เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 82 งานเลี้ยงการกุศล
บทที่ 82 งานเลี้ยงการกุศล
งานการกุศลซาหวาเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงการกุศล
สมาชิกที่สามารถเข้าร่วมในงานงานการกุศลซาหวาจะต้องเกี่ยวข้องกับวงการธุรกิจ การเมืองและวงการบันเทิง และเฉพาะผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในวงการเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าร่วม
อาจกล่าวได้ว่าหากได้รับบัตรเชิญของ งานการกุศลซาหวา ก็จะเป็นการยืนยันได้ว่าตัวเขานั้นเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจี้จิ่งเชินได้รับจดหมายเชิญเช่นนี้ แต่เขาไม่ได้ไปเข้าร่วม
ในงานเลี้ยงการกุศลได้รับการสนับสนุนแบบนี้ผู้คนจำนวนมากมองว่านี่เป็นสถานที่สำหรับการติดต่อธุรกิจ
นักธุรกิจและนักการเมืองพยายามที่จะเสาะหาข่าวคราวเกี่ยวกับนโยบายล่าสุดและแนวโน้มการเคลื่อนไหว และคนจากวงการบันเทิงก็ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ที่จะแต่งงานเข้าไปในตระกูลยักษ์ใหญ่
จี้จิ่งเชินได้รับจดหมายเชิญเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ปฏิเสธเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับคิดถึงเวินเที๋ยนเที๋ยน
รถสีดำขับรถไปที่ใจกลางเมืองอย่างเงียบๆ ในตอนกลางคืน
รถค่อยๆหยุดช้าๆด้านหน้าคฤหาสน์
รถยนต์สองสามคันกำลังใกล้เข้ามาที่นี่
ใครจะรู้ว่าผู้คนที่มีอำนาจในรถยนต์เหล่านี้ แค่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังเงียบๆก็สามารถทำให้ทั้งประเทศสั่นคลอนได้แล้ว
และวันนี้บุคคลที่มีชื่อเสียงเกือบทุกคนมารวมตัวกันที่นี่
จี้จิ่งเชินเดินนำเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาพร้อมกับสำรวจเสื้อผ้าของเธอไปด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อเธอออกมาจากคฤหาสน์เก่าแก่ แต่เดิมเธอสวมแค่ชุดเดรสสีขาว
แต่ทันทีที่เธอออกมาจี้จิ่งเชินก็ทำหน้าดำคร่ำเครียดให้เธอใส่เสื้อคลุมเล็กๆไว้ แล้วยังติดกระดุมแน่นทุกเม็ด
ทำให้เธอรู้สึกร้อนเล็กน้อย
แต่จี้จิ่งเชินกลับพอใจมาก
ใครเป็นคนเลือกกระโปรง?
กระโปรงแบบนี้ใส่อยู่บ้านพอได้ แต่จะใส่ออกนอกบ้านได้อย่างไร?
เขาดึงเสื้อคลุมตัวเล็กของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่พอใจ
ภายใต้แสงไฟ ผิวของเวินเที๋ยนเที๋ยนเหมือนดั่งหยกขาว ดวงตาปราดเปรียวเหมือนแมวคู่นั้นสว่างสดใส
ถึงแม้ว่าจะแต่งตัวไม่ทันสมัย แต่ก็ยากที่จะซ่อนความงามไว้ได้
หากเดินเข้าไปแบบนี้ จะต้องดึงดูดสายตาผู้คนแน่นอน
สีหน้าของจี้จิ่งเชินหม่นลง จู่ๆก็นึกเสียใจเล็กน้อย เขาไม่ควรพาเธอมางานเลี้ยงการกุศลเลย
คนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่คนดีอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นใบหน้าของเขาหม่นลง ดูเหมือนว่าไม่ค่อยพอใจ
“เป็นอะไรไปเหรอ?”
จี้จิ่งเชินสงบสติอารมณ์ทั้งหมดในใจของเขาลงและหันหน้าไปมองอย่างขยะแขยง
“ไปกันเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าและวางมือไว้บนแขนของเขา
อารมณ์ของจี้จิ่งเชินดีขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่วางใจ:“อยู่ข้างๆผมไว้”
ทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้าไป ก็พอดีกับที่มีรถสีขาวแล่นเข้ามา
ทันทีที่รถหยุดเจียงหยู่เทียนก็ลงมาจากรถ
เธอมองไปรอบๆ และเห็นคฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าที่แต่งมาจัดมากยิ้มออกมาอย่างพอใจ
ชายวัยกลางคน คนหนึ่งอายุประมาณสี่สิบห้าสิบปีลงมารถจากพร้อมกับพุงใหญ่ๆและหน้ามันเยิ้ม
ชุดสูทราคาแพงของเขาไม่เป็นระเบียบแม้แต่สูทของเขาก็กลัดกระดุมไม่ได้ หัวล้านของเขาสะท้อนกับแสงไฟ
เขาเดินลงมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า สายตาสกปรกของเขามองร่างกายของเจียงหยู่เทียนไม่หยุด
“คุณหนูเจียง”
เขาเอื้อมมือไปแตะที่เอวของเจียงหยู่เทียน“เป็นยังไง?ผมบอกแล้วว่าผมพาคุณมาที่นี่ได้?”
เจียงหยู่เทียนยิ้มให้เขา แต่ในใจกลับรู้สึกรังเกียจที่สุด
ถ้าไม่ใช่เพื่อมาหา จี้จิ่งเชินได้ที่นี่ เธอก็ขี้เกียจจะสนใจตาแก่ใกล้ตายคนนี้!
แต่ตอนนี้เพื่อพบจี้จิ่งเชินเธอต้องอดทน
“คุณหลิว คุณสุดยอดมาก ฉันอยากมาที่นี่ตั้งนานแล้ว”
หลิวอ้านยิ้มด้วยความพึงพอใจแล้วลูบมือ เจียงหยู่เทียนด้วยมือทั้งสอง
“แน่นอน แค่คุณไปกับผม จะมีอะไรที่ไม่ได้หล่ะ ?”
เจียงหยู่เทียนเอนกายพิงเขาอย่างหวานหยาดเยิ้ม
“คุณหลิว หรือที่แท้คุณไม่รู้ว่าในใจของฉันฉันเป็นเช่นไรเหรอ?”
หลิวอ้านหัวเราะเบาๆ และลูบสะโพกของเจียงหยู่เทียน
“คุณนี่เป็นปีศาจตัวน้อย”
เจียงหยู่เทียนดูเหมือนจะพอใจ แต่ในใจด่าเขาเกือบตายไปแล้ว
แต่เพื่อต้องการจะชนะ เพื่อนำจี้จิ่งเชินกลับมา เธอยังต้องพึ่งพาเขา
ในคฤหาสน์
ด้วยการมาถึงของจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนงานเลี้ยงก็มีชีวิตชีวาทันที
งานเลี้ยงหรูหรา ผู้คนต่างชนแก้วกันไปมา
เป็นที่ทราบกันดีว่าจี้จิ่งเชินปฏิเสธคำเชิญของงานการกุศลซาหวาติดต่อกันหลายปี
เดิมทีคิดว่าปีนี้เขาก็คงไม่มา แต่คาดไม่ถึงเขาไม่เพียงมาร่วมงาน แต่ยังพาหญิงสาวมาด้วย
ทันทีที่ทั้งสองเข้ามา เหมือนดั่งกิ่งทองใบหยก ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
ในช่วงนี้เจียงหยู่เทียนได้คุยโวขยายชื่อเสียงของตัวเองอย่างตั้งใจไม่ตั้งใจคุยโวเรื่องตัวเองกับจี้จิ่งเชิน
ดูเหมือนว่าจะถือว่าตัวเองเป็นนายหญิงของตระกูลจี้
ทุกคนที่ไม่ได้รู้เรื่องภายในต่างคิดว่า จี้จิ่งเชินนั้นมีคนรักนอกบ้านชื่อเจียงหยู่เทียน
แต่ตอนนี้มันค่อนข้างแปลก ที่ข้างกายเขาชัดเจนว่าไม่ใช่เจียงหยู่เทียน
สายตาของทุกคนล้วนมีคำถาม
แต่มองใกล้ๆ ก็พบว่าคนที่อยู่ข้างๆจี้จิ่งเชินแม้จะแต่งกายไม่ทันสมัยและแต่งหน้าอ่อนมาก แต่ก็แพรวพราวกว่าดาวหลายดวงในงานเลี้ยงนี้
ความเป็นธรรมชาติ ความอ่อนโยนที่ไม่มีใครเทียบได้
จี้จิ่งเชินเห็นสายตาที่ทุกคนมองมาที่เวินเที๋ยนเที๋ยน สีหน้าของเขาก็ยิ่งแย่ลงไปอีก
พาเธอมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดจริงๆ!
จี้จิ่งเชินสรุปทันทีว่าเขาต้องการจะพาเธอออกไปตอนนี้
แต่เขายังไม่ทันจะได้ขยับไปไหน ก็มีคนมาหยุดไม่ให้เขาไป
“คุณจี้คิดไม่ถึงว่าวันนี้คุณจะมาร่วมงาน”
แม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดกับจี้จิ่งเชินแต่เมื่อตอนเดินเข้ามา สายตาที่กลับมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
เห็นได้ชัดว่าความสนใจตาแก่ขี้เมาคนนี้ไม่ได้อยู่ที่เหล้า
ไม่ช้าเขาก็ถามขึ้นมาว่า:“คุณผู้หญิงผู้งดงามท่านนี้คือใคร?”
จี้จิ่งเชินยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ภรรยาผม”
อีกฝ่ายตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง
มีข่าวลือข้างนอกว่าจี้จิ่งเชินไม่ค่อยลงรอยกับภรรยาของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ไปมีผู้หญิงนอกบ้านไปหาเจียงหยู่เทียน
แต่ตอนนี้เมื่อมองดูแล้ว ตั้งแต่จี้จิ่งเชินเดินเข้า มือของเขาก็จับเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ตลอด อย่างกับตั้งใจประกาศความเป็นเจ้าของ
แล้วใครบอกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ลงรอยกัน?
เพิ่งจะจากไปได้ไม่นาน ไม่คิดว่าเสียงจากประตูทางด้านนั้นจะดังอีก
ทันทีที่หันไปมอง ก็เห็นว่าที่แท้เจียงหยู่เทียนก็มาด้วย!
ทุกคนมองเธอด้วยความตกใจ จี้จิ่งเชินเพิ่งจะพาคนมาถึงก่อนเธอหนึ่งก้าว และตัวละครหลักคนอื่นในข่าวลือก็มาตามมาอีกหนึ่งก้าว
และเมื่อพวกเขาได้เห็นคนที่เข้ามาด้วยกันกับ เจียงหยู่เทียนพวกเขาส่ายหัวทันที
ชื่อเสียงของหลิวอ้านคนนี้แย่มากเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในทางที่ไม่ดี แค่มีหน้าตาสะสวยนิดหน่อย ก็ถูกเขาลงมือไปหมดหมดแล้ว
เหตุผลที่เขายังสบายดีอยู่ก็เพราะใช้เงินของเขาข่มขู่ไว้
เจียงหยู่เทียนอยู่กับเขาได้อย่างไร?
หรือที่จริงแล้วเธอไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของจี้จิ่งเชินจริงๆ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองจี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆ
เขาขมวดคิ้วไว้แน่น มองดูเจียงหยู่เทียนที่เดินเข้ามาจากไกลๆ
มีการคาดเดามากมายในใจของทุกคน พอดีกับที่ได้ยินเสียงบนเวทีของห้องจัดเลี้ยง
“สวัสดีทุกคนตอนเย็น ยินดีต้อนรับสู่งานงานการกุศลซาหวา”
เมื่อได้ยินเสียงนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันกลับไปดูทันที
ที่แท้ผู้จัดรายการคือหมินอันเกอ!