เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 262 คนสองคน
บทที่ 262 คนสองคน
เมื่อจี้ยี่หยันเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็รอยยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย
“เพิ่งจะมาเองเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเข้าหากัน และมองเขาอย่างระแวดระวัง
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“ที่นี่เป็นบริษัทของฉัน แล้วทำไมฉันถึงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ?” จี้ยี่หยันพูดแบบมั่นใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่นขึ้น แล้วมองเขาด้วยความสงสัย
จี้ยี่หยันเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วพูด: “คุณจะขึ้นไปหาจี้จิ่งเชินเหรอ?”
พูดเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ทันได้ตอบกลับ เขาก็โน้มตัวลงเล็กน้อย
แล้วชี้ไปทางลิฟต์“เชิญครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เข้าไปในลิฟต์ แต่ก็ยังคงมองที่จี้ยี่หยัน ด้วยความไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลง จี้ยี่หยันก็ยังคงยืนมองเธออยู่จากนอกลิฟต์เหมือนเดิม
สักพักลิฟต์ก็ได้มาหยุดอยู่ที่ชั้นบนสุด
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมาจากลิฟต์ ก็เจอเข้ากับจงหลีที่ยืนอยู่ข้างนอก
เมื่อเขามองเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็พูดด้วยความตกใจ: “คุณเวิน คุณมาได้ยังไงครับ?”
“ฉันมาหาจี้จิ่งเชินนะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ จงหลีก็รู้สึกลังเลขึ้นมาทันที
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขา ในใจก็ยิ่งรู้สึกว่ามันผิดปกติ
เธอชี้นิ้วไปทางห้องทำงานของจี้จิ่งเชิน
“เขาอยู่ในห้องหรือเปล่า?”
พูดเสร็จ เธอกำลังจะยื่นมือไปเปิดประตู แต่ประตูกลับถูกเปิดออกจากคนด้านในเสียก่อน
เธอเงยหน้าขึ้นมอง ก็เจอเข้ากับคนที่ไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่มากที่สุดในเวลานี้อย่างเจียงหยู่เทียน ยืนอยู่ข้างในของประตูนั้น
เธอสวมสูทสีขาว และในมือถือเอกสารอยู่ แทบไม่เหมือนคนที่ถูกจับมา
เมื่อเห็นว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เจียงหยู่เทียนก็ยกยิ้มกว้างตรงมุมปาก
“อ้อ เวินเที๋ยนเที๋ยนเองเหรอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เจียงหยู่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม: “เธอเพิ่งจะรู้เรื่องเองเหรอ? น่าสงสารจริงๆเลย”
“ฉันมาเป็นผู้ช่วยของจี้จิ่งเชินตั้งแต่สามวันก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมเหรอ เขาไม่ได้บอกเธอเหรอ?”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้ ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ เธอจึงหันไปมองที่จงหลีอย่างต้องการคำตอบ
แต่จงหลีกลับก้มหน้า แล้วไม่พูดไม่จา เป็นการยอมรับเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
จริงๆแล้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจี้จิ่งเชินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
แล้วทำไมจู่ๆเขาถึงตัดสินใจทำเรื่องที่ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อแบบนี้?
ไม่เพียงแต่เรียกจี้ยี่หยันกลับมา แถมยังให้สิทธิ์ครึ่งหนึ่งของบริษัทแก่เขา และยังให้เขาควบคุมธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัทอีก
แล้วก็ยังเรียกเจียงหยู่เทียนกลับมา โดยที่เขาไม่พูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมาเลย และให้เธอมาเป็นผู้ช่วยของเขา แถมยังตัวติดกันตลอด
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน จี้จิ่งเชินเพิ่งจะมาถามเขาว่าได้เจอเจียงหยู่เทียนหรือยัง ถึงแม้คำสั่งของจี้จิ่งเชินจะยากแค่ไหน แต่ยังไงก็ต้องหาคนคนนั้นให้เจอ
แต่ตอนนี้ ท่าทีของเขาเกิดกลับตาลปัตรไปหมด
เขาเคยลองถามความคิดของจี้จิ่งเชินดูเหมือนกัน แต่เขากลับไม่พูดอะไรสักคำ ตอนนี้แม้แต่จงหลีก็รู้สึกสับสนไปหมดแล้วเหมือนกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเจียงหยู่เทียนด้วยความระแวดระวัง
“แล้วจี้จิ่งเชินล่ะ?”
“เขาเพิ่งจะเซ็นสัญญาเสร็จ และตอนนี้เธอก็เข้าไปได้”
พูดเสร็จ เธอก็ยิ้มอย่างภูมิใจ ถือเอกสารในมือแล้วเดินออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่นขึ้น และเมื่อเห็นว่าเจียงหยู่เทียนเดินออกไปไกลแล้ว เธอจึงถอนสายตากลับมามองอยู่ที่ประตูของห้องทำงานของเขา
จงหลีคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกมา: “คุณเวินครับ ผมว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดตอบ แต่กลับผลักประตูและเดินเข้าไปในห้อง
จงหลียังคงยื่นอยู่หน้าห้องด้วยความกังวลเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพวกเขาเพิ่งจะของแต่งงานกัน และพนักงานในบริษัททุกคนก็กำลังพูดถึงเรื่องแต่งงานของเขาทั้งสองคนอยู่เลย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า อยู่ๆท่าทีของจี้จิ่งเชินก็จะกลับตาลปัตรแบบนี้
พวกเขาทายความคิดของจี้จิ่งเชินไม่ออกจริงๆ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนผลักประตูเข้าไป ก็เห็นจี้จิ่งเชินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานของเขา และกำลังยุ่งอยู่กับงาน จนไม่สามารถสังเกตเห็นการมาของเธอ
จนเมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปหา เขาถึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันจนแน่น ราวกับไม่มีความสุข
เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก็นิ่งไปพักหนึ่ง
“คุณมาได้ยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เขา
“ฉันก็มาหาคุณไง……จี้จิ่งเชิน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มี”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพูดออกไปตรงๆ: “เมื่อกี้ตอนฉันจะเข้ามาหาคุณ ฉันได้เจอกับเจียงหยู่เทียนและจี้ยี่หยันด้วย ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
ถ้าตามลักษณะนิสัยของจี้จิ่งเชินแล้ว เขาไม่มีทางที่จะให้สองคนนั้นเข้ามาอยู่ในบริษัทแน่นอน
เมื่อได้ยินคำถามนี้ จี้จิ่งเชินกลับเลือกที่จะไม่ตอบ แต่กลับยืนขึ้นแล้วเดินมาหาเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังสังเกตสีหน้าของจี้จิ่งเชิน เพื่อหวังจะได้เห็นเบาะแสอะไรในนั้น
แต่มองอยู่นาน ก็ยังไม่เห็นอะไรที่จะเป็นเบาะแสได้เลย
“พอดีบริษัทมีปัญหานิดหน่อย แต่เดี๋ยวผมก็จัดการได้แล้ว”
เขาพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค เพื่อเปลี่ยนเรื่อง: “คุณเป็นยังไงบ้าง? นี่ก็จะถึงเวลากินข้าวแล้วนะ คุณหิวหรือยัง?”
ท่าทางแบบนี้ของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามหลีกเลี่ยงอยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าจี้จิ่งเชินจะพาเธอไปกินข้าวข้างนอก และพอถึงตอนนั้นเธอจะต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ จี้จิ่งเชินกลับพูดต่อว่า: “ผมให้จงหลีจองร้านไว้ให้คุณแล้วนะ ถ้าคุณรู้สึกหิว คุณก็สามารถไปทานก่อนได้เลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองเขาด้วยความตกใจ
“คุณจะไม่ไปทานด้วยกันเหรอ?”
“ตอนนี้ผมยังไม่มีเวลา”
เขาโน้มกายมาจูบเบาๆที่หน้าผากของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วออกห่าง
เหมือนเขาทำๆไปให้พอเป็นพิธี……
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหนักอึ้งในใจ เธอถูกเขาจับไหล่และดันร่างไปทางประตูห้องทำงาน
“คุณกลับบ้านไปก่อนนะ และเดี๋ยวอีกสองวันผมจะไปหาคุณเอง”
ยิ่งเขาเร่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับบ้าน ก็ยิ่งทำให้เธอสงสัยเข้าไปอีก
จี้จิ่งเชินกำลังปิดบังเธอเรื่องอะไรกันแน่?
ประตูของห้องทำงานถูกผลักออก และเขาก็พาเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาข้างนอก
เพิ่งออกมาจากประตู พวกเขาก็เจอเข้ากับเจียงหยู่เทียนที่ยืนอยู่หน้าประตู
ในมือของเธอกำลังถือตารางเวลาฉบับหนึ่ง และเมื่อเห็นจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ยิ้มเล็กน้อย
แล้วพูดกับจี้จิ่งเชิน: “ประธานจี้คะ อีกประเดี๋ยวท่านจะมีงานต่อนะคะ”
เมื่อจี้จิ่งเชินเห็นเธอ ก็มีสีหน้าที่ไม่ดีเล็กน้อย ในตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังสงสัยว่าจี้จิ่งเชินว่าเป็นอะไรกันแน่ ถึงได้สังเกตไม่เห็นอะไรเลย
“ฉันรู้แล้ว”จี้จิ่งเชินพูดเสียงต่ำ
แต่เจียงหยู่เทียนกลับยังไม่ไปไหน และยังยืนอยู่ข้างหน้าของพวกเขา
“ประธานจี้คะ ตอนนี้ท่านมีงานที่ต้องทำนะคะ”
คิ้วของจี้จิ่งเชินขมวดขึ้น ผ่านไปสักพัก เขาปล่อยมือจากเวินเที๋ยนเที๋ยน และพูดน้ำเสียงต่ำขึ้นกว่าเดิมและยังมีความโกรธปนอยู่ด้วย
“ไปสิ”
พูดเสร็จ ทั้งสองคนก็ออกไปเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงยืนอยู่ที่เดิม และมองดูจี้จิ่งเชินกับเจียงหยู่เทียนที่เดินออกไปพร้อมกัน
เป็นแบบนี้ไปได้……
ยังไง?
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ จงหลีก็เดินมาหาเธอจากอีกฝั่งหนึ่ง และมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ
“คุณเวินครับ คุณจี้บอกให้ผมไปส่งคุณกลับบ้านครับ”
สุดท้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ทนไม่ไหว แล้วถามออกไป: “คุณรู้ไหม ว่าตอนนี้จี้จิ่งเชินกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?”
จงหลีส่ายหัว
“แต่ว่า ในเมื่อมันเป็นคำพูดของประธานจี้ ท่านก็ต้องมีแผนของท่านอยู่แล้วล่ะครับ”
แผนของตัวเองงั้นเหรอ?
แผนของเขาคือทิ้งเธอให้อยู่คนเดียว และหนีไปกับเจียงหยู่เทียนใช่ไหม?
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่มากดทับอยู่ เจียงหยู่เทียนเป็นคนยังไง ไม่มีใครรู้ดีเท่าเธอกับจี้จิ่งเชินแล้ว
จงหลีพูดขึ้น: “คุณเวิน คุณอย่าคิดมากเลยนะครับ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานประธานจี้อาจจะบอกเรื่องนี้กับคุณก็ได้”
“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น……”