เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 81 คุณผู้ชายทานแต่อาหารที่คุณทำ
บทที่ 81 คุณผู้ชายกินแต่อาหารที่คุณทำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองออกไปนอกหน้าต่าง ดอกไม้ไฟในคืนนั้นยังแจ่มชัดในดวงตา
จูบที่เร่าร้อน เพียงแค่นึกขึ้นมา บนใบหน้าแก้มก็แดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
คำพูดนั้นของจี้จิ่งเชินแท้จริงแล้วหมายความว่าอะไร?
ตอนที่กำลังคิด จู่ๆก็มีคนๆหนึ่งเดินมาข้างหน้าเธอทันที
มือทั้งสองของเจียงหยู่เทียนกอดอก มองเธอด้วยความไม่พอใจ
“นี่ เธอไปบอกพี่จี้จิ่งเชินทีคืนนี้ฉันจะไปทานอาหารค่ำกับเขา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“ทำไมเธอไม่ไปบอกเขาเองหล่ะ?”
สีหน้าของเจียงหยู่เทียนเรียบเฉย
ถ้าคิดต่อจี้จิ่งเชินได้ จะให้เธอมาช่วยเหรอ?
ตั้งแต่เมื่อวาน เธอโทรหาจี้จิ่งเชินแต่ไม่มีใครรับสาย
แม้ว่าจี้จิ่งเชินจะส่งคนมาดูแลเธอทุกอย่างอยากได้อะไรก็ได้อย่างนั้น
แต่เธอโทรหาจี้จิ่งเชินไม่รู้ตั้งกี่รอบ ก็ไม่มีใครรับสายเธอสักครั้ง
ถึงแม้เธอจะเรียกผู้ช่วยจงหลีมาถาม เขาก็พูดแค่ว่าจี้จิ่งเชินยุ่ง
ยุ่ง?
มีอะไรให้ยุ่ง?
เขาหลบหน้าเธอเหรอ?
เจียงหยู่เทียนไม่ยอม ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะปีนขึ้นมาเกี่ยวพันธ์กับจี้จิ่งเชินถึงจุดนี้ จะปล่อยไปแบบนี้ได้ยังไง?
เธอจ้องไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรุนแรงว่า “ให้เธอจัดการ!ให้เธอบอกก็บอก หรือคิดว่าตัวเองเป็น คุณหญิงจี้?”
เจียงหยู่เทียนหัวเราะเบาๆ แล้วใช้มือเคาะลงบนโต๊ะ
“ฉันบอกเธอให้นะ ทั้งชีวิตของเธอก็เป็นแค่คนที่ขี้ขลาดตาขาวที่ยอมให้ฉันรังแก”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเย็นชาลง แล้วลุกขึ้นพูดว่า “เรื่องของคุณเอง ก็ไปบอกเขาด้วยตัวเอง”
พูดจบ ไม่รอให้เจียงหยู่เทียนพูดขึ้นมาอีก แล้วหันหลังออกไปจากห้องเรียน
เมื่อเดินออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงรถที่จอดไว้หน้าประตู แต่กลับไม่เห็นพ่อบ้าน
รถคันนี้ดูไม่เหมือนรถคันปกติที่พ่อบ้านกับคนขับรถมารับเธอ
เธอลังเลอยู่หนึ่ง หน้าต่างรถก็ค่อยๆเปิดออก ก็เห็นหน้าเข้มจี้จิ่งเชิน
“ทำไมเป็นคุณ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเวลา
ตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงเย็น จี้จิ่งเชินไม่ใช่ว่าควรจะอยู่ที่บริษัทหรอ?
“คุณเลิกงานเร็วเหรอ?”
จี้จิ่งเชินทำสีหน้าเรียบเฉยตอบกลับมา:“วันนี้ที่บริษัทไม่มีเรื่องอะไร”
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนมีสีหน้าสงสัย เขาก็อธิบายด้วยความไม่พอใจ:“ทางผ่านของผมพอดี พ่อบ้านก็อายุเยอะแล้วไม่ควรทำงานหนัก ต่อไปนี้ผมจะมารับมาส่งคุณเอง”
“แค่คนขับรถมารับฉันก็พอแล้ว ไม่ต้องรบกวนคุณหรอก”
หน้าของจี้จิ่งเชินเปลี่ยนเป็นขรึมลง
“บอกให้คุณมาก็มา!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย เธอพูดอย่างนั้นก็เพราะคิดถึงเขา แล้วเขาจะมาโกรธอะไรหล่ะ?
เมื่อขึ้นมาบนรถ จี้จิ่งเชินทำสีหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จา
รอมาพักหนึ่งเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไร ก็เหลือบมามองเธอ เห็นเธอมองออกไปนอกหน้าต่าง
บนถนนมีอะไรให้น่าดู?
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ถนนด้านนอกเหมือนเดิม
“อีกสองวันจะมีงานเลี้ยงการกุศล” เขาพูดตอบกลับไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองเขา
จี้จิ่งเชินพูดต่อ “คุณเตรียมตัวสักหน่อย แล้วไปกับผม”
“ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงคำพูดของเจียงหยู่เทียนก่อนหน้านี้
เธอลังเลอยู่นาน แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร
จี้จิ่งเชินเห็นเธอขมวดคิ้ว ก็คิดว่าเธอกังวลเกี่ยวกับงานเลี้ยง
“ถึงเวลาคุณไปกับผมก็พอแล้ว”
พูดจบเขาก็เหลือบไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
แล้วจงใจพูดขึ้นว่า:“งานเลี้ยงครั้งนี้จัดอย่างเคร่งครัดมาก อย่าเดินไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ ถ้าคุณโดนไล่ออกจากงาน อย่าบอกว่าผมพาคุณมานะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ฉันรู้ ฉันจะตามคุณไป”
ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็พอใจ เขาเหยียบคันเร่งรีบกลับไปที่คฤหาสน์เก่าแก่
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยน
คิดว่าเจียงหยู่เทียนจะหาวิธีอื่นในการติดต่อกับจี้จิ่งเชินแต่ก็คิดไม่ถึงว่าเธอว่าจะมาในช่วงเย็นของวันนี้
หลังจากที่พ่อบ้านทราบข่าว เขาก็รีบแจ้งจี้จิ่งเชินทันที
เมื่อไม่กี่วันก่อนจี้จิ่งเชินสั่งห้ามไม่ให้เจียงหยู่เทียนเข้ามา
วันนี้ทันทีที่เธอมาถึง เธอก็ถูกกันเอาไว้ข้างนอก
จี้จิ่งเชินจ้องมองที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
ใบหน้าของเขาขรึมเล็กน้อย
“ผมจะออกไปดูสักหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาออกไปข้างนอก กำลังจะขึ้นไปชั้นบน แต่ทันใดนั้นแม่ครัวก็ เข้ามาดึงเธอไว้
“คุณหนูเจี่ยง”
เธอพูดด้วยความอาย “ดิฉันมีบางอย่างอยากจะขอร้องให้คุณช่วย”
“เรื่องอะไร?”
แม่ครัวพาเธอเข้าไปที่ห้องครัวและเปิดตู้ที่อยู่ด้านข้าง
“นี่คือของที่คุณผู้ชายให้คนส่งมา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเข้าไปด้านในตู้ คิดไม่ถึงว่าด้านในเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยปลา
“ปลา?”
เธอมองอย่างประหลาดใจ ข้างในมีปลามากกว่าสิบชนิดที่ต่างว่ายไปมา
“เขาอยากกินปลาเหรอ?”
แม่ครัวพยักหน้า แล้วทำหน้ากลุ้มใจเป็นอย่างมาก
“คุณผู้ชายไม่กินปลา”
“แต่โจ๊กครั้งที่แล้ว……”
ครั้งที่แล้วที่เขาทำโจ๊กเนื้อปลา จี้จิ่งเชินกินหมดไปหลายชาม
ใบหน้าของแม่ครัวเต็มไปด้วยโศกเศร้า :“บางทีคุณผู้ชายอาจจะกินแต่ปลาที่คุณทำเท่านั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง
“แต่ว่า……”
“ช่วงนี้ ฉันทำปลาไปไม่น้อยเลยทีเดียว แต่คุณผู้ชายไม่กินเลยสักนิด ฉันคิดว่า คุณผู้ชายอาจจะหวังให้คุณทำให้กิน”
เธอมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
สายตาเต็มไปด้วยความหวัง
“ฉัน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนชี้ไปที่ตัวเองแล้วหันไปมองปลาในตู้ปลา
“แต่เขาไม่เคยพูดมาก่อน”
แม่ครัวมองเธอแล้วหัวเราะเบาๆ
“เป็นอย่างนั้นแน่นอน คุณเจี่ยง คุณลองดูก็จะรู้เอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนใคร่ครวญสักครู่
“ก็ได้”
หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง จี้จิ่งเชินก็ยังไม่ได้กลับมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเหลือบไปมองปลากระรอกบนโต๊ะ
เจียงหยู่เทียนมาหาจี้จิ่งเชินในครั้งนี้เธอต้องการที่จะกินข้าวกับเขาหรือไม่?
เธอนั่งที่ประตูและก้มมองปลายเท้าของตัวเอง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นเหนือหัวเธอ
“มานั่งทำไมตรงนี้?”
เมื่อได้ยินเสียงเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เงยหน้าขึ้นมา และมองจี้จิ่งเชินด้วยความประหลาดใจ
“คุณไม่ไปกินข้าวเหรอ?”
“กินข้าวอะไร?”
เขาขมวดคิ้ว เมื่อกี้เจียงหยู่เทียนได้บอกว่าที่พักที่เธออยู่ในตอนนี้ไม่สบาย อยากจะเปลี่ยนที่พักใหม่ และต้องการให้จี้จิ่งเชินไปดูที่ใหม่กับเธอ
จี้จิ่งเชินถูกเธอกวนใจอยู่สักพัก ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเรียกให้ผู้ช่วยพาเธอออกไป
ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้เมื่อมองไปที่เจียงหยู่เทียนเขาไม่เห็นแม้แต่เงาของ “เทียนเทียน” คนเดิม
เวลาคงจะผ่านไปนานมากแล้วจริงๆ ทุกคนต่างก็เปลี่ยนไปหมด?
เขาก้มลงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้าเขา
แม้แต่ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลเจี่ยงผู้หยิ่งผยองนี้ยังเปลี่ยนไป ทำไมเจียงหยู่เทียนจะเปลี่ยนไม่ได้หล่ะ?
อีกครั้งที่สายตาของเขามาบรรจบที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
“ลุกขึ้นมา”
เขาเอื้อมมือไปดึงเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งลุกขึ้นยืน ขาก็ปวดขึ้นมาเลยจะสะดุดล้ม พอดีกับที่จี้จิ่งเชินจับไว้ได้ทัน
“คุณนั่งตรงนี้มานานเท่าไหร่แล้ว?”
“ยุ่งจริงๆ”
เขาบ่นเธอและก้มลงไปโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาให้ลุกขึ้นมาแล้วพาเธอเดินเข้าไปข้างใน
ทันทีที่ผ่านห้องอาหารแม่ครัวก็รีบพูดขึ้นมาว่า:“คุณผู้ชายอาหารพร้อมแล้ว วันนี้ทำปลาปลากระรอก”
จี้จิ่งเชินไม่ได้หยุดเดิน แต่โอบเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นไปชั้นบน
“ไม่กิน”
“แต่คุณเจี่ยงตั้งใจทำให้นะคะ”
จี้จิ่งเชินหยุดเดินไปครู่หนึ่ง ใบหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมา
“……เดี๋ยวฉันลงมา”