เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ - ตอนที่ 31: ชีวิตประจำวันกับการตามหาสิ่งที่หายไป
- Home
- เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ
- ตอนที่ 31: ชีวิตประจำวันกับการตามหาสิ่งที่หายไป
ชีวิตประจำวันกับการตามหาสิ่งที่หายไป
[มุมมองของ ของฮินากิ ซูซุริคาว่า]
ในระหว่างที่ฉันคุยกับคามิชิโระซัง ฉันก็ได้นึกกลับไปถึงสมัยที่ยังเรียนอยู่มัธยมต้นของฉัน มันเป็นอดีตที่อยากจะลบเลือน ข่าวลือเหล่านั้นก็ยังคงคอยตามหลอกหลอนฉันอยู่ ถ้าหากว่าฉันซื่อสัตย์กับตัวเองมากกว่านี้ มันก็อาจจะมีอนาคตที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงกับตัวฉัน และอย่างน้อยฉันก็จะได้ไม่ต้องทำร้ายใคร แม้แต่ทาโอริจังน้องสาวของฉัน ที่ก็อาจจะไม่ต้องถึงกับพูดความในใจของเธอออกมาแบบนั้น
ฉันยังคงบอกได้ว่าการการทะเลาะกันยกใหญ่ของฉันกับทาโอริจังนันยังคงเกิดขึ้นต่อมาอยู่เรื่อยๆ แม้กระทั่งที่ผ่านมาไม่นานมานี้ ซึ่งมันเกิดขึ้นอยู่ตลอดตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ทาโอริจังก็ได้ข่มขู่ใส่ฉัน และยิ่งพอฉันนั้นได้ยินเกี่ยวกับความรู้สึกจริงๆของเธอเป็นครั้งแรกด้วยแล้วนั้น ฉันก็รู้สึกประหลาดใจมาก ที่เธอนั้นยอมจะสละเก็บซ่อนรักแรกของเธอเอาไว้ให้อยู่ในใจ และทำทุกๆอย่างเพื่อที่จะสนับสนุนพวกเรา และนั่นจึงทำให้ได้รู้สึกว่าฉันนั้นก็ทรยศต่อเธอไปด้วยเหมือนกัน ถ้าหากเป็นฉัน ฉันก็คงไม่สามารถพูดอะไรออกได้เหมือนกัน ถ้าหากว่าพี่สาวฉันนั้นเป็นคนรักอยู่ก่อนตั้งแต่แรก และตอนนี้ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติอะไรพอที่จะพูดได้อีก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ได้พยายามทำอะไรมาตั้งหลายอย่างเพื่อที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับยูกิโตะ เธอนั้นน่ะเป็นน้องสาวที่ดีเกินไปสำหรับฉัน
“ฉันไม่สมควรที่จะได้รับมันหรอกนะ คามิชิโรซัง และเธอเป็นคนที่ได้รับมันมา มันก็ควรที่จะเป็นของเธอนะ” (ฮินากิ)
ชิโอริ คามิชิโระ ในตอนที่เธอโทรมาหาฉัน ฉันก็สงสัยอยู่ว่าเธอจะคุยเรื่องอะไร แต่กับสิ่งที่เธอนั้นได้พูดมากลับเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง เข็มกลัดที่เธอถืออยู่นั้น มันคือสิ่งที่ยูกิโตะพยายามจะมอบให้ฉันในตอนนั้นสินะ? แต่ว่าฉันก็เป็นคนที่ปฏิเสธเขา ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะรับมันมา
“เธอโอเคกับเรื่องนี้เหรอ ซูซุริคาว่าซัง? ยูกิน่ะตั้งใจวางแผนจะมอบสิ่งนี้ให้กับคุณ……” (ชิโอริ)
“ใช่ ฉันไม่สามารถรับเอาสิ่งมันที่เป็นเขาหลังจากที่ฉันปฏิเสธเขามาได้หรอก และนอกจากนี้ เขาก็น่าจะคิดว่าเธอน่ะสมควรได้รับมัน ดังนั้นเขาจึงมอบมันให้กับเธอ” (ฮินากิ)
“แต่ฉันก็ไม่รู้ว่านี่มันจะโอเคไหม….” (ชิโอริ)
“ฉันน่ะ ไม่สนหรอกนะ ถึงแม้เธอจะเอามาออกมาใช้ก็ตาม” (ฮินากิ)
แล้วคามิชิโระซัง แสดงสีหน้าอันซับซ้อนขึ้นมาบนหน้าของเธอ มันคงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับของขวัญที่ควรจะเป็นของคนอื่น และจากมุมมองของเธอ เธออาจกังวลในการจะติดใช้มัน ที่มันต้องทำให้ฉันต้องได้เห็น ฉันคิดว่านั้นก็เธอรู้ว่านี่มันเป็นการกระทำที่ดูหยาบคาย เธอน่ะเป็นคนดี เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะทำสิ่งที่น่ารังเกียจแบบเช่นนี้ เธอมันช่างตรงกันข้ามกับฉันเลย ตรงไปตรงมาและร่าเริง
ฉันมันผิดเองที่ทำให้รับของสิ่งนั้นมาจากเขาไม่ได้ แต่ว่านั่นคือเหตุผลที่ฉันจะไม่ยอมทำผิดพลาดอีกต่อไป ฉันจะไม่โกหกกับตัวเองในเรื่องความรู้สึกของฉัน ฉันจะต้องทำให้ยูกิโตะหันมาหาด้วยตัวฉันเอง
มันเป็นความมุ่งมั่น จากที่ฉันนั้นต้องเดินอยู่ในความมืดมิดมาเกือบสองปี ถึงฉันจะยังคงเดินลอดผ่านอุโมงค์ลงในขุมนรกโดยที่ไม่รู้ว่าจะทางออกรึเปล่า แต่ฉันก็จะต้องเดินต่อไปเพราะว่ามีบางอย่างที่ฉันไม่อาจจะยอมแพ้ได้ ยังมีคำพูดที่ฉันอยากจะได้พูดมันอีกครั้ง แล้วคามิชิโระซังก็ได้ทำตาโตขึ้น ฉันสงสัยว่าเธอจะพอเข้าใจความรู้สึกของฉันได้บ้างไหม
“ฉันจะไม่ ฉันจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ!” (ชิโอริ)
“ก็เธอน่ะคือคู่แข่งของฉันนี่นา” (ฮินากิ)
“ฮะฮะ ฉันคิดว่าฉันมีคู่แข่งอยู่เยอะเลยนะ แล้วรู้ไหม ซูซุริคาว่า ถ้าเธอต้องการล่ะก็นะ เธอจะมาเป็นเพื่อนกับฉันได้ไหม?” (ชิโอริ)
“เธอแน่ใจนะ? แต่ยังไงฉันจะไม่ยอมยกยูกิโตะให้หรอกนะ” (ฮินากิ)
“ไม่ใช่แค่ว่าฉันต้องการเป็นเพื่อนกับยูกิเท่านั้นหรอกนะ ฉันน่ะยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับเธอด้วย!” (ชิโอริ)
มันเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา มันคือเสน่ห์ที่เธอมีอยู่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันรู้ว่าตัวตนของยูกิโตะนั้น มันคือเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอที่เหมือนกับเมฆก้อนใหญ่ลอยสูงนั่น
“ก็ได้ และต่อจากนี้ไปมันจะเป็นการแข่งขันกันอย่างยุติธรรมในเรื่องความรักนะ” (ฮินากิ)
“ใช่!” (ชิโอริ)
เป็นเพื่อนกันเหรอ ถ้าหากยูกิโตะนั้นเลือกเธอ ฉันจะสามารถแสดงความยินดีกับเธอออกมาอย่างจริงใจได้ไหมนะ? ฉันจะไม่คิดอย่างนั้นแล้ว เพราะในใจฉันไม่มีอะไรที่จะสำคัญไปกว่ายูกิโตะ และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สิ่งนี้จึงเป็นเหตุผลเดียวที่ยังทำให้ฉันได้มีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้
หากลองคิดดู ฉันนั้นไม่ได้ใส่ใจในเรื่องมิตรภาพกับใครเลยมานับตั้งแต่นั้น เพราะฉันเอาแต่กังวลจนไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องนั้น ฉันรู้สึกหดหู่ใจจนไม่ได้มองออกไปรอบตัวด้านนอกนั่น มันไม่มีวันไหนเลยที่ฉันนั้นรู้สึกมีความสุข แต่ว่าในตอนนี้ บางทีฉันอาจจะต้องเปิดโลกทัศน์ให้มันกว้างขึ้นอีกสักหน่อย เพื่อที่จะไม่ให้ต้องผิดพลาดแบบเดิมอีก
ฉันจับมือที่คามิชิโระซังยื่นออกมาให้ฉัน
ใช่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันนั้นที่ฉันมีเพื่อน
——————————————————-
ผมกำลังออกวิ่งไปอย่างเบาๆ มันเป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้ผมนั้นสามารถจัดระเบียบความคิดของตัวเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิ่งที่มีการกำหนดการเคลื่อนไหวให้เป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง นึ่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการที่จะคิด ร่างกายของผมนั้นดูจะเริ่มเผาผลาญพลังงานมากขึ้นอีกหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากจนทำให้ผมนั้นหายใจไม่ทัน ผมคือยูกิโตะ โคโคโนเอะ ชายผู้ที่ได้คิดถึงเรื่องของภาวะโลกร้อนและปรากฏการณ์คลื่นความร้อนบนเกาะที่แยกตัวในที่ไกลห่าง ผมกำลังถีบตัวไปบนพื้นแอสฟัลต์ ที่หากมีสิ่งสกปรกเคลือบอยู่ข้างบน อุณหภูมินั้นก็จะลดลงมาก แต่มันคงจะลำบากสำหรับหัวเข่าของผม! แล้วผมก็เหลือบตาไปมองที่ข้างๆ และก็เห็นว่าโคยูกิกำลังตามติดผมมาอย่างกระชั้นชิด นายคนนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ……
และสิ่งที่อยู่ในความคิดของผมอยู่ในตอนนี้ มันก็คือความตระหนักรู้ถึงปัญหาที่ผมนั้นกำลังเผชิญอยู่
เห็นได้ชัดเลยว่าผมนั้นเป็นที่ชื่นชอบ หรือจะบอกได้ว่ามันมาจากสิ่งที่ผมนั้นได้ยินจากพวกเธอ ผมนั้นคิดว่าพวกเธอคงจะชอบผม ผมนั้นเป็นคนที่เคยคิดว่าคนอื่นๆนั้นต่างก็เกลียดผม แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น และอย่างน้อยตอนนี้ผมก็เข้าใจแล้วว่าจะต้องมีคนที่เสียใจถ้าหากผมนั้นพยายามที่จะหายไป แต่ก็นั่นล่ะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมนั้นกำลังมีปัญหา
“แล้วมันหมายความว่ายังไงกันล่ะเนี่ย กับคำว่า……ชอบ……?” (ยูกิโตะ)
ผมจะต้องเรียกในสิ่งที่สูญเสียไปแล้วให้กลับมาให้ได้ ถึงแม้ว่าพวกผู้หญิงนี้จะมอบ “ความชื่นชอบ” มาให้แก่ผม แต่ถ้าผมไม่เข้าใจ มันก็จะไม่มีอะไรที่จะพอก่อให้เป็นรูปเป็นร่างได้ การที่จะรักใครสักคนอีกครั้งนี้จะเป็นไปได้ไหม?
ผมนั้นยังคงจำความรู้สึกที่ผมนั้นเคยมีในตอนที่ผมรักฮินากิจนอยากจะสารภาพกับเธอนั้นไม่ได้เลย ถ้าหากว่าผมยังหามันไม่พบ ผมก็คงที่จะไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของใครได้ นั่นมันช่างโหดร้าย ทุกคนที่บอกความรู้สึกของพวกเธอมาให้ผมจนถึงตอนนี้ ต่างก็ต้องรวบรวมความกล้ามากที่จะทำแบบนั้นออกมาได้ แต่ว่าผมนั้นจะตอบสนองต่อความรู้สึกของพวกเขาอย่างไรถึงจะสามารถเทียบเคียงกับของพวกเธอได้กันเล่า
นี่ผมจะสามารถเข้าใจในสิ่งนั้นได้หรือเปล่านะ?
—————————————————————-
วันนี้คือวันหยุด ซากุราอิ กับคนอื่นๆก็ได้มารวมตัวกันที่หน้าสถานีก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย ซึ่งเป็นวันหลังจากการสอบได้จบลงแล้ว จึงได้ตัดสินใจว่าพวกเขานั้นจะได้เวลาออกไปเที่ยวเล่นเสียที สมาชิกของกลุ่มที่มารวมตัวกันนั้นดูต่างคละเคล้ากันไปหมด เพราะเนื่องจากว่าเหล่าลำดับชนชั้นในโรงเรียนนั้นได้ถูกพังทลายลงไปแล้วตั้งแต่ในตอนต้นเทอมของห้องเรียน 1-B จึงทำให้ไม่ได้มีความรู้สึกถึงการแบ่งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจง และสิ่งนี้มันก็เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นนั่นเอง
“มิกิ นี่ฉันตัดหน้าม้าแล้ว โอเคไม๊?” (ซากุระอิ)
“ใช่ๆ น่ารัก มันน่ารัก แต่ว่าฉันเริ่มจะประหม่าแล้วอ่ะ” (มิกิ)
“เอ่อนี่มันอะไรกัน…ไอ้บรรยากาศแปลกๆนี่?” (ทาคาฮาซิ)
“มันเพราะ ……? (โคยูกิ)
และโคยูกิและทากาฮาชิยิ้มอย่างขมขื่น อิโตะเองก็อยู่ที่นี่ด้วย แล้วก็ยังมีซูซุริคาว่ากับคามิชิโระปรากฏตัวขึ้นด้วย พวกเธอจึงกลายเป็นกลุ่มที่โดดเด่นและงดงาม แต่ว่าใบหน้าของพวกเธอนั้นกลับมีความตึงเครียด บรรยากาศตึงเครียดที่ให้กับความคาดหวัง เพราะสิ่งที่คาดหวังกันนั้นก็คือ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ นั้นได้บอกตกลงที่จะออกไปกันกับพวกเขาในวันนี้นั่นเอง และมันก็เลยเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา
“นี่โคโคโนเอะจะมาจริงๆเหรอ? ฉันน่ะไม่อยากเชื่อเลย หรืออีกเรื่องนึง ถึงฉันจะรู้สึกลำบากใจนะ แต่ว่าการใช้ชีวิตปกติของโคโคโนเอะนั้นมันจะเป็นยังไงกันน่ะ?” (อิโตะ)
“ไม่ว่านายจะพูดอะไร แต่ฉันก็คิดว่า …… ยูกิก็เป็นแค่คนปกติน่ะนะ…..” (ชิโอริ)
“ถ้าหากเป็นเรื่องปกติ นั่นก็หมายความว่าเราน่าจะรอดวันนี้ไปได้สินะ?” (อิโตะ)
“นี่ โคโคโนเอะ เค้าเป็นภัยพิบัตธรรมชาติหรืออะไรแบบนั้นเหรอนั่น!?” (มิกิ)
นั่นก็เพราะ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ นั้นเป็นนักเรียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโรงเรียนของเรา เป็นชายผู้ที่ยังคงสร้างความหายนะออกมาอย่างต่อเนื่องให้กับชีวิตปกติของพวกเรา และเมื่อไม่กี่วันก่อน เขานั้นถูกพักการเรียน แต่การพักการเรียนนั้นก็ได้ถูกยกเลิกในทันที จึงทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นครั้งใหญ่ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ครูใหญ่ก็คอยเทียวมาที่คลาส 1-B เพื่อดูว่า ยูกิโตะ โคโคโนเอะ นั้นตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สรุปว่าเมื่อยูกิโตะ โคโคโนเอะนั้นมาโรงเรียน มันก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อาจารย์ใหญ่เขาจะต้องมาคอยระวังว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก
“ฉันกำลังสงสัยว่าเขาจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนมากันนะ” (???)
“ฉันจะไม่แปลกใจหรอกนะ ถ้าหากเขาใส่ชุดพรางตัวมาน่ะ” (???)
“แล้วมีโอกาสที่เขาแต่งตัวเป็นแฟชั่นมากด้วยไหมล่ะ?” (???)
“ก็เป็นไปได้นะ แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเลือกใส่เสื้อยืด หรือใส่อะไรแปลกๆบางอย่างด้วย” (???)
“แต่คุณยูริเองเค้าก็ดูสวยและดูมีรสนิยมดีนี่นะ……” (???)
ในขณะที่พวกเขากำลังเฝ้ารอกันอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของมิโฮะก็ได้ดังขึ้น
“…ฮ๊ะ? ยูกิโตะ. —– มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?” (โคยูกิ)
แล้วการสนทนาเหล่านั้นก่อนหน้าก็ได้หยุดลงในจังหวะนี้ และพวกเขาทั้งหมดต่างให้ความสนใจในการฟัง
“ฮ๊ะ!? นี่นายกำลังพูดถึงอะไรเนี่ย? …… โอ้ งั้นเอง, ใช่ แล้วนายไม่เป็นอะไรใช่ไหม? บาดเจ็บรึเปล่า? ตำรวจ? แล้ว …… มันเกิดขึ้นได้ยังไงน่ะ? จริงดิ? ……งั้นเหรอ?” (โคยูกิ)
“ที่ฉันได้ยินมาทั้งหมดมันฟังดูน่ากังวลมากเลยนะ……” (ฮินากิ)
“โคโคโนเอะ นี่นายไปทำอะไรอีกนั่น?” (ซากุระอิ)
“ฟู่~~” (โคยูกิ)
แล้วโคยูกิก็ได้วางสายไป ตอนนี้เขามีใบหน้าที่ดูชวนฉงน เขาตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะที่คิดว่าควรเขาจะบอกพวกเพื่อนๆยังไง แล้วในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจบอกพวกเพื่อนเขาอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันขอโทษนะ แต่ยูกิโตะนั้นมาไม่ได้แล้วล่ะ” (โคยูกิ)
“นี่เขากำลังมีปัญหางั้นเหรอ!?” (ฮินากิ)
“คือ ฉันได้ยินว่ามีนักศึกษาหญิงคนนึงที่กำลังขี่จักรยานยนต์โดยที่ใส่หูฟังและดูโทรศัพท์ไปด้วยในมืออีกข้างนึงได้ชนเขาเข้าน่ะ แต่ตำรวจก็มาถึงแล้วและกำลังตรวจสอบกันอยู่ในที่เกิดเหตุ” (โคยูกิ)
“แล้วยูกิเป็นอะไรไหม?” (ชิโอริ)
“โอ้ ใช่ เขาสบายดี แต่ตำรวจกำลังขอให้ยูกิโตะให้เขียนลงใบรายงานคดีน่ะ แต่ว่าพวกเขากำลังคุยต่อรองกับนักศึกษาหญิงนั้นอยู่ด้วยน่ะ” (โคยูกิ)
“ดีจังที่เขาไม่บาดเจ็บ……” (ชิโอริ)
แล้วบรรยากาศที่น่าอึดอัดก็ได้เริ่มผ่อนคลาย และมิเนตะก็ได้เป็นคนเอ่ยปากพูดตามมา
“ดูสิ นี่มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหมนี่? นี่ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากที่จะออกมาเล่นกับพวกเรารึเปล่าน่ะ?” (มิกิ)
และนี่ก็คือสิ่งที่เราทุกคนในห้องรู้สึกได้ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง แต่อย่างไรก็ตาม ข้อแก้ตัวนี้มันก็ดูจะเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินไป แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรไว้ มันก็มักจะเรื่องสำคัญเสมอสำหรับยูกิโตะ โคโคโนเอะ
“เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะโกหกด้วยเรื่องแบบนี้หรอกนะ” (โคยูกิ)
“ยูกิโตะไม่เคยโกหกนะ” (ฮินากิ)
“คุณพูดถูก ฉันขอโทษที!” (มิกิ)
แล้วจากนั้นโคยูกิก็ได้รับการแจ้งเตือนขึ้นในมือถือของเขาอีกครั้งจากยูกิโตะ โคโคโนเอะ และคราวนี้มันเป็นข้อความ
“คราวนี้อะไรอีกล่ะ? นี่มัน…… จากยูกิโตะ เขาบอกว่าอยากจะให้ทุกคนไปสนุกด้วยกันต่อน่ะ” (โคยูกิ)
“ให้สนุกกัน? …… ในบรรยากาศอย่างนี้เนี่ยนะ…” (มิกิ)
“ก็เขาทำแบบนี้อยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ แม้แต่ในวันหยุดน่ะ?” (อิโตะ)
“ก็มันไม่ใช่ความตั้งใจของเขานี่ แต่มันเป็นธรรมชาติของเขาน่ะ” (โคยูกิ)
“ชีวิตในแต่ละวันที่เขาอยู่มานี้มันเป็นแบบไหนกันนะ……?” (อิโตะ)
“ฉันเองก็อยากจะถามนะ แต่ฉันกลัวเกินไปที่จะถามน่ะ” (มิโฮะ)
แล้วความรู้สึกเศร้าหมองอย่างหนักก็ได้เข้าโอบล้อมพวกเราไว้
“กะ- ก็ช่วยไม่ได้นะ! โคโคโนเอะก็ดูเหมือนจะไม่เป็นไรด้วย งั้นมาเปลี่ยนเรื่องและไปสนุกกันเถอะ!” (ซากุระอิ)
“ฉันคิดว่าเธอพูดถูกนะ ไว้ฉันจะถามให้เธอในรายละเอียดที่โรงเรียนอีกทีละกัน งั้นพวกเราไปกันเถอะ” (โคยูกิ)
“ฉันก็จะตั้งตารอเหมือนกัน” (ชิโอริ)
“ …… ระบบนิเวศวิทยาของลิงบาบูนยังคงเป็นปริศนาอยู่ดี ……ความลึกบับของลิงบาบูน” (มิกิ)
“โอ้ นั่นใครกันล่ะนั่น? ตัวละครใหม่งั้นเหรอ?” (โคยูกิ)
แล้วทั้งกลุ่มก็ได้เริ่มออกเดินไปพร้อมกับเสียงคุยอันอื้ออึง ความหวาดวิตกของมิเนตะและคนอื่นๆก็ได้ถูกวางพักไว้อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นก็มีข่าวในเรื่องนี้ออกมาในทีวีทั้งหัวค่ำและในภาคค่ำ รวมถึงในหน้าหนังสือพิมพ์ของวันรุ่งขึ้น และหลังจากที่วันหยุดหมดลง ทางโรงเรียนก็ต้องถึงกับอยู่ในภาวะตื่นตระหนก
——————————————————-
หลังจากวันหยุดนั้นผ่านไป ยูกิโตะ โคโคโนเอะ ก็ไปโรงเรียนได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
“ต้องขอโทษด้วยนะที่ไปด้วยไม่ได้ ทั้งๆที่นายชวนฉันแล้ว” (ยูกิโตะ)
“ไม่เป็นไรหรอก แต่แน่ใจนะว่าไม่บาดเจ็บอะไรน่ะ?” (โคยูกิ)
“มันก็แค่รอยถลอกเอง” (ยูกิโตะ)
“แล้วนายเขียนรายงานคดีแล้วหรือยังล่ะ?” (โคยูกิ)
“พวกคนในเหตุการณ์เขายืนยันว่าฉันควรจะไปหาตำรวจน่ะนะ แต่ว่าพ่อแม่ของเธอนั้นก็ได้มาด้วย พอพ่อแม่ของเธอนั้นตรงมาหาฉัน แล้วพวกเขาก็เอาแต่ร้องไห้และพยายามขอโทษอย่างที่สุด ฉันถึงกับลำบากใจเลยล่ะ” (ยูกิ)
“โคโคโนเอะ นี่มันเป็นข่าวด้วยนะ ถ้านายได้รับบาดเจ็บสาหัสนี่ อีกฝ่ายนี่ชีวิตคงจะต้องถึงกับพังไปเลย ใช่ไหมเนี่ย?” (โคยูกิ)
“โอ้ คือฉันได้ยินมาว่าพวกเขากำลังกวดขันมากอยู่นะในช่วงนี้ ในบางที การลงโทษนั้นอาจจะรุนแรงเลยด้วยเหมือนกัน เช่นหากเป็นการฆ่าคนตายโดยประมาทอย่างร้ายแรงล่ะก็ ก็จะถูกจับจำคุกและปรับในจำนวนเกินกว่าที่จะจ่ายได้แน่ๆ และฉันก็ได้ยินมาว่าเธอนั้นไม่มีประกันอะไรเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความผิดของฝ่ายโน้น แต่มันก็คงจะไม่รู้สึกดีหรอกหากต้องเห็นพวกเขาต้องโดนแบบนั้นไปน่ะ ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินคดีน่ะ แต่ถึงอย่างงั้นพวกเขาได้ให้เงินทำขวัญฉันมาด้วยล่ะ” (ยูกิโตะ)
“ก็เพราะมันเป็นเรื่องที่ทำเพื่อให้มันไม่ต้องเป็นคดีนี่นะ ฉันเองไม่รู้สึกชอบกับการใช้ชีวิตแบบทีจะต้องคิดเรื่องนี้มันอยู่ทุกๆเช้านั่นล่ะ” (โคยูกิ)
“แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับฉันนี่ ไม่ต้องไปกังวลมากนักหรอกน่า” (ยูกิโตะ)
“นั่นแหละที่ฉันกังวล! นี่มันไม่ใช่เรื่องปกตินะ!” (โคยูกิ)
“แล้วก็ยูกิโตะ มันอะไรน่ะ เมื่อวานตอนที่นายโทรมานั่น? นายพูดอะไรบางอย่างเรื่องการไม่ต้องเตรียมเอามื้อเที่ยงมาน่ะ แล้วแบบนี้ฉันก็สงสัยนะ แต่ถึงงั้นแต่ฉันก็ได้ส่งต่อไปให้กับทุกคนตามที่นายบอกมาน่ะ” (โคยูกิ)
“โคโคโนเอะ ฉันบอกแม่ไปว่าวันนี้ไม่ต้องทำอาหารกลางวันให้นะ ก็เลยไม่ได้เอาอะไรมาด้วย นี่น่ะโอเคใช่ไหม?” (ซากุระอิ)
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันน่ะทำให้ทุกคนต้องมาเป็นห่วงฉันแถมฉันก็ยังได้ผิดสัญญาอีกน่ะ และพอฉันได้รับเงินจากอีกฝ่ายหนึ่งมาแล้ว ก็เลยสั่งพิซซ่ากับซูชิสำหรับมื้อกลางวันในวันนี้มาให้จำนวนสามสิบคน เพื่อมากินข้าวด้วยกันน่ะ” (ยูกิโตะ)
“อะไรนะ?” (ซากุระอิ)
{ยูกิโตะ โคโคโนเอะ มาที่ห้องทำงานของฉันหลังอาหารกลางวันด้วย!} (ซันโจจิ)
ไม่มีอะไรจะต้องพูดเลย หลังจากที่ได้ทานอาหารกลางวันนี้ ผมก็ได้ถูกอาจารย์เรียวกะ ซันโจจิ เรียกตัวผมไปพบผ่านลำโพงออกอากาศและถูกดุว่ากล่าวอย่างแรง ถึงยังไงก็ตาม พวกเรานั้นก็ได้กินพิซซ่าและซูชิทั้งหมดนี้กับเพื่อนร่วมห้องของเรา พวกเราทุกคนต่างกินกันพุงกางกันไปเลยล่ะ!