เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 138 ใช้ความป่วยเรียกคะแนนสงสาร
บทที่ 138 ใช้ความป่วยเรียกคะแนนสงสาร
เจี่ยงเนี่ยนเหยาดูออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
เธอเดินตรงไปและวางสิ่งที่อยู่ในมือของเธอลง
“จี้จิ่งเชินอาการของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? ฉันไม่มีเวลามาหาเลย คุณคงไม่ว่าอะไรฉันใช่ไหมคะ?
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วอย่างใจร้อน
“ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”
เจี่ยงเนี่ยนเหยายิ้มและพูดว่า “ถ้าคุณรู้ว่าฉันทำอะไรมาคุณจะไม่พูดอย่างนี้”
“ผมไม่อยากรู้และไม่สนใจที่จะรู้ด้วย”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหันไปมองที่เวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วถามออกไปว่า “แล้วเธอล่ะไม่อยากรู้เหมือนกันเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเพราะไม่รู้เลยว่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาต้องการจะทำอะไรกันแน่
“ ฉันไม่อยากรู้ ” เธอพูดออกไปโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง
เจี่ยงเนี่ยนเหยายืนขึ้นและพูดอย่างเรียบนิ่งว่า
“ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ฉันพบว่ารังที่วางไว้บนระเบียงเพื่อตั้งใจจะให้นกขมิ้นมาอยู่แต่ดันโดนไก่ป่าที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่แทน ฉันใช้เวลาอยู่นานแต่ก็สลัดมันออกไปไม่ได้”
เธอจ้องมองที่เวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วยิ้มพลางพูดต่อว่า “เธอพอจะมีวิธีดีๆแนะนำไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามาอีกด้านโดยไม่มองเธอ
“ไม่มีหรอกแต่ฉันจำได้ว่านกขมิ้นมันถูกขังอยู่ในกรงใช่ไหมล่ะ บางทีมันอาจจะไม่อยากอยู่แบบนั้นแล้วถึงได้หนีไปไงและอาจจะด้วยความกังวลว่าเจ้าของจะรู้ก็เลยไปขโมยลูกไก่มาไว้มาแทนที่ตัวเองละมั้ง”
“งั้นเหรอ” เจี่ยงเนี่ยนเหยาพูดอย่างเย้ยหยัน “แต่ไก่ป่ามันก็เป็นได้แค่ไก่ป่าไม่มีวันเป็นนกขมิ้นได้หรอก”
“นี่คือสิ่งที่เธอจะพูดวันนี้เหรอ?”
“ไม่ใช่แน่นอน”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาเดินเข้าไปหาที่จี้จิ่งเชินแล้วพูดว่า “ฉันมาที่นี่เพราะแค่เป็นห่วงจี้จิ่งเชินเท่านั้นแล้วฉันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับคุณ ไว้มีโอกาสเราค่อยคุณกันนะคะ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วพลางมองเธอไปด้วย
เจี่ยงเนี่ยนเหยายืนขึ้นแล้วหันเดินออกไปข้างนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนตามเธอออกไป
ทั้งสองเดินไปที่ประตูเจี่ยงเนี่ยนเหยาจึงลดเสียงของตัวเองลง
“ครั้งหน้าฉันจะบอกความจริงกับเขาทั้งหมด”
หลังจากพูดจบเธอก็ยิ้มอย่างภาคภูมิและหันหลังเดินจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่หน้าประตู มองดูการจากไปของเธออยู่พักใหญ่แล้วจึงหันกลับเข้าไป
เมื่อเห็นว่าเธอดูเหม่อๆสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจี้จิ่งเชินจึงพูดว่า “ครั้งหน้าอย่าให้เขาเข้ามาอีก”
“ห้ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกศีรษะขึ้นแล้วคลอนไปมาเล็กน้อยพลางพูดว่า “ไม่มีทางหรอก ถ้าเธออยากจะมาก็มีวิธีเยอะแยะไป”
จี้จิ่งเชินมองเธออย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า “คุณกับเธอมีอะไรกันหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลบสายตาพลันรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ไม่มีอะไรค่ะ”
ดวงตาของจี้จิ่งเชินมองเธออยู่เสมอราวกับรู้ในสิ่งที่เธอคิด
หลังจากสองวันจี้จิ่งเชินก็ได้ออกจากโรงพยาบาลและกลับไปที่ปราสาทเก่าแก่
เวินเที๋ยนเที๋ยนขอลาหยุดกับท่านเปิงเพื่อจะได้คอยดูแลจี้จิ่งเชิน
มีคนบางคนอาศัยอาการบาดเจ็บของตัวเองที่ยังไม่หายดีมาเรียกร้องให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
วันแรกเขาบอกว่าหลังของเขาเจ็บทันทีที่ยกมือขึ้นแล้วให้เวินเที๋ยนเที๋ยนดูแลเขา
วันถัดไปเขาบอกว่าเช็ดหลังไม่สะดวก ตอนอาบน้ำก็ต้องให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมาช่วย
วันที่สามบอกว่าเขากลัวว่าอาการปวดจากแผลที่หลังอาจจะกำเริบกลางดึกเลยต้องการใครสักคนมานอนด้วย
พ่อบ้านก็ไม่กล้าเสนอตัวมาจัดการให้
ความจริงจังของจี้จิ่งเชินทำให้เขาคิดหนัก พูดอะไรไม่ถูกใจก็อาจจะได้เกษียณก่อนเวลาอันควร
จากนั้นพ่อบ้านก็แนะนำเวินเที๋ยนเที๋ยนให้อย่างไม่ต้องสงสัยและยังช่วยย้ายสิ่งต่าง ๆ ของจี้จิ่งเชินเข้าไปให้อย่างกระตือรือร้น
จี้จิ่งเชินบอกกับเขาว่าจะให้เงินเดือนเพิ่ม
พ่อบ้านก็ยิ้มออกทันทีมองเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเดินเข้าไปในชั้นแรกของบ้าน
ในขณะนั้นก็หันไปพูดคุยกับพ่อครัวว่าให้เรียกหัวหน้าหนุ่มคนนี้ว่าอย่างไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนบังเอิญเห็นชื่อที่เขาเขียนไว้ในหนังสือเล่มเล็ก ๆ เขียนไว้มากมายอย่างตั้งใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ที่หน้าต่างมองดูพ่อบ้านกำลังกำชับคนสวนตัดหญ้าที่สนามหญ้าด้านล่างอยู่
จี้จิ่งเชินกวักมือเรียกหาเธอ
“ดูอะไรอยู่?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ไปตามคำสั่ง
“พ่อบ้าน”
จี้จิ่งเชินหรี่ตาลงเล็กน้อย
“หยุดดูแล้วมาและพักผ่อนได้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปทางเขาแล้วพูดว่า
“นี่มันตอนเที่ยงไม่ใช่เหรอ?”
จี้จิ่งเชินพูดอย่างมั่นใจว่า “หมอบอกว่าผมต้องพักผ่อน"
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินไปตามนั้นแต่ก่อนที่เธอจะเข้าไปใกล้ก็ถูกเขาดึงไว้แล้วพาไปนอนบนเตียงทันที
เขากอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้เหมือนหมอนและไม่มีอะไรต้องพะว้าพะวัง
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนต่างหากที่ต้องกังวลกับเขา
โดยปกติในช่วงพักเที่ยงจี้จิ่งเชินจะนอนข้างหลังเธอแต่ตื่นขึ้นมาทีไรก็เจอหน้าเขาทุกครั้ง
หลายครั้งที่เธอสงสัยว่าจี้จิ่งเชินได้นอนหลับบ้างหรือเปล่า
ถ้าไม่ได้หลับแล้วตอนกลางวันเขาทำอะไรทุกวันกันล่ะ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปิดตาตื่นขึ้นอีกครั้งและเห็นจี้จิ่งเชินจ้องมองเธอเหมือนเคย
“เมื่อครู่นี้คุณหลับหรือเปล่า”
“ไม่ครับ” จี้จิ่งเชินกล่าว
เมื่อพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ลุกขึ้นนั่งแล้วเขาก็พูดว่า “ปวดหลัง”
พูดออกมาสองคำแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่รู้ว่าทำไมและเธอถึงเหมือนได้ยินเสียงร้องเล็กน้อย
เธออดไม่ได้ที่จะเอนตัวไปเป่าแผลที่หลังให้
“เจ็บตรงไหน?”
จี้จิ่งเชินไม่ตอบแต่กลับมองไปที่คอของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“รอยที่คอไม่เห็นแล้วหนิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอื้อมมือไปสัมผัส
“ใช่ไหมล่ะ?”
เธอไม่ได้สนใจอะไรมาก ทำท่าจะลุกขึ้นแต่กลับโดนจี้จิ่งเชินดึงเอาไว้อีกครั้ง
ร่างเวินเที๋ยนเที๋ยนเซถลาลงบนเตียงทันทีในวินาทีต่อมาก็โดนจี้จิ่งเชินตรึงเอาไว้อย่างนั้น
รู้สึกเสียวซ่านจากด้านข้างคอเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือไปกอดจี้จิ่งเชินเอาไว้แต่บังเอิญไปโดนแผลที่หลังของเขาเข้า
มือของเธอสั่นทันทีพร้อมลูบคืนอย่างระมัดระวัง
“จี้จิ่งเชิน ฉันเคยบอกคุณหรือเปล่าว่าฉันชอบคุณ”
การเคลื่อนไหวของคนที่เอาแต่วุ่นอยู่ตรงไหปลาร้าของเธอหยุดลงกะทันหัน ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นแล้วกอดเขาไว้
รอยแผลเป็นบนหลังของเขานั้นสวยงามกว่าของโบราณที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกซะอีก
“ฉันชอบคุณ”
พูดจบเธอก็พูดอย่างจริงจังอีกว่า “ ไม่ใช่ของเจี่ยงเนี่ยนเหยาแต่คุณเป็นของฉัน”
จี้จิ่งเชินจับมือของเธออย่างแนบแน่นอบอุ่นวาบหวามมาวางไว้ที่อกแล้วบอกว่า
“ผมได้ยินแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกริมฝีปากจะพูดบางอย่างด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
“ได้โปรดคุณจงเชื่อมั่นไม่ว่าต่อจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม”
“อื้ม”
เมื่อได้ยินคำตอบของจี้จิ่งเชินแล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาพลางยิ้มอ้อยอิ่ง
บ่ายวันนั้นเมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนลงไปชั้นล่างพ่อบ้านก็ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้เธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูมันมีเพียงคำว่า “ถึงคุณผู้หญิงจี้”ไม่มีอะไรอื่นนอกจากนั้น
“ใครเป็นคนส่งมา?”
“ไม่แน่ใจครับ ผมพบมันในกล่องจดหมาย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปิดและดูข้อความอยู่ข้างใน
ที่อยู่และระบุเวลาเอาไว้เหมือนกับกับที่ฉวีช่วยฉินให้เธอเมื่อวันก่อน
แต่มันถูกเปลี่ยนมาเป็นเย็นวันนี้แทนแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วพลางคิดว่าหมินอันเกอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่