เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 137 จดหมายลับ
บทที่ 137 จดหมายลับ
ตั้งแต่จี้จิ่งเชินเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเขาทั้งสองคนไม่เคยปรากฏตัวที่นี่เลยสักครั้ง มาทำอะไรตอนนี้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมาแล้วผลักประตูเข้าไป
“ตอนนี้นายก็อยู่โรงพยาบาล กิจการของบริษัทให้ยี่หยันช่วยจัดการไป นายแค่ต้องดูแลอาการบาดเจ็บของตัวเองให้ดี”
ทันทีที่เธอเดินเข้ามาก็ได้ยินคำพูดของฉวีช่วยฉินดังขึ้น
ทำไมถึงมาที่นี่น่าแปลกจริงๆ
เดิมที่อยากจะฉวยโอกาสนี้ในการควบคุมบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาฉวีช่วยฉินและจี้คางต่างก็หันมามองเธอ
ฉวีช่วยฉินเหลือบมองมาที่เธอและพูดกับจี้จิ่งเชินต่อไปว่า “พวกเราอยู่ที่นี่ก็เป็นผลดีทั้งกับนายและบริษัท นายว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเหรอ?”
จี้จิ่งเชินนั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางสบายๆราวกับว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาเขาก็โบกมือให้เธอ
“ทำไมไปนานจัง”
“คุณหมอบอกข้อควรระวังน่ะ ฉันก็เลยจดบันทึกเอาไว้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกให้เขาดูหนังสือเล่มเล็ก ๆ ในมือของเธอ
จี้จิ่งเชินเหลือบมองและยกมือขึ้นไล่อ่านข้อความเป็นข้อๆนั้น
“ข้อนี้ไม่ได้ ผมยังไม่สามารถทานข้าวเองได้ยังต้องมีคนคอยช่วยอยู่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงตอนที่ป้อนซุปให้จี้จิ่งเชินก่อนหน้าแล้วก็พลันทำให้ใบหน้าของเธอแต้มสีแดงระเรื่อเล็กน้อย
“ตอนอาบน้ำคุณก็บอกแบบนี้ที่ไหนได้คุณหมอกลับอนุญาตให้โดนน้ำได้แล้วซะอีก”
“ใช่เหรอ” จี้จิ่งเชินไม่สนใจ “เขาป่วยหรือผมป่วยล่ะ? ไม่รู้แหละต้องทำตามผม”
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยใบหน้าที่ตั้งใจแน่วแน่ ทำให้ตอนนี้ทั้งจี้คางและฉวีช่วยฉินที่อยู่ในห้องด้วยกลายเป็นอากาศอย่างสมบูรณ์แบบ
“แค่ก แค่ก”
ทันใดนั้นจี้คางก็ขัดคำพูดของจี้จิ่งเชินด้วยการแกล้งกระแอมออกมา
“ไม่ว่าอย่างไรก็ถือซะว่านายมีเวลาพักผ่อน พักฟื้นให้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับบริษัท ฉันจะให้ยี่หยันช่วยดูแล”
“ถูกต้อง”
ฉวีช่วยฉินพูดเสริมอีกว่า “เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
หลังจากพูดเธอพูดจบ จี้จิ่งเชินก็พูดตอบไปเบา ๆว่า
“ผมบอกเมื่อไหร่เหรอว่าต้องการให้เขาช่วย?”
สีหน้าของฉวีช่วยฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย บิดเบี้ยวขึ้นเพียงนิดไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติ
“ก็เพราะว่าตอนนี้นายเจ็บอยู่น่ะสิ”
จี้จิ่งเชินพูดตอบไปโดยไม่ได้มองเธอว่า “ผมสั่งให้จงหลีจัดการแทนผมแล้ว”
“จงหลีเนี่ยนะ?”
ฉวีช่วยฉินหันหน้าไปทางจี้คางพลางพูดว่า “นายนั่นเป็นแค่ผู้ช่วย บริษัทใหญ่ขนาดนี้จะปล่อยให้คนนอกจัดการได้อย่างไร”
จี้จิ่งเชินเย้ยหยัน
“ในความคิดของผม คนนอกแบบนี้ยังน่าไว้วางใจกว่าคนในบริษัทบางคนด้วยซ้ำไป”
ฉวีช่วยฉินเริ่มพูดจาไม่ดี “จี้จิ่งเชินนายพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร? นายไม่เห็นว่าเราเป็นคนในบริษัทหรือยังไง?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่”
จี้จิ่งเชินหันศีรษะของเขากลับไปแล้วจ้องมองอยู่อย่างนั้นช้าๆ
“ ผมอยู่ในโรงพยาบาลมาเกือบสองอาทิตย์แต่พวกคุณเพิ่งจะมาเอาตอนนี้ ถ้าให้ผมเดานะน่าจะเป็นเพราะโครงการที่จี้ยี่หยันกำลังทำอยู่โดนผมถือครองอยู่ ? พวกคุณก็เลยรีบมาเลยใช่ไหม?”
ฉวีช่วยฉินเมื่อโดนพูดถึงประเด็นสำคัญอย่างจัง สีหน้าก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
“อุตส่าห์ช่วยนายจัดการดูแลบริษัทอย่างดีแต่นายกลับพูดจาถากถางเยาะเย้ยแบบนี้กลับกลายเป็นทำคุณบูชาโทษ!”
“พอได้แล้ว”
จี้คางทุบฝ่ามือของเขาเข้าด้วยกันแล้วหันไปหาจี้จิ่งเชินอีกครั้ง “จิ่งเชินนายไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
“ถ้านายไม่สะดวกใจงั้นก็ให้นายเอาคนที่ไว้ใจมาจัดการได้เลย พวกเราเองก็ขี้เกียจไปยุ่งเหมือนกัน”
พูดจบแล้วจึงหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เธอดูแลเขาให้ดีนะ”
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็หันกลับจะเดินออกไปข้างนอก
ฉวีช่วยฉินที่ไม่ยอมเลิกราไปง่ายๆมองจี้จิ่งเชินและพูดออกมาว่า “ช่างเถอะ คนบางคนก็ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเหมือนแม่ไม่มีผิด”
จี้จิ่งเชินหันกลับไปมองทันทีที่ได้ยินประโยคนี้
จ้องมองที่เธอด้วยแววตามืดครึ้มแสนหนักแน่นดั่งสมองหนักอึ้ง
ฉวีช่วยฉินงุนงงสับสนเล็กน้อยแล้วจึงหันกลับไปข้างนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปเพื่อจะปิดประตูคาดไม่ถึงว่าฉวีช่วยฉินจะยังไม่ไปไหน
เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมา เธอจึงดึงมือหญิงสาวไว้แล้วยัดจดหมายลับฉบับหนึ่งไว้ในมือเธอ
“มีคนฝากมาให้เธอ”
หลังจากนั้นจึงเดินจากไปโดยไร้ซึ่งคำอธิบายนอกเหนือจากนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูโน้ตในมือเธอแล้วจึงคลี่มันออก ข้อความในนั้นระบุแค่เวลาและที่อยู่ปลายทางเท่านั้น
จดหมายจากหมินอันเกอ
เขาพบกับฉวีช่วยฉินตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ทำไมถึงไม่มาส่งด้วยตัวเอง?
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้เธอหนีใช่ไหม?
เธอพับโน้ตในมือเก็บไว้กันแล้วจึงหันกลับไปที่ห้องพักฟื้น
สีหน้าของจี้จิ่งเชินดูไม่ดีนักคงเป็นเพราะประโยคก่อนหน้าที่ฉวีช่วยฉินพูดเอาไว้ก่อนจะออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับสร้อยคอรูปถ่ายที่คอของเขา
คุณแม่ของเขาสำคัญสำหรับจี้จิ่งเชินมาก
และเพื่อสร้อยเส้นนี้เองที่ทำให้เขายอมตกลงที่จะแต่งงานกับเจี่ยงเนี่ยนเหยาไป
“จี้จิ่งเชินแล้วรูปที่อยู่ในสร้อยคอนี้ล่ะ?”
จี้จิ่งเชินตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามอง
“ตอนนั้นผมอายุสิบสองขวบ ผมออกจากตระกูลจี้ พวกเขาพังของทุกอย่างที่มี ต่อมาเมื่อแม่ผมเสียชีวิต รูปถ่ายที่มีอยู่ถูกฉวีช่วยฉินทำลายไปหมดไม่มีเหลือแม้แต่รูปเดียว”
ไม่แปลกที่สร้อยคอจะว่างเปล่าไม่มีรูปอยู่เหมือนแต่เดิม
และถึงแม้ว่ามันจะว่างเปล่าแต่จี้จิ่งเชินก็ปกป้องมันด้วยความรัก
แต่ตอนนี้เขามอบมันให้เธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นมือของเธอมาเกาะกุมมือของจี้จิ่งเชินเอาไว้
“จี้จิ่งเชินฉันจะอยู่กับคุณตลอดไป …”
เธอหยุดไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อว่า “จนกว่าคุณจะไม่ต้องการฉัน”
จี้จิ่งเชินหัวเราะแล้วพูดตอบไปว่า“ไม่มีวันนั้น”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่นมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงแค่ยิ้มตอบกลับไป
ยิ่งสัญญามากเท่าไหร่เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกอย่างก็แตกสลายหมดอยู่ดี
หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเธอคิดไปเองว่าจะได้ใช้เวลาระยะนี้อย่างสงบในโรงพยาบาลแต่คิดไม่ถึงว่าวันถัดมาก็ต้องมาพบกับคนที่คาดไม่ถึงอย่างเจี่ยงเนี่ยนเหยา
ทันทีที่เธอเปิดประตูมาเจอเธอ ภาพของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ถูกไฟไหม้ปรากฏขึ้นในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีภาพของคณบดีเฉินซ้อนขึ้นมาอีก….
เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยมือที่จับกรอบประตูไว้แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นมองไปที่เจี่ยงเนี่ยนเหยาที่ยืนอยู่หน้าเธอ
เจี่ยงเนี่ยนเหยารู้สึกตกใจเมื่อเจอเธอ
คนที่เธอกลั่นแกล้งอย่างง่ายดายเมื่อสองวันก่อนทำไมถึงมีท่าทีเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ได้
ดวงตาของเธอเลิ่กลั่กพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอต้องใช้โอกาสนี้เพื่อให้ได้ความไว้วางใจจากจี้จิ่งเชิน
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหันหน้าไปอีกฝั่งเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการประจันหน้ากับเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ทันทีที่เธอหลีกไปเวินเที๋ยนเที๋ยนย้ายกลับขึ้นไปยืนขวางหน้าเธอเอาไว้
“เธอมาทำอะไรที่นี่?”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหันมามองเธอ
“ฉันมาหาจี้จิ่งเชิน เธอเกี่ยวอะไรไม่ทราบ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงยืนอยู่หน้าเธอไม่ไปไหน
“ฉันไม่ยอมให้เธอทำสำเร็จหรอกนะ”
ทันใดนั้นดวงตาของเจี่ยงเนี่ยนเหยาก็ฉายแววตื่นตระหนก ขึ้นมาทันที
“ฉันจะทำอะไรเหรอ? เธอคิดว่ามีแค่เธอที่เป็นคนดีงั้นเหรอ?”
เธอเข้ามาผลักเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปและเดินเข้ามา
“จี้จิ่งเชินคะ ฉันมาหาคุณค่ะ”
จี้จิ่งเชินมองเธอด้วยสีหน้าลึกล้ำ
เรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับครูคนนั้นก็เป็นเพราะเธอตั้งใจพูดออกมา
เมื่อจี้จิ่งเชินเห็นเธออีกครั้งก็นึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมา