเยน
หากเธอเคลียพื้นที่ได้ล่ะก็ เธอก็จะได้ 1 ล้านเยน
______________________________________________________________________________
เธอเอียงศรีษะตัวเอง
ที่ลาวานั่น หมวกของจีโนไซโคโผล่ออกมา
หลังจากนั้นที่บังหน้า คอ และมือของเธอค่อยๆโผล่ขึ้น ที่มือของเธอกำกุญแจเล็กๆอยู่
@เนี๊ยวเนี๊ยวที่ยืนอยู่ข้างๆนกโกะจัง ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"เจอแล้ว!" จีโนไซโคพูด "มีแท่นบูชาอยู่ด้านล่างจริงๆด้วย! ตามที่อักษรโบราณว่าไว้เลย! ถึงจะนานหน่อยแต่ก็หาเจอจนได้! "
“คิดว่ายูเมโนะชิม่าละลายไปแล้วจริงๆซะอีก รูว”
“ไม่ละลายหรอก! ชุดนี่น่ะทนได้กระทั่งบิ๊กแบงเลยนะ!”
จีโนไซโคเอามือขึ้นมาวางไว้บนขอบผา และปีนขึ้นมาบนพื้นดิน
เธอพูดถูก ไม่มีตรงไหนบนชุดของเธอที่บ่งบอกว่ามีรอยเผาหรือละลายไปเลย คนที่อยู่ด้านในเองก็ไม่เป็นไรด้วย จีโนไซโคปัดลาวาที่ติดอยู่ออก ขยับที่บังหน้าและยิ้มออกมา
“หนึ่งกุญแจ กับบบ หนึ่งล้านเยนกำลังมาหาแล้วจ้าาา! เอาล่ะ! ไปพื้นที่ถัดไปกันเถอะ! ไปไปไปกันเลย!”
หลังจากพื้นที่ทุ่งหญ้าก็คือพื้นที่ภูเขา เมื่อกลับมาเล่นเกมอีกครั้งก็พบว่ามันเปิดอยู่แล้ว ดูเหมือนจะมีบางปาร์ตี้เปิดไว้ก่อนเกมจะปิด
พวกก็อบลินที่เป็นศัตรูมีทั้งหอกสั้น มีด ธนู หอก และเกราะหนัง
ความแข็งแกร่งกับกลยุทธ์ของพวกมันนั้นเก่งกว่าสเกเลตันไม่มากนัก
ก็อบลินบางตัวก็สวมเสื้อคลุมที่สกปรก ที่มือนั้นถือไม้เท้า พวกนั้นพูดอะไรงึมงำๆเหมือนร่ายมนต์อะไรแปลกๆ จากนั้นพวกมันก็เสกลูกไฟขนาดใหญ่ขึ้นมา
บางครั้งในกลุ่มของพวกมันก็จะมีก็อบลินที่ตัวใหญ่กว่าปกติ 2 เท่าที่ควงกระบองยักษ์อยู่ด้วย ความแข็งแกร่งนั้นอาจเทียบเท่าเมจิคัลเกิร์ลเลยทีเดียว
แต่กระนั้น ก็ยังเทียบชั้นเมจิคัลเกิร์ลไม่ได้ พวกมันเชื่องช้าอืดอาดเกินไป
เมื่อก็อบลินขยับ 1 ครั้ง เมจิคัลเกิร์ลจะขยับได้ 10 ครั้ง หากก็อบลินโจมตีเมจิคัลเกิร์ลก็จะแค่เจ็บ แต่ถ้าเมจิคัลเกิร์ลโจมตีก็อบลินมันคือการสร้างบาดแผลร้ายแรง
แต่มันก็ไม่เหมือนสเกเลตัน เพราะพวกก็อบลินมันมีเลือด
มันทำให้หวั่นใจเล็กน้อยตอนเวลาโจมตี พวกมันดูโทรมแถมเต็มไปด้วยเลือด
แม้กระทั่งบางครั้งก็รู้สึกสงสารที่เห็นใบหน้าและฟันของพวกมันชุ่มไปด้วยเลือด
เมื่อนกโกะจังทุบกะโหลกของพวกมันด้วยไม้ถูพื้น
ก็สัมผัสได้ถึงอวัยวะต่างๆไม่เหมือนพวกสเกเลตัน
รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพรากชีวิตพวกมันไป
แม้ศพจะหายไปใน 2 ชั่วโมง แต่ความรู้สึกมันก็ติดอยู่กับเธอไปตลอด ความรู้สึกมันสมจริงจนเกินไป
แต่ความรู้สึกช๊อคที่เมจิคัลเดซี่ตายของก็ยังคงอยู่ แต่ตัวเธอยังสามารถเอาชนะศัตรูได้
พวกเธอจะเอาชนะเกมนี้ไม่ได้ หากยังปล่อยให้ความรู้สึกมันรบกวนแบบนี้อยู่ทุกครั้ง
นกโกะจังต้องหลอกตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเธอจะทำได้ เธอเติมเต็มความรู้สึกในหัวตัวเองด้วย
จีโนไซโคและ @เนี๊ยวเนี๊ยว ที่เต็มไปด้วยความสุขและสนุกสนาน
การตายของเมจิคัลเดซี่คืออุบัติเหตุ ไม่มีใครต้องรับผิดชอบเรื่องนั้น
ครั้งต่อไปที่เผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่รู้จักก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
ถ้าพวกเธอซื้อหนังสือภาพมอนเตอร์ก่อนออกไปสู้กับศัตรูแล้วล่ะก็ ก็จะลบคำว่า ‘ถ้าหาก’ ออกจากสมการไปได้เลย
ถึงจะเป็นแบบนั้น นกโกะจังก็จะไม่ลืมร่างของเดซี่ที่ คนที่ตายด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากรูพรุน
ทั่วร่าง ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอจะไม่ลืมมันแน่ๆ
พวกเธอขุดหลุมและฝังร่างของเมจิคัลเดซี่ไว้ที่นี่ พวกเธอวางหินไว้เป็นเครื่องหมายที่หลุมศพด้วย
เธอไม่เคยลืมความรู้สึกตอนที่ทั้ง 3 คนกอดกันและร้องไห้
แต่มันก็คืออุบัติเหตุอยู่ดี
“เมจิคัลเดซี่อาจจะตายที่นี่ แต่ฉันแน่ใจว่าในชีวิตจริงเธอต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ” จีโนไซโคพูดกับนกโกะจัง พยายามจะปลอบเธอ
นกโกะจังหวังอย่างนั้น นกโกะจังเองก็คิดอย่างนั้น และนกโกะจังสามารถช่วยปาร์ตี้ได้
พวกเธอจะเศร้าไปตลอดไม่ได้ การหลอกตัวเองเป็นเรื่องดี ผู้เล่นควรจะลืมความรู้สึกเศร้าและตั้งใจไปกับการเคลียเกม นกโกะจังจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้เคลียเกมให้ได้
ตอนที่พวกเธอเข้าไปที่พื้นที่ภูเขา พวกเธอก็เห็นภูเขาที่ดูเสื่อมโทรม
ที่นั่นพวกเธอเจอคัมภีร์โบราณ คัมภีร์นั้นต้องไม่บอกอะไรโกหกแน่ๆ แต่ทุกอย่างที่เขียนไว้คือภาษาโบราณ
ที่เมืองภูเขามันมีแอปที่สามารถซื้อได้คือ ‘นักแปลคุง’ พวกเธอซื้อและเอามาใช้แปล
จงหาเส้นทางของชาวภูเขา ใช้เส้นทางนั้นเพื่อทำพิธีในเทวสถาน ที่นั่นเจ้าจะได้พบหลักฐานของชาวภูเขา ใช้หลักฐานนั่นเพื่อทำพิธีร่ายรำโบราณ ณ ด้านหน้าของทะเลสาบลาวา เมื่อนั้น แท่นบูชาของชาวภูเขาก็จะปรากฎขึ้น จงหากุญแจของชาวภูเขา เมื่อเจ้าได้มาแล้วก็จะไปสู้พื้นที่ต่อไปได้
ปล.ในการที่จะเรียนรู้การร่ายรำของชาวภูเขานั้น ต้องนำฮุคคาไปวางไว้ที่สถานที่ในเมืองภูเขา มันก็จะสอนเจ้าผ่านเมจิคัลโฟน การที่จะสร้างฮุคคานั้นจำเป็นต้องมีของ 3 สิ่ง คำใบ้นั้นอยู่ในสถานที่ต่างๆ จากนี้เจ้าจงคิดคำตอบเท่าที่คิดได้ซะ
หลังจากอ่านคำแนะนำที่แสนยาวเหยียดจบแล้วนั้น
"อาวววล่าาา! " จีโนไซโคพูดพร้อมยกแขนขวาสูงขึ้น
"กะอีแค่ลาวา แค่นี้ง่ายๆน่ะ!"
เธอเอาที่บังหน้าลง
"ฉันจัดการเอง" เธอพูดกับนกโกะจังและ @เนี๊ยวเนี๊ยว แล้วก็ดำลงไปในลาวา เธอกระโดดลงไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ได้กุญแจของชาวภูเขามาจากแท่นบูชา
"แหม จีโนไซโคนี่โกงสุดๆเลย! " จีโนไซโคยอตัวเอง "ฮ่าฮ่า ว่าแล้วต้องได้ผล! 1 ล้านเยนจ๋า! วันนี้มันดีที่สุดในชีวิตเลยนะเนี่ย! นี่ๆ หลังจากล็อกเอาท์แล้ว ทำไมพวกเราไม่มาเจอหน้ากันหน่อยล่ะ ไหนๆก็อยู่ปาร์ตี้เดียวกันแล้ว?"
“ฟังดูดีจังค่ะ”
“1 ล้านเยนนี่หมายความว่าจะดื่มสาเกเท่าไหร่ก็ได้สินะ รูว?”
“หวา หวา หวา เธอจะเอาเงินไป เมา หมดเลยไม่ได้นะ เนี๊ยวเนี๊ยว! เก็บไว้ซักหน่อยสิ! เงินน่ะมัน สำคัญมาก นะรู้ไหม?”
ทันใดนั้นกลิ่นกำมะถันและความร้อนที่ออกมาจากทะเลสาบลาวา บอกพวกเธอว่าไม่ควรอยู่ที่นี่นานๆ ตอนนี้มันกลายเป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่สวยงามแล้ว
พูดคุยหยอกล้อกันและกัน
ทั้งสามคนยิ้มแย้มเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมจิคัลเดซี่ตายจากไป
ตอนนี้ นกโกะจังรู้สึกสนุกสนาน เพราะแบบนั้นเธอจึงกระจายอารมณ์ของตัวเองให้ทั้ง 2 คนด้วย
“ไปสำรวจพื้นที่ต่อไปกันเถอะ รูว! มันต้องมีแคนดี้และเงินรางวัลรออยู่แน่ๆ รูว!”
"อ๊ะ! จริงด้วย! พวกเราได้แคนดี้มาตั้ง 500 กว่าแหนะ! วู้ฮู้ว! "
"โอเค งั้นพวกเรากลับไปที่เมืองภูเขาก่อน…"
เสียงข้อความเข้าของเมจิคัลโฟนดังขี้นมา เมื่อพวกเธอเปิดดูพบว่าปุ่มช่วยเหลือนั้นเรืองแสงอยู่
"เรื่องฉุกเฉิน ปอน! ทุกคนกลับมารวมตัวกันที่เมืองทุ่งร้างเดี๋ยวนี้เลย ปอน! "
จีโนไซโควางนิ้วของเธอไว้บนหมวก รู้สึกตื่นตระหนกเหมือนกับพยายามดึงผมตัวเอง นกโกะจังคิดว่าดีแล้วที่หมวกของเธอป้องกันมันไว้
"เฮ้! ไม่เอาน่า! ทำไมมาตอนจังหวะนี้เนี่ย! "
"นี่คือเรื่องฉุกเฉิน ปอน! อีก 1 นาทีพวกเธอจะถูกเทเลพอร์ตแล้ว ปอน! ขอบคุณที่รอนะ ปอน!"
เจ้ารูปร่างสีขาวดำอยากพูดอะไรก็พูดแล้วก็หายไป พวกเธอสามคนไม่มีใครแย้ง มีแต่ต้องก้มหน้าทำตาม
" ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นนะ" นกโกะจังพูด "ตอนนี้ก็ไปดูกันเถอะค่ะ"
"ไอ้เจ้าก้อนขนนั่นโผล่มาไม่รู้เวลาเลย!"
"หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ รูว"
@เนี๊ยวเนี๊ยวกังวล จีโนไซโคผิดหวัง ตอนนี้นกโกะจังต้องนึกเรื่องสนุกๆออกให้ได้แล้ว
______________________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
“เอาล่ะ เราจะประกาศเรื่องข้อแก้ไขบางอย่าง แล้วก็ประกาศอีกเรื่องนึงนะ ปอน!”
เหมือนกับวันก่อน เมจิคัลเกิร์ลรวมตัวกันในตัวเมือง วันนี้เองก็เช่นกัน
บางคนนั่งอยู่ตรงมุมน้ำพุ บางคนยืนพิงอยู่กับกำแพงอาคาร
แม้จะเป็นครั้งที่สองที่เธอเห็น แต่มันก็ยังรู้สึกงดงามเช่นเดิม
______________________________________________________________________________
บรรยากาศของปาร์ตี้นั้นเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่ตอนที่ฟาลติดต่อพวกเธอมาตอนราวๆเที่ยงวัน
ประมาณวันนึงแล้วที่เพจิกะทำอาหารให้คนอื่นเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเธอก็ทำอีก 2 มื้อ
เพราะเวทมนตร์ของเพจิกะ เธอจึงทำอาหารอะไรก็ได้ตามต้องการเพียงแค่รอ 5 นาที
เธอสามารถทำอาหารฟูลคอร์สได้โดยที่ใช้เวลาไม่ต่างกับอุ่นอาหารแช่แข็ง ไม่ว่าเพจิกะจะทำอะไรออกมา ทุกคนก็ชอบฝีมือของเธอเสมอ
มิโยคาตะ โนนาโกะและริโอเน็ตต้าทั้งคู่พูดชมเธอไม่หยุด ส่วนแคลนเทลเธอไม่ได้พูดอะไรแต่หางของเธอส่ายไปมาอยู่ตลอด
"อร่อย! เพจิกะ เจ้านี้น่ะสุดยอดเลย!
"รสชาติเยี่ยมมาก!" ริโอเน็ตต้าเห็นด้วย "ฉันจะยอมรับเธอเป็นเชฟส่วนตัวก็แล้วกัน"
บรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นยังดำเนินต่อไป แม้หลังจากมื้ออาหารแล้ว พวกเธอเสนอทำหน้าที่ใช้แรงแทนเพจิกะ ตอนแจกจ่ายไอเท็มก็ให้ความสำคัญกับเพจิกะ และพวกเธอยังทำหลายๆสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วย
ไม่มีใครตำหนิเธออีกแล้ว แม้เพจิกะจะไม่ได้ร่วมสู้ด้วยก็ตาม
“ถ้าเธอตัดสินใจจะสู้ล่ะก็ ช่วยระวังอย่าให้มือบาดเจ็บด้วยล่ะ มันคงแย่ถ้าเธอเสียความสามารถทำอาหารไป ไม่ใช่แค่เพื่อปาร์ตี้ แต่สำหรับ ทั้งโลก เลยล่ะ!” ริโอเน็ตต้าชื่นชมเธอมาก
และจับมือของเพจิกะอย่างนิ่มนวลไปด้วย
เพจิกะมีความมั่นใจ เธอไม่ใช่คนที่ใช้การไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้ทุกคนต้องการเธอ
______________________________________________________________________________
สมาชิกของปาร์ตี้อื่นเองก็ดูสนุกสนานดี… เดี๋ยวสิ
ยกเว้นคนหนึ่ง เมจิคัลเกิร์ลชุดนางพยาบาลสีดำ หน้าเธอดูซีดแล้วตัวสั่นด้วย
ดูเหมือนเธอเองก็คงเศร้าสินะ…
เพจิกะคิดเรืองเมจิคัลเกิร์ลที่เธอไม่เคยคุยด้วย
“ก่อนอื่นก็เรื่องข้อแก้ไขนะ ปอน!”
ใจกลางน้ำพุนั้นเต็มไปด้วยทราย เมจิคัลโฟนวางอยู่ตรงนั้นแล้วฟาลก็โผล่ออกมา
อากาศของที่นี่มันเต็มไปด้วยฝุ่น ภาพสามมิติของฟาลจึงขาดๆหายๆ
“เราในฐานะมาสค็อตและมาสเตอร์ของเราได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดขึ้น เรื่องที่บอกว่าความเสียหายนั้นจะไม่ย้อนกับสู่ความจริงน่ะ ปอน, ที่จริงหากเป็นแผลหรือกระดูกหักนั้นจะไม่ถูกส่งกลับ แต่ถ้าหากตายขึ้นมาก็จะเกิดอาการช๊อคอย่างรุนแรงทำให้มีผลกับหัวใจ ซึ่งหากตายในร่างเสมือนจริงมันก็จะส่งผลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กับร่างจริงด้วยล่ะ ปอน, ยกโทษให้พวกเราด้วย อีกอย่างเกมนี้คือความลับ หากไปคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกันก็จะส่งผลให้รับการลงโทษระดับเดียวกับความตายเช่นเดียวกันด้วย ดังนั้นระวังกันด้วยนะ ปอน เท่านี้แหละ!”
เสียงทุกเสียงเงียบไป ยกเว้นเสียงของสายลมที่พัดผ่านตัวเมือง และทรายที่ถูกลมพัดจนฟุ้งกระจาย
ไม่มีเสียงอื่นนอกจากนี้
ทุกคนจ้องไปที่ฟาล ทุกคนคิดเรื่องคำพูดนั้น ทุกคนเงียบกันหมด ไม่มีใครเปิดปากพูดเลย
เมจิคัลเกิร์ลชุดสีฟ้าพูดขึ้นมาคนแรก
“นี่ล้อเล่นกันใช่ไหม?”
“ไม่นะ จากนี้ไปเราจะพูดแต่ความจริงเท่านั้น ปอน, ถ้าพวกเธออยากรอดกรุณาเคลียเกมด้วย ปอน,
เรารู้ว่ามันเสี่ยงตาย แต่รางวัลที่บอกไว้ตอนเริ่มนั้นจะได้รับอย่างแน่นอน ”
"อย่ามาล้อเล่นกันนะ! "
"พูดบ้าอะไรออกมาเนี่ย? "
"แกคิดว่าพวกเราจะยอมรับรึไง? "
ความโกรธเกรี้ยวถาโถมออกมาในเวลาเดียวกัน
ส่วนฟาลที่มีใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์นั้นก็มองพวกเธออย่างใจเย็น
“นี่ก็เหมือนการทดสอบของพวกเธอนั่นแหละ ปอน!, เป็นการทดสอบว่าตัวเองเหมาะสมจะเป็นเมจิคัลเกิร์ลรึเปล่า ถ้าทุกคนเหมาะสมจะเป็นเมจิคัลเกิร์ลก็เคลียเกมได้แน่นอน ถ้าอยากมีชีวิตรอด กรุณาเคลียเกมด้วยนะ ปอน!, ถ้าเคลียเกมได้ก็เท่ากับรอดแล้วล่ะ ปอน!”
เขาพูดประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
“เท่านี้แหละ นั่นคือคำพูดของมาสเตอร์ของฟาลที่เธออยากจะพูดกับพวกเธอ ปอน!”
นั่นไม่ใช่คำพูดของฟาล เขาแค่ถ่ายทอดข้อความมาจากมาสเตอร์อีกที นี่คือข้อสรุปของเพจิกะ
เพจิกะตัวสั่น เธออยากวิ่งหนีไป แต่มันไม่มีที่ไหนที่ตัวเธอจะไปได้เลย เธอรู้สึกเหมือนเลือดมันไหลออกมาจากศรีษะจนหมดตัว เท้าเธอก็สั่น รู้สึกเหมือนจะสลบได้ตลอดเวลา แต่ก็สลบไม่ได้
เมจิคัลเกิร์ลคนอื่นทั้งโกรธ, ตะโกนออกมา, ต่อยกำแพง บางคนก็พุ่งเข้าไปหาฟาล แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะฟาลนั้นเป็นภาพสามมิติ
“ฉันอยากจะถามอะไรซักหน่อยหน่อยได้รึเปล่า?”
เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ พีเฟิล
ตอนที่เพจิกะเจอเธอที่เมืองทุ่งหญ้า เธอก็ดูใจเย็นเหมือนตอนนี้เลย
แม้จะอยู่ท่ามกลางความสับสนและโกลาหลแบบนี้ก็ยังได้ยินเสียงของเธอ
ทุกคนคนที่กรีดร้องตะโกนอยู่หันกลับไปมองเธอ
พีเฟิลเริ่มพูดกับฟาล
“นายบอกว่าอาการช๊อคอย่างรุนแรงจะมีผลกับหัวใจ มันไม่มีวิธีที่จะทำให้ทนมันได้เหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ปอน!, ไม่ใช่แค่มนุษย์ แม้กระทั่งเมจิคัลเกิร์ลเองก็ยังทนไม่ได้เหมือนกัน ปอน! ”
“แล้วถ้าหากพยายามกู้ชีพล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ปอน!”
"งั้นเหรอ นึกว่าจะมีทางซะอีก… เอาล่ะ คำถามต่อไป เมจิคัลโฟนของพวกเรามีอะไรแปลกๆ และฉันอยากรู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง นายเป็นคนทำให้พวกเราติดต่อดินแดนเวทมนตร์ไม่ได้ใช่ไหม?"
เสียงซุบซิบเริ่มแพร่กระจายออกไป มันเป็นเรื่องจริงที่ติดต่อดินแดนเวทมนตร์ไม่ได้ เพจิกะพยายามส่งเมลถามยืนยันเรื่องเกมนี้ แต่ทุกครั้งที่ส่งมันจะตีกลับมาเสมอ
เธอคิดอยู่ตลอดว่ามันแปลกๆ มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง
แต่ตอนนี้ในหัวของเธอเต็มไปด้วยนิโนมิยะคุงเธอเลยตัดสินใจจะไม่คิดถึงมันอีก
ฟาลกระพริบตาแล้วพูดว่า
"พวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องเกมนี้กับคนอื่น เราคิดว่าการติดต่อดินแดนเวทมนตร์ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ปอน!"
“เรื่องดีงั้นเหรอ?” พีเฟิลพึมพำ
.
เธอกางมือทั้งคู่ออกกว้างและพูดออกมาเสียงดัง
เสียงของเธอมันช่างงดงาม เธอสยบความเงียบและความวุ่นวายในเมืองด้วยเสียงของเธอ
“เหมือนว่าพวกเราจะถูกบังคับให้เล่นเกมนี้สินะ พวกเธอทั้งหมดก็คงเห็นจากการเทเลพอร์ตแล้ว ศัตรูของเราน่ะมีพลังมากพอที่จะทำอะไรตามใจกับเราก็ได้”
“พวกเราจะ ไม่ ยอมแพ้ไอ้คนบ้าแบบนั้นหรอก!”
เมจิคัลที่สวมชุดแฮมเตอร์ตะโกนขึ้นมาเสียงดังขัดจังหวะของพีเฟิล
พีเฟิลจึงมองไปที่เมจิคัลเกิร์ลคนนั้น
“ในสถานการณ์ปัจจุบันของพวกน่ะ ไม่มีทางชนะหรอก”
หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ
“เล่นเกมต่อเถอะ”
ทันใดนั้นก็มีคนค้านพีเฟิลทันที
“นี่เธอจะทำตามแผนของศัตรูรึไง?”
“แล้วจะให้ ยอมแพ้ งั้นเหรอ?”
“เล่นเกมนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์!”
“พวกเราจะไม่ลองพยายามกำจัดศัตรูใหม่นี้หน่อยเหรอ?”
พีเฟิลพยักหน้ารับความคิดเห็นทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้เห็นพ้องกับคำพูดไหน
“ฉันเข้าใจที่พวกเธอเกลียดความคิดที่จะเล่นเกมต่อนะ พวกเราถูกตัดขาดจากดินแดนเวทมนตร์ พวกเราเผชิญหน้าอยู่กับเกมที่ไม่เข้าใจ และเรื่องมาสเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังด้วย แต่อย่างไรพวกเราก็คือเมจิคัลเกิร์ลที่ถูกบังคับให้เล่นเกมนี้ และพวกเราจะทำให้มันจบอย่างง่ายๆ จัดการศัตรู เป้าหมายของพวกเราไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ก่อนอื่นฉันจะรับฟังพวกเธอทั้งหมดเอง”
“แต่มันก็ไม่ได้การันตีว่าเมื่อจบเกมแล้วพวกเราจะถูกปล่อยจากเกมนี่”
ริโอเน็ตต้าพูดออกมา แน่นอนว่าเธอหงุดหงิด
“ฉันรู้ว่ามันแปลก แต่ตอนนี้บอกเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อเจ้า ‘มาสเตอร์’ นั่น
วันก่อนฉันได้เงินโอนเข้ามาในบัญชีตามที่สัญญาไว้แล้ว แน่ใจว่ามีคนอื่นที่ยืนยันเรื่องนี้ได้เหมือนกัน
อย่างน้อย เงินนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้สบายใจน่ะนะ”
“ดีนะที่รางวัลที่สัญญาไว้เป็นจริง” ริโอเน็ตต้าพูด “แถมตอนนี้ก็รู้ว่าพวกเราเองก็ตายในเกมได้
เธอคาดหวังให้พวกเราเชื่อในสิ่งที่พวกมันพูดได้ยังไงล่ะ?”
“เรื่องนั้น…”
ฟาลพูดขี้นมา ทุกคนมองไปที่ฟาลด้วยความโกรธ
"จากนี้ไปจะไม่มีเรื่องเท็จออกมาจากเราอีกแล้ว คำพูดของเราคือคำพูดของมาสเตอร์ ปอน!, ทุกคำพูดของเราคือความจริง ปอน! "
"แล้วใครจะยืนยันเรื่องนั้นได้ล่ะ?" ริโอเน็ตต้าพูด
"เราพูดได้แค่ว่าให้เชื่อในสิ่งที่เราพูด ปอน!"
"ไม่มีอะไรยืนยันได้ ทุกอย่างที่พวกเราทำได้คือเชื่อนาย ตอนนี้พวกเราเป็นลูกไก่ในกำมือแล้วล่ะ"
คำพูดของพีเฟิลเหมือนยอมแพ้ แต่เพจิกะไม่รู้สึกแบบนั้นจากน้ำเสียงของเธอเลย ท่าทีของเธอนั้นดูมีชีวิตชีวาแบบแปลกๆ
“ขอฉันคุยเรื่องนี้ด้วยสิ”
เมจิคัลเกิร์ลคนหนึ่งชูมือขวาขึ้น เธอผ้าคลุมและหมวกแบบนักสืบ แต่งตัวคล้ายนักสืบ
"ฉันชื่อ ดีเทคเบล อย่างที่พวกเธอเห็น ฉันเป็นนักสืบ"
เมจิคัลเกิร์ลนักสืบพูดขึ้นมาว่า ‘อย่างที่พวกเธอเห็น ฉันเป็นนักสืบ’ คงจะเป็นเรื่องตลกที่อยากให้บรรยากาศผ่อนคลาย แต่มันก็ไม่ได้มีใครหัวเราะ
ดีเทคเบลพูดต่อ
“วันก่อนที่พวกเราออกจากเกม ฉันใช้เวลาไปกับการสืบสวนหาที่อยู่ของใครบางคน
อยากรู้ว่าคนๆนั้นตอนนี้เป็นยังไง ฉันแน่ใจว่าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์มากกับพวกเราทุกคนแน่ๆ”
“เบลซี่ เค้าก็ไม่ได้อยากขัดหรอกนะ แต่ว่าเธอพูดถึงใครอยู่เหรอ?”
เมจิคัลเกิร์ลชุดสีฟ้าพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย และดีเทคเบลก็หลับตาลง
“คนๆนั้นคือเมจิคัลเดซี่ ฉันอยากจะสืบสวนว่าเมจิคัลเดซี่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
ดีเทคเบลเปิดตาแล้วพูดต่อ
"ฉันแน่ใจว่าบางคนคงรู้อยู่แล้วว่าเมจิคัลเดซี่นั้นเคยมีอนิเมที่อิงกับสิ่งที่เธอทำมาก่อน จากสถานที่ในอนิเม ฉันเจอพื้นที่ต้นแบบและเริ่มสืบจากตรงนั้น ฉันใช้เวทมนตร์ของตัวเองเพื่อยืนยันว่าสถานที่ที่ทำการสืบสวนนั้นเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่เมจิคัลเดซี่เคยทำสิ่งต่างๆมาก่อน แน่นอน ฉันสืบไปไกลกว่านั้น ใช้เวทมนตร์ของตัวเองอีกครั้ง เข้าใกล้สถานะปัจจุบันของเธอ ฉันสืบพบบ้านของครอบครัวเธอด้วย จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่อพาร์ทเมนท์ของเธอ พอไปถึงฉันเห็นรถตำรวจกับรถพยาบาลอยู่หน้าอพาร์ทเมนท์แล้ว หลังจากนั้นชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็บอกเรื่องทุกอย่างที่ฉันจำเป็นต้องรู้ ฉันฟังสิ่งที่ชาวบ้านคนนั้นพูด ปรากฎว่าเวลาที่เธอตายเป็นเวลาเดียวกับตอนที่เล่นเกมอยู่… มันเกิดขึ้นทันทีในโลกจริงเลยนะ"
เมจิคัลเดซี่ตายแล้ว หมายความว่าเรื่องที่ฟาลบอก การตายในเกมเท่ากับตายในโลกจริงนั้น คือความจริง
“เมจิคัลเดซี่เป็นคนดังทีเดียว” ดีเทคเบลพูดต่อ “การตายอย่างกระทันหันของเธอนั้นจะทำให้ ดินแดนเวทมนตร์ดูน่าสงสัยแน่ๆ คนพวกนั้นอาจจะเริ่มสงสัยและนั่นก็นำไปสู้การค้นพบเหตุผล บางทีเกมอาจจะหยุดหากพวกนั้นพบว่าการตายในเกมเชื่อมต่อกับโลกจริงก็ได้”
ดีเทคเบลมองไปยังฟาลที่ส่ายตัวไปมาอย่างเงียบๆ
“จะตีความอย่างนั้นก็ได้นะ ปอน”
ดีเทคเบลพยักหน้าพอใจกับคำตอบ
“ฉันมีเรื่องพูดเท่านี้แหละ”
เธอกลับที่เดิมที่เคยอยู่ก่อนหน้านี้แล้วนั่งลง
"ยอดเลย เบลซี่! สมเป็นยอดนักสืบเลยอ่ะ!" เมจิคัลเกิร์ลชุดสีฟ้าพูดขี้นมา เพจิกะสงสัยว่าเธอเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้รึเปล่านะ ทุกคนที่เข้าใจยังสับสนกันอยู่เลย
แคลนเทลเดินด้วยกีบเท้าอย่างแผ่วเบา หางของเธอห้อยลง มิโยคาตะ โนนาโกะนั้นดูกึ่งโกรธกึ่งเศร้า ตัวเธอจับเครื่องประดับหยินหยางที่อยู่ตรงผมของตัวเอง ส่วนริโอเน็ตต้านั้นโกรธอย่างเห็นได้ชัด
"อ่า โธ่เว้ย! ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้เนี่ย!?"
"ดิฉันไม่อยาก จะเชื่อ!"
ในขณะที่ทุกคนระบายความรู้สึกออกมา เพจิกะกลับรู้สึกว่างเปล่า เธอเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ว่ามันไม่ปกติเอามากๆ
ทุกคนรอบตัวเธอไม่มีใครยอมรับเรื่องที่กลายเป็นแบบนี้
ทุกสิ่งที่พูดเหมือนถูกเตรียมการมาก่อน แต่เธอได้ยินประโยคเหล่านี้จากที่ไหนมาก่อนนะ? ถ้อยคำเหล่านี้เธอเคยได้ยินจากที่ไหนกันแน่?
"อย่างที่ดีเทคเบลพูด เมจิคัลเดซี่ นั้น ตายในชีวิตจริงแล้วสินะ" มิโยคาตะพึมพำ
"พวกเราไม่ควรตัดความเป็นไปได้ที่ว่า มีสายลับของมาสเตอร์อยู่ในหมู่พวกเรา ใครกันนะที่ร่วมมือกับเธอแบบลับๆ" ริโอเน็ตต้าคิด
"ฉันอยากจะพูดว่าพวกเราไม่ควรเชื่อใจใคร แต่ฉัน.."
"ถ้าไม่ว่าอะไรฉันขอถามอะไรอีกอย่างได้ไหม?"
พีเฟิลพูดต่อจากดีเทคเบลที่ด้านหน้าของรูปปั้นเมอร์เมด
"แม้การพูดเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกเวลาในตอนนี้ แต่ฉันจะพูดเพราะมันไม่ถูกนี่แหละ
เพจิกะสบตากับเธอ ทำไมพีเฟิลถึงยิ้มให้เพจิกะนะ? เพจิกะหลบตาอย่างกลัวๆ
จิตใจเธอมันเป็นแบบไหนกันนะ? ที่ทำให้เธอยิ้มในเวลาแบบนี้ได้
พีเฟิลตะโกนออกมาด้วยเสียงดังสนั่นไปทั้งเมือง
“ฉันอยากให้ทุกคนร่วมมือกัน!”
ทุกคนตั้งใจมองมาที่เธอและเธอก็พูดต่อโดยไม่ลังเล
“หลังจากที่ฉันล็อกอินเข้าเกมมา และกำลังรวมตัวกับคนในปาร์ตี้ แต่หนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ของฉัน มาสก์วอนเดอร์กลับถูกฆ่าตาย! หากความตายในเกมส่งผลไปถึงความตายในชีวิตจริง ก็หมายความว่าตอนนี้เธอตายแล้ว ”
เมื่อพูดจบประโยค เธอก็พึมพำอะไรซักอย่าง
“ก่อนที่จะล็อกเอาท์ออกครั้งล่าสุด ฉันให้ไอเท็มจากกิจกรรมที่ฉันชนะกับเธอไป
ไอเท็มทั้งหมด รวมถึงเมจิคัลแคนดี้ถูกขโมยไป! คนร้ายมันนำหน้าเราไปแล้ว!”
“เป็นไปไม่ได้หรอก!”
เมจิคัลเกิร์ลชุดสีฟ้าตะโกน
“มาสก์วอนเดอร์น่ะเป็นเมจิคัลที่แข็งแกร่งสุดๆนะ! เธอไม่ถูกฆ่าง่ายๆแบบนั้นหรอก!”
"มีเพียวเมจิคัลเกิร์ลเท่านั้นที่อยู่ในเกมนี้ การที่แข็งแกร่งไม่ได้หมายความว่าจะไม่ถูกฆ่านะ"
พวกเธอปฎิเสธคำพูดของพีเฟิลไม่ได้ เมจิคัลเกิร์ลรู้สึกแย่ ใบหน้าของเธอดูบิดเบี้ยวและกำหมัดแน่น ตัวเธอสั่นด้วย ดีเทคเบลเอามือของตัวเองวางบนไหล่ของเธอ คุยกับเธอ อาจจะพยายามปลอบโยนเธออยู่
หลายๆคนส่งเสียงเอะอะแต่มันก็ไม่แปลก เพราะต้องฟังคำพูดชวนโมโหของฟาล แล้วยังมีเรื่องอื่นออกจากไหนก็ไม่รู้ท่ามกลางความวุ่นวายนี้อีก
"เธอแน่ใจรึเปล่าว่าไม่ได้โดนมอนเตอร์ฆ่าเอาน่ะ?"
คำถามของริโอเน็ตต้านั้นตรงประเด็น เพราะเมจิคัลเดซี่เป็นตัวอย่างให้เห็นในเรื่องนี้แล้ว และมันก็เป็นปกติที่มอนเตอร์จะไล่ล่าผู้เล่น
“ที่พื้นที่ทุ่งร้างน่ะมีแค่สเกเลตันธรรมดา ฉันยืนยันได้ว่าเธอไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะโดนพวกนั้นฆ่าได้หรอก อีกอย่างนึง…ตรงนี้มีคนในปาร์ตี้เดียวกับเมจิคัลเดซี่อยู่ไหม?”
เมจิคัลเกิร์ลชุดเมดอายุประมาณ 10 ปี ยกมือของเธอขึ้น พีเฟิลเข้าไปหาเมดคนนั้นและถามคำถาม
“เกิดอะไรขึ้นกับไอเท็มและแคนดี้ของเมจิคัลเดซี่เหรอ?”
“เอ่อ…คือ…ก็…พวกเราคิดว่ามันมีประโยชน์ ก็เลย…เอ่อ…อ่า… หลังจากที่พวกเรา อ่า…คุยกัน…พวกเราตัดสินใจแบ่ง…ให้ทุกคน…ค่ะ”
เธอพยายามพูดให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งมันยากแน่นอน
การเอาของจากศพนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเช่นกัน
หลังจากที่เธอพูดจบแล้ว เมดคนนั้นก็ถอยกลับไปซ่อนที่ด้านหลังของเมจิคัลเกิร์ลชุดจีน
แบบนั้นทำให้ตัวเล็กๆของเธอดูเล็กลงไปอีก
“ได้ยินรึเปล่า?”
พีเฟิลยกมือขึ้นแล้วโบกไปรอบๆ
“เมจิคัลเดซี่ถูกมอนเตอร์ฆ่าตาย แต่ไอเท็มกับเมจิคัลแคนดี้ของเธอยังคงอยู่ในเมจิคัลโฟน ในขณะที่เมจิคัลโฟนของมาสก์วอนเดอร์นั้นไม่มีไอเท็มและแคนดี้เหลืออยู่เลย นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุดว่ามีใครซักคนขโมยมันไป”
ริโอเน็ตต้า, แคลนเทล, มิโยคาตะ โนนาโกะ และแม้กระทั่งเพจิกะ ทั้ง 4 คนมองหน้ากัน
เมื่อเข้ามาในเกมอีกครั้ง ทุกคนควรจะปรากฏตัวที่จุดเริ่มต้นของเจ้าตัว
กลุ่มของเพจิกะนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเธอเข้ามารวมตัวกันทันที ใครจะมีเวลาไปฆ่าและขโมยของจากเมจิคัลโฟนของคนอื่นได้กันล่ะ?
แน่นอนว่าเพจิกะไม่ใช่คนทำ และเธอคิดว่าทั้งสามคนก็ไม่ได้ทำด้วย อย่างน้อยคนร้ายก็ไม่น่าจะอยู่ในปาร์ตี้ของเพจิกะ
"ฉันขอให้คนร้ายเผยตัวออกมาซะ! หลังจากที่พวกเราล็อกอินเข้ามาครั้งนี้ พวกเราได้รู้ความจริงเรื่องชีวิตและความตายในเกมนี้แล้ว! มาสก์วอนเดอร์ตายเพราะเกมนี้ไม่ใช่เธอ! ดังนั้นก็เผยตัวออกมาได้แล้วฉันไม่โทษเธอหรอก!"
ไม่มีใครตอบสนองมีเพียงเสียงพึมพำเท่านั้น
และพีเฟิลก็เอาเมจิคัลโฟนของตัวเองออกมา
"ถ้างั้นฉันจะตรวจดูเมจิคัลโฟนของทุกคน เมจิคัลโฟนของคนร้ายต้องมี มิราเคิลคอยน์
ของมาสก์วอนเดอร์อยู่ข้างใน"
มีเสียงซุบซิบมากขึ้น แคลนเทลหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินออกมาด้านหน้า
“ข่มขู่เพื่ออะไรน่ะ จะล่าแม่มดกันรึไง?”
“ไม่คิดว่ามันเหมาะดีเหรอ ล่าแม่มดที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเหล่าเมจิคัลเกิร์ลน่ะ?”
ด้วยคำพูดนั้น แคลนเทลก็จ้องไปยังตาของคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง ราวกับทั้งคู่จะดวลกัน
พีเฟิลทำคอของตัวเองให้โล่งและเปลี่ยนคำพูด
“เมจิคัลเกิร์ลผู้ไร้ข้อผิดพลาด เมื่อเข้ามาในเกมนี้แล้วคงเลือกเดินทางที่มืดมิดสินะ
ในอีกแง่คือต้องการให้ผู้เล่นสู้กันเอง ตอนนี้ควรจะเผยตัวได้แล้ว ฉันขอแค่มิราเคิลคอยน์คืนเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นจะไม่ถือโทษ และปิดคดีแค่นั้น
แต่ถ้า…เลือกที่จะไม่เผยตัวล่ะก็น่าเป็นห่วงแล้วล่ะ”
“หมายความว่ายังไงน่ะ?”
“หมายความว่าในหมู่พวกเรามีหมาป่าที่สวมหนังแกะอยู่
พวกเราไม่ควรตัดความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในเมจิคัลเกิร์ลที่อยู่ที่นี่
กำลังเคลื่อนไหวตามคำสั่งของมาสเตอร์อยู่”
แคลนเทลไม่ได้ตอบอะไร พีเฟิลจึงพูดต่อ
“คนร้ายน่ะอาจะปะปนอยู่กับผู้บริสุทธิ์ก็ได้ คิดว่าเป็นไปได้รึเปล่าล่ะ?” เธอถามฟาล
ฟาลไม่พูดอะไร ยังคงเงียบและลอยอยู่กลางอากาศเช่นเคย
"ฟาล นายบอกว่าจะพูดแต่ความจริง แต่ตอนนี้กลับไม่ตอบคำถามฉันเนี่ยนะ เพราะแบบนี้ฉันถึงอยากจะทำให้หายสงสัยไง ตอนนี้คนร้ายก็ยังไม่อยากเผยตัวงั้นสินะ?"
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
"จะพูดอีกครั้งนะ เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ฉันก็เลยจะตรวจสอบเมจิคัลโฟนของทุกคน ถ้าเธอเป็นหนึ่งในเมจิคัลที่ถูกบังคับให้อยู่ที่นี่แบบพวกเราล่ะก็ แค่โชว์ไอเท็มก็คงไม่เป็นปัญหาสินะ"
แคลนเทลนั่งอยู่ที่พื้นและมองไปที่พีเฟิล ถ้าเป็นเพจิกะล่ะก็ เธอคงบ่อน้ำตาแตกถ้าโดนจ้องแบบนั้น แถมพีเฟิลเองยังมองกลับมาแบบนิ่งๆได้ด้วย
แคลนเทลขว้างเมจิคัลแบบโกรธๆไปที่เธอ และพีเฟิลก็จับมันด้วยมือข้างเดียว
เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้น ทุกคนมองไปที่ทั้งสองนั้น
“ขอบคุณ น่าชื่นชมจริงๆ"
พีเฟิลตรวจดูเมจิคัลโฟนของแคลเทล
"อ่า ไม่มีปัญหา ไม่มีมิราเคิลคอยน์อยู่ เอาล่ะ กันไว้ก่อนดีกว่า
เธอจะดูเมจิคัลโฟนของฉัน ด้วยไหม?”
เธอคืนเมจิคัลโฟนของแคลนเทลกลับไป พร้อมๆกับส่งเมจิคัลโฟนของตัวเองไปด้วย แคลนเทลรับมันแบบเงียบๆ
“…ไม่มีอะไรน่าสงสัย”
หลังจากตรวจดูแล้วเธอก็ส่งเมจิคัลโฟนคืนกลับไป
“เอาล่ะ ฉันขอร้องนะ อยากให้ทุกคนทำแบบเดียวกัน ตอนนี้มีแค่คนร้ายเท่านั้นที่ควรจะมีปัญหา ถ้าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก”
“ทำไมเธอสงสัยพวกเราล่ะ?”
“แล้วจะมีคนพูดความจริงงั้นเหรอ?”
เสียงบ่นออกมามาก แต่เหมือนว่าทุกคนรวมสรุปว่าไม่ถูกสงสัยจะดีกว่า
เพจิกะเองก็ไปเข้าแถวเหมือนกับคนอื่น
พีเฟิลตรวจดูเมจิคัลโฟนของเธอ เพจิกะนั้นไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนร้ายเลย เธอกระวนกระวายจนกระทั่งพีเฟิลยืนยันและคืนเมจิคัลโฟนกลับมาให้เธอ
พีเฟิลเองก็ตรวจดูเมจิคัลโฟนของนางพยาบาลสีดำที่เป็นสมาชิกในปาร์ตี้ตัวเองเหมือนกับที่ทำกับ แคลนเทลด้วย
ทำไมเธอต้องตรวจดูเมจิคัลโฟนของคนในปาร์ตี้ตัวเองด้วยล่ะ? ก็เป็นเพื่อนร่วมทีมของมาสก์วอนเดอร์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
ทันใดนั้น เพจิกะก็นึกความเป็นไปได้อื่นขึ้นมา
เธอพูดว่าไอเท็มทั้งหมดของมาสก์วอนเดอร์ถูกขโมยไป ด้วยใบหน้านิ่งๆที่ดูใสซื่อ
เมื่อเพจิกะคิดถึงความเป็นไปได้นั้น เธอก็รู้สึกผวา
คนแล้วคนเล่าที่ถูกตรวจสอบ แถวที่อยู่ด้านหน้าพีเฟิลหายไปอย่างช้าๆ และทุกคนก็กลับไปที่ๆตัวเองเคยอยู่
พีเฟิลพูดขึ้นที่มุมหนึ่งของเมือง
“เอาล่ะ ฉันตรวจสอบทุกคนแล้วยกเว้นเธอ ถ้าเธอไม่ใช่คนร้ายล่ะก็ ช่วยให้ความร่วมมือด้วย”
เพจิกะมองไปทางที่พีเฟิลพูด เธอเห็นเมจิคัลเกิร์ลซามูไร ที่ถือคาตานะอยู่ในมือขวา
เพจิกะจำเธอได้ไม่เคยลืม เพจิกะพบกับเธอตั้งแต่เริ่มเกม เธอกำจัดสเกเลตันแล้วก็คว้าคอเพจิกะด้วยความตั้งใจที่จะฆ่าทิ้ง
“ว่าไง?”
พีเฟิลเร่งเธอ เมจิคัลเกิร์ลซามูไรนั้นไม่ขยับเขยื้อน ไม่เหมือนว่าจะไม่ได้ยินด้วย
สายตาของเธอมองตรงมาที่พีเฟิล คาตานะในมือขวาของเธอสั่นเบาๆ
“มาสิ ช่วยเร็วหน่อย ทุกคนรอเธออยู่นะ”
รู้สึกเหมือนว่ามีลมพัดผ่านมา เพจิกะกลืนน้ำลาย เพจิกะสงสัยว่าทุกคนคิดเหมือนกันรึเปล่า
เมจิคัลโฟนของทุกคนถูกตรวจหมดแล้วแต่ก็ไม่ได้พบไอเท็มอะไร
นั่นหมายความว่า คนที่เหลืออยู่คนสุดท้ายต้องมีมันอยู่ใช่ไหม?
พีเฟิลยืดแขนของเธอ เมจิคัลเกิร์ลซามูไรก็ขยับตาม
ทุกคนกลั้นหายใจมองดู คาตานะของเธอยังอยู่ในมือขวา เพจิกะคิดว่าคงไม่มีใครที่กล้าพอจะเข้าหาเธอแบบนี้อีกแล้ว
"หวา หวา หวา ใจเย็นก่อน สาวน้อย"
เพจิกะตกใจ
มีเมจิคัลเกิร์ลคนหนึ่งเดินออกมา เธอสวมหมวกที่มีหูแมวอยู่ด้านบน ที่บังหน้าโปร่งใสนั้นลดลงมาปิดบังใบหน้าเธอไว้ ชุดสูทนั่นดูเหมือนหลุดมาจากหนังแนวไซไฟ
เธอดูเหมือนคนในหนังรีรันเกรดบีแบบโชว์โทคุซัตสึเลย
"ฉันรู้ว่าคนอื่นสงสัยเธอนะ ดังนั้นมาช่วยทำให้ทุกคนหายสงสัยกันไหม?"
เพจิกะนึกไม่ออกเลยว่าเธอใจเย็นกับคนที่น่าสงสัยแถมมีดาบอยู่ในมืออีกแบบนี้ได้ยังไง
เมจิคัลเกิร์ลชุดหนังเกรดบีวางมือของเธอลงบนไหล่ของเมจิคัลเกิร์ลชุดซามูไรแล้วก็ถูกปัดออก แล้วเมจิคัลเกิร์ลซามูไรก็จ้องไปที่เมจิคัลเกิร์ลชุดหนังเกรดบี
สายตามองไปที่เธอโดยตรง
"… เธอคือนักดนตรีรึเปล่า?"
“‘อะไรนะ?”
“นักดนตรี”
"อ่า ก็ ฉันคิดว่าก็ใช่นะ บางครั้งฉันก็ใช้โวคัลลอยด์ทำเพลงแล้วก็อัพโหลด—"
เธอเหวี่ยงคาตานะขึ้นอย่างรวดเร็ว
มีเสียงเฉือนอะไรซักอย่าง พร้อมกับเสียงของเหลวกระทบบางสิ่งเกิดขึ้น
ที่ด้านในที่บังหน้าของเมจิคัลเกิร์ลชุดหนังเกรดบีเต็มไปด้วยของเหลวสีแดง และเธอก็สลบไป
มีบางคนกรีดร้องออกมา
______________________________________________________________________________
☆ นกโกะจัง
“ใจเย็นก่อน”
พีเฟิลยื่นมือออกมา เธอคุยกับเมจิคัลเกิร์ลที่คือคาตานะ แต่คาตานะของเธอไม่ได้เปื้อนเลือด
มันเป็นสีเงินแวววาวสะท้อนแสงอาทิตย์
@เนี๊ยวเนี๊ยวพุ่งเข้าไปหาจีโนไซโคก่อนนกโกะจัง
“ใครก็ได้ช่วยจีโนไซโคด้วย! หมอ! เธอต้องการหมอ!”
“ใจเย็นก่อนนะ…ใจเย็นก่อน”
ถ้าวิ่งเข้าไปตอนนี้มันอันตรายเกินไป นกโกะจังเข้าใจว่า @เนี๊ยวเนี๊ยวเป็นห่วงจีโนไซโคมาก
แต่มันก็ยังอันตรายอยู่ดี
ถ้าเธอขยับอย่างกระทันหัน เจ้านักฆ่านั่นจะโจมตีอีกครั้ง
หากมีใครขยับ ก็จะมีคนตาย เกิดซ้ำไปซ้ำมา จนกลายเป็นห่วงโซ่แห่งความตาย
นกโกะจังต้องทำให้ตัวเองใจเย็นลง แล้วต้องกระจายความรู้สึกใจเย็นนี้ไปให้ @เนี๊ยวเนี๊ยว ต้องหยุดเธอเพื่อไม่ให้วิ่งเข้าไปหาจีโนไซโค
"ทำไมตอนนี้เธอไม่วางอาวุธลงก่อนล่ะ มาคุยกันอย่างสันติดีกว่า"
พีเฟิลยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอบอกให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้อย่างนิ่มนวล
ในเวลาเดียวกัน ก็มีลำแสงถูกยิงออกมา และถูกหั่นเป็นสองทางอย่างรวดเร็ว พยาบาลสีดำวิ่งรุดออกมาข้างหน้า แบกพีเฟิล และกระโดดหนี
พื้นดินที่พีเฟิลยืนอยู่ก่อนหน้านี้ถูกหั่นออกเป็นสองส่วน
นกโกะจังเป็นเมจิคัลเกิร์ลมากประสบการณ์ เธอเห็นเมจิคัลเกิร์ลแบบเธอต่อสู้มามากมาย แม้จะเป็นอะไรที่ดูลึกลับ เธอก็สามารถวิเคราะห์มันได้อย่างง่ายดายว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่ล้อวีลแชร์ของพีเฟิล มีเครื่องประดับรูปนกอยู่ มันอ้าปากและยิงลำแสงออกมา
ลำแสงนั้นถูกหั่นออกเป็นสองทันทีด้วยคาตานะของเมจิคัลเกิร์ลซามูไร
และเมจิคัลเกิร์ลซามูไรก็ขยับคาตานะไปหาพีเฟิลอีกครั้ง แต่นางพยาบาลสีดำนั้นก็กระโดดเข้ามาช่วยพีเฟิลจากด้านข้าง
ในขณะที่เธอวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น นกโกะจังก็วิ่งหลบไปยังด้านหลังอาคารพร้อมๆกันด้วย
มีเมจิคัลเกิร์ลบางคนเข้าร่วมโจมตีด้วย ในขณะที่พวกหนึ่งถอยไปหลบซ่อนในเงาของสิ่งก่อสร้างเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของศัตรู
ฉมวกยักษ์จำนวนมากทะลวงผ่านอากาศ แต่ก็ไม่มีอันไหนเหลือรอด
แนวตั้ง, แนวนอน, แนวทแยง
ทั้งหมดถูกหั่นเป็นสองท่อนก่อนที่จะถึงเป้าหมาย จนเกิดเสียงอันหนักอึ้งตามมาเมื่อหล่นลงสู่พื้น
เมจิคัลเกิร์ลซามูไรนั้นไม่ได้ขยับจากจุดเดิมที่ยืนอยู่เลย แต่ฉมวกทั้งหมดถูกหั่นและร่วงลงสู่พื้น
เมล็ดทานตะวันยักษ์พุ่งเข้าไปหาก็ถูกฟันทิ้ง
ก้อนหินที่ถูกโยนเข้าไปทั้งหมดก็ถูกฟันทิ้งเช่นกัน
บางทีคงเป็นการฟันจากระยะไกล สูทอมตะของจีโนไซโคไม่ได้ผลเพราะเธอถูกหั่นผ่านที่บังหน้า
ชุดสูทไม่มีความเสียหาย มีเพียงจีโนไซโคที่อยู่ด้านในเท่านั้นที่ถูกละเลงไปด้วยเลือด
ในอีกแง่ เธอสามารถฆ่าอะไรก็ได้ที่ตาเห็น ใบหน้าของจีโนไซโคนั้นอาจจะถูกบังไว้ด้วยที่บังหน้า
แต่เธอก็ยังสามารถมองเห็นใบหน้าได้อยู่ดี
นี่คือสิ่งที่นกโกะจังคิด เพราะแบบนี้นกโกะจังถึงทำอะไรไม่ได้เลย
หากโดนประชิดตัวเธอก็คงโดนฆ่า
ที่เงาของสิ่งก่อสร้างที่นกโกะจังซ่อนตัวอยู่ มีเมจิคัลเกิร์ลอีกคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ด้วย เธอนั่งกอดเข่าตัวสั่น เธอสวมหมวกสีขาวบนศรีษะ นกโกะจังไม่ได้คาดหวังอะไรกับเธอ
จากที่ซ่อนตรงนี้เธอมองไม่เห็นเมจิคัลเกิร์ลคนอื่นเลย
เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีเสียงการต่อสู้ก็หยุดลงแล้ว อาจจะแค่รู้สึกไปเองก็ได้
ไม่มีใครเคลื่อนไหว มีเสียงกึกก้องอยู่ภายในเมือง เสียงฟังดูเหมือนอะไรบางอย่างถูกลาก
เหมือนกับคอนกรีตเสียดสีกันอยู่ และเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
นกโกะจังเงยหน้ามองขึ้นมา สิ่งก่อสร้างที่เธอซ่อนตัวอยู่นั้นกำลังพังทลาย
ไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นเพียงแค่ครึ่งบน
ความสูงราวๆ 20 เมตร ส่วนความยาวนั้นเท่ากัน มันถูกหั่นครึ่งเป็นแนวทแยงมุม
มันกำลังร่วงมาทางนี้ หากเป็นแบบนี้เธอคงถูกทับแน่ แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ลก็จริงแต่แบบนี้มันไม่ปลอดภัย
นกโกะจังเตะเมจิคัลเกิร์ลที่ซ่อนตัวอยู่ข้างๆเธอให้พ้นทาง หลังจากนั้นเธอก็กระโดดไปอีกฝั่ง เท่านี้เธอก็หนีจากการถล่มของตึกได้ ส่วนเมจิคัลเกิร์ลอีกคนถูกเตะออกมา เธอหวังว่าคนๆนั้นจะปลอดภัย
ครึ่งบนของสิ่งก่อสร้างเมื่อถล่มลงมาถึงพื้นก็ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสียงของคอนกรีตที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงแบบนี้มันทำให้แก้วหูบาดเจ็บได้เลย
เพราะแรงสั่นสะเทือนจากเศษซากสิ่งก่อสร้างทำให้นกโกะจังนั้นพยุงตัวไม่ได้ ทำให้มือและขาของเธอจมลงไปในพื้นดิน
นกโกะจังมองผ่านกลุ่มควันขนาดใหญ่ เธอเห็นเมจิคัลเกิร์ลถือคาตานะยืนตระหง่านอยู่อย่างใจเย็น
"นักดนตรี…"
เธอพูดออกมาพร้อมถอนหายใจ และเงื้อดาบขึ้น ตอนนี้พวกเธออยู่ห่างกันราว 10 เมตร
เธอเหวี่ยงคาตานะลงมา และก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าขนาด 3 เมตรถูกหั่นครึ่ง
“หือ…?”
ถ้าเธอเหวี่ยงคาตานะลงในขณะที่นกโกะจังอยู่ในสายตา นกโกะจังก็ต้องถูกหั่นครึ่งไปแล้วสิ
แต่เพราะก่อนที่คาตานะจะเหวี่ยงลงมา สายตาของเธอถูกบดบังด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นมาอยู่ตรงระหว่างนกโกะจังและศัตรู
ดังนั้นแทนที่นกโกะจังจะถูกหั่นครึ่ง ก็กลายเป็นก้อนหินที่โดนหั่นแทน
“ไปให้พ้นเลยนะ รูว!”
@เนี๊ยวเนี๊ยวยืนอยู่ด้านหน้าของนกโกะจังด้วยท่ากังฟู ระหว่างนิ้วแต่ละนิ้วของเธอมีคัมภีร์เล็กๆอยู่
เธอจ้องไปที่ศัตรูและหายใจลึกๆ @เนี๊ยวเนี๊ยววิ่งออกไป ศัตรูเองก็เริ่มเงื้อคาตานะขึ้น
คาตานะเหวี่ยงลงมาในเวลาเดียวกันเธอก็ขว้างคัมภีร์ออกไป และมันก็หายไปด้วยการระเบิดเล็กๆ
หลังจากนั้นก็มีก้อนหินขนาดยักษ์ปรากฏขึ้น และมันก็ถูกหั่นครึ่ง
เศษหินที่ถูกทำลายร่วงลงมาทับซ้อนกันอยู่บนพื้น
คัมภีร์แต่ละอันของ @เนี๊ยวเนี๊ยวนั้นมีสัญลักษณ์ '@' อยู่ เมื่อขว้างออกไปแล้วมันก็เกิดระเบิดและกลายเป็นก้อนหิน
เมจิคัลเกิร์ลซามูไรส่งเสียงดังขึ้น มือซ้ายของเธอดึงดาบสั้น วาคิซาชิ ออกมา
เธอใช้ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วโป้งของมือซ้ายจับวาคิซาชิ แล้วเธอก็เหวี่ยงดาบทั้งสองมือนั้นด้วยความเร็วที่สายตามองตามไม่ทัน
ทั้งเฉือน ตัด และหั่น จนหินทุกก้อนกลายเป็นผุยผง ก่อให้เกิดฝุ่นควันสีขาวปกคลุมผืนทราย
มีลมพัดผ่านมา ทำให้ฝุ่นควันที่เต้นรำอยู่ในอากาศปลิวหายไปกับลม
เผยให้เห็นคนสองคนที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่
เมจิคัลเกิร์ลที่ถือไม้ถูพื้นนกโกะจัง และเมจิคัลเกิร์ลซามูไรที่ถืออาวุธอยู่ในมือทั้งคู่
แม้ว่านกโกะจังจะยืนอยู่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอนั้นจะสามารถทำอะไรได้
เธอไม่รู้ว่าจะโจมตีศัตรูยังไงเพราะอยู่ห่างออกไปตั้ง 10 เมตร
ดูจากการกระทำก่อนๆของเมจิคัลเกิร์ลซามูไร นกโกะจังรู้ว่าเธอต้องการอะไร คนๆนั้นเอียงคอ
นกโกะจังมองเห็นฟันของเธอ
เธอกำลังแสยะยิ้มอยู่
นกโกะจังรู้ว่าไม่มีทางที่จะป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกฆ่าจากการฟันได้เลย เพราะเหตุผลนี้เธอคนนั้นถึงแสยะยิ้ม
ทันใดนั้นดวงอาทิตย์ก็มืดลง เธอไม่รู็ว่า@เนี๊ยวเนี๊ยวตอนนี้นั้นอยู่ที่ไหน เธอไม่ได้กังวลอะไร
ตอนนี้เธอไม่สนใจเรื่องอะไรอีกแล้ว
ศัตรูตรงหน้านกโกะจังเดินเข้ามา ด้วยความตั้งใจฆ่าเต็มที่
เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นยิ้ม ยิ้มแบบไม่หยุด จนกระทั่งถูกสิ่งก่อสร้างทั้งหลังถล่มใส่จากด้านบน
นกโกะจังเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนของสิ่งก่อสร้างที่ตกลงมา คนที่ยืนอยู่ด้านบนก็คือ @เนี๊ยวเนี๊ยว
รอยยิ้มบนใบหน้าของเมจิคัลคนนั้น
แปรเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาหลังจากโดนบดขยี้ด้วยสิ่งก่อสร้าง
ถ้า @เนี๊ยวเนี๊ยว ไม่ได้อยู่ที่นี่ หากไม่ได้ก้อนหินของ @เนี๊ยวเนี๊ยว ที่มาปกป้อง
นกโกะจังคงถูกฆ่าตายไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ @เนี๊ยวเนี๊ยว ในตอนที่กำลังใช้คัมภีร์ของเธอปล่อยก้อนหินออกมาก้อนแล้วก้อนเล่า
ตัวเธอก็วิ่งขึ้นไปบนที่สิ่งก่อสร้างที่อยู่รอบๆ จากด้านบนเธอกระโดดและเรียก
สิ่งก่อสร้างของพื้นที่ทุ่งร้าง ออกมา
เพราะแบบนั้น นกโกะจังถึงไม่ถูกฆ่า นกโกะจังขอบคุณเธอแต่ตัวเธอก็ร้องไห้ไปด้วย
จีโนไซโคถูกฆ่าตาย
ทั้งสองคนมองไปยังที่ที่ร่างของเธออยู่หลังโดนฆ่า
แต่ร่างจีโนไซโคกลับไม่ได้อยู่ที่นั่น
มีเพียงเมจิคัลโฟนของเธอที่ถูกทิ้งเอาไว้บนพื้นเท่านั้น
______________________________________________________________________________
ฝั่งมาสเตอร์ #3
“ว่างายยย เป็นยังไงบ้าง~?”
“ฮึก โหดร้ายมาก ปอน, ทุกคนโกรธ ร้องไห้ แถมพยายามจะฆ่าเราด้วย ปอน, ถ้าไม่ใช่ภาพสามมิติล่ะก็ เราคงกลายเป็นชิ้นๆไปแล้ว ปอน ”
“งั้นเหรอ งั้นเหรอ”
เด็กผู้หญิงยิ้มแบบนิดๆ เธอใช้นิ้วชี้มือซ้ายแตะที่แว่นตาเพื่อปรับตำแหน่ง
“แต่ตอนนี้พวกนั้นได้รับข้อความจากชั้นแล้วใช่ไหมล่ะ? ชั้นแน่ใจว่าตอนนี้พวกเธอคงรู้แล้วล่ะว่า ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ชั้นคิดนะว่าพวกนั้นจะยังเล่นเกมต่อ ไม่มีใครปฎิเสธ
ไม่มีใครรังเกียจหรอก พวกเธอยอมรับว่าตัวเองถูกบังคับให้เข้ามาเล่นเกม”
เหมือนว่าเด็กผู้หญิงนั้นเตรียมจะพูดแบบยาวเหยียด ฟาลจึงตัดบทเธอ เด็กผู้หญิงกะพริบตาสองครั้ง และมองมาที่ฟาล
“อะไรน่ะ?”
“เรามีข้อเสนอล่ะ ปอน.”
“ชั้นฟางงงงอยู่~”
“ไม่คิดว่าตอนนี้ยังมีเวลาอยู่เหรอ ปอน?”
“เวลาอะไรล่ะ หืม?”
“ถ้าเธอยอมแพ้ตอนนี้ ดินแดนเวทมนตร์อาจจะลดโทษให้นะ ปอน”
“แล้วถ้าชั้นไม่คิดล่ะ?”
“เรายืนยันไม่ได้หรอกนะ ว่าเธอจะไม่ได้รับโทษตายน่ะ ปอน”
“หูย น่ากลัวจัง! เมคัลเกิร์ลน่ะจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ หากพวกเธอยังอยากเป็นเมจิคัลเกิร์ลใช่ไหมล่ะ?”
บทสนทนาหยุดลงตรงนี้
ฟาลและเด็กผู้หญิงคนนั้น ทั้งคู่จ้องกันและกัน
“ยังมีทางออกสำหรับเธออยู่นะ ปอน.”
“จะพูดอะไรอีกล่ะ หืม?”
เด็กผู้หญิงเอานิ้วของตัวเองมาม้วนผมด้านหน้า
แม้ว่าผมของเธอจะสั้น แต่ดูเหมือนเธอจะมีนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว
“มาสเตอร์ เราไม่คิดอะไรหรอกว่ามาสเตอร์จะปฎิบัติกับเรายังไง
เราไม่คิดอะไรด้วยหากมาสเตอร์จะหลอกลวงเราแบบไหน
เราไม่คิดอะไรหากมาสเตอร์ไม่สนใจคำพูดของเราด้วย ปอน
มาสเตอร์จะโทษเราว่าเป็นอาชญากรก็ได้ ปอน”
“ที่พูดนั่นหมายความว่ายังไงน่ะ?”
“บอกพวกเขาไปเลยว่าทั้งหมดฟาลทำเอง
บอกดินแดนเวทมนตร์ไปเลยว่า ‘มาสค็อตของชั้นมันรวบรวมเมจิคัลเกิร์ลมาและส่งเข้าไปในเกมแห่งความตาย’ พวกเขายอมรับและจะจัดการแน่”
“เฮ้!”
เด็กผู้หญิงหมุนเก้าที่นั่งอยู่ครึ่งรอบ ตัวของเธอหันไปทางฟาล
เพราะแรงเหวี่ยงจากการหมุนเก้าอี้ทำให้แว่นตาเธอเบี้ยว
เธอจึงใช้นิ้วกลางของมือซ้ายปรับมันอีกครั้ง
“ใช่ว่าชั้นจะเข้าคุกเพียงเพราะกลัวบาปของตัวเองหรอกนะ ตอนนี้ชั้นดูเป็นคนน่าเบื่อรึไง?
แหม ตัวชั้นในใจนายเนี่ยเหมือนเป็น เมจิคัลเกิร์ลที่โคตรน่าเบื่อ สินะ
แค่คิดว่าจะขอลดโทษกับเรื่องการกระทำของตัวเองนี่ก็น่ารังเกียจจนจะอ้วกได้แล้ว
ชั้นยินดีที่จะรับบาปทั้งหมดเอง”
“ถ้าเธอยอมแพ้ตอนนี้-”
“โอ้ย หุบปากได้แล้ว!”
เด็กผู้หญิงเอามือออกจากผมด้านหน้าของตัวเอง แต่ผมที่ไม่ได้ทรงก็กลับมาได้ทรงอีกครั้ง
“อย่ามาขัดขวางความยุติธรรมของชั้นสิ เจ้ามาสค็อต! มีเพียงเมจิคัลเกิร์ลที่แท้จริงเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เป็นเมจิคัลเกิร์ล แล้วมันมีปัญหายังไงล่ะ? ไม่มีไง! นั่นแหละ! หากเมจิคัลเกิร์ลที่ไม่คู่ควรกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลล่ะก็ การทดสอบของดินแดนเวทมนตร์มันก็พังหมดแล้ว
สิ่งที่แย่ที่สุดที่ควรจะโทษคือ ผู้หญิง คนนั้น แล้วรองลงมาอาจจะเป็น เด็กสาว ของเธอ
ไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”
เด็กผู้หญิงยิ้มให้ฟาล
“ชั้นให้เกียรติสิ่งที่พี่เลี้ยงสอนมา
นั่นคือหนทางที่ถูกต้องเพื่อที่จะกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่แท้จริงยังไงล่ะ”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 7.09 Arc 7 - ตอนที่ 9 - โรงเรียนแห่งสงคราม [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.08 Arc 7 - ตอนที่ 8 - วันนี้ไม่อยากกลับบ้าน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.07 Arc 7 - ตอนที่ 7 - HEART VS. HEART พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.06 Arc 7 - ตอนที่ 6 - กับดักแสนหวาน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.05 Arc 7 - ตอนที่ 5 - สถานที่ที่ฉันอยู่ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.04 Arc 7 - ตอนที่ 4 - โรงเรียนแห่งการต่อสู้ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.03 Arc 7 - ตอนที่ 3 - วิ่ง วิ่งไป วิ่งเข้าไป นักเรียนแลกเปลี่ยน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.02 Arc 7 - ตอนที่ 2 - ยืนตรง! เคารพ! นั่งได้! พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 7.01 Arc 7 - ตอนที่ 1 - ระฆังโรงเรียนคือสัญญาณแห่งการเริ่มต้น พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.513 Arc 6.5 - ตอนที่ 13 - บทเพลงไว้อาลัยแด่เมจิคัลบอย [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.512 Arc 6.5 - ตอนที่ 12 - เมจิคัลเกิร์ลแอสแซสซิเนชั่นโปรเจ็ค พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.511 Arc 6.5 - ตอนที่ 11 - ปฎิบัติการหนีจากแพททริเซีย พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.509 Arc 6.5 - ตอนที่ 9 - เจ้าหญิงแห่งชายหาด พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.508 Arc 6.5 - ตอนที่ 8 - ปีใหม่และเต่า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.507 Arc 6.5 - ตอนที่ 7 - เมจิคัลเกิร์ลในวันคริสต์มาสอีฟ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.506 Arc 6.5 - ตอนที่ 6 - เพจิกะกับการครุ่นคิดถึงความสุขในฤดูใบไม้ร่วง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.505 Arc 6.5 - ตอนที่ 5 - บันทึกการสร้างเมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจค พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.504 Arc 6.5 - ตอนที่ 4 - ทริค ออร์ เมจิคัลเกิร์ล พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.503 Arc 6.5 - ตอนที่ 3 - ไม่มีเมจิคัลเกิร์ลในงานชมดอกไม้นี้เลย พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.502 Arc 6.5 - ตอนที่ 2 - เมจิคัล ช็อปปิ้ง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.501 Arc 6.5 - ตอนที่ 1 - แม่มด กล่องข้าว และการแสดงความรัก พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.51 Arc 6.5 - ตอนที่ 10 - เซอร์ไววัลเกมแห่งนรกของโรงเรียนกวดวิชามาโอ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.1 Arc 6 - ตอนที่ 10 - ทุกสิ่งเพื่อเธอ [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.09 Arc 6 - ตอนที่ 9 - นักล่าเมจิคัลเกิร์ล พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.08 Arc 6 - ตอนที่ 8 - โจมตีมันด้วยทุกอย่างที่เรามี พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.07 Arc 6 - ตอนที่ 7 - แม้เพียงปลายนิ้วก็มิอาจแตะต้อง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.06 Arc 6 - ตอนที่ 6 - ประกายแสงอันเป็นนิรันดร์ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.05 Arc 6 - ตอนที่ 5 - ของขวัญอันแสนคิดถึง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.04 Arc 6 - ตอนที่ 4 - สนามเด็กเล่นขององค์ราชินี พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.03 Arc 6 - ตอนที่ 3 - มาเป็นเพื่อนกันเถอะ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.02 Arc 6 - ตอนที่ 2 - สโนไวท์กับเด็กเลี้ยงแกะ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 6.01 Arc 6 - ตอนที่ 1 - การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในมือคู่นี้ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.711 Arc 5.2 - ตอนที่ 11 - สัมภาษณ์กับสวิมสวิม [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.709 Arc 5.2 - ตอนที่ 9 - อลิส อิน ฮาร์ดกอร์แลนด์ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.708 Arc 5.2 - ตอนที่ 8 - Guns or Roses? พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.707 Arc 5.2 - ตอนที่ 7 - เงื่อนไขในการดัดแปลงเป็นอนิเม พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.706 Arc 5.2 - ตอนที่ 6 - เจ้าชายของชมรม พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.705 Arc 5.2 - ตอนที่ 5 - ความกังวลของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.704 Arc 5.2 - ตอนที่ 4 - งานของนางฟ้ายากูซ่า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.703 Arc 5.2 - ตอนที่ 3 - รูปแบบของเมจิคัลเกิร์ล พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.702 Arc 5.2 - ตอนที่ 2 - ท็อปสปีดของท็อปสปีด พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.701 Arc 5.2 - ตอนที่ 1 - การต่อสู้ของอัศวินสาวผู้โดดเดี่ยว DIRECTOR CUT พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.611 Arc 5.1 - ตอนที่ 11 - เมจิคัลเกิร์ลสีฟ้ายุ่งชะมัดเลย [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.609 Arc 5.1 - ตอนที่ 9 - เอลฟ์แห่งหน่วยสืบสวน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.608 Arc 5.1 - ตอนที่ 8 - ชีวิตจริงของพวกเราถูกเติมเต็มแล้วงั้นเหรอ? พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.607 Arc 5.1 - ตอนที่ 7 - ทรีซิสเตอร์ไรซิ่งโปรเจค: restart พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.606 Arc 5.1 - ตอนที่ 6 - พริมูล่า ฟาริโนซ่า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.605 Arc 5.1 - ตอนที่ 5 - ยิ่งกว่าสามเศร้า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.604 Arc 5.1 - ตอนที่ 4 - มิตรภาพแห่งสายรุ้ง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.603 Arc 5.1 - ตอนที่ 3 - เพราะพวกเราอยากโค่นล้มมาโอ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.602 Arc 5.1 - ตอนที่ 2 - บทเพลงอันรวดเร็ว พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.601 Arc 5.1 - ตอนที่ 1 - แว่นกันลมและเต่า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.71 Arc 5.2 - ตอนที่ 10 - บางครั้งทามะก็เป็นแบบนี้ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.61 Arc 5.1 - ตอนที่ 10 - แฟ้มคดีของพลเอกพูคิน : คดีสังหารจอมเวท พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.5 Arc 5 - ตอนที่ 5 - ลาก่อนเพื่อนของฉัน [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.4 Arc 5 - ตอนที่ 4 - พุ่งทะยานผ่านเมืองใหญ่ ข้ามผ่านเหนือเทือกเขา พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.3 Arc 5 - ตอนที่ 3 - จับมือกับฉัน ณ สวนสนุก พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.2 Arc 5 - ตอนที่ 2 - ช่วงชิงโชคชะตา พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 5.1 Arc 5 - ตอนที่ 1 - เริ่มต้นอย่างเร่าร้อน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 4.6 Arc 4 - ตอนที่ 6 - นักล่าเมจิคัลเกิร์ล [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 4.5 Arc 4 - ตอนที่ 5 - โป๊กเกอร์เกม พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 4.4 Arc 4 - ตอนที่ 4 - ฉันคือคนร้าย พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 4.3 Arc 4 - ตอนที่ 3 - การพบพานอันแสนมหัศจรรย์ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 4.2 Arc 4 - ตอนที่ 2 - ทุกคนรวมพล พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 4.1 Arc 4 - ตอนที่ 1 - เหนือกว่าปริซึม พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.12 Arc 3 - ตอนที่ 12 - เมจิคัลเกิร์ลในตัวคุณ [จบภาคปลาย] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.11 Arc 3 - ตอนที่ 11 - เพื่อนของฉัน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.1 Arc 3 - ตอนที่ 10 - ก้าวเดินบนสายรุ้ง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.09 Arc 3 - ตอนที่ 9 - ปีศาจท่ามกลางเปลวเพลิง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.08 Arc 3 - ตอนที่ 8 - การมาเยือน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.07 Arc 3 - ตอนที่ 7 - การจู่โจมของแม่มด พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.06 Arc 3 - ตอนที่ 6 - จุดเริ่มต้นของจุดจบ [จบภาคต้น] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.05 Arc 3 - ตอนที่ 5 - เผชิญหน้า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.04 Arc 3 - ตอนที่ 4 - ฮีโร่หรือไอดอล? พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.03 Arc 3 - ตอนที่ 3 - เด็กสาวที่หวนกลับมาจากคุกที่ลึกที่สุด พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.02 Arc 3 - ตอนที่ 2 - จมอยู่ในหัวใจและความรัก พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 3.01 Arc 3 - ตอนที่ 1 - ก่อตั้งหน่วยเมจิคัลเกิร์ล พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.515 Arc 2.5 - ตอนที่ 15 - เพื่อนของคุณแคลนเทล [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.514 Arc 2.5 - ตอนที่ 14 - ความทรงจำของเมจิคัลเกิร์ลสีฟ้า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.513 Arc 2.5 - ตอนที่ 13 - เมจิคัลเกิร์ลนอกรีต พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.512 Arc 2.5 - ตอนที่ 12 - คดีเนื้อวัวที่หายไป ~ แต่คุณเมดเห็นนะ ~ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.511 Arc 2.5 - ตอนที่ 11 - อัศวินในวันหยุด พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.509 Arc 2.5 - ตอนที่ 9 - มาเล่นกับท็อปสปีดกันเถอะ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.508 Arc 2.5 - ตอนที่ 8 - @เนี๊ยวเนี๊ยวในเมือง N พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.507 Arc 2.5 - ตอนที่ 7 - วอนเดอร์ดรีม พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.506 Arc 2.5 - ตอนที่ 6 - เชอร์น่า คริสต์มาส พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.505 Arc 2.5 - ตอนที่ 5 - เมจิคัลเดซี่ ตอนที่ 22 พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.504 Arc 2.5 - ตอนที่ 4 - ซอมบี้ เวสเทิร์น พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.503 Arc 2.5 - ตอนที่ 3 - ผลแห่งนางฟ้า พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.502 Arc 2.5 - ตอนที่ 2 - หุ่นยนต์กับแม่ชี พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.501 Arc 2.5 - ตอนที่ 1 - การผจญภัยของเนมุริน พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.51 Arc 2.5 - ตอนที่ 10 - อาคาเนะและครอบครัวเมจิคัลเกิร์ลอันแสนสุข พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.11 Arc 2 - ตอนที่ 11 - และอื่นๆอีกมากมาย [จบภาคปลาย] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.1 Arc 2 - ตอนที่ 10 - เพจิกะในโลกแห่งการสรรสร้าง พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.09 Arc 2 - ตอนที่ 9 - เหล่าเด็กสาว พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.08 Arc 2 - ตอนที่ 8 - ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.07 Arc 2 - ตอนที่ 7 - ความฝันของลาซูไลน์ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.06 Arc 2 - ตอนที่ 6 - ลบและบวก พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.05 Arc 2 - ตอนที่ 5 - สาวจีนกับมังกรยักษ์ [จบภาคต้น] พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.04 Arc 2 - ตอนที่ 4 - แคนดี้ลึกลับ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.03 Arc 2 - ตอนที่ 3 - นักสืบและคดีฆาตกรรม พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.02 Arc 2 - ตอนที่ 2 - อาหารอร่อยๆ ทำให้ทุกคนมีความสุข พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 2.01 Arc 2 - ตอนที่ 1 - สวัสดีเดซี่ พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 1.5 Arc 1.5 - Snow White Raising Project [จบภาค] พฤศจิกายน 19, 2023
MANGA DISCUSSION