เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 141 หาเจอแล้ว
บทที่ 141 หาเจอแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนให้พวกเขาเอาบันทึกกล้องวงจรปิดเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วแสดงขึ้นบนหน้าจอ
มีวิดีโอมากมายที่ถ่ายจากกล้องหลาย ๆ ตัว แถมถ่ายซ้ำกันในหลาย ๆ ที่ แค่วิดีโอของเธอกับหมินอันเกอก็เกินห้าวิดีโอแล้ว
แต่เธอไม่กล้าตัดออกไป วิดีโอพวกนี้ถ่ายจากมุมที่ไม่เหมือนกัน มีบางส่วนที่ถ่ายซ้ำกัน และก็มีบางส่วนที่ไม่ซ้ำกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังดูอยู่ จู่ ๆ ก็เห็นที่มุมหน้าจอมีแผ่นหลังที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก
ถึงแม้จะปรากฏที่อยู่แค่มุมหนึ่ง แต่เธอก็ยังแยกแยะออก
“หยุดก่อนค่ะ กล้องที่อยู่ใกล้ ๆ ตรงนี้คือตัวไหนคะ?”
ผู้จัดการเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วพูดขึ้น “กล้องวงจรตรงนี้พังตั้งแต่สองวันที่แล้ว ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม”
“พังแล้ว?”
อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดู แล้วพูดขึ้น “เลือกบันทึกกล้องวงจรที่อยู่ใกล้ ๆ เปิดขึ้นมาให้หมด”
วิดีโอห้าหกวิดีโอถูกเลือกออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องมองอย่างเข้มงวด เสื้อผ้าปรากฏบนหน้าจอบ้างบางครั้ง
มีคนนั่งอยู่ตรงข้ามจี้จิ่งเชิน
ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน จี้จิ่งเชินยืนขึ้นจากนั้นในขณะที่หันหน้ามามองทางด้านที่เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่
ในตอนนั้นเองจี้จิ่งเชินดูเหมือนจะเกิดการทะเลาะวิวาทกับใครบางคนอยู่ ในไม่ช้าเขาก็ถูกต่อยจนเป็นลมล้มไป
มือคู่หนึ่งยื่นออกมากอดเขาไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
กระเป๋าบนมือของคนคนนั้น เหมือนเธอจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน……
“ย้อนกลับไป……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปใกล้ ๆ วิดีโอหยุดลงตรงที่กระเป๋า
นี่คือกระเป๋าหนังที่สั่งทำขึ้น บนตัวล็อกของกระเป๋าหนัง มีตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เลือนรางอยู่สองตัว
NY
เนี่ยนเหยา!
กระเป๋าหนังใบนี้ เธอเคยเห็นในห้องของเจี่ยงเนี่ยนเหยา!
“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำมือแน่นขึ้นในทันที จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
เธอเดินไปด้วยแล้วก็โทรหาพ่อบ้านและจงหลีไปด้วย ให้พวกเขาค้นหาร่องรอยของเจี่ยงเนี่ยนเหยา
แต่ข้อมูลที่พวกเขารู้ก็มีเพียงเท่านี้
จี้จิ่งเชินถูกเจี่ยงเนี่ยนเหยาพาตัวออกไปแล้ว แต่ไปที่ไหน?
ไม่ชัดเจนอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ตามหาคนราวกับงงเข็มในมหาสมุทร
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ จงหลีพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล “คุณผู้หญิงครับ ข้อมูลน้อยเกินไป ไม่มีทางหาได้เจอ”
“ทำไมเธอต้องลักพาตัวคุณผู้ชายไป?” พ่อบ้านที่อยู่ข้าง ๆ ถามขึ้น “เพื่อทรัพย์สิน? หรือเพื่อผลประโยชน์?”
ไม่ว่าจะเพื่ออะไร ก็ไม่สมเหตุสมผล
ถ้าหากอีกฝ่ายคือคนของตระกูลเจี่ยง จะเป็นไปได้ยังไงที่ลักพาตัวคนคนนึงเพื่อสิ่งเหล่านี้
พวกเขาไม่รู้ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้
เมื่อนานมาแล้ว เจี่ยงหงซึ่งกับจางม้างหรูเคยพูดถึง
พวกเขาอยากให้เจี่ยงเนี่ยนเหยากลับมาเป็นคุณหนูเจี่ยงอีก ถึงแม้ตอนนี้สถานะจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่เป้าหมายไม่มีทางเปลี่ยนแน่นอน
หรือว่าพวกเขารู้นะ!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก
พ่อบ้านตามออกไปอย่างร้อนรน
“คุณหนู คุณจะไปไหนครับ?”
“ตระกูลเจี่ยง!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบกลับทั้งที่ไม่ได้หันหน้ากลับไป แล้วพรวดพราดออกไป
ท้องฟ้ามืดแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปในบ้านตระกูลเจี่ยง ตะโกนเรียกเจี่ยงหงซึ่งและจางม้างหรู
ทั้งสองคนหน้าตาหงุดหงิด พาดเสื้อคลุมแล้วเดินเข้ามาในห้องรับแขก
จางม้างหรูบ่นขึ้น “เธอทำอะไร? นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว? เธอรู้ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปทางพ่อบ้านและจ้องจื๋อที่อยู่ด้านหลังแล้วโบกมือให้พวกเขาออกไปก่อน
เมื่อพวกเขาเดินออกไป เธอจึงพูดขึ้น “เจี่ยงเนี่ยนเหยาหละ?”
จางม้างหรูมองเธอแวบนึง จากนั้นก็มองไปทางอื่นแล้วพูดขึ้น “เธอมาหาหล่อนทำไม?”
“หล่อนไม่ได้กลับมาใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องมองพวกเขา พยายามที่จะมองหาเบาะแสจากบนตัวพวกเขา
“หล่อนลักพาตัวจี้จิ่งเชินไป” เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อพูดจบ จางม้างหรูกลอกตามองบน จากนั้นก็ถลึงตาใส่เวินเที๋ยนเที๋ยน
“เฮ้ คำพูดแบบนี้เธอจะพูดมั่ว ๆ ไม่ได้นะ เนี่ยนเหยาของพวกเราเป็นกุลสตรี จะลักพาตัวจี้จิ่งเชินไปทำไม?”
“พวกเธอต้องรู้แน่ ๆ ว่าหล่อนอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ ไม่รู้”
จางม้างหรูลุกขึ้นยืนแล้วโบกมืออย่างหงุดหงิด
“ถ้าเธอคิดว่าเรียกพวกฉันมาเพราะเรื่องนี้ งั้นพวกฉันบอกเธอเลยว่าพวกฉันไม่รู้ พวกฉันก็ไม่รู้อะไรเลย”
เมื่อพูดจบก็หมุนตัวจะเดินออกไป
“อะไรก็ใส่ร้ายแต่เนี่ยนเหยา ตัวเองแย่งตำแหน่งของเนี่ยนเหยาของพวกเรายังจะมีหน้ามาพูดอีก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้น “ถ้าหากพวกเธอไม่รู้จริง ๆ เจี่ยงเนี่ยนเหยาไม่กลับมา พวกเธอไม่เป็นห่วงเหรอ?”
แววตาของจางม้างหรูกะพริบพราย
“หล่อนโตแล้ว มีอะไรให้น่าเป็นห่วง? ว่าแต่เธอ”
เธอหันหน้ามามองเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เธอแน่ใจว่าจี้จิ่งเชินถูกเจี่ยงเนี่ยนเหยาลักพาตัว ไม่ใช่ว่าเธอจับตาดูสามีตัวเองไม่ได้?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตะลึงเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้ว
จางม้างหรูยิ้มอย่างลำพองใจ
“ฉันว่าเธอหนะ กลับไปรอที่บ้านดีกว่า ไม่แน่พรุ่งนี้เช้าเขาอาจจะกลับไปเอง ผู้ชายนะ เรื่องแบบนี้มีอยู่บ่อย ๆ”
ทั้งสองคนไล่เวินเที๋ยนเที๋ยนออกไป เมื่อหันหลังกลับจางม้างหรูก็เป็นกังวลขึ้นมา
“แม่ว่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาจะเป็นอะไรไหม?”
เจี่ยงหงซึ่งเงยหน้ามองท้องฟ้า
“อีกไม่นานฟ้าก็จะสว่างแล้ว ถึงพวกเขาจะหาเจอก็ไม่ทันแล้ว”
“งั้นก็ดี ถึงเวลาเนี่ยนเหยาของพวกเราก็สามารถกลับไปนั่งตำแหน่งคุณนายจี้ได้อีกครั้ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาจากบ้านตระกูลเจี่ยง จงหลีกับพ่อบ้านส่งข่าวที่ทำให้คนผิดหวังมา
“ถ้าสามารถดูกล้องวงจรบนถนนได้ อาจจะหาได้พบ แต่เสียดายที่ตอนนี้ดึกแล้ว ไม่มีทางนำมาใช้ได้”
กล้องวงจร?
แต่ใครจะมีสิทธิ์์์นี้?
จู่ ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็นึกออก ค้นตัวอย่างร้อนรน เธอหาเจอการ์ดสีดำใบหนึ่ง จากนั้นก็รีบเดินออกไปอย่างรีบร้อน
“คุณผู้หญิง จะไปไหนครับ?” พ่อบ้านถามขึ้นอย่างรีบร้อน
“ฉันไปโทรศัพท์”
พ่อบ้านกับจงหลีมองตากันอย่างสงสัย ไม่เข้าใจว่าเธอจะทำอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนหามุมคุยโทรศัพท์ จากนั้นก็กดโทรออกเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ข้างบน
ตอนนี้ตีสาม เธอไม่แน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะรับสายไหม
คิดไม่ถึงว่าโทรศัพท์เพิ่งดังสามครั้งก็รับสายแล้ว
เสียงสุขุมเยือกเย็นของฉวีผิงดังขึ้น
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเวิน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้คุณเคยพูดว่าถ้ามีเรื่องลำบากอะไรก็สามารถบอกคุณได้”
“ใช่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ทั้งรู้ว่าช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็อยากจะลองดู
“ฉันอยากให้คุณช่วยฉันตามหาคน จี้จิ่งเชิน แล้วก็เจี่ยงเนี่ยนเหยา ถ้าหากหาพวกเขาเจอว่าอยู่ที่ไหน ส่งที่อยู่มาให้ฉัน ใช้ความเร็วให้เร็วที่สุดนะคะ”
น้ำเสียงของฉวีผิงใจเย็นเป็นอย่างมาก
“ไม่มีปัญหา คุณรอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะโทรหาคุณอีกครั้ง”
พูดจบฝ่ายตรงข้ามก็วางสายไปก่อน
สีของท้องฟ้าข้างนอกค่อย ๆ สว่างขึ้น
ผ่านไปหนึ่งคืนเต็ม ๆ ถ้าหากเจี่ยงเนี่ยนเหยาจะทำอะไรจริง ๆ เกรงว่า……
เธอไม่กล้าจะคิดต่อไป เพียงแต่เดินไปเดินมาอย่างใจร้อน
ในขณะเดียวกัน ที่เธอไม่รู้ก็คือเกินครึ่งของเมืองหลวงแต่ละหน่วยงานได้รับสายเดียวกันเหมือนกันหมด
ผู้บริหารที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่นั้นก็ถูกลากขึ้นมา ใช้ความเร็วที่สุดในนำเอากล้องวงจรของทั่วทั้งเมืองออกมา
ปกติลูกน้องที่ชอบคุยโวโอ้อวดอย่างเขา ดึกดื่นถูกโทรศัพท์รบกวน แต่กลับไม่บ่นอะไรเลยสักนิด เขาปฏิบัติตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว
เพิ่งผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง โทรศัพท์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงของฉวีผิงยังคงใจเย็นเหมือนเดิม
“คุณเวิน ตรวจสอบได้แล้ว”