เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 332 งานแต่งของหล่อนหลี
บทที่ 332 งานแต่งของหล่อนหลี
จริงๆแล้วคุณนายหล่อนได้เคยประกาศเรื่องแต่งงาน ตั้งแต่งานเลี้ยงตอนที่เธอรับช่วงต่อบริษัทหล่อนซื่อแล้ว
และเหมือนทุกคนก็กำลังเดาอยู่ว่าใครจะเป็นคู่แต่งงานของเธอ แล้วในขณะเดียวกันข่าวการแต่งงานของเธอก็ทำให้วงการธุรกิจวุ่นวายขึ้นมา
แต่ไม่คิดว่าผ่านมานานขนาดนี้ นานจนทุกคนเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปหมด จู่ๆเรื่องการแต่งงานของคุณนายหล่อนกับเวินหงหยู้ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
งานแต่งครั้งนี้ ในสายตาของคนภายนอก มันก็คือการรวมเข้ากันของสองตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหล่อนกับตระกูลเวินอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากได้รู้ข่าวนี้ ทุกคนในเมืองหลวงก็คึกคักขึ้นมาทันที
ไม่มีใครรู้ ว่าอะไรทำให้ทั้งสองครอบครัวที่มีความระหองระแหง มีความคิดที่จะแต่งงานกัน
ถึงแม้เวินหงหยู้จะถูกเวินฉี่ไล่ออกจากบ้าน และสูญเสียคุณสมบัติของการเป็นทายาท แต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นคนของตระกูลเวินอยู่
และการแต่งงานครั้งนี้ ก็ถูกคนภายนอกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแผนความร่วมมือระหว่างตระกูลเวินและตระกูลหล่อน
แต่ไม่ว่าคนภายนอกจะคิดยังไง เวลานี้ทุกคนในตระกูลหล่อนต่างตกอยู่ในภวังค์แห่งความสุข
หล่อนหลีกับเวินหงหยู้ไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่กลับนำความสนใจทั้งหมดมาวางไว้กับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
งานแต่งงาน แหวนและโบสถ์ทั้งหมดนี้ถูกจัดเตรียมไว้นานแล้ว ระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือน แต่กลับดูไม่เร่งรีบ
แต่ภายในครึ่งเดือนนี้ คนตระกูลเวินกลับไม่เคยมาปรากฏตัวเลย ราวกับว่าการแต่งงานของทั้งสองคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา
จนถึงวันแต่งงาน เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เดินเข้าไปในห้องของคุณนายหล่อน ก็เห็นว่าเธอเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงานเรียบร้อยแล้ว และมีคนอีกสองสามคนกำลังช่วยเธอทำผมอยู่
คุณนายหล่อนในกระจกดูสดใส รอยยิ้มก็เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากข้างในจริงๆ ไม่ใช่รอยยิ้มที่ดูสุภาพแต่ให้ความรู้สึกห่างเหินเหมือนแต่ก่อน
หลังจากที่ได้ประกาศเรื่องการแต่งงานของเธอกับเวินหงหยู้ไปแล้ว คุณนายหล่อนก็ตกอยู่ในภวังค์ของความสุขตลอดมา และเมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้เห็นก็อดรู้สึกดีใจกับเธอไม่ได้
“คุณนายหล่อน”
เมื่อหล่อนหลีได้ยินเสียง เธอก็เงยหน้าขึ้น และเมื่อมองเห็นร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนจากในกระจก ก็ค่อยๆยิ้มขึ้นมา
แล้วหันไปพูดกับกลุ่มคนที่ทำผมให้เธอเสร็จพอดี“พวกเธอออกไปก่อน”
พวกเขาก็พยักหน้า และเดินออกไปอย่างเงียบๆ
เมื่อรอจนคนออกไปหมดแล้ว คุณนายหล่อนจึงค่อยลุกขึ้น แล้วเดินมาหาเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะได้เห็นแบบของชุดแต่งงาน หลังจากที่เธอลุกขึ้นยืน
มันดูย้อนยุคและอนุรักษ์นิยมเล็กน้อย แต่กลับดูสง่างามและยิ่งสง่าผ่าเผยมากยิ่งขึ้นเมื่อสวมใส่อยู่บนร่างของคุณนายหล่อน
“เป็นชุดแต่งงานที่สวยมากเลยค่ะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม
คุณนายหล่อนจึงก้มลงไปมองชุด แล้วยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม
“นี้เป็นชุดแต่งงานที่ฉันเตรียมให้กับตัวเองตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟัง ก็ตกใจจนต้องเบิกตากว้าง
ถึงแม้จะรู้ว่าคุณนายหล่อนกับเวินหงหยู้จะรู้จักและรักกันตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว และตอนหลังกลับจำเป็นต้องแยกจากกันเพราะถูกขัดขวางด้วยครอบครัวของทั้งสองฝ่าย แต่ไม่คิดว่าคุณนายหล่อนจะยังเก็บรักษาชุดแต่งงานไว้จนถึงตอนนี้
จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมา
คุณนายหล่อนจึงพูดต่อ:“ตั้งแต่ยี่สิบปีก่อน ฉันก็ได้ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเวินหงหยู้แล้ว แต่เป็นเพราะตอนนั้นไม่สามารถเป็นไปอย่างที่ต้องการได้ จึงทำให้พวกเราต้องรอมาถึงสิบเก้าปี ”
เธอยกมือขึ้น และมองดูมือของตัวเอง แล้วพูด:“การที่ฉันยังสามารถเดินเข้าไปในโบสถ์นี้ได้อีกครั้ง สำหรับฉันแล้ว ไม่ว่าอะไรก็คุ้มค่า”
หล่อนหลีพูดอย่างสบาย ราวกับว่าสิบเก้าปีที่ผ่านมาเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกว่ามันหนักหน่วงเหลือเกิน
คุณนายหล่อนเงยหน้าขึ้นมองเวินเที๋ยนเที๋ยน ด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย และนัยน์ตามีความเศร้า
“แต่ว่าฉันเป็นห่วงหนู”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอด้วยความไม่เข้าใจ
“เป็นห่วงหนู? ทำไมคะ?”
“หนูรู้ไหมว่าทำไมเวินฉี่ถึงไม่อยากให้ฉันกับหงหยู้แต่งงานกัน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า เธอได้แต่สงสัยมาตลอดว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่หลายวันมานี้เห็นว่าคุณนายหล่อนมีความสุข เธอจึงไม่ได้พูด
คุณนายหล่อนจึงพูดต่อ: “วันที่ทำการเสนอราคารับมอบอำนาจรักษาการแทนของกองกำลังทหารฝ่ายพลาธิการ ฉันจับจุดอ่อนของพวกเขาได้ ฉันเอาหลักฐานที่ฉันเก็บสะสมมาสิบกว่าปี บอกเวินฉี่ไป ขอแค่เขายอมให้ฉันกับหงหยู้ได้แต่งงานกัน ไม่ใช่แค่อำนาจรักษาการแทนของกองกำลังทหารฝ่ายพลาธิการเท่านั้นที่ฉันให้ได้ ฉันยังจะปิดทุกเรื่องที่พวกเขาเคยทำไว้ แต่ถ้าหากพวกเขาไม่เห็นด้วย ฉันก็จะเอาหลักฐานส่งขึ้นไปเบื้องบน”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแบบนั้นก็มองเธอด้วยความตกใจ
ไม่คิดว่าวันนั้นหลังจากที่พวกเธอได้ออกไปแล้ว ยังมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้……
เธอนึกถึงข้อมูลที่เธอเคยสำรวจ แล้วพูดขึ้นมา: “ตอนนั้นคุณตั้งใจสละอำนาจรักษาการแทนให้กับตระกูลเวินหรอกเหรอ? แต่ถ้ามันเป็นอย่างนี้ คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างคุณลุงเวินก็ต้องถูกดึงไปเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม?”
คุณนายหล่อนส่ายหน้า
“สถานะของหงหยู้ตอนอยู่ในตระกูลเวินก็ไม่ได้สูงนัก เพราะเรื่องของฉันเมื่อยี่สิบปีก่อน และบวกกับเขาต่อต้านแผนแต่งงานของเวินฉี่จึงทำให้เวินฉี่รู้สึกผิดหวังมาก”
เมื่อเทียบกับหงหยู้ เขาชอบเวินหงไห่ที่เชื่อฟังคำพูดของเขามากกว่า ถึงแม้ในสายตาของคนภายนอก จะเห็นว่าธุรกิจของตระกูลเวินทั้งหมดนั้นจะมีหงหยู้เป็นคนค่อยดูแล แต่ในความเป็นจริงคนที่ได้รับสิทธิ์นั้นจริงๆ กลับเป็นเวินหงไห่ แม้แต่อำนาจรักษาการแทนกองกำลังทหารพลาธิการของทุกปี คนที่ออกหน้าก็คือเวินหงหยู้ และหลังจากเขาได้รับอำนาจรักษาการแทนกองกำลังทหารพลาธิการแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นเวินหงไห่ที่เป็นคนดูแลแทน
“ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
เพียงเพราะในตอนนั้นเวินหงหยู้กับคุณนายหล่อนรักกัน พวกเขาจึงได้ดับอนาคตของคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง
ไม่แปลกใจเลยวันนั้นที่คุณนายหล่อนกับเวินหงหยู้ประกาศเรื่องงานแต่งของพวกเขา สีหน้าของเวินฉี่กลับดูไม่ดี
หล่อนหลีถอนหายใจเบาๆแล้วพูด: “เรื่องของเมื่อก่อน มันก็ได้ผ่านไปแล้ว แต่แค่ว่า…… ”
“ถึงแม้หงหยู้จะถูกไล่ออกจากตระกูลเวินแล้ว แต่สำหรับเวินฉี่แล้ว เขายังเป็นคนของตระกูลเวิน เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถให้ฉันกับเขาแต่งงานกันได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกใจ
“แล้วคุณทำไม……”
ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สามารถจัดงานแต่งได้จริง แล้วทำไมยังจะจัดอีกล่ะ?
เหมือนหล่อนหลีอ่านความคิดในใจของเธอออก เธอจึงเงยหน้าขึ้น และค่อยๆหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วยิ้ม
“เพราะว่าฉันรอคอยวันนี้มายี่สิบปีแล้วไงล่ะ ถึงแม้อาจจะไม่สำเร็จ แต่ฉันก็อยากจะลองดู”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย หล่อนหลีที่อยู่ข้างหน้าของเธอ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน และไม่มีความลังเลใดๆเลย……
เธอกำหมัดแน่นทันที และพูดออกมาอย่างหนักแน่น: “คุณนายหล่อน คุณวางใจได้เลย ฉันจะไม่ยอมให้คนตระกูลเวินคนไหนมาทำลายงานแต่งของคุณได้เด็ดขาด!”
คุณนายหล่อนส่ายหน้าไปมา แล้วหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ข้างหน้าของเธอ
“ที่ฉันเป็นห่วงนะไม่ใช่ตัวของฉันเอง แต่เป็นหนูต่างหาก”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังประโยคนี้ ก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่
คุณนายหล่อนหันไปมองเธอที่ตอนนี้สายตานั้นเต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วง
“ขอโทษนะ จริงๆแล้วฉันไม่ควรจัดงานแต่งงานเร็วขนาดนี้เลย ควรรอให้หนูปลอดภัยจากรอบด้านก่อน แล้วค่อยประกาศเรื่องแต่งงาน……แต่ว่า……”
หล่อนหลีกำมือที่วางบนเข่าไว้แน่น น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง
“ฉันรอมานานหลายปีแล้ว และฉันก็ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว ขอโทษด้วยนะ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ค่อยเข้าใจความเป็นห่วงของคุณนายหล่อน จึงทำได้แต่ส่ายหน้าและพูดปลอบเธอ: “คุณวางใจเถอะค่ะ ไม่เกิดเรื่องอะไรกับฉันหรอกค่ะ”
คิ้วที่ขมวดไว้ของคุณนายหล่อนไม่ได้คลายออกเลย แต่กลับขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม
เธอยืนขึ้น และกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ
“เด็กน้อย หนูคือความอ่อนแอเดียวของฉัน คือคนเดียวที่ฉันรู้สึกขอโทษ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกใจกระตุกขึ้นมา กลับรู้สึกว่าคำพูดทุกคำที่คุณนายหล่อนพูดนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่ยิน