เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 27 ยังจะทำอวดเก่งอีก
บทที่ 27 ยังจะทำอวดเก่งอีก
ท่วงทำนองของบทเพลงค่อยๆไหลไปในอากาศ โคมระย้าคริสทัลขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือหัว ส่องแสงประกายแวววับ
ใจกลางของห้องจัดเลี้ยง ทั้งสองกำลังเต้นรำไปกับเสียงเพลง
ตอนที่จี้จิ่งเชินและลูกสาวตระกูลเจี่ยงแต่งงานกัน ก็ไม่มีการจัดงานพิธีใด ๆ เกิดขึ้น
ได้ยินมาว่าเดิมทีตั้งใจจะจัดขึ้นและทุกอย่างก็เตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว แต่จี้จิ่งเชินก็ยุ่งอยู่กับงาน และไม่ได้ไปเข้าร่วมงานที่จัดขึ้นเขาส่งคนไปที่บ้านพักของเขาโดยตรง
พูดก็พูดเถอะ แต่ใครบ้างไม่รู้หนึ่งในประตูนั้น
งานจะยุ่งขนาดไหนกัน?
จะยุ่งจนไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานของตัวเองได้ยังไงกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัท เอ็มไอ กรุ๊ป ภายใต้ชื่อของจี้จิ่งเชิน ไม่มีการจัดกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น
จี้จิ่งเชินในฐานะคนของตระกูลจี้มีสิทธิพิเศษ คนวงในส่วนใหญ่ต่างรู้กัน แต่ก็ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจไม่อาจพูดอะไรได้ และกลายเป็นเรื่องของการประชุมไป
เดิมทีคิดว่าหลังจากจี้จิ่งเชินก่อตั้งบริษัท เอ็มไอ กรุ๊ป ก็จะรีบถอนตัวออกจากตระกูลจี้ แต่ที่ไหนได้ ทั้งสองฝ่ายกลับไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งใด ๆเลย
เขาถึงกระทั่ง ยอมแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลเจี่ยง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจี้คาง ไปพูดเป่าหูยังไงเขาถึงได้ยอมแต่ง
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คู่ที่กำลังเต้นรำหมุนตัวไปมาอยู่บนฟลอร์ตอนนี้ ดูๆไปก็ดูเหมาะสมลงตัวกันอย่างไม่น่าเชื่อ
หรือความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนจะมีความรู้สึกอะไรต่อกัน?
เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเอาตามนิสัยของจี้จิ่งเชินแล้ว วันแรกที่เจี่ยงเนี่ยนเหยาเข้าไปอยู่ในบ้าน ก็คงได้ร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว จะได้อยู่เต้นรำที่นี่ได้ยังไงกัน?
มองดูทั้งคู่แล้ว ทุกคนต่างก็ต้องกลับมานั่งคิดกันใหม่ ถึงความสัมพันธ์ของจี้จิ่งเชินกับลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลเจี่ยง
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่คนอื่น ๆคิด เพราะสมาธิของเธอทั้งหมดตอนนี้ เพิ่งไปที่เท้าของตัวเองหมดแล้ว
สเตปในการก้าวเท้าของการเต้นวอลซ์นั้นไม่เร็ว แต่จังหวะการเปลี่ยนเท่านั้นค่อนข้างซับซ้อน
คนจ้องมาที่เธอเยอะแยะขนาดนี้ แถมร่างกายของพวกเรายังต้องแนบชิดกันอีก ทำเอาเธอประหม่าแบบสุดๆ จนเกือบจะเหยียบใส่รองเท้าของจี้จิ่งเชินไปแล้วหลายที
เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นเต้นมาก ๆในตอนนี้ ได้แต่ทำตามการเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินแล้วหมุนตัว
แต่ก็มีสายตาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจส่งมาถึงเธอ เธอหันไปมองหาสายตาคู่นั้น
ยังไม่ทันได้ดูดี ๆ พอสเตปขาพันกัน ก็เหยียบลงไปที่เท้าของจิ้จิ่งเชินเข้าเต็มๆ!
แย่แล้ว/ซวยแล้ว/เวรล่ะ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเรียกสมาธิของตัวเองกลับคืนมา สเตปเท้าเริ่มดีขึ้น ปรับเปลี่ยนทิศทาง ออกห่างจากจี้จิ่งเชิน!
·เท้าสัมผัสกับพื้นได้อย่างราบรื่น เวินเที๋ยนเที๋ยนถอดหายใจเบาๆ
เงยหน้าขึ้นมา เห็นจี้จิ่งเชินมองมาที่เธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบอธิบายในทันที
“ฉัน ฉันได้เหยียบเท้าคุณนะ!ยังไม่ได้เหยียบ!”
จี้จิ่งเชินดึงเธอมาเตรียมตัวสำหรับการเต้นรอบต่อไป เวินเที๋ยนเที๋ยนโล่งใจไปได้นิดหน่อย
เพียงไม่นาน ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างพากันจับคู่ และเดินเข้าสู่ฟลอร์เต้นรำ
จี้จิ่งเชินพาเธอออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็มาเจอคนที่ค่อนข้างจะมีอายุกำลังพูดคุยอยู่กับเขา
จี้จิ่งเชินไม่ได้แนะนำเวินเที๋ยนเที๋ยนให้รู้จัก แต่ชี้ไปที่เก้าอี้สองสามตัวที่ตั้งอยู่ในมุมมุมหนึ่ง แล้วบอกว่า
“ไปนั่งรอนิ่งๆอยู่ตรงนั้น ห้ามลุกเดินไปไหน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูรอบๆ ถ้าฟังจากที่พ่อบ้านบอก งานนี้จัดขึ้นเพื่อเธอกับจี้จิ่งเชิน ถ้าจะไปพักตอนนี้ มันก็คงจะไม่ค่อยเหมาะ?
พอเห็นว่าเธอดูลังเลที่จะไปนั่ง จี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้ว และเพิ่มน้ำหนักของเสียงขึ้น
“รีบไปนั่ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้แต่พยักหน้าตอบ
โอเค ในเมื่อจี้จิ่งเชินต้องการแบบนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ว่าจะเหมาะหรือไม่เหมาะสม
จี้จิ่งเชินเห็นเธอเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงมุมนั้นแล้ว เขาก็มองไปที่เท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ในเมื่อไม่ถนัดใส่รองเท้าส้นสูง ก็เห็นได้ชัดว่าเท้าบวมแดงไปหมดแล้ว ยังจะมาทำเก่งอีก?
ในใจของเธอก็ไม่ได้โกรธอะไร ก็แค่ไม่เข้าใจว่าจี้จิ่งเชินอยู่ๆก็เป็นอะไรไม่รู้