เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 319 พวกเธอมาช้าไปแล้ว
บทที่319 พวกเธอมาช้าไปแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นลังเลเล็กน้อย แต่ท่าทีของจี้จิ่งเชินนั้นดูหนักแน่นมาก เธอจึงทำได้เพียงพยักหน้า
และท่าทีเมื่อกี้ของเวินฉี่ ถึงแม้จะถามต่อไป แต่ก็ไม่สามารถถามอะไรได้อยู่ดี
เธอกัดฟัน และพูดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจว่า:“ครั้งหน้าฉันจะมาใหม่”
หลวนจื่อที่อยู่ข้างก็มองดูพวกเขา บรรยากาศที่ดูตึงเครียดเมื่อกี้ ทำให้พวกเธอตกใจกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เมื่อเห็นว่าตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนเตรียมที่จะออกไป เธอจึงรีบลุกขึ้นยืน
“ป้ารอง งั้นฉันไปกับพวกเขาด้วยดีกว่า”
เหยาเย้นมองดูเวินฉี่อย่างเป็นกังวล เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้แสดงทีท่าอะไร จึงหยักหน้า
“เธอระวังตัวด้วยนะ”
หลวนจื่อจึงรับเดินตามไป
เมื่อออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลเวิน หลวนจื่อก็ไล่ตามมาอยู่ด้านหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน
“ถ้าพวกเธอกังวลละก็ เดี๋ยวฉันจะช่วยพวกเธอถามป้ารองให้เอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าไปมา เธอไม่อยากจะลากหลวนจื่อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้พวกเราจัดการเองได้”
เมื่อพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันไปมองคฤหาสน์ตระกูลเวินอีกครั้ง และพูดขึ้นว่า:“เธอมาที่นี่บ่อยหรอ?”
หลวนจื่อพยักหน้า
“แม่ของฉันไม่ค่อยวางใจน่ะ เลยให้ป้ารองมาช่วยดูฉันที่นี่สักหน่อย ฉันเลยต้องมารายงานตัวที่นี่บ่อยๆ ถ้าพวกเธอมีอะไร ก็ให้ฉันไปช่วยถามได้นะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก ท่านแม่ทัพเวินไม่รู้ คนอื่นๆก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน”
หลวนจื่อมองพวกเขาอย่างสับสน เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากให้เธอช่วย จึงพูดขึ้นว่า:“ถ้าอย่างนั้น อีกสักสองสามวันฉันจะไปหาพวกเธอเอง”
“ได้”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดจบ เธอก็ถูกจี้จิ่งเชินลากขึ้นรถ และออกจากตระกูลเวินไป
ในขณะนั้น ในห้องรับแขกตระกูลเวิน
สีหน้าของท่านแม่ทัพเวินดูแย่มากๆ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย และตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“ไปตามเวินหงไห่กลับมาให้ฉัน!”
เสียงที่ดังราวกับสายฟ้าฟาด ทำให้เหยาเย้นและเวินหมิงเฮ่าตกใจจนสะดุ้งโหยง และได้มองเขาอย่างประหม่า ทำให้รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ท่านแม่ทัพเวินมองดูพวกเขาแวบนึง และโบกมือไปมา ให้พวกเขาออกไป
เหยาเย้นรีบลุกขึ้น และจูงเด็กน้อยออกไป
เมื่อในห้องรับแขกไม่มีใครแล้ว เวินฉี่ก็ออกคำสั่งว่า:“ไป ให้คนสองคนติดตามพวกเขาไป และดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ”
บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆก็โน้มตัวลงมาเล็กน้อย
“ครับ”
รถของจี้จิ่งเชินออกจากตระกูลเวิน และมุ่งหน้าไปที่ตระกูลหล่อน
ผ่านไปพักใหญ่ คิ้วที่ขมวดอยู่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงไม่คลายออก
“แม่ทัพเวินต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ เลยไม่อยากให้พวกเราสืบต่อไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามาถามว่า:“นายรู้หรือเปล่าว่า ตระกูลเวินกับตระกูลหล่อนจริงๆแล้วมีความบาดหมางอะไรกัน?”
จี้จิ่งเชินนึกย้อนกลับไป พลางพูดขึ้นว่า:“ตระกูลหล่อนกับตระกูลเวินนั้นมีความบาดหมางกันมานานแล้ว เมื่อก่อนตระกูลหล่อนได้มีคนที่อยู่ในหน่วยงานราชการหนุนหลังอยู่ ราวกับว่าตั้งแต่นั้นมา ตระกูลเวินก็ได้มีความเห็นที่ต่างออกไป และรายละเอียดมันเป็นยังฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่สามารถ…….”
เมื่อพูดไปได้ครึ่งนึง จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็มองเห็นโรงพยาบาลที่อยู่ข้างนอก และได้หยุดพูดลง
“โรงพยาบาลหลังนั้น เคยไปสืบหาแล้วยัง?”
โรงพยาบาลแห่งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลหล่อน แต่กลับมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับตระกูลหล่อนอย่างมาก
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตกลงไปในทะเลครั้งก่อน ก็ถูกคุณนายหล่อนนำตัวมาส่งที่นี่
และหลังจากที่จี้จิ่งเชินได้บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องราวพวกนั้น ก็เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลแห่งนี้เช่นกัน
ดูเหมือนว่า โรงพยาบาลแห่งนี้น่าจะอยู่ภายใต้สังกัดของคุณนายหล่อน
จี้จิ่งเชินหันหันหน้ามามอง
“ที่นี่ได้ให้คนมาสืบแล้ว แต่ว่า……”
จู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ว่า ในตอนแรกที่เขามาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ พวกแพทย์และพยาบาลเหล่านั้นก็โกหกเรื่องข่าวการตายของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง และเปลี่ยนคำพูดว่า:“บางทีพวกเราอาจจะยังตรวจสอบไม่ละเอียด”
จี้จิ่งเชินหันมามองเวินเที๋ยนเที๋ยน และพูดขึ้นว่า:“ถ้าหากคุณนายหล่อนตั้งใจที่จะซ่อนตัวจริงๆ ก็คงไม่ให้พวกเราถามถึงตัวเขาจากปากพยาบาลและหมอได้อย่างง่ายๆหรอก”
แพทย์และพยาบาลทั้งหมดทุกคนของโรงพยาบาลแห่งนี้นั้นล้วนฟังคำสั่งของคุณนายหล่อนทั้งนั้น ถ้าหากทุกคนร่วมมือกันละก็ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถจะถามได้
“นายหมายความว่า เธออาจจะให้ทุกคนโกหกพวกเรา”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า เรื่องแบบนี้เขาเคยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งนึง เขาจึงรู้ว่ามันน่ากลัวมากแค่ไหน
เขาเงยหน้าขึ้นมองโรงพยาบาลที่อยู่ข้างนอก และพูดขึ้นว่า:“เข้าไปดูหน่อยละกัน”
ทั้งสองคนได้มาถึงที่หน้าเคาน์เตอร์ เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่าด้านในมีพยาบาลยืนอยู่สองคน จึงถามขึ้นว่า:“ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาล ได้มีคนที่ชื่อว่าหล่อนหลีได้มาที่นี่บ้างหรือเปล่าคะ?”พยาบาลเงยหน้ามองไปที่เธอ และเผยรอยยิ้มออกมา พลางส่ายหน้าและพูดว่า:“ขอโทษด้วยค่ะ คุณ พวกเราไม่มีผู้ป่วยที่ชื่อนี้ค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูท่าทางของเธออย่างสงสัย
“คุณไม่ค้นหา ก็รู้แล้ว?”
นางพยาบาลคนนั้นก็หัวเราะออกมาและพูดขึ้นว่า:“คุณคะ ดิฉันรับรองผู้ป่วยอยู่ทุกวัน ชื่อของผู้ป่วยทุกคนฉันจำได้ดี ไม่มีคนคนนี้ค่ะ”
เธอพูดอย่างมั่นใจมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนลดระดับเสียงลงเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า:“ฉันคือเวินเที๋ยนเที๋ยน คุณนายหล่อนเป็นแม่บุญธรรมของฉัน ฉันแค่อยากจะรู้ว่าตอนนี้เธอปลอดภัยดีไหม?”
พยาบาลคนนั้นมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยน “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่แน่ใจ”
จี้จิ่งเชินที่ยทนอยู่ข้างหลังเวินเที๋ยนเที๋ยน เมื่อได้ฟังที่นางพยาบาลตอบแล้ว จึงเดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว
“ที่โรงพยาบาลนี้ไม่มีคุณนายหล่อน?งั้นขอถามหน่อย มีคนที่ชื่อเวินหงหยู้?”
นางพยาบาลเงยหน้ามองจี้จิ่งเชิน และค่อยพยักหน้า
“คุณ ตามฉันมาค่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังและเดินมุ่งหน้าไปข้างหลัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองจี้จิ่งเชินอย่างประหลาดใจ และรีบเดินตามคนคนนั้นไป
นางพยาบาลพาพวกเขาเดินผ่านทางเดิน และขึ้นลิฟต์อย่างชำนาญ จนมาถึงชั้นบนสุดของตึก
ตลอดทางที่เดินผ่านมา เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เห็นใครเลยสักคน
คาดว่าที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ลับสุดยอดของโรงพยาบาล คนธรรมดาไม่สามารถเข้ามาได้
พยาบาลพาเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินมุ่งหน้าเข้าไปข้างใน ไม่นานก็มาถึงห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง
เธอยืนอยู่ตรงหน้าประตู และหันมาพูดกับคนทั้งสองว่า:“ที่นี่ค่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนถามต่อ ก็รีบหันหลังเดินจากไปทันที เหลือเพียงแค่สองคนที่ยืนอยู่ตรงประตู
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูประตูที่อยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง และไม่ขยับ
จี้จิ่งเชินจึงก้าวไปข้างหน้าก่อนหนึ่งก้าว เพื่อปกป้องให้เธออยู่ข้างหลัง และเอื้อมมือไปผลักประตู
เสียงของประตูดังขึ้น และค่อยๆเปิดออก
เวินเที๋ยนเที๋ยนโน้มตัวไปข้างหน้า และมองเข้าไปข้างใน
บนเตียงในห้องผู้ป่วยนั้นว่างเปล่า แต่ข้างๆเตียงผู้ป่วยนั้น ได้มีคนนั่งอยู่บนเก้าอี้
ในขณะเดียวกันที่ประตูเปิดออก เขาก็เงยหน้าขึ้นมา
พบว่าจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฎตัวอยู่ที่ประตู แต่กลับไม่ได้ประหลาดใจอะไร เพียงแค่ค่อยๆพูดขึ้นว่า:“พวกเธอหาเจอจนได้สินะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองคนที่นั่งอยู่ในขณะนั้นด้วยความประหลาดใจ
“คุณ…… คุณลุงเวิน?”
เธอมองดูในห้อง กลับพบเพียงเวินหงหยู้เพียงคนเดียวเท่านั้น
“คุณลุงเวิน แล้วคุณนายหล่อนล่ะ?”
เวินหงหยู้ส่ายหน้าไปมา
“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่”
เขาพูดขึ้น และขึ้นเสียงนิดหน่อย
“พวกเธอมาช้าไปแล้ว”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินที่เขาพูด ก็รู้สึกราวกับว่าอีกฝั่งไม่ได้พูดกับเธออยู่
เธอหันหลังกลับไปมอง กลับพบว่ามีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา
คนเหล่านั้นสวมชุดเครื่องแบบ เมื่อพวกเขาอยู่ในเหล่าผู้คนก็จะไม่สังเกตเห็น
แต่เมื่อพวกเขาแสดงตัวออกมา กลับทำให้เกิดความรู้สึกกดดันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ตลอดทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเดินมานั้น รอบๆไม่มีผู้คนเลย และพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาเองโดนสะกดรอยตามแล้ว!