เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 140 วางยา
บทที่ 140 วางยา
คิ้วของจี้จิ่งเชินขมวดเข้าด้วยกันอย่างแรงและก้าวเท้าเพื่อเดินออกไปทันที
ในขณะนี้เขาเองก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีในใจขึ้นมาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
เขาหันหัวของเขาอย่างรวดเร็วทันท่วงที คนที่อยู่ข้างหลังเขากำลังจะเริ่มเข้ามาแล้วเขาก็รีบหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เคลื่อนไหวรุนแรงบาดแผลที่หลังก็เริ่มเล่นงาน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นช้าเพียงหนึ่งวินาทีก็โดนอีกฝ่ายจะทับลงที่ศีรษะของเขาทันที
เขายังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไป ดวงตาก็ปิดสนิทลงทันที สายตาสุดท้ายยังคงจับจ้องอยู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
เจี่ยงเนี่ยนเหยาก้าวไปข้างหน้าแล้วกอดร่างของเขาเอาไว้
ผู้คนโดยรอบยังไม่ทันจับสังเกตได้ว่าบริเวณนี้มีการต่อสู้เกิดขึ้น เธอให้เฟิงจี้นช่วยพาจี้จิ่งเชินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
“เปลี่ยนสถานที่“
เธอกล่าวออกมาหลังจากพาจี้จิ่งเชินมาไว้ในรถแล้วตรงไปที่อาคารที่ถูกทิ้งร้างในเขตชานเมือง
เฟิงจี้นนำร่างของจี้จิ่งเชินไปวางไว้บนเตียง
เจี่ยงเนี่ยนเหยาเดินไปดูแล้วพูดว่า “โอเค คุณออกไปข้างนอกก่อน”
เฟิงจี้นมีท่าทีลังเล
“คุณบอกว่ามันเป็นแค่การจัดฉากใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาตอบพร้อมสาบาน
“มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจับเขาไว้ได้หลังจากนี้เขาจะไม่กล้าทำอะไรพวกเราแน่”
เมื่อเห็นว่าเฟิงจี้นไม่พูดอะไรเจี่ยงเนี่ยนเหยาจึงเดินไปและพูดกับเขาเบา ๆว่า ”ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากทำแบบนี้ ฉันเองก็ไม่อยากเหมือนกันแต่นี่เป็นวิธีเดียว ฉันจะทำเหมือนมีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ไม่มีอะไรเกิดเลยโอเคไหม?”
เธอเอื้อมมือไปดันเฟิงจี้นแล้วผลักเขาออกจากประตูไป
“รีบออกไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว”
“เนี่ยนเหยา….คุณ…”
ก่อนที่เฟิงจี้นจะพูดจบประตูด้านหน้าของเขาก็ถูกปิดลง
เขาขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่งแค่คิดว่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาและจี้จิ่งเชินอยู่ในห้องเดียวกันก็ยากที่จะทำใจได้
แต่ในที่สุดเขาก็เชื่อฟังคำสั่งของเจี่ยงเนี่ยนเหยาแล้วรีบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ในห้อง
เจี่ยงเนี่ยนเหยาตรวจประตูและหน้าต่างเพื่อพิจารณาว่าไม่สามารถเปิดจากด้านในได้จากนั้นเธอจึงหยิบกล่องยาออกมาจากถุง
เธอมองคนที่อยู่บนเตียงซึ่งยังไม่รู้สึกตัวแล้วเธอยิ้มอย่างมีความสุข
เฟิงจี้นโง่มากจริง ๆเขายอมทำตามเธอทุกอย่างจริงๆ
“การแสดงงั้นเหรอ? นี่ก็คงเป็นการแสดงที่สมจริงที่สุดเลยล่ะ”
เธอคลายเกลียวฝาออกหยิบออกมาสองเม็ดแล้วกลืนเข้าที่เหลือก็ยัดเข้าไปในปากของจี้จิ่งเชิน
“ถ้าฉันมีลูกเมื่อไหร่ ตำแหน่งคุณผู้หญิงตระกูลจี้ก็ต้องเป็นของฉัน”
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
เมื่อจี้จิ่งเชินตื่นขึ้นมาเขาก็รู้สึกร้อนไปหมด
เขาลืมตาหนักอึ้งพร้อมกับความเจ็บปวดที่ด้านหลังศีรษะของเขา
ความร้อนที่ผิดปกติและเลือดในร่างกายพรั่งพรูไหลเวียนไปทั่วร่างทำให้เขาสังเกตเห็นความแปลกประหลาดได้อย่างรวดเร็ว
จี้จิ่งเชินลุกขึ้นมาและพบว่านี่เป็นห้องว่างและมีแค่เตียงที่เป็นเฟอร์นิเจอร์เพียงอย่างเดียวที่นี่
เขาลูบหน้าผากอย่างหนักโดยจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาอยู่ที่โรงแรมค่ายซ่ามาก่อนและเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ด้วยกันกับหมินอันเกอ …
เขาตกตะลึง
จี้จิ่งเชินพยายามต่อต้านความปั่นป่วนอย่างหนักในร่างกายของตัวเองแล้วเดินตรงไปที่ประตู
ประตูเหล็กนี้ไม่สามารถหาที่จับได้และไม่มีที่สำหรับเปิดประตูจากด้านใน
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นประตูที่สามารถเปิดได้จากด้านนอกเท่านั้น
เขาขมวดคิ้วแน่นแล้วพบว่าอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดในร่างกายของเขาหายไป
โดนลักพาตัวเหรอ?
โดนวางยาหรือเปล่า?
จี้จิ่งเชินรับรู้ถึงอาการของเขาได้อย่างรวดเร็วและผลกระทบทางยานี่ก็รุนแรงมากและปั่นประสาทของเขาอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่จะทนไม่ได้เขาต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
และไปพาเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับจากการไปเจอหมินอันเกอ
ทันทีที่เขาจำสิ่งนี้ได้ความโกรธก็พรั่งพรูออกจากหัวใจแต่กลับกระตุ้นประสิทธิภาพของยาแทนทำให้เขาร้อนขึ้นมากกว่าเดิม
จี้จิ่งเชินยกขาขึ้นแล้วเตะไปที่ประตูอย่างรุนแรง
มีเสียงดังกึกก้องจากประตูเหล็กแต่ไม่มีอะไรเสียหายไป
“เปิดไม่ได้หรอก….”
เสียงดังขึ้นจากมุมหนึ่งในห้อง
การเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินหยุดลงแล้วมองไปรอบ ๆ
เจี่ยงเนี่ยนเหยาฉีกเสื้อผ้าของเธอออกเป็นชิ้น ๆ ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำวาวเปล่งประกาย ร่างกายสั่นเทิ้ม
เห็นได้ชัดว่าเธอก็กินยาไปเช่นกัน
“เธอก็อยู่ที่นี่เหรอ?”จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
เจี่ยงเนี่ยนเหยาพยักหน้าอย่างยากลำบากเพราะฤทธิ์จากยานั่น
“ใครจับเรามาที่นี่ ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย”
จี้จิ่งเชินคาดเดาคนที่น่าจะทำประมาณสองสามคนในใจ แต่ในที่สุดเขาก็ไม่แน่ใจว่าใครจะทำ
เขาสร้างศัตรูนับไม่ถ้วนและมีผู้คนมากมายที่คิดจะแก้แค้นเขาทุกวัน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เจี่ยงเนี่ยนเหยารีบออกมาจากมุมห้องทันที
ในแสงสลัวผิวที่เปลือยเปล่าของเธอก็เริ่มขึ้นสีแดงเพราะฤทธิ์ยา ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่จี้จิ่งเชิน
“ฉันร้อนมากเลย….”
เธอรีบไปและกอดเอวของจี้จิ่งเชินแล้วถูไถมัน
“จี้จิ่งเชินช่วยฉันหน่อย ช่วยฉันหน่อยนะ….”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วพยายามเอื้อมมือออกไปและผลักเธอออกแต่ผลของฤทธิ์ยาที่เพิ่มขึ้นกำลังทำลายความมุ่งมั่นของเขา
ความร้อนของทั้งร่างกายทวีความรุนแรงขึ้นและอยากที่จะปลดปล่อย…..
หลังจากเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอแยกกันพวกเขาก็รีบออกจากโรงแรมค่ายซ่าทันที
คนขับรถยืนอยู่ข้างนอกเพื่อรอจี้จิ่งเชินเห็นเธอจึงรีบไปหา
“คุณผู้หญิงอยู่ที่นี่จริงๆด้วย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงสงสัยว่า “จี้จิ่งเชินเขามาที่นี่เหรอ?”
“คุณผู้ชายมาที่นี่สักพักแล้วยังไม่เจอกันเหรอครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัว
จี้จิ่งเชินมาทำอะไรที่นี่?
“ฉันไม่เห็นเขาเลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและพยายามโทรหาเขาแต่ก็ไม่รับสาย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณผู้หญิงมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” คนขับรถพูดอย่างกังวลใจ“ แผลบนร่างกายของคุณผู้ชายก็ยังไม่หายดี”
“คุณแน่ใจเหรอว่าเขายังไม่ออกมา?”
คนขับรถพยักหน้า “ผมยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่เห็นคุณผู้ชายเลยนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไปและเดินไปที่โรงแรมขณะที่กำลังโทรศัพท์หาพ่อบ้าน
“จี้จิ่งเชินกลับไปหรือยัง?”
พ่อบ้านได้ยินดังนั้นก็แปลกใจ “คุณผู้ชายไม่ได้ไปหาคุณเหรอครับ?”
“เมื่อครู่นี้คุณผู้ชายถามถึงคุณต่อมาเขาก็โทรหาท่านจางหลังจากวางสายเขาก็แสดงท่าทีเหมือนจะโกรธน่ะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วทันทีที่เธอได้ยิน
จดหมายนี้ไม่ได้มาจากหมินอันเกอแสดงว่ามีบางคนจงใจให้เธอและหมินอันเกอมาที่นี่
แต่เดิมเธอคิดว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายเป็นเธอและหมินอันเกอคิดไม่ถึงว่าจะเป็นจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหันหลังเดินตรงไปที่แผนกต้อนรับของโรงแรมค่ายซ่า
“ผู้จัดการอยู่ไหนคะ ฉันต้องการดูกล้องวงจรปิดหน่อย”
อีกฝ่ายมองที่เธอแล้วรับรู้ถึงความประสงค์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วและเรียกผู้จัดการมาทันที
ล็อบบี้ของโรงแรมค่ายซ่ามีขนาดใหญ่มากหากรวมทั้งหมดก็กว้างประมาณ 1,000 ตารางเมตรเห็นจะได้
กล้องที่ติดตั้งในบริเวณนี้ก็เยอะมากเช่นกัน