ทาสอุปกรณ์อิเลคโทรนิค 3
บางทีนี่ผมกำลังโดนเพื่อนร่วมห้องกลั่นแกล้งอยู่สินะ
ตอนนี้ผมกำลังมีปัญหาแล้วล่ะ นี่ผมตกเป็นเป้าหมายของการกลั่นแกล้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย? ช่วงเช้าก่อนจะถึงเวลาโฮมรูม อยู่ๆซูซุริคาว่าก็ล้มลงหมดสติ ผมต้องใช้ความพยายามที่จะนำเธอไปยังห้องพยาบาล แต่นี่มันไม่ใช่ว่าควรจะเป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ในคณะกรรมการสุขอนามัยไม่ใช่เรอะ
คณะกรรมการสุขอนามัยควรที่จะต้องเป็นคนที่มีหน้าที่ไอ้เรื่องแบบนี้สิ ผมไม่ได้อยากที่จะให้เพื่อนร่วมห้องต้องมากดดันบอกให้ผมเป็นคนแบกเธอไปแบบนี้ซะหน่อย ผมเองก็เป็นห่วงซูซุริคว่าเหมือนกันนะ แต่ผมก็ไม่สมควรที่จะทำหน้าที่ซึ่งควรที่จะต้องเป็นของพวกสมาชิกคณะกรรมการสุขอนามัยสักหน่อย ผมจึงลังเล แต่กลับถูกทุกคนขอให้ทำอะไรแบบนั้นซะนี่ ไอ้พวกละเลยต่อหน้าที่เอ้ย!
แต่ก็จริงนั่นล่ะที่ผมนั้นเป็นห่วง เพราะงั้นผมจึงไม่ได้บอกหรอกว่ายินดีกับเรื่องนี้น่ะ แต่ผมเองก็ยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่ดี กลั่นแกล้งเรอะ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่หรอกน่า แล้วก็จากที่คุณพยาบบาลของโรงเรียนได้บอกมา ฮิรางิ ซูซุริคาว่า แค่นอนไม่พอก็เท่านั้น
เพิ่มเติมคือ ผมเองก็ถูกบอกแบบนี้เช่นกัน
“แล้วเธอเองก็นอนมาไม่พอเหมือนกันไม่ใช่รึไงกันเนี่ย? ทำไมเธอไม่พักงีบไปสักแป๊บนึงล่ะตอนนี้?” (พยาบาล)
ผมคงจะลงไปนอนหลับข้างๆเธอไม่ได้หรอกนะ ดังนั้นผมก็เลยนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเตียง
จากที่รู้จักกันมานานผมรู้ว่าซูซุริคาว่านั้น เป็นนักเรียนที่เอาจริงเอาจัง เธอนั้นไม่ใช่คนประเภทเรียนรู้ช้าในเรื่องการเรียนที่โรงเรียน ผมสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทำไมเธอถึงได้ทำแบบนั้น ผมหวังว่าเธอคงจะไม่ได้กำลังประสบปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ของเธออยู่หรอกนะ
ถึงแม้วาตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่ผมก็ไม่ต้องการที่จะเห็นเธอเป็นแบบนี้ ผมลูบหัวเธอไปอย่างแผ่วเบาในขณะที่มองดูหน้าของเธอ แล้วผมก็เกิดรู้สึกง่วงนอนขึ้นมา ให้ตายสิคุณแม่! แต่ไอ้ความรู้สึกนี้……อุฟฟ แย่แล้วนี่มันไม่ปลอดภัยแล้วถ้ายังอยู่ในสภาพนี้ต่อ
ผมสงสัยว่าทำไมว่าทำไมสภาพของพวกเราตอนนี้ถึงได้ดูคล้ายกันมากเลยนะ………. แล้วขณะที่กำลังคิด สติของผมก็ค่อยๆหลุดลอยและหลับไป
——————————————————————————————-
[มุมมองของ ฮิรางิ ซูซุริคาว่า]
“………หืมมม……นี่มัน………?”(ซูซุริคาว่า)
เพดานสีขาว กำแพงสีขาว พอฉันตื่นขึ้นมาฉันก็พบว่าตัวเองนั้นกำลังอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นตา ฉันรู้สึกเหมือนกับมีอะไรบางอย่างมากดอยู่ที่้ข้างเอวของฉันอยู่ แล้วก็ได้เลื่อนสายตาไปเพื่อที่จะดู ที่นั่นก็มี…….
“ยูกิโตะ……?”(ซูซุริคาว่า)
ยูกิโตะกำลังหลับอยู่ ตัวของเขาพิงหลับอยู่ที่ข้างเตียง แล้วฉันก็ค่อยๆเริ่มนึกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใช่แล้ว นี่ฉันล้มหมดสติที่หน้าห้องเรียนเมื่อตอนเช้านี่……….. แล้วถ้างั้นที่นี่ก็คือห้องพยาบาลสินะ? แล้วยูกิโตะที่มาอยู่ข้างๆฉันนี่ ก็หมายความว่าเขาเป็นคนที่พาฉันมาที่นี่งั้นเหรอ? ฉันสงสัยว่าเขาก็คงจะเป็นห่วงฉัน……..ฉันคงจะมีความสุขถ้ามันเป็นยังงั้น แล้วฉันก็รู้สึกโล่งใจขึ้นนิดหน่อย
ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เห็นก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ก่อนที่จะล้มหมดสติไป มันคือเขาที่กำลังกอดอยู่กับคามิชิโระ ในห้องเรียน นั่นมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไปพวกเขาถึงต้องทำแบบนั้นกัน? อันที่จริงคำตอบสำหรับคำถามพวกนั้นฉันมีมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แต่ความรู้สึกของฉันมันไม่อยากที่จะยอมรับมัน
“หา……..นี่เธอตื่นแล้วเหรอ ซูซุริคาว่า” (ยูกิโตะ)
แล้วยูกิโตะก็ตื่นขึ้น และเขาขยี้ตาของเขา ฉันคิดว่าที่ฉันล้มหมดสติไปเนื่องจากเป็นเพราะว่าฉันพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เขาก็ดูเหมือนจะมีวงสีดำรอบตาที่น่าจะเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยเหมือนกัน ฉันสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ หรือว่านี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เขาไม่ยอมอ่านข้อความของฉันรึเปล่านะ?
“นี่นายเป็นคนพาฉันมา……..ใช่ไหม? ขอบคุณนะ” (ซูซุริคาว่า)
“ก็มันไม่ดูเป็นปกติที่ควรจะเป็นตัวเธอเลยนี่นา ที่จะนอนไม่พอแบบนี้น่ะ ใช่ไม๊? มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“นี่มันความผิดนายนะ นี่นายเป็นอะไรของนายกันน่ะ ยูกิโตะ?” (ซูซุริคาว่า)
“ก็ใช่ ฉันกำลังมีปัญหากับการแยกเป็นอิสระจากการเป็นทาสของอุปกรณ์อิเลคโทรนิคของอยู่ฉันน่ะ” (ยูกิโตะ)
“นั่นมัน……..”(ซูซุริคาว่า)
ฉันนึกถึงตัวเองเมื่อวานนี้ เป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่ฉันได้ใช้เวลาในการกำโทรศัพท์เอาไว้ในมือเพียงเพื่อที่จะรอ ทาสอุปกรณ์อิเลคโทรนิคอย่างงั้นเหรอ
หรือบางทีเมื่อวาน ยูกิโตะก็คงกำลังสงสัยในตัวเองอยู่ว่าควรจะเปิดข้อความของฉันอ่านดีหรือไม่งั้นสินะ? ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เขาได้พูดมาเมื่อกี้นี้ก็เป็นความจริง งั้นนั่นก็คือสาเหตุที่ว่าทำไมยูกิโตะถึงได้พักผ่อนไม่เพียงพอ!
“บ้าจริง ฉันนี่มันช่างงี่เง่าซะจริงๆ” (ซูซุริคาว่า)
“ไม่หรอก ถึงท้ายที่สุด ไม่ว่าเธอจะคิดถึงมันซักเท่าไหร่มันก็ไม่มีคำตอบให้หรอกนะ” (ยูกิโตะ)
“มันมีสิคำตอบ แล้วฉันก็ได้คำตอบแล้วด้วย” (ซูซุริคาว่า)
บรรยากาศได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยมันดูอ่อนโยนลงกว่าปกติ ฉันหวังว่านั่นคงเป็นเพราะว่าเขานั้นกำลังเป็นห่วงฉัน ฉันสงสัยว่ามันนานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ น่าจะเกือบสองปีได้แล้ว มันช่างเป็นเวลาที่ยาวนานและเจ็บปวดที่แทบไม่อยากจะเชื่อเลย
ก่อนหน้านั้น พวกเราเคยที่จะพูดคุยกันแบบนี้อยู่เสมอ แล้วตอนนี้ฉันก็มีแค่เวลานี้เท่านั้นทีจะได้บอกกับเขา เอาล่ะฉันไม่สามารถทิ้งโอกาสที่มีนี้ให้หลุดลอยไปได้หรอก!
“ว่าแต่นายทำอะไรกับคามิชิโระซังในตอนเช้ากันน่ะ?” (ซูซุริคาว่า)
“โอ้ นั่นน่ะเหรอ มันช่างยากลำบากนะกับการที่จะดูแลทารกตัวเบิ้มน่ะ ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่ามันยากขนาดไหนสำหรับคนเป็นแม่” (ยูกิโตะ)
“แล้วมันหมายความว่าอะไรน่ะ?” (ซูซุริคาว่า)
“หืมมม? แล้วมันมีความหมายอะไรมากไปกว่านั้นด้วยเหรอ ใช่มะ?” (ยูกิโตะ)
ฉันจ้องไปที่หน้าของยูกิโตะ แน่นอนมันดูไม่ได้มีความหมายอะไรไปมากกว่านั้น นั่นคือสิ่งที่ใบหน้าของเขาบอกออกมา เขาก็ยังเหมือนเดิมเช่นเคย ฉันไม่ได้สำผัสถึงเจตนาอื่นใดเลยจากเขา
มันไม่มีสิ่งที่บอกบอกว่ารู้สึกผิดหรืออะไรเลย นั่นมันก็แปลกอยู่นะ แต่ในตอนนี้ฉันก็รู้สึกโล่งใจมากกับความจริงที่ว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่ฉันนั้นไม่ทันสังเกตุเลย
“เข้าใจละ งั้นก็ไม่เป็นไร” (ซูซุริคาว่า)
“มันก็ไม่ดีนา ฉันไม่ได้อยากที่จะเป็นคุณพ่อตอนนี้นะ” (ยูกิโตะ)
“คุณพ่อ? นี่นายกำลังพยายามจะทำอะไรกันล่ะนั่น?” (ซูซุริคาว่า)
อันที่จริงนี่มันก็เป็นห้องพยาบาลทำให้การสนทนาแบบนี้มันค่อนข้างที่จะน่าอาย แต่ก็เหมือนปกติ ผู้ชายตรงหน้าของฉันก็ยังคงดูไม่ได้สนใจอะไร เขาไม่ได้ดูจะใส่ใจอะไรเลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาสำหรับฉันที่จะมากังวลอะไรแบบนั้น ฉันคงไม่มีโอกาสอีกเหมือนตอนนี้ ถ้าฉันไม่บอกเขาไปตอนนี้ ฉันก็คงจะไม่มีวันที่จะได้บอกกับเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วฉันก็ถูกผลักดันด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจ ให้ตัวฉันคนนี้ต้องพูดเรื่องนั้นที่ฉันรอที่จะพูดมานาน แต่ฉันยังไม่สามารถพูดออกไป
“มีอะไรบางอย่างที่ฉันต้องการให้นายได้ฟังนะ” (ซูซุริคาว่า)
“นี่เธอหิวน้ำเหรอ? เดี๋ยวฉันจะไปเอาเกลือแร่ให้ดื่มนะ” (ยูกิโตะ)
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่อันนั้น ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะบอกนาย แต่ฉันคิดว่านี่คงจะเป็นเพียงโอกาสเดียวของฉัน” (ซูซุริคาว่า)
“แล้วมันคืออะไรเหรอ?” (ยูกิโตะ)
ฉันปรับท่าให้ตัวตั้งตรง ฉันจะต้องบอกมัน ฉันไม่สามารถที่จะไปต่อได้จนกว่าฉันจะได้พูดมันออกไป
“ฉันไม่ได้คบกับรุ่นพี่อีกต่อไปแล้วล่ะ พวกเราบอกเลิกกันไปแล้ว” (ซูซุริคาว่า)
“อะไรนะ?ไม่ เดี๋ยวก่อนนะ นี่เธอทำมันไปตอนไหนกันละเนี่ย?” (ยูกิโตะ)
“ที่จริงพวกเราทั้งคู่ไปด้วยกันได้แค่สองอาทิตย์เท่านั้น” (ซูซุริคาว่า)
“ไม่ ไม่ เดี๋ยว อะไรน่ะ? นั่นจะต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ ฉันจะเรียกว่ามันข่าวปลอม” (ยูกิโตะ)
ยูกิโตะดูจะฉุนเฉียว ยูกิโตะที่ทิ้งระยะห่างของตัวเองจากฉันไปเนื่องจากฉันนั้นไปคบกับรุ่นพี่ ดังนั้นด้วยเรื่องนี้ก็น่าที่จะทำให้พวกเราได้กลับมาเป็นเหมือนอย่างเดิมที่พวกเราเคยเป็น ที่พวกเราจะได้กลับไปเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันได้อีกครั้ง
“มันเป็นความผิดของฉันที่ไม่ได้บอกกับนาย! แต่ฉันเกลียดมันเวลาที่ฉันไม่สามารถที่จะคุยกับยูกิโตะได้อีกต่อไปน่ะ พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมจะได้ไม๊? กลับไปเป็นเพื่อนสมัยเด็กเหมือนอย่างที่เราเคยเป็นมากันเถอะนะ!” (ซูซุริคาว่า)
ฉันยังคงชอบนายอยู่เหมือนเดิม ยูกิโตะ ฉันรักนายตั้งแต่พวกเรายังเป็นเด็กๆเลยนะ! พอยูกิโตะได้บอกคำสารภาพว่ารักฉัน ฉันนั้นดีใจมาก ฉันต้องการที่จะบอกมันออกไปในทันทีเลย! แต่–” (ซูซุริคาว่า)
ฉันพร่ำพรรณาคำพูดพวกนั้นออกไปด้วยพลังที่มีของฉันทั้งหมด และมองไปยังหน้าของยูกิโตะตรงๆ แต่แล้วฉันหมดคำพูดลงตรงนั้น เนื่องจากสิ่งที่ได้เห็นจากใบหน้าของเขาที่แสดงออกมาในตอนนี้มันทำให้ฉันพูดต่อไปอีกไม่ได้ อารมณ์ของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาดูเย็นชาราวกับสวมหน้ากากโนะ(หน้ากากสีหน้าเรียบเฉย) ดูแล้วความสัมพันธ์ของเราไม่น่าจะเหมือนเดิมอีกต่อไป
“มันไม่มีทางหรอกที่ฉันจะกลับไปได้ ฉันไม่ได้คิดว่าเธอจะเป็นคนขี้โกหกแบบนี้” (ยูกิโตะ)
————————————————————————————
พวกเขาว่ากันว่าเมื่อเวลาที่คุณนั้นป่วย คุณจะรู้สึกอ่อนแอ และผมก็เดาเอาว่านั่นน่ะมันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้กับสถาพจิตใจในตอนนี้ ซูซุริคาว่า เช่นกันในตอนที่ผมนั้นผิดหวัง มันก็ช่วยไม่ได้ที่ผมนั้นจะเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอของตัวเองที่ไม่เคยแสดงออกมาให้เห็นเช่นกัน
เมื่อตอนผมเป็นไข้ ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปมากนัก พี่สาวถึงกับมาบอกกับผมบ่อยๆเลยว่า “นายเนี่ยดูยังเหมือนเดิมเลยนะแม้แต่ตอนป่วย” ผมคิดถึงสิ่งที่ซูซุคาว่านั้นได้พูดออกมา มันช่างเป็นปริศนาที่ใหญ่สำหรับผมว่าทำไมเธอถึงได้พูดเรื่องพรรคนั้นออกมาในตอนนี้กัน
“ก่อนอื่นเลย ฉันไม่สามารถกลับไปเป็นเพื่อนสมัยเด็กมันเธอได้ในตอนนี้หรอกนะ” (ยูกิโตะ)
“แต่ทำไมกันล่ะ? ทำไมพวกเราถึงกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนไม่ได้กัน?” (ซูซุริคาว่า)
“ก็เพราะว่าเดี๋ยวมันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นซ้ำไปซ้้ำมาไปเรื่อยๆน่ะสิ เธอเลิกคบกับรุ่นพี่และกลับมาอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กอย่างอีกครั้ง แล้วถ้าเกิดเธอไปเริ่มคบกับคนอื่นอีกครั้ง แล้วเธอจะเลิกกับเขาอีกครั้งไหม? นี่มันก็จะเป็นเรื่องที่วนซ้ำไปซ้ำมาอย่างไร้สาระ ตราบเท่าที่ฉันยังคงเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธออยู่ ฉันน่ะเป็นได้แค่เพียงอุปสรรคของเธอได้ แค่นั้น” (ยูกิโตะ)
มันจะเกิดขึ้นอีกรอบแน่ ความสัมพันธ์ของเพื่อนสมัยเด็กนั้นเป็นความสำพันธ์ที่หาได้ยากเมื่อเทียบกับกับความสัมพันธ์อื่นๆ ความสัมพันธ์นั้นดูจะแข็งแกร่งกว่าและพิเศษกว่า
และนั่นล่ะทำไมมันถึงได้มีปัญหา ถ้าหากว่าเกิดมีเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นเพศตรงข้ามแล้วล่ะก็ ความสัมพันธ์แบบนี้มันก็จะทำให้เกิดระยะและเป็นอุปสรรคกับการคบหากับคนอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“และเธอก็ยังคงชอบฉันอยู่ใช่ไหม? นั่นก็คงจะเป็นจุดที่โกหกล่ะสินะ? ไม่ใช่ว่าเธอไปคบกับเขาก็เพราะว่าชอบเขาหรอกรึ? หรือว่าเธอยอมคบกับเขาไปโดยที่ไม่ได้ชอบเขากันล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ไม่! ฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันไม่ได้โกหก!” (ซูซุริคาว่า)
มันต้องไม่ผิดแน่ๆที่ซูซุริคาว่านั้นจะต้องโกหกผม ถ้าเธอนั้นชอบมาตั้งนานแล้วทำไมเธอถึงจะต้องไปคบกับรุ่นพี่กันด้วยล่ะ?
ซูซุริคาว่า ผู้ที่ได้ตกลงความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ของเธอกลายเป็นคนรักกันไปตั้งนานแล้ว บอกออกมาว่าเธอนั้นยังคงรักผมอยู่ ฟังดูแล้วก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องไม่จริง ถ้าไอ้เรื่องที่พวกเขาเลิกกันไปแล้วผมก็พอจะเข้าใจได้นะ แต่ไอ้ที่เธอพูดออกมาเมื่อกี้นี้ที่ว่าเธอยังคงรักผมอยู่ ผมเชื่อมันไม่ลงหรอก
หรือว่านี่เธอรู้สึกแบบนี้กับเราทั้งสองคนมาตั้งแต่แรกแล้วงั้นเหรอ?
นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ผมนั้นถูกปฏิเสธไปแล้วอย่างแน่นอนและก็อกหักไปแล้วในตอนนั้น
“ซูซุริคาว่า ฉันน่ะไม่สามารถเชื่อใจใครก็ตามที่โกหกฉันได้หรอกนะ พวกเขาล้วนไม่มีค่าพอที่จะให้เชื่อถือ ก็นั่นล่ะคือทั้งหมดที่ผมอยากจะบอก กลับไปนอนต่อเถอะ ฉันจะกลับไปที่ห้องเรียนแล้ว”(ยูกิโตะ)
“นี่พวกเธอถ้าจะมาตะโกนแข่งกันก็ช่วยออกไปข้างนอกจะได้ไม๊?” (หมอ)
ผมก้มหัวให้กับหมอที่กำลังหงุดหงิดและหรี่ตาจ้องมา แล้วจากนั้นผมก็กลับไปที่ห้องเรียน
ผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นของห้องพยาบาลที่ลอยมาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นของซูซุริคาว่า
————————————————————————————
[มุมมองของ ซูซุริคาว่า]
ฉันทำได้เพียงรู้สึกช๊อคและมองดูเขาเดินจากไป ในที่สุดฉันก็รู้ตัว ในที่สุดฉันก็ได้เข้าใจในความคิดที่แท้จริงของเขาเสียที สิ่งที่ยูกิโตะพูดออกมานั้นน่ะมันถูกต้อง แล้วความรู้สึกเสียใจอย่างที่สุดเข้ามาชะโลมตัวฉันที่เต็มไปด้วยความผิดบาป มันไม่มีอะไรที่ฉันจะทำได้เลย -นี่ฉันควรจะทำยังไงกันดี?
เขาเรียกฉันว่าเป็นคนโกหก เขาพูดถูก คนโกหก ฉันที่พูดไปนั้นทำให้เขานั้นต้องได้รับความทุขทรมาณ และทำให้ฉันเองก็ต้องเจ็บปวดไปด้วย มันง่ายที่จะแก้ไขคำโกหก แต่ฉันกลับกลัวที่จะต้องเปิดเผยไปว่าทำไมฉันถึงต้องไปโกหก
หัวใจอันอัปลักษณ์ของฉัน ความเห็นแก่ตัว การลองใจคนอื่น ทำได้แค่เพียงทำร้ายคนอื่นๆในขณะที่ตัวฉันนั้นอยู่อย่างปลอดภัย ถ้าหากฉันเพียงแต่ซึ่อตรงต่อใจตัวเองได้ล่ะก็ ถ้าฉันเพียงแค่อดทนรอต่อไปอีกสักนิดล่ะก็ มันก็จะไม่ต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ในตอนนั้น ฉันใจร้อน ยูกิโตะ นั้นเป็นที่ป๊อปปุล่ามาก ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่เคยได้รู้ตัวเลยก็ตาม เขานั้นมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าใครๆทั้งหมด มีความเป็นผู้ใหญ่ในทุกๆด้าน เขานั้นพึงพาได้ อ่อนโยน ฉลาด และแข็งแรง ไม่มีทางที่เขาจะไม่กลายเป็นคนป๊อปปุล่าไปได้หรอก
ถึงแม้ว่าจะมีอะไรแปลกๆในนิสัยของเขา ในบางคำพูดของเขา และทำเรื่องไร้สาระออกไปบ้าง แต่นั้นก็เป็นเสนห์ที่ยากที่จะมีใครปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว ฉันรู้จักผู้หญิงหลายคนที่มาชอบเพื่อนสมัยเด็กของฉันคนนี้ คนที่มีเสห์แบบไม่ธรรมดา เหตุผลเดียวที่พวกเธอนั้นไม่สามารถมาสารภาพกับยูกิโตะได้ มันก็เพราะว่ามีฉันอยู่ตรงนั้น
นั่นล่ะคือเหตุผลที่ทำให้ฉันต้องแกล้งทำ………
ฉันมันแย่ที่สุด น่ารังเกียจ ขี้อิจฉา และน่าขยะแขยง
พอข่าวลือนั้นถูกกระจายออกไปในเรื่องที่ฉันนั้นคบกับรุ่นพี่แล้ว ผู้หญิงคนอื่นๆต่างก็รุมเข้าไปหาเขา หนึ่งในนั้นก็คือ ชิโอริ คามิชิโระ แต่ว่ายูกิโตะ ก็ได้ทุ่มเทตัวเองให้กับกิจกรรมชมรมไปเสียแล้ว เขาไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเขาเลยในตอนนั้น
แล้วช่วงเวลานั้น ตัวฉันเองก็ได้ติดพันอยู่กับใยแมงมุมแห่งคำโกหก ถูกบับคับด้วยความมาตรร้ายของของตัวเอง มันเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเรียกคืนได้
ถ้าฉันที่มีจิตใจที่อัปลักษณ์คนนี้เปิดเผยความจริงออกไปในตอนนั้น เหล่าผู้คนก็ต้องเริ่มรังเกียจฉันเป็นแน่ และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้มันลากมายาวไกลได้ขนาดนี้โดยที่ไม่ได้มีการพูดบอกอะไรไป ฉันไม่ได้มีความกล้า ฉันไม่ได้พร้อมรับมันและตอนนี้ฉันก็ได้ถูกประนามไปแล้วว่าเป็นคนโกหก
ถึงอย่างนั้น ฉันก็ได้พูดออกไปแล้ว ฉันได้ก้าวออกไปอีกก้าวแล้ว ในที่สุด ฉันก็ได้เข้าใจทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าหากฉันต้องการที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง ฉันคงต้องทำให้ยูกิโตะเกลียดฉันไปซะ!
ฉันต้องยอมรับความอัปลักษณ์ของตัวฉันที่มีต่อเข้าให้ได้ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะไม่สามารถที่จะกลับไปได้
“ฉันขอโทษ……..” (ซูซุริคาว่า)
นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะต้องขอโทษ
ดังนั้น จงเกลียดฉัน แล้วก็ค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งเถอะ
ครั้งนี้แหล่ะ ครั้งนี้มันจะเป็นความรักที่แท้จริงของ ฮิรางิ ซูซุริคาว่า คนนี้
จบ Vol 1.
MANGA DISCUSSION