เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 263 ความแปลกของจี้จิ่งเชิน
บทที่ 263 ความแปลกของจี้จิ่งเชิน
สุดท้ายเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็สามารถถอนสายตาของตัวเองกลับมาจากลิฟต์ที่จี้จิ่งเชินกับเจียงหยู่เทียนเดินออกไปด้วยกันได้
“ฉันกลับเองได้ค่ะ คุณไม่ต้องตามฉันหรอก”
เธอโบกมือให้กับจงหลี แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากบริษัท
เธอรอเขาอยู่ที่ตระกูลหล่อนทั้งวัน แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่เห็นว่าจี้จิ่งเชินจะมาหาเธอเลย
เธอจึงลองเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อน แต่เขาก็ไม่ยอมรับสายเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกระวนกระวายใจ พออีกวันหนึ่ง เธอจึงไปที่ปราสาทอีกครั้ง
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เข้าไปในปราสาท ก็พบว่ารถของเธอไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีกแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังนั่งอยู่ในรถ และเมื่อได้ยินคนขับรถตอบกลับมา เธอก็ขมวดคิ้วทันที
“เข้าไปไม่ได้เหรอ?”
“ใช่ครับ คุณเวิน”
ถึงแม้เขาจะพูดชื่อของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว แต่ก็ยังถูกบอดี้การ์ดขัดขวางไม่ให้เข้า
“อีกฝ่ายบอกว่า คุณเวินไม่สามารถเข้าปราสาทได้ครับ”
“มีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงลงจากรถด้วยความไม่เข้าใจ พอลงรถมาก็เห็นว่าข้างหน้ารถมีบอดี้การ์ดยืนขวางอยู่
เมื่อบอดี้การ์ดเห็นเธอก็พูดขึ้นมา: “ต้องขอโทษด้วยครับ คุณอยู่ในรายชื่อที่ไม่อนุญาตเข้าไปข้างในปราสาทครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปอีกฝั่งหนึ่งอย่างประหลาดใจ ปราสาทอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่เธอกลับไม่สามารถก้าวเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว
แค่เห็นเธอยกเท้า อีกฝ่ายก็รีบมาขัดขวางเธอทันที
“คุณผู้หญิงครับ อย่าทำให้พวกผมลำบากใจเลยนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่พวกเขา
“ใครเป็นคนสั่ง?”
ที่นี่เป็นที่ของจี้จิ่งเชิน แล้วใครที่เป็นคนสั่งคำสั่งนี้ เธอแค่ทายดูก็รู้คำตอบอยู่แล้ว
แต่ว่า ในใจของเธอก็แอบหวังไม่ให้เป็นเขา
อีกฝ่ายไม่ยอมพูดไม่ยอมจา เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา
และกำลังจะโทรหาจี้จิ่งเชินอีกครั้ง แต่บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้าพูดขึ้น: “ขอโทษด้วยครับ นี้เป็นคำสั่งของคุณจี้ครับ”
มือของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังขยับอยู่หยุดลงทันที เธอเงยหน้าขึ้นและมองพวกเขาอย่างตกใจ
“เป็นไปได้ยังไง?”
จี้จิ่งเชินไม่ยอมให้เธอเข้าไปในปราสาทอย่างนั้นเหรอ?
แต่บอดี้การ์ดทั้งสองคนกลับพยักหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่ยอมแพ้ ยังคงพยายามโทรหาจี้จิ่งเชิน
ในสายมีแค่เสียงสัญญาณที่ไม่ว่าง และไม่มีคนรับสาย
จนเมื่อได้ยินเสียงอิเล็กทรอนิกส์ผู้หญิงดังขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเริ่มเข้าใจขึ้นมา
เธอหันไปมองปราสาทที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเธออีกครั้ง ภายในใจทั้งลนลานและทั้งเป็นห่วง
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็พูดต่อ: “คุณผู้หญิงครับ เชิญคุณผู้หญิงกลับไปได้แล้วครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเมื่อรู้ว่าไม่ว่าจะทำยังไงตัวเองก็เข้าไปข้างในไม่ได้ เธอจึงเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า
“ฉันรู้แล้ว”
พูดเสร็จ เธอก็หมุนตัวขึ้นรถ แล้วออกไปจากปราสาท
เมื่อรอจนรถของตระกูลหล่อนออกไปแล้ว พ่อบ้านก็ค่อยๆเดินออกมาจากห้องเล็กๆที่อยู่ข้างๆ
เขาขมวดคิ้ว และหันไปมองทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนออกไป
แล้วเขาหันมาพูดกับบอดี้การ์ดทั้งสองคน: “ถ้าต่อไปคุณเวินมาอีก ก็ต้องขวางเธอไม่ให้เข้าไปข้างในนะ”
บอดี้การ์ดทั้งสองคนจึงถามด้วยความไม่เข้าใจ: “พ่อบ้านครับ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?”
พ่อบ้านเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ส่ายหัวแล้วพูด: “นี้เป็นคำสั่งของคุณจี้”
ขณะที่กำลังพูดอยู่ ก็มีรถอีกคันหนึ่งค่อยๆขับขึ้นมาจากเขา
สักพักรถก็มาจอดอยู่ตรงหน้าของพวกเขาและเลื่อนกระจกรถลง แล้วก็เป็นใบหน้าของเจียงหยู่เทียนที่ปรากฏต่อหน้าของพวกเขาสามคน
“ฉันเข้าไปข้างในได้ไหม?”
พ่อบ้านมองไปที่เธอ และถึงแม้ไม่อยากอนุญาตให้เข้าไป แต่เมื่อนึกถึงคำสั่งของคุณจี้ เขาก็ทำได้แค่พยักหน้า
“เข้าได้ครับ คุณจี้กำลังรอคุณอยู่ครับ”
เจียงหยู่เทียนใส่แว่นกันแดดด้วยความพึงพอใจ แล้วขับรถเข้าไปข้างในปราสาท
อีกด้านหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังนั่งรถลงเขาอยู่ และเตรียมจะกลับตระกูลเวิน
แต่เมื่อนั่งไปได้ครึ่งทาง จู่ๆเธอก็พูดขึ้นว่า: “ไปบริษัทเอ็มไอกรุ้ปอีกรอบสิ”
“ได้ครับ”
รถจึงได้เลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง และมุ่งสู่ใจกลางเมือง
ไม่นาน รถของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็มาจอดอยู่ตรงลานกว้างหน้าบริษัท
เธอลงจากรถ และกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน แต่จู่ๆมี รปภ. สองคนมาขวางเธอไว้
“คุณเวินครับ ตอนนี้คุณเข้าไปข้างในไม่ได้นะครับ”
เมื่อกี้ที่ปราสาทก็โดนห้ามไม่ให้เข้า และไม่คิดว่าเมื่อมาที่บริษัท ก็จะถูกห้ามไม่ให้เข้าเหมือนกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
“ทำไม?”
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา เธอก็พูดออกมาอย่างรู้ว่าเป็นใคร: “เป็นคำสั่งของจี้จิ่งเชินอีกแล้วใช่ไหม?”
รปภ. ก็พยักหน้า
“ใช่ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองรอบๆ ก็เห็นว่าคนที่อยู่ในห้องโถงชั้นหนึ่ง กำลังมองมาทางที่เธอยืนอยู่
“ฉันแค่จะเข้าไปก็ไม่ได้?”
รปภ. พยักหน้า
“ใช่ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง
“งั้นช่วยติดต่อจี้จิ่งเชินให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
รปภ.พูดออกมาโดยไม่ได้หยุดคิด: “วันนี้คุณจี้ยังไม่ได้เข้ามาที่บริษัทครับ”
อย่างงี้ก็แสดงว่า เขาอยู่ที่ปราสาทตลอดอย่างงั้นเหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจเข้าไปอีก เพียงระยะเวลาแค่หนึ่งคืน
เธอกลับเข้าไปในปราสาทของจี้จิ่งเชินไม่ได้แล้ว
แม้แต่บริษัทก็ยังถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปอีก
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หลังจากคราวที่แล้วที่เธอกลับมาจากบริษัท เธอก็ไม่ได้เจอจี้จิ่งเชินอีกเลย และยังไม่ได้คุยกับเขาแม้แต่คำเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังมองดูบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้า และเมื่อเห็นว่าไม่มีวิธีที่เธอจะเข้าไปข้างในได้เลย จึงทำได้แค่หมุนตัวเดินออกไป
หลังจากที่เธอขึ้นรถ เธอกลับรู้สึกสับสนวุ่นวายในใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรหาจี้จิ่งเชินอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ยังไม่มีคนรับสายเหมือนเดิม
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยู่สักพัก จนในที่สุดก็เปลี่ยนไปเป็นโทรเข้าเบอร์ของพ่อบ้าน
ผ่านไปสักพัก ก็มีคนมารับสาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกดีใจมาก เธอจึงรีบถามออกไป: “คุณพ่อบ้านคะ จี้จิ่งเชินละคะ?”
“คุณเวิน”
พ่อบ้านนิ่งไปสักพัก แล้วค่อยพูดขึ้นมา: “คุณจี้กำลังยุ่งอยู่ครับ……”
พ่อบ้านเพิ่งจะพูดเสร็จ ก็มีเสียงเสียงหนึ่งลอยเข้ามาจากทางปลายสาย
และทันใดนั้น เสียงพูดของทางปลายสายก็เปลี่ยนไป
อยู่ๆก็มีเสียงของเจียงหยู่เทียนดังมาจากทางปลายสาย
“เวินเที๋ยนเที๋ยน? เธอมีธุระกับประธานจี้เหรอ? งั้นเดี๋ยวฉันช่วยเอาโทรศัพท์ไปให้เขานะ”
เมื่อเธอพูดเสร็จ เธอก็เปล่งเสียงเรียกของเธอออกไปเลย โดยที่ไม่ได้รอคำตอบของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ประธานจี้คะ เวินเที๋ยนเที๋ยนมีเรื่องอยากคุยกับประธานค่ะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนบีบโทรศัพท์ในมือแน่น ถึงแม้เธอจะไม่อยากติดต่อจี้จิ่งเชินผ่านทางเจียงหยู่เทียนมากแค่ไหนก็ตาม
แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธออาจจะได้คุยกับจี้จิ่งเชิน หลังจากที่ไม่ได้คุยมาหลายวัน
เธออยากจะถามเขาจริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนรอไปสักพัก ปลายสายกลับไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา
“จี้จิ่งเชิน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะเปิดปากพูด ปลายสายก็มีเสียง ตึด ตึด ตึด ขึ้นมาทันที
อยู่ๆสายก็ถูกตัดไปแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปสักพักโดยไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ แล้วเธอก็มองโทรศัพท์ของตัวเองด้วยความตกใจ
จี้จิ่งเชินตัดสายใส่เธออย่างงั้นเหรอ?
เมื่อคนขับรถที่นั่งอยู่ข้างหน้ามองเห็นสีหน้าของเธอ ก็พูดออกมาอย่างกังวล: “คุณเวินครับ? จะกลับตระกูลหล่อนไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับโทรศัพท์ของตัวเองแน่น แล้วหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที
“ไม่ต้อง”
เธอเปิดประตูรถ และเดินลงไปอีกครั้ง
วันนี้เธอจะต้องเจอจี้จิ่งเชินให้ได้ เธอจะรอจนกว่าเขาจะมาทำงาน
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้นั่งรอจี้จิ่งเชิน อยู่ในมุมหนึ่งของลานกว้างหน้าบริษัทอย่างเงียบๆ
เมื่อเธอรอมานานถึงสองชั่วโมง จนท้องฟ้าเริ่มมืด เธอก็เห็นว่ามีรถที่คุ้นตาคันหนึ่งมาจอดลงที่หน้าบริษัท
และเมื่อประตูรถถูกเปิดออก เธอก็เห็นจี้จิ่งเชินเดินลงมาจากรถ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะเข้าไปหาเขา ทันใดนั้น ก็เห็นว่าเจียงหยู่เทียนก็เดินลงมาจากรถคันดังกล่าวเหมือนกัน
เธอจึงรีบเดินเข้าไปข้างหน้าสองก้าว และไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรออกไป ถึงได้ทำให้จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างหน้าของเธอหยุดเดิน และหันกลับมา
อยู่ๆเจียงหยู่เทียนก็เดินเข้าไปตรงหน้าของเขา เขย่งเท่า แล้วจัดระเบียบคอเสื้อให้เขา
การกระทำของทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมาก
ถึงแม้ตอนนี้จะยังมีพนักงานอีกสองสามคนที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าบริษัท แต่เขาทั้งสองคนกลับทำโดยไม่ได้สนใจใครเลย