เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ - ตอนที่ 30: ความหลังครั้งยังเคยเคียงกัน Part 3
- Home
- เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ
- ตอนที่ 30: ความหลังครั้งยังเคยเคียงกัน Part 3
ความหลังครั้งยังเคยเคียงกัน Part 3
[อดีต]
[มุมมองของ ฮินากิ ซูซุริคาว่า]
“ฮินากิ วันนี้น่ะไม่มีใครอยู่บ้านฉันเลยนะ มาด้วยกันสิ” (รุ่นพี่)
“เอ๊ะ……?” (ฮินากิ)
ฉันรู้สึกอึนๆ แล้วนี่ฉันก็คงจะบอกได้ว่านั่นน่ะคือสิ่งที่พวกคุณเรียกได้ว่าความรู้สึกที่ไม่ค่อยดี ฉันเหลือบตาไปมองคนข้างๆ คนๆนี้เป็นใครกัน? ทำไมฉันถึงจะต้องกลับบ้านกับคนๆนี้? ฉันถึงกับรู้สึกหนาวสั่นเมื่อเขาเรียกฉันว่า “ฮินากิ” ในแบบที่สนิทสนม แถมมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและน่าเกลียด ฉันรู้สึกได้เลยว่าสายตาของเขากำลังคืบคลานไปทั่วร่างกายของฉัน ราวกับว่าเขากำลังโลมเลียฉันอยู่ มันเป็นการจ้องมองที่น่าสยดสยองราวกับว่าร่างกายของฉันกำลังจะถูกกิน ใช่แล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นพี่ ถูกมั้ย? โอ้ย นี่คนๆนี้พูดอะไรกัน นี่เขาเพิ่งจะบอกให้ฉันไปที่บ้านของเขาเหรอ? แล้วทำไมฉันต้องไปล่ะ? รุ่นพี่คนนี้ยังคงเดินอยู่เคียงข้างฉันด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้ถึงใจจริงของฉัน
“พวกเราก็คบกันมาสองสัปดาห์แล้วใช่ไหมล่ะ? มันไม่ถึงเวลาแล้วเหรอ?” (รุ่นพี่)
“อะไรนะ……?” (ฮินากิ)
ถึงแม้ฉันจะรู้สึกไม่ดี แต่ว่าฉันก็ฟังคำพูดของรุ่นพี่ไปด้วยรอยยิ้มที่แหยๆบนใบหน้าของฉัน ท่าทางอันเอื่อยเฉื่่อยในสนทนาที่ดูไร้ประโยชน์ ทุกอย่างนี้มันทั้งเสียเวลาและความพยายาม
ฉันสงสัยว่าเขานั้นพอจะมีอะไรดีบ้าง คนๆนี้เป็นอะไรสำหรับฉันกัน เดี๋ยวก่อน นี่เขาชื่ออะไรนะ? ฉันคิดว่าฉันก็เคยได้ฟังอยู่ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญเลยกับฉัน และใจของฉันนั้นกลับล่องลอยกลับไปที่โรงเรียน นี่ฉันต้องกลับไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะต้องกลับไปเพื่อเจอยูกิโตะ! แต่ว่านี่ฉันดันกำลังเดินกลับบ้านกับรุ่นพี่ นี่ฉันทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?
และฉันก็ไม่เข้าใจตัวเอง ฉันไม่สามารถที่แม้แต่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ฉันรู้เพียงว่าฉันไม่อยากกลับบ้าน เพราะตอนนี้ฉันนั้นอยู่ในสถานะเหินห่างกับน้องสาวตัวน้อยของฉันมาได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้ว ฉันนั้นได้เผชิญหน้ากับความเป็นจริงจากทาโอริน้องสาวคนเล็กของฉัน เธอประณามฉันที่น่ารังเกียจและโง่เขลาอย่างที่สุด ทาโอรินั้นโกรธมาก
แม้แต่ในตอนนี้ ความโกรธของเธอก็ยังไม่ได้ลดลง ตรงกันข้าม มันกลับจะแย่ลงทุกวัน ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถที่จะลบล้างมันไปได้เลย ใช่แล้ว นี่คือความจริง ผู้ชายที่เดินเคียงข้างฉันตอนนี้คือแฟนของฉัน
– ฉันอยากปฏิเสธ ฉันขอปฏิเสธ ฉันเกลียดแบบนี้ ฉันเกลียดมัน!
สิ่งที่ต้องการในใจก็เข้ามาขูดถูร่างไปทั้งตัวของฉัน ฉันไม่อยากที่จะมีแฟนเป็นคนอื่นนอกไปจากยูกิโตะ ฉันไม่ได้ต้องการผู้ชายแบบนี้เป็นแฟน! แต่ว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่คนที่ได้มายืนอยู่ข้างๆฉันในตอนนี้ก็คือรุ่นพี่ ไม่ใช่ยูกิโตะ ฉันนั้นไม่ควรจะมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ เพราะฉันเองก็มีคำพูดและความรู้สึกที่อยากจะบอกยูกิโตะในตอนนี้นะ!
แล้วตั้งแต่นั้นมา ยูกิโตะก็ทำตัวราวกับว่าเหมือนฉันนั้นเหมือนกับไม่มีตัวตนอยู่อีกแล้ว เหมือนกับว่าพวกเรานั้นไม่เคยมีความสัมพันธ์กัน “มันจะไม่เป็นการรบกวนถ้าหากฉันอยู่ด้วยหรอกเหรอ?” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่พวกเราได้คุยกันแบบธรรมดาๆ
นี่นายโอเคอย่างนั้นเหรอ ยูกิโตะ? เวลาที่เราได้ใช้ร่วมกันมาตลอดจะจบลงด้วยประโยคเดียวนี้อย่างนั้นหรือ? ความผูกพันระหว่างเพื่อนสมัยเด็กมันเปราะบางได้ขนาดนั้นจริงๆหรือ?
แต่ว่าฉันก็เป็นคนจบมันลงไปเอง ฉันนั้นเป็นคนทำ แต่ฉันก็ไม่อาจจะยอมรับในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ได้ ดังนั้นฉันก็เลยต้องหนีความเป็นจริง ฉันนี่มันแย่ที่สุด รุ่นพี่ที่อยู่ข้างๆฉันสารภาพความรู้สึกกับฉันและฉันก็ได้ยอมรับมัน ใช่แล้ว เพราะฉันยอมรับมัน ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังคงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นเพียงเชื้อโรค
บางทีเขานั้นอาจจะรำคาญกับคำตอบที่ออกมาอย่างไม่ใส่ใจของฉัน รุ่นพี่ของฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมีพลังมากขึ้นเล็กน้อย
“ฮินากิกับฉันนี่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเหมือนกับคู่รักเลย ใช่ไหม?” (รุ่นพี่)
“อืม…… เรื่องแบบนั้นมันยังคงเป็น…….” (ฮินากิ)
“งั้นเหรอ แล้วเธอว่ามันควรเป็นตอนไหนล่ะ” (รุ่นพี่)
“ก็เมื่อ……” (ฮินากิ)
มันไม่มีทางที่วันนั้นจะมาถึง เพราะฉันไม่ได้รักเขา ฉันเกลียดเขา ฉันนั้นเกลียดเขาอย่างแน่นอน ฉันไม่ต้องการที่จะยอมถูกสัมผัส ฉันปฏิเสธที่จะจับมือเขาในตอนที่เขาพยายามจะจับมือฉัน พอลองนึกดู ในปีที่แล้ว ในวันเทศกาลฤดูร้อน ยูกิโตะนั้นพยายามที่จะจับมือฉัน มันน่าจะเป็นเพราะสถานที่นั้นเป็นที่ที่มีผู้คนแออัด ฉันรู้สึกมีความสุขมาก แต่ในขณะเดียวกันนั้น ตัวฉันเองก็แปลกใจมากที่ได้ปัดมือเขาออกไปด้วยความเขินอายอย่างไม่ได้ตั้งใจ และฉันรู้สึกเสียใจตั้งแต่นั้นมา แต่ถึงอย่างนั้น ยูกิโตะไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรเหมือนเช่นเคย แต่บางทีเขาคงจะถูกทำร้ายไปแล้วจากทัศนคติของฉันไปจริงๆ
ฉันนี่มันแย่ที่สุด ฉันแค่พยายามใช้ประโยชน์จากรุ่นพี่ของฉัน และฉันก็แค่ใช้คำสารภาพของรุ่นพี่เพื่อเป็นเกราะกำบัง ฉันก็แค่ใช้เขาเป็นเบี้ยในเรื่องของยูกิโตะ มันเป็นการกระทำที่น่าเกลียดมากเกินไป ความผิดและความรับผิดชอบนี้ทำให้คำพูดของฉันนั้นเปรียบได้เป็นแค่โคลนตม
“ฉันเองไม่ค่อยชอบเล่นเกมแข่งความอดทนนะ โอเค? เธอก็รู้ใช่ไหม?” (รุ่นพี่)
“คย้าา!” (ฮินากิ)
ทันใดนั้น รุ่นพี่ก็คว้าไหล่ทั้งสองของฉันเอาไว้ เขาผลักร่างกายของฉันเข้ากับผนังด้วยแรงของเขา นี่มันยังสว่างอยู่ แต่ก็ไม่มีใครอยู่รอบๆนี้ คนๆนี้พยายามจะทำอะไรน่ะ? นี่เขาจะทำอะไรกับฉัน? กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ก็ทำให้ฉันนั้นตื่นตระหนก คำถามมากมายผุดขึ้นมาในใจฉัน แต่ทั้งหมดที่ฉันนั้นรู้คือมันจะเลวร้ายที่สุดสำหรับฉันแค่นั้น
แล้วใบหน้ารุ่นพี่ก็ค่อยๆใกล้เข้ามา นี่เขาพยายามที่จะจูบฉันเหรอ? นี่เขาจะเอาไปจากฉันโดยที่ฝืนฉันแบบนี้เหรอ? แถมยังไม่ใช่ยูกิโตะอีกงั้นเหรอ? โดยคนที่ฉันยังไม่รู้จักเขานี้ดีพอเหรอ? สิ่งที่มีคุณค่าของฉัน…….
“ไม่ …… เดี๋ยวก่อน หยุดนะ!” (ฮินากิ)
เขานี้อยู่ในทีมฟุตบอลใช่รึหรือเปล่านะ ฉันสงสัย? ฉันจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขืน แต่ร่างกายของฉันกลับขยับเขยื้อนไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของรุ่นพี่ก็กำลังเข้ามาใกล้ฉัน ห้าสิบเซ็นติเมตร สี่สิบเซ็นติเมตร สามสิบเซ็นติเมตร และสุดท้ายก็ห่างออกไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร ใกล้จนฉันได้ยินแม้กระทั่งเสียงการหายใจของเขา และริมฝีปากของฉันก็…
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ฉันอยาก!” (ฮินากิ)
ฉันยกกระเป๋านักเรียนขึ้นระหว่างตัวฉันกับรุ่นพี่แล้วผลักเขาออกไป รุ่นพี่นั้นไม่ได้ล้มลง แต่เขาสะดุดและเสียหลักเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นกระทันหัน แล้วแววตาของผู้อาวุโสก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“อะไรน่ะ? เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?” (รุ่นพี่)
“ก็เพราะเป็นคุณนั้นล่ะ! คุณมันแย่ที่สุด!” (ฮินากิ)
“เลิกทำเป็นเล่นตัวได้แล้ว ยัยงี่เง่า!” (รุ่นพี่)
ฉันเป็นคนงี่เง่า ก็รู้อยู่แล้วล่ะ เขาแค่ชอบตัวฉัน และฉันก็ได้ใช้ประโยชน์จากมัน ที่เป็นในฐานะของแฟน ตัวฉันนั้นไม่ได้ยอมรับรุ่นพี่แต่อย่างใด เพราะฉันมันเป็นคนที่ขี้ขลาดมากเกินไป และนั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น ไม่ว่าเขาจะสาปแช่งฉัน ทำร้ายฉัน และตะคอกใส่ฉันมากสักเท่าไหน ฉันก็พูดกลับอะไรไม่ได้
แล้วฉันก็วิ่งหนึออกจากที่ตรงนั้นไป ถึงต่อให้วิ่งหนีความจริงที่มันอยู่ตรงหน้าไปอีกสักเท่าไร พยายามหนีความจริงมาจะอีกสักกี่ครั้งก็คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป แต่ฉันก็ไม่ได้อยากให้มันถูกพรากไปจากฉัน ถ้าสิ่งนั้นถูกพรากไปจากฉันแล้ว ตัวฉันเองก็คงจะไม่สามารถไปยืนอยู่ต่อหน้าเขาได้อีก การรักนวลสงวนตัวนั้นจะต้องถูกรักษาเอาไว้ให้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าน้องสาวฉันจะเยาะเย้ยฉันมากแค่ไหนที่เป็นแค่ผู้หญิงโง่ๆ ไม่ว่าน้องสาวจะตัดขาดฉัน หรือฉันจะเป็นคนขี้ขลาดสักแค่ไหน ฉันก็ยังไม่อยากให้เรื่องนั้นมันเกิดขึ้น
และเมื่อฉันกลับถึงบ้านแล้ว ฉันจึงส่งข้อความไปหารุ่นพี่ว่า “เราเลิกกันเถอะ”
แล้วฉันก็นั่งลงบนเตียงและกุมมือที่สั่นเทาไว้อย่างแผ่วเบา สิ่งที่ฉันนั้นทำมันก็เป็นเพียงวิธีที่สะดวกกับตัวเอง ด้วยที่จะไปอยู่ใกล้ๆตัวรุ่นพี่ของฉัน แต่แล้วเขาก็แค่ขอให้ฉันนั้นทำในสิ่งที่คู่รักควรทำ ซึ่งฉันปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น เป็นความผิดของฉันเองที่ดันไปยอมรับคำสารภาพของเขา และฉันก็ผิดอีกด้วยที่ทำตัวและแสดงท่าทางที่น่าเกลียด แล้วใครมันจะมาตกหลุมรักผู้หญิงแบบนี้กัน? ผู้หญิงที่ไม่มีความซื่อสัตย์และทำอะไรโง่ๆไป แบบนี้ก็ไม่สมควรแล้วที่จะยืนข้างยูกิโตะตั้งแต่แรก
ในทุกวันๆมันเป็นเหมือนกับฝันร้าย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันก็วนเวียนซ้ำอยู่กับวันที่ไม่สมกับความเป็นจริง ราวกับอยู่ในความฝัน แต่ต่อจากนี้ไปมันจะกลายเป็นฝันร้ายจริงๆแล้ว กับบทลงโทษของฉันที่พยายามแต่จะเอาเปรียบผู้อื่น
แต่หารู้ไม่ว่านรกที่แท้จริงนั้นเพิ่งจะกำลังเริ่มต้นขึ้น
———————————————————–
“ยูกิโตะ เคยได้ยินบ้างไหม? ซูซุริคาว่าซังน่ะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนายใช่รึเปล่า?” (มินากาว่า)
“นั่นมันเรื่องนานมาแล้วน่ะ” (ยูกิโตะ)
“แล้วมันไม่กวนใจนายบ้างหรอ” (มินากาว่า)
“ที่ฉันหมายถึงก็คือ พวกเขาก็คบกันแล้ว และไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะต้องทำอย่างนั้น เธอก็รู้นี่ ใช่ไหม?” (ยูกิโตะ)
“นายนี่ก็ยังเฉยเมยเหมือนปกติเลยนะ อย่างถึงอย่างนั้น ซูซุริคาว่าซังก็ดูไม่เหมือนคนประเภทนี้เลยนะ แต่เธอก็คงทำในสิ่งที่เธอต้องทำ” (มินากาว่า)
“ดูเธอจะดูสนใจเรื่องแบบนี้เอาซะจริงนะ” (ยูกิโตะ)
พวกเราอยู่ชั้นเรียนเดียวกันตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 1 และผมได้พูดคุยกับมินากาวะราวกับว่าไม่ได้สนใจมัน ผมไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมันนะ! ผมพยายามที่จะทำเสียงให้เหมือนกับพวกซึนเดเระ แต่ในความเป็นจริง ผมสนใจ สนจริงๆนะ..…ผมสนจริงจังเลยล่ะ เพราะตั้งแต่ที่ได้ยินมา ผมก็ไม่สนใจเรื่องอื่นแล้ว
ผมคือ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ ผู้ชายที่อุทิศตนให้กับการ DIY และบูชาให้กับ Home Depot ราวกับป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนความรักที่ผมนั้นมีต่อเธอนั้นไม่สามารถที่จะทำให้เหมือนโครงการ DIY ได้อีกแล้ว เมื่อความรู้สึกของคุณพังทลาย คุณก็ไม่สามารถซ่อมมันได้ นอกจากนี้แล้ว ผมกับซูซุริคาว่านั้นก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ในตอนแรกนั้นถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน แต่สุดท้ายแล้วเราก็กลายเป็นแค่คนแปลกหน้า ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างพวกเราอีกต่อไปแต่อย่างใด
“คุณซูซูริคาว่า ได้มีประสบการณ์ไปแล้วสินะ ถึงแม้ว่าจะเร็วไปหน่อยก็ตาม” (เพื่อนร่วมชั้น)
“เป็นอย่างนั้นเหรอ? แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นนา” (เซกินะ)
“เอ๊ะ ซากินะจัง เป็นไปได้ไหม……?” (เพื่อนร่วมชั้น)
“นั่นเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กผู้หญิงอายุเท่าเราหรือเปล่าเนี่ย?” (เซกินะ)
“ไม่ มันไม่ใช่นะ! เฮ้! นี่เธอทำอย่างนั้นไปแล้วจริงๆเหรอ ซากินะจัง?!” (เพื่อนร่วมชั้น)
“ฟุฟุ” (เซกินะ)
“เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!” (เพื่อนร่วมชั้น)
“ฉันอิจฉาให้กับความบริสุทธิ์ของ ซูซุริคาว่า กับรุ่นพี่มากเลย!” (เพื่อนร่วมชั้น)
“เฮ้ หยุดเหลวไหลได้แล้วน่า” (เพื่อนร่วมชั้น)
“หรือบางทีฉันควรจะบอกเธอด้วยเหมือนกันนะ” (เพื่อนร่วมชั้น)
“ถ้าเขาสามารถมีสัมพันธ์กับซูซูริคาวะได้ ฉันก็น่าจะยังมีโอกาส—-” (เพื่อนร่วมชั้น)
“””ไม่มีทาง!””” (เพื่อนร่วมชั้น)
ตอนนี้ทั้งชั้นกำลังพูดถึงเรื่องนี้ ฮินากิ ซูซุริคาว่า นั้นเป็นที่ค่อนข้างนิยมในหมู่นักเรียนปีสอง ข่าวที่เธอเริ่มออกเดทกับรุ่นพี่ในทีมฟุตบอลนั้นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนี้ ประมาณสองสัปดาห์ต่อมา ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดไปว่าเธอมีประสบการณ์ครั้งแรกกับรุ่นพี่แล้ว
ข่าวลือว่าเขามีเพศสัมพันธ์กับเธอได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในฐานะประเด็นร้อน เป็นหัวข้อที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กนักเรียนมัธยมต้นซึ่งเป็นวัยเริ่มต้นของวัยรุ่น มันไม่มีใครจะไปวิพากษ์วิจารณ์หรือใส่ร้ายเธอหรอก เพราะไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นคนไม่ได้ติดต่อกัน แต่เป็นเพียงแค่ว่าพวกเขานั้นให้ความสนใจเพียงอย่างเดียวจริงๆ ผมคิดว่ามันก็แค่นั้น
แล้วผมก็เงยหน้ายกมือขวาขึ้นไปในอากาศ ผมนั้นรู้จักซูซูริคาวะมาเกือบสิบปีแล้ว ลองนึกๆดู ปีที่แล้วตอนที่เราไปงานเทศกาลฤดูร้อน ผมพยายามจับมือเธอแล้วแต่เธอก็ปฏิเสธ
ในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก ที่พวกเราใช้เวลาร่วมกันมาเกือบสิบปี แต่ผมก็ถูกปฏิเสธที่ในการจับมือกับเธอ ในขณะที่เธอนั้นกลับยอมให้ตัวเองมีสัมพันธ์ทางเพศกับรุ่นพี่ ที่เธอนั้นเพิ่งจะออกเดทได้แค่ประมาณสองสัปดาห์ ผมเดาว่านั่นคือข้อแตกต่างระหว่างผมกับรุ่นพี่ของเธอ ความแตกต่างระหว่าง “ชอบ” เขา และ “เกลียด” ผม
มันช่างน่าสมเพชมากจนผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ ผมนี่มันช่างน่าอนาถจัง ถึงผมนั้นจะบอกว่าไม่ได้สนใจซูซุริคาว่าแล้วก็จริง แต่มันก็ช่างน่าขำนักกับตัวผมของเอง เวลาที่ผมนั้นได้สั่งสมมามันกลับไม่มีความหมายอะไร มันไม่มีค่าอะไรเลย ทุกอย่างเป็นศูนย์ และอันที่จริงแล้ว ผมเองก็มักจะผิดหวังอยู่แบบนี้เสมอ แม่ไม่ชอบผม พี่สาวก็ไม่ชอบผม ไม่มีสายใยของแม่-ลูก ไม่มีสายสัมพันธ์แบบพี่สาว-น้องชาย แล้วทำไมผมจะต้องถึงไปคิดว่าจะมีความผูกพันกับเพื่อนสมัยเด็กได้แบบนี้กันด้วยล่ะ?
ผมน่าที่จะรู้มาโดยตลอด ผมนั้นไม่ควรจะไปขอใครให้ “เป็นที่โปรดปราน” ของพวกเขา แล้วไอ้การที่จะ “ชอบ” ใครสักคนมันนี้ก็คงต้องเป็นความผิดพลาดเช่นกัน ผมคงไม่จำเป็นที่จะต้อง “ชอบ” ใครทั้งนั้น ดังนั้นผมจึงไม่คู่ควรที่จะต้องการมัน มันเป็นเพียงแค่ความน่ารำคาญ เป็นอุปสรรค เป็นเพียงแค่ค่าศูนย์หรือค่าติดลบสำหรับผม ไม่มีอะไรเป็นอย่างอื่น ผมจะต้องไม่คิดอะไร ผมไม่ควรคาดหวังอะไรเลย ผมไม่ควร แล้วอย่าได้มองหาใครอีก ผมต้องอยู่คนเดียวเพื่อที่จะไม่ต้องการใครอีก นั่นก็น่าที่จะเพียงพอแล้ว และมันก็คือทั้งหมดเท่าที่จำเป็นสำหรับตัวผม
ผมนั้นชอบ ซูซุริคาว่า ผมมั่นใจว่าผมนั้นชอบเธอ แล้วผมก็ส่ายหัว ผมนั้นถูกทรมานด้วยเสียงที่ผมไม่ได้ยินจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไร มันคงจะไม่มีอะไรมากไปกว่าอาการประสาทหลอนทางหู แต่ผมมั่นใจแล้วว่าผมนั้นได้สูญเสียอะไรบางสิ่งบางอย่างอีกครั้งแล้ว มันมีอะไรบางอย่างในตัวของผม บอกผมว่ามีบางได้อย่างแตกสลายลงไปอีกครั้ง
แล้วผมก็จำความรู้สึก “ชอบ” ซูซูริคาว่าไม่ได้อีกต่อไป
—————————————————————-
[มุมมองของ ทาโอริ ซูซุริคาว่า]
“นี่เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ พี่สาว!” (ทาโอริ)
ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าคนตรงหน้าฉันนี้เป็นพี่สาวของฉัน ฉันได้ทะเลาะกับพี่สาวมาเกือบอาทิตย์แล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เคยทะเลาะครั้งใหญ่ที่สุดแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็คือ วิธีที่ฉันนั้นมองเธอ ตอนนี้ฉันเห็นพี่สาวของฉันที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่สกปรก น่ารังเกียจ และแปดเปื้อน แทบไม่อยากจะคิดเลยว่าคนนี้คือพี่สาวของฉัน!
“นี่หมายความว่ายังไง คุณไปมีอะไรกับเขากัน! คุณน่ะมีพี่ชายอยู่นะ มันน่ารังเกียจ!” (ทาโอริ)
“เธอเข้าใจผิดนะ! ทาโอริ ฉันไม่ใช่ทำแบบนั้น—!” (ฮินากิ)
“ฉันไม่เชื่อ! คุณเป็นคนโกหก!” (ทาโอริ)
“ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นนะ! ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางกายกับ—-!” (ฮินากิ)
“อย่ามาแตะต้องฉันด้วยมือสกปรกๆของคุณนะ!” (ทาโอริ)
ฉันสะบัดมือของพี่สาวออกขณะที่เธอเอื้อมมือมาหาฉันอย่างช้าๆ ฉันนั้นยอมไม่ได้ ฉันไม่ยอมรับให้กับสิ่งที่เธอนั้นทำลงไปได้! ฉันเองก็ไม่อยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากพี่ชาย ฉันก็เลยต้องวิ่งออกไปถามไถ่ไปซะทั่วที่โรงเรียน และเพราะอย่างนี้ ฉันก็เลยได้พบว่ามันเป็นความจริงที่พี่สาวนั้นเริ่มคบกับรุ่นพี่ปีสาม
ไม่ใช่ว่าฉันนั้นสงสัยในตัวพี่ชายหรอกนะ ก็แค่ไม่อยากจะเชื่อ ฉันไม่อยากที่จะยอมรับในเรื่องที่ราวความฝันที่อันสวยงาม ที่ฉันได้ใฝ่ฝันไว้ ที่ในตอนจบมันควรที่จะต้องมีความสุขของเพื่อนในสมัยเด็กสองคนที่ได้รักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่สุดท้ายมันก็ได้ถูกทำลายลง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันได้ถามพี่สาวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่สิ่งที่เธอพูดออกจากปากนั้นกลับฟังได้ไม่ต่อเนื่องและเข้าใจได้ยาก เธอพยายามจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้ด้วยการแสดงออกที่คลุมเครือ และดูเธอยังคงครุ่นคิดและเสียใจกับมัน ฉันไม่สามารถที่จะเข้าใจได้เลย แล้วฉันก็ไม่ได้คุยกับพี่สาวมานานพอดูแล้ว
หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินข่าวลือมาว่า พี่สาวของฉันได้ไปมีอะไรกันกับรุ่นพี่ปีสามไปแล้ว เธอมีประสบการณ์เรื่องเพศนี้เป็นครั้งแรกกับรุ่นพี่ กับข่าวลือแบบนั้น และด้วยพี่สาวของฉันที่เป็นผู้หญิงที่สวย เธอเป็นที่รู้จักในแม้กระทั่งในหมู่พวกเรานักเรียนปีแรก ข่าวลือจึงแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วในหมู่พวกรุ่นน้อง และแน่นอนว่ามันก็ได้เข้ามาถึงหูฉันด้วยเช่นกัน
แหล่งที่มาของข่าวลือนั้นมันง่ายในการค้นหามาก ซึ่งดูเหมือนว่านักเรียนรุ่นพี่ที่กลายเป็นแฟนของพี่สาวของฉัน ได้คุยโวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันทำหวังว่าฉันนั้นจะเป็นคนแรกที่ต้องได้ยินเรื่องนี้จากพี่สาวที่ไปมีอะไรกับใครสักคน แต่ว่าฉันไม่สนใจอะไรเรื่องนั้นแล้ว และสิ่งที่ฉันไม่สามารถให้อภัยได้เลยก็คือมันไม่ใช่พี่ชาย และที่สำคัญที่สุดเพราะมันเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากการทรยศต่อพี่ชาย
“…… คุณคงจะไม่ได้ท้องใช่ไหม” (ทาโอริ)
“ท้อง!? ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะ!” (ฮินากิ)
พี่สาวของฉันหน้าซีดและตื่นตระหนก ฉันนั้นอยู่เกรดเจ็ดแล้วและก็ได้เรียนวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ฉันจึงเข้าใจในเรื่องเพศและการมีเพศสัมพันธ์นั้นมันคืออะไร มันเป็นการแสวงหาความสุขอย่างนึง แต่แก่นแท้ของมันนั้นก็คือการมีลูก
ฉันเองก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แต่ฉันก็รู้ว่าถ้าคุณไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน คุณก็จะสามารถมีลูกได้ ฉันที่กำลังมองไปที่การแสดงออกของพี่สาว ฉันไม่สามารถบอกได้หรอกนะว่าเธอนั้นกลัวการตั้งครรภ์หรือเธอนั้นไม่ได้ทำจริงๆ ฉันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอนั้นอยากจะทำอะไรกับพี่ชายกันแน่
ตอนนี้ฉันไว้ใจอะไรกับพี่สาวไม่ได้อีกแล้ว ฉันไม่อยากที่จะคิดว่าคนที่แปดเปื้อน คนที่ขี้โกหก นี้ว่าเป็นพี่สาวของฉันเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่รู้สึกเกลียดชังและขยะแขยงพี่สาวอย่างแท้จริง ฉันนั้นน่ะรักพี่สาวมาโดยตลอด แล้วเธอก็เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของฉัน มันไม่เคยมีอะไรจะทำให้ไม่ชอบเกี่ยวกับตัวของเธอ แต่ว่าในตอนนี้ฉันรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอ้วก
“งั้นก็ไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาพิสูจน์สิ!” (ทาโอริ)
“ฉันไม่ได้ทำนะทาโอริ ฉันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับเขา!” (ฮินากิ)
“ก็คุณคบกับรุ่นพี่แล้วนี่ใช่ไหมล่ะ? ก็เพราะคุณกำลังคบกับรุ่นพี่ มันก็จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณจะไปมีเซ็กส์ใช่ไหม? ทำไมคุณถึงปฏิเสธกันล่ะ? คุณมีเซ็กส์ใช่ไหม ทำไมไม่พูดตรงๆออกมา? คุณปฏิเสธพี่ชาย หักหลังเขา แล้วยกความบริสุทธิ์ของคุณให้กับรุ่นพี่ แล้วนั่นก็คือการเซ็กส์กับเขาไม่ใช่เหรอ?” (ทาโอริ)
“เธอเข้าใจผิดแล้ว! นั่นน่ะมันไม่เป็นความจริง–!” (ฮินากิ)
“ฉันเกลียดคุณที่ทรยศพี่ชาย” (ทาโอริ)
“ทาโอริ!” (ฮินากิ)
“ฉันจะไปบอกพ่อกับแม่!” (ทาโอริ)
“ได้โปรดนะอย่าทำอย่างนั้น!” (ฮินากิ)
แล้วพี่สาวของฉันก็ร้องไห้ทำให้ใบหน้าของเธอเลอะเทอะไปหมด แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร ฉันไม่ได้บอกพวกเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพราะว่าฉันเองยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ลองฉันได้ยินว่าคุณมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ฉันคงจะต้องบอกแม่และพ่อแล้วล่ะ
จากเรื่องนี้ ถ้าเธอจะตั้งท้อง มันก็จะเป็นจุดจบของชีวิตนักเรียนของเธอและทุกสิ่งทุกอย่าง เธอนั้นยังคงเป็นนักเรียนมัธยมต้น เลี้ยงลูกด้วยตัวเองไม่ได้ และถ้าเธอท้อง เธอจำเป็นจะต้องทำแท้ง เธอยังจะต้องไปคุยกับพ่อแม่ของคนที่ทำให้เธอท้องด้วย ไม่ว่าจะในกรณีใด ฉันกับพี่สาวจก็น่าจะจัดการเองได้อย่างไม่มีปัญหา
พ่อกับแม่ของพวกเรารู้ว่าพี่สาวของฉันนั้นชอบพี่ชาย เขานั้นเคยมาบ้านเราอยู่บ่อยๆ แต่เขาจะไม่มาอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าพ่อกับแม่นั้นก็รักเขาเหมือนกับลูก พี่ชายนั้นเป็นเหมือนคนในครอบครัวของฉัน และเนื่องจากเขานั้นก็คือพี่ชาย ฉันไม่เคยสงสัยเลยว่าจะต้องได้เขามาเป็นพี่ชายของฉัน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกจริงๆจากเธอ แต่ว่าเธอนั้นก็ได้ทรยศต่อความรู้สึกของฉัน!
“ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีกแล้ว!” (ทาโอริ)
“ฉันขอโทษทาโอริ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้นแบบนี้! นี่มันยิ่งเป็นการลงโทษฉันนะ! ดังนั้นได้โปรด–” (ฮินากิ)
แล้วหลังจากนั้นเธอก็ได้สารภาพทุกอย่างต่อหน้าครอบครัว เธอได้หลั่งน้ำตาให้กับความโง่เขลาของสิ่งที่เธอนั้นได้ทำลงไป แล้วเธอก็ได้เปิดเผยความรู้สึกที่เธอที่ต้องได้รับซึ่งเป็นการถูกทรมานจากความรู้สึกผิด พอได้ฟังคำพูดก็ได้ทะลักล้นออกมาแล้ว และพวกเขาทำแบบนี้ต่อไปอีกไม่หยุดมันซะ นี่มันช่างเห็นแก่ตัวเกินไป มันเป็นความเห็นแก่ตัวเกินไปที่เอาแต่ทำร้ายผู้อื่น
พี่สาวก็กำลังร้องไห้ แต่ว่ามันก็เป็นความผิดของเธอเองทั้งหมด ไม่มีข้อแก้ตัวให้กับข่าวลือที่แพร่กระจายเกี่ยวกับตัวเธอ และไม่ว่าเธอจะมีเพศสัมพันธ์กับเขาจริงๆหรือไม่ก็ตาม ถึงรุ่นพี่นั้นจะเป็นคนที่ขี้ขลาด แต่ว่าพี่สาวเองก็เป็นคนขี้ขลาดเหมือนกันอย่างไม่ต้องสงสัย รุ่นพี่และรุ่นน้องที่กำลังเดทกัน มันไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะมีเพศสัมพันธ์ กัน ซึ่งนี่มันก็เป็นสถานการณ์ที่เธอนันเป็นคนนำมาเอง
ในขณะที่ฉันมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ความคิดของฉันก็ได้หันไปที่พี่ชาย ข่าวลือนั้นแพร่สะพัดไปไกลมาก คิดว่าแม้แต่พี่ชายเองก็คงจะต้องรู้เรื่องนี้ด้วย ฉันสงสัยว่าเขานั้นจะกำลังคิดอะไรอยู่และเขาจะเจ็บปวดแค่ไหน หรือว่าเขาจะช็อคจนยอมแพ้ให้กัยตัวพี่สาวไปแล้วกัน?
พี่ชายนั้นน่ะเป็นคนดังมาก มันต้องมีผู้หญิงที่ดีอยู่อีกมากมาย ที่ดีมากกว่าพี่สาวที่ขี้ขลาดและน่ารังเกียจคนนี้แน่ๆ เป็นผู้หญิงที่จะไม่ทำร้ายเขาอีก เป็นผู้ที่จะทำให้เขานั้นได้มีความสุข และจะคอยมองแต่เขาเท่านั้น
“พี่ชาย ไม่อย่างนั้น คนๆนั้นจะขอให้เป็นหนูได้ไหม……? (ทาโอริ)
ฉันที่ได้หวังไว้ว่ามันคงจะดีกับฉัน ความรักครั้งแรกของฉันถึงมันจะไม่ผลิดอกออกผล แต่ฉันก็จะยินดีนะ ถ้าในวันนึงพี่ชายจะได้กลายเป็นพี่ชายตัวจริงของฉัน นั่นก็คงจะทำให้ฉันนั้นมีความสุข แต่ว่าสุดท้ายความรู้สึกที่ได้ปกปิดเอาไว้ก็เริ่มที่เอ่อล้นออกมาแล้วในตอนนี้
ถ้าเป็นฉันล่ะก็ ฉันจะไม่มีทางทำให้พี่ชายจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน