เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 26 ถ้ากล้าเหยียบ ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่นี่
บทที่ 26 ถ้ากล้าเหยียบ ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่นี่
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนก้าวเข้ามาในห้องรับแขก ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆที่มาจากทุกทิศทุกทาง
ถึงพวกเขาจะไม่ได้มองมาทางนี้ แต่เธอกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่า สิ่งที่คนพวกนั้นสนใจก็มีแค่ตัวพวกเขาเองเท่านั้น
จี้จิ่งเชินพาเธอเดินเข้างานไปด้วยสีหน้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ทุกคนในงานสวมชุดราตรี ถือแก้วแชมเปญคนละใบ ยิ้มแย้มพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
ยังไม่ทันจะได้กวาดสายตาดูทั่วทุกคน หญิงวัยกลางคนในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มหน้าตายิ้มแย้มตรงดิ่งเข้ามา
ผมของเธอมวยขึ้นเป็นทรงแบบสมัยก่อน ใบหน้าของเธอยิ้มแย้ม เธอน่าจะเป็นแม่ของจี้จิ่งเชิน แต่พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มตรงหน้า เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมีความรู้สึกแปลกๆ
“จิ่งเชิน ทำไมเพิ่งจะมา?แม่นึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกแล้ว เมื่อกี้ก็เกือบให้น้องไปตามหาลูกแล้วนะ”
ไม่รอให้จี้จิ่งเชินได้เอ่ยปาก เธอก็เริ่มพูดถึงเวินเที๋ยนเที๋ยน มองไปที่เธออย่างละเอียด
“เนี่ยนเหยา ไม่เจอกันหลายปี หนูยิ่งโตยิ่งสวยจริง ๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน จู่ๆก็รู้สึกประหม่า
“คุณเคยเจอฉัน….มาก่อนเหรอคะ?”
“เมื่อก่อนตอนที่เธอยังไม่ได้ไปต่างประเทศ ฉันยังเคยอุ้มเธออยู่เลยนะ”
ที่แท้ก็เป็นตอนเด็ก ๆ งั้นก็คงจะไม่รู้ว่าเธอคือเจี่ยงเนี่ยนเหยาตัวปลอม
เธอใจเย็นลง
“สวัสดีค่ะ คุณแม่……”
กำลังได้เอ่ยปากพูด จี้จิ่งเชินก็พูดแทรกขึ้นมาเฉยๆ หยุดบทสนทนาของเธอกลางคัน
“สายแล้วนะครับ เริ่มงานกันเลยดีกว่า”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉวีช่วยฉินแข็งทื่อ ดูเหมือนว่าเขาพยายามปรับวิธีการแสดงออกบนในหน้าอยู่
ตอนนั้นเอง ก็มีชายในชุดสูทสีขาวผูกผ้าผูกคอหูกระต่ายเดินออกมา
ใบหน้าได้รูปที่สวยงามนั้น แตกต่างจากใบหน้าอันแข็งทื่ออย่างกับหินของจี้จิ่งเชินราวฟ้ากับเหว เขายิ้มที่มุมปาก เขาดูดีมีสง่าราศีในทุกท่วงท่าที่ทำ
กรอบแว่นเลี่ยมทอง ดวงตาคู่นั้นพกพารอยยิ้มมาด้วย รอยยิ้มนั้นส่งต่อไปให้เวินเที๋ยนเที๋ยน แต่กลับทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัด
เขาเดินเข้ามา พยายามช่วยประคองฉวีช่วยฉิน
“แม่ครับ ผมก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า พี่ไม่เป็นอะไรหรอก แล้วเขาก็มาแล้วนี่ไงครับ?”
ผู้ชายตรงหน้านี้คือน้องชายของจี้จิ่งเชิน?
จี้ยี่หยัน?
พอเขามา ฉวีช่วยฉินก็ดูผ่อนคลายลง ลากเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแนะนำตัวกับเขา
“นี่คือพี่สะใภ้ของนาย เจี่ยงเนี่ยนเหยา
เขายิ้มพลางพยักหน้าไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
“สวัสดีครับ คุณเนี่ยนเหยา หลังจากนี้เรียกผมว่ายี่หยันก็ได้ครับ”
เพิ่งรู้จักกันก็เรียกซะสนิทแบบนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนปรับตัวไม่ค่อยทัน แต่ก็พยักหน้าตอบไป
“ได้ค่ะ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วยืนอยู่ข้างๆ พูดด้วยน้ำเสียงต่ำว่า:“ยังไม่เริ่มกันอีกเหรอ?”
น้ำเสียงฟังดูไม่พอใจ แต่จี้ยี่หยันกลับยิ้มแย้มไม่สนใจ อารมณ์ดีจริง
“ผมบอกกับวงดนตรีไปแล้วว่า รอให้คุณพ่อมาถึงก่อน วันนี้ท่านไม่ค่อยสบาย นั่งพักอยู่ด้านหลังมาตลอด”
พูดเสร็จ เขาก็หันหลังและเดินไปที่มุมหนึ่งในงานที่วงดนตรีตั้งอยู่
พอเขาไป ฉวีช่วยฉินก็โดนเรียกตัวไปด้วยอีกคน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างๆจี้จิ่งเชิน เหมือนกับเสาค้ำยันที่อยู่กลางงานเลี้ยง
จี้จิ่งเชินไม่พูดไม่จา เธอก็ไม่กล้าเอ่ยปากชวนคุย
“เธออยากไปหาพ่อของเธอมั้ย?”
จี้จิ่งเชินกลับลากเธอไปซะดื้อๆ
“เริ่มแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งสังเกตเห็นฯว่า คนรอบ ๆถอยหลังออกไป และเหลือพื้นที่โล่งๆตรงกลางไว้
เสียงเพลงค่อยๆดังขึ้น
จี้จิ่งเชินลากเธอเข้าไปที่ฟลอร์ร์เต้นรำ
“สู้ๆนะ คุณผู้หญิง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมา เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆบนใบหน้าของเขา
แสงที่ส่องสว่างจากโคมไฟด้านล่าง ปรากฏภาพที่สวยงามตระการตาเหมือนดั่งเทพธิดา
จากนั้น เขาก็เอามือวางลงบนหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วขู่เธอเบาๆว่า
“ถ้ากล้าเหยียบเท้าอีกล่ะก็ ผมจะทิ้งคุณไว้ที่นี่”