เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 318 ปกป้องคนผิด
บทที่318 ปกป้องคนผิด
หลวนจื่อที่ได้ยิน จึงหันหน้าไป และเห็นว่ามีคนยืนอยู่ในห้องรับแขกสองคน เธอตกใจจนเบิกตาโพลง
“เที๋ยนเที๋ยน?”
เธอมองจี้จิ่งเชิน และพูดขึ้นว่า:“พวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงถามกลับว่า:“แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
หลวนจื่อปรากฏตัวที่ตระกูลเวินได้อย่างไร
และเมื่อกี้ที่เธอสนทนากับเด็กคนนั้นอีก ราวกับว่า หลวนจื่อจะคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี
หลวนจื่อที่ได้ยินก็หัวเราะออกมา
“ใช่ ฉันลืมบอกพวกเธอไป”
ในขณะที่พูด เธอก็เดินเข้ามา แต่เด็กคนนั้นกลับดิ้นจนหลุดมือ และรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลวนจื่อมองไปที่ด้านหลังของเขา และพูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจว่า:“ช่างเถอะ เดี๋ยวรอดูว่าป้ารองจะจัดการเขายังไง!”
เธอผายมือออก และเดินไปที่ด้านหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน และดึงเธอมาอย่างประหลาดใจ
“ฉันมาหาป้ารองของฉัน เมื่อกี้เด็กคนนั้นเป็นลูกชายของป้ารอง ดื้อมากเลย เมื่อกี้คงไม่ได้ทำให้พวกเธอตกใจหรอกนะ?”
เธอขมวดคิ้วพลางบ่นว่า:“ปืนในมือของเขาน่ะไม่มีกระสุน ไม่มีอันตรายอะไรหรอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างตกใจว่า:“นั่นเป็นปืนจริงหรอ?”
“ใช่แล้ว?ลุงรองของฉันเป็นคนให้เขาเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ยิน ก็งงไปชั่วขณะ
ทั้งตระกูลเวิน เดิมทีอาศัยอยู่แค่ท่านแม่ทัพเวิน เวินหงหยู้ และเวินหงไห่สามคนพ่อลูก
ภรรยาของท่านแม่ทัพเวินได้เสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหลือเพียงแต่ลูกแค่สองคน
จนถึงวันนี้เวินหงหยู้ก็ยังไม่ได้แต่งงาน เดิมทีก็ไม่มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว
อย่างนั้นก็เหลือเพียงแค่เวินหงไห่คนเดียวเท่านั้น
ลุงรองของหลวนจื่อก็คือเวินหงไห่?
ขณะที่กำลังเดาอยู่นั้น หลวนจื่อก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า:“พวกเธอมาที่นี่มีอะไรเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปจ้องตาจี้จิ่งเชินแวบนึง ก่อนจะพูดขึ้นว่า:“จริงๆแล้วฉันอยากมาเจอคุณชายรองของตระกูลเวิน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยู่”
เมื่อหลวนจื่อได้ยิน ก็มองเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินด้วยความประหลาดใจ
“พวกเธอมาหาลุงรองทำไมเหรอ?”
“มีเรื่องอยากจะถามเขานิดหน่อยน่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดตรงๆ และตอบกลับตอบไปอย่างผ่านๆ
หลวนจื่อมองพวกเขาอย่างประหลาดใจ พอจะถามอย่างละเอียดอีกรอบ ก็มีคนเดินเข้ามาจากประตู
หญิงวัยกลางคนในชุดกี่เพ้าสีน้ำเงิน ได้เดินจูงมือเด็กคนเมื่อกี้เดินเข้ามา
“หลวนจื่อ ใครมาน่ะ?”
หลวนจื่อลุกขึ้นมา และพูดว่า:“ป้ารอง สองคนนี้เป็นเพื่อนของฉันเองค่ะ พวกเขามาหาลุงรอง”
ผู้หญิงคนนั้นมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยน และพวกเขาจึงเดินเข้าไปพลางพูดขึ้นว่า:“สวัสดีค่ะ ฉันเหยาเย้นเป็นภรรยาของเวินหงไห่ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“จริงๆแล้วก็มีเรื่องนิดหน่อยครับ”จี้จิ่งเชินพูดขึ้น:“แต่มันก็เป็นเรื่องงานทั้งหมด”
“พวกเธอมีอะไรจะถามหงไห่หรอ?”
ขณะที่พูดอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้นจากชั้นบน
คนจำนวนหนึ่งเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นเวินฉี่ ท่านแม่ทัพเวินในมือถือไม้เท้า และยืนอยู่ตรงขั้นบันได กำลังก้มหน้ามองพวกเขาอยู่
เมื่อเห็นว่าทุกคนหันหน้ามา ก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า:“มีอะไรหรอ พูดกับฉันก็ได้”
เขาก้าวลงมาทีละขั้นทีละขั้น และนั่งลงตรงโซฟาของห้องรับแขก เขากวาดสายตาอันเฉียบแหลมไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาค่อยๆพูดขึ้นว่า:“สาวน้อย มีอะไรก็พูดกับคนแก่อย่างฉันตรงๆเถอะ”
น้ำเสียงแฝงไปด้วยการออกคำสั่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมามองจี้จิ่งเชินครู่นึง และพูดขึ้นว่า:“ฉันอยากจะมาถาม คุณชายรองของตระกูลเวินว่ารู้เรื่องที่เกี่ยวกับคุณนายหล่อนไหม”
เมื่อได้ฟัง จู่ๆท่านแม่ทัพเวินก็หัวเราะขึ้นมา
เหยาเย้นและหลวนจื่อที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ฟังก็ไม่กล้าพูดอะไร และมองพวกเขาอย่างประหลาดใจ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เวินฉี่จึงจะพูดขึ้นว่า:“เธอมาที่ตระกูลเวินเพื่อถามถึงคนของตระกูลหล่อน?สาวน้อย เธอคิดว่าเธอมาถูกที่แล้วหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ฟังคำพูดของเขา ก็ขมวดคิ้ว
“มีอะไรที่ไม่ถูกคะ?”
ท่านแม่ทัพเวินส่ายหน้าไปมา
“ไม่ถูก ใครๆเขาก็รู้กันว่าตระกูลหล่อนกับตระกูลเวินจะไม่ล้ำเส้นกัน และไม่เกี่ยวข้องกัน เธอมาตามหาที่นี่ แถมท่าทางดูไม่เป็นมิตร พอเอ่ยปากก็ถามถึงคุณนายหล่อน สรุปแล้วก็คือ เป็นพวกเราที่ซ่อนตัวของเธอเอาไว้งั้นหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ฟังคำพูดของเขาที่แฝงไปด้วยความเสียดสี และเต็มไปด้วยเจตนาที่ไม่ดี ก็ขมวดคิ้ว
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ก่อนหน้านี้คุณชายรองของตระกูลเวินได้ไปที่ตระกูลหล่อน และบอกกับฉันว่าคุณนายหล่อนได้รับบาดเจ็บ แถมยังถามเรื่องของคุณนายหล่อนอีก ฉันเลยสงสัย เลยอยากจะถามว่าเขารู้เรื่องนี้มาจากไหน”
สีหน้าของท่านแม่ทัพเวินขรึมขึ้นมาเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงจะพูดขึ้นอย่างสบายๆ
“ลูกชายของฉันคนนั้นแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ยอมแพ้ พูดอะไรไม่คิด บางทีเขาก็เหลวไหล เชื่อไม่ได้หรอก”
ในขณะที่พูด เขาก็ไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ถาม ก็หันไปมองจี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่ข้างๆ แววตานั้นยิ่งเฉียบแหลมขึ้น
“น้องจี้ นายมากับเธอ หรือว่านายก็คิดว่าลูกชายของฉันเป็นคนพาคุณนายหล่อนไปซ่อนไว้?”
จี้จิ่งเชินหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา และตอบขึ้นอย่างชำนาญ
“ไม่ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุป รอให้ได้เจอตัวก่อน เดี๋ยวก็จะชัดเจนเอง พวกเราไม่ได้บอกว่าคุณชายรองของตระกูลเวินเป็นคนพาคุณนายหล่อนไปซ่อน เพียงแค่ได้ยินมาว่าเขามีข้อมูลอยู่ในมือ ก็เลยอยากจะมาสอบถามก็เท่านั้น”
เขามองไปที่ท่านเวิน พลางพูดขึ้นว่า:“ท่านทำไมต้องเครียดขนาดนั้น?วันนี้ไม่ได้เจอเขา ครั้งหน้าพวกเราค่อยมาใหม่ก็ได้”
สีหน้าของท่านแม่ทัพเวินก็ขรึมขึ้นมาเล็กน้อย เสียงก็ทุ้มลงเล็กน้อย
“ตอนแรกฉันอนุญาตให้เธอเข้าตระกูลเวินมาได้ แต่ฉันคงให้พวกเธอมาซักถามพวกเราบ่อยๆไม่ได้หรอกนะ!”
“มันไม่ใช่การซักถาม แต่เป็นการถามธรรมดาเท่านั้น พวกเรากังวลที่อยู่ของคุณนายหล่อนมากๆ ฉันคิดว่าเขาน่าจะรู้ข้อมูลภายในบ้างเล็กน้อย”
ท่านแม่ทัพเวินหรี่ตาลงเล็กน้อย และพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า:“ถ้าหากเขารู้ละก็ ฉันจะไม่ให้เขาปิดบังเลย”
“แต่ฉันคิดว่า”ในขณะที่เขาพูด เขาก็มองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง และค่อยๆพูดขึ้นว่า:“ตอนนี้พวกเธอควรจะเอาแรงและกำลังไปตามหามากกว่านะ เรื่องก่อนหน้านี้น่ะวันหลังค่อยว่ากัน เผื่อถ้าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นมา พวกเธอก็จะมาโทษพวกฉันอีก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ที่ท่านแม่ทัพเวินพูดนั้นความหมายก็คือ เขากำลังช่วยปกป้องคนผิดอย่างเวินหงไห่อย่างเห็นได้ชัด และให้เธอหยุดที่จะสืบต่อไป
ในขณะที่อยู่ในเขตของตระกูลเวินนั้น เธอไม่สามารถจะแสดงอารมณ์โกรธออกมาได้ ทำได้เพียงเก็บอารมณ์เอาไว้ และพูดขึ้นว่า:“ถึงแม้จะไม่ได้ถามที่อยู่ของคุณนายหล่อน งั้นไม่ทราบว่าคุณท่านรู้ไหมคะว่าเวินหงหยู้อยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของเวินฉี่ก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูเอาอย่างมาก
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา
“คนที่ถูกฉันไล่ออกจากตระกูลคนนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเวินอีกแล้ว!เขาไม่ได้ไปพึ่งพิงตระกูลหล่อนนานแล้วหรอ?แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”
เมื่อพูดจบ เขาก็หันหน้าหนี ชัดเจนว่าเขาไม่อยากที่จะสนเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว
“คุณท่าน……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากที่จะพูดต่อ แต่ก็ถูกจี้จิ่งเชินห้ามเอาไว้
เธอหันหน้ามา จี้จิ่งเชินก็ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย
เขาลุกขึ้นมาก่อน และพูดขึ้นว่า:“ในเมื่อท่านแม่ทัพเวินไม่รู้ งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน หวังว่าครั้งต่อไป ที่คุณชายรองของตระกูลเวินกลับมา พวกเราจะได้ถามเขาอย่างชัดเจนอีกครั้ง”
“ครั้งต่อไป ก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะเข้ามาได้อย่างราบรื่นอีกหรือเปล่านะ!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ จี้จิ่งเชินก็ไม่ได้พูดอะไร และดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ลุกขึ้น
“พวกเรากลับกันเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้
ถ้าหากกลับตอนนี้ ก็ไม่เท่ากับว่ามาเสียเที่ยวหรอกเหรอ?