เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 212 ด้านนอก เหมือนจะมีรถหวูหลิงหงกวงคันหนึ่ง
ถนนหลงหม่า
ในนั้นมีรถปอร์เช่คันหนึ่งกำลังแล่นอยู่ บนรถคือเฉิงหงและเพื่อนสนิทของเธออีกสามคน กำลังพูดคุยหัวเราะกัน ขับมุ่งหน้าไป
“เฉิงหง เธอคิดว่าพวกเราควรรออิ่นหนิงหยู่หรือเปล่า? ด้วยความเร็วของเธอ สงสัยว่าจะถึงอ่าวย่าหลงคงใช้เวลานานมาก”
บนที่นั่งข้างคนขับ มีนักศึกษาสาวแต่งตัวเปิดเผยเช่นกัน เธอถามขึ้นอย่างจงใจ
“ใช่ ยัยอิ่นหนิงหยู่นั่นทำฉันขำแทบแย่ พวกเราหวังดีจะทำให้เธอมานั่งรถของเราด้วย แต่เธอกลับไม่มา จะไปนั่งรถหวูหลิงหงกวงนั่นจริงๆ”
“เธอพูดแบบนี้ไม่ถูก อิ่นหนิงหยู่ขับรถคันนั้น หล่อนน่ะ เหมาะกับรถแบบนั้นเท่านั้นแหละ”
เด็กสาวข้างหลังอีกสองคนก็หัวเราะเยาะเช่นกัน
เหตุผลข้อหนึ่งคือพวกเธอเป็นเพื่อนของเฉิงหง ข้อคือสองเพราะพวกเธอชอบเฉินเจียง ถึงอย่างไรเฉินเจียงก็ทั้งสูงทั้งหล่อ เป็นลูกเศรษฐี เล่นเปียโนเก่งมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นเดือนประจำมหาวิทยาลัยเจียงเฉิง
พวกเธอต่างหลงใหลคลั่งไคล้เดือนมหาวิทยาลัยอย่างเฉินเจียง แต่มีเพียงอิ่นหนิงหยู่เท่านั้นที่มักจะเมินเฉยหนุ่มหล่อคนนี้
ดังนั้นพวกเธอจึงเกลียดอิ่นหนิงหยู่มาก
คิดว่าอิ่นหนิงหยู่ ไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่น
“รอเธอเหรอ? ดี ถึงอย่างไรทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน”
เฉิงหงที่กำลังขับรถยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง เริ่มห้อตะบึงไปบนถนนเส้นนี้ แล้วยังพูดต่อว่า “พวกเราจะไปรอเธอที่อ่าวย่าหลง”
“ฮ่าฮ่า ให้ยัยอิ่นหนิงหยู่นั่นเร่งตามหลังเราไปตลอดแล้วกัน”
“ขอฉันคำนวณเวลาดูหน่อย ดูว่าเธอจะถึงเมื่อไหร่ ฉันคาดว่าอีกสองชั่วโมงต่อจากนี้”
ผู้หญิงที่อยู่เบาะหลังพากันพูดประจบเอาใจ
“หึ คิดจะสู้กับฉัน…”
เฉิงหงยิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจ ในที่สุดวันนี้เธอก็บดขยี้อิ่นหนิงหยู่ได้อย่างป่นปี้
ต่อมา
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างเธอ “เฉิงหง รถของเธอไม่ไหวเลยนะ ซื้อมือสองมาหรือเปล่า ยังเร็วสู้รถหวูหลิงหงกวงของฉันไม่ได้เลย!”
“…”
สิ้นเสียง คนในรถของเฉิงหงก็ตัวแข็งทื่อทันที
โดยเฉพาะเฉิงหง เธอค่อยๆ หันหน้าไปทางด้านข้างก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยและน่าเกลียดชัง อิ่นหนิงหยู่ เธอพึมพำอย่างไม่เชื่อสายตา “เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…เธอตามฉันทันได้ยังไง…เป็นไปไม่ได้!”
รถหวูหลิงหงกวงตามมาทันแล้ว!
เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!
มันเป็นไปได้อย่างไร!
รถของเธอคันนี้คือปอร์เช่นะ ไม่ได้ล้อเล่น ให้ตายสิ รถหรูมูลค่านับล้าน ฟังก์ชันการทำงานหลากหลายเอามาฟาดชนะรถหวูหลิงหงกวงคันนี้ได้สบาย แล้วเธอยังเหยียบคันเร่งมาตลอดทาง
แต่ทว่า รถหวูหลิงหงกวงกลับไล่ตามมาทันแล้ว
ล้อเล่นใช่ไหม
สองสิ่งนี้มันเทียบกันได้ด้วยเหรอ?
แต่ทว่า อิ่นหนิงหยู่ทิ้งไว้เพียงประโยคเดียว “บ๊ายบาย เฉิงหง เราจะไปรอเธอที่อ่าวย่าหลงนะ ฉันจะรอเธอไป ‘เรื่อยๆ’ นะ”
คำว่า ‘เรื่อยๆ’ อิ่นหนิงหยู่เน้นเสียงหนักมาก
เห็นได้ชัดว่า จงใจยั่วโมโหเฉิงหง
ฉินเฟิงชำเลืองมอง อิ่นหนิงหยู่ดูหายโกรธแล้ว เขายิ้มทันที สาวน้อยคนนี้ไม่ยอมถูกเอาเปรียบเลย เฉิงหงมาทำให้เธอขุ่นเคือง ซวยแล้ว
เพราะว่า วันนี้เขามาเป็นโล่กำบัง
ปัง
เฉิงหงออกแรงจับพวงมาลัย มองไปที่รถหวูหลิงหงกวงที่อยู่เบื้องหน้าเธอ กัดฟันพูดว่า “ยัยคนนี้ กล้าเอารถหวูหลิงหงกวงมาแซงฉัน น่าขายหน้าจริงๆ!”
“เฉิงหง รีบตามขึ้นไป พวกเขาต้องฉวยโอกาสตอนที่เธอชะลอบนทางเลี้ยวแน่ เลยโชคดีตามมาได้ทัน”
“เร็วเข้า! เร็วเข้า!”
สาวๆ ที่นั่งอยู่เบาะหลังไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าด้อยกว่า
“ดี ฉันเหยียบล่ะนะ”
เฉิงหงเหยียบคันเร่งในทันที เร่งเครื่องขึ้นไป ความเร็วพุ่งทะยาน พวกเธอมองไม่เห็นรถหวูหลิงหงกวงคันนั้นแล้ว แม้แต่เงาก็ไม่ปรากฏ
หลังจากผ่านทางโค้งไปหลายช่วง พวกเธอก็ยังไม่พบ
“รถไปไหนแล้ว?”
เฉิงหงถามอย่างงุนงง
“บางทีอาจจะวิ่งไปไกลแล้วก็ได้” เสียงอ่อนแรงดังมาจากด้านหลัง
“มันจะเป็นไปได้ยังไง! มันเป็นแค่รถหวูหลิงหงกวงเท่านั้น!”
เฉิงหงไม่เชื่อ
ตีเธอให้ตายก็ไม่เชื่อ มันจะเป็นไปได้อย่างไร
แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีโทรศัพท์โทรหาผู้หญิงที่นั่งข้างคนขับ เธอรับสายจากนั้นก็วางมือถือลง และพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เมื่อกี้เจียเจียโทรเข้ามา รถหวูหลิงหงกวงได้แซงรถของแฟนหนุ่มเธอไปแล้ว ตอนนี้กำลังไล่ตามเฉินเจียงที่อยู่หน้าสุด”
“อยู่อันดับสองแล้วเหรอ?”
เฉิงหงขับรถพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อย สีหน้างุนงง
เพิ่งผ่านไปไม่นานเอง
ทั้งหมดมีอยู่ประมาณหกคัน คันของพวกเธออยู่อันดับห้า ที่เพิ่งแซงพวกเธอไป ตอนนี้อยู่อันดับสองแล้ว นี่คือรถหวูหลิงหงกวงเหรอ? แน่ใจว่าไม่ได้เป็นรถหวูหลิงหงกวงแค่เปลือก ส่วนไส้ในเป็นรถซูเปอร์สปอร์ต?
จะเกินไปหน่อยแล้ว
อีกอย่างเธอก็เพิ่งพูดอย่างไม่ขาดปาก เป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้โทรศัพท์นี้เปรียบเหมือนฝ่ามือที่กำลังตบหน้าเธออย่างแรง
แล่นหนีไปไกลแล้วจริงๆ
“โทรหาเฉินเจียงเดี๋ยวนี้ บอกว่ารถหวูหลิงหงกวงคันนั้นกำลังไล่ตามไปแล้ว”
สีหน้าของเฉิงหงบึ้งตึง
รถปอร์เช่ใหม่เอี่ยมราคานับล้านถูกรถหวูหลิงหงกวงราคาไม่กี่หมื่นแซงไปแล้ว เรื่องนี้อาจกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวของเธอในอนาคต ทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้าใคร
แต่ถ้าเธอรู้ว่ารถหวูหลิงหงกวงคันนั้น มีฉายาว่าเทพนักแข่งรถแห่งเขาชิวหมิง ก็อาจจะไม่โศกเศร้าขนาดนี้ก็ได้ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่เคยรู้
ในเวลานี้เธอตกอยู่ในความสับสนจนถึงขีดสุด
ส่วนเฉินเจียงที่ขับรถเฟอร์รารี 458 อยู่หน้าสุด กำลังพาเด็กสาวที่พอจะเทียบเคียงดาวมหาวิทยาลัยไปด้วย เขาขับไปพลาง คุยหยอกล้อกับพวกเธอไปพลาง
ทั้งสามคนล้วนเป็นแฟนของเขา ต่างรู้สถานะของอีกฝ่ายกันหมด ไม่มีการทะเลาะกัน
ขอแค่ภายในหนึ่งเดือน เฉินเจียงให้เงินค่าขนมพวกเธอใช้เป็นแสนหยวนก็พอแล้ว
หนึ่งแสน สามคนก็สามแสน ในสายตาของเฉินเจียงเป็นแค่เศษเงิน ครอบครัวของเขามีบริษัทอยู่ในเมืองเจียงเฉิง เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทนั้น
เขามาเรียนมหาวิทยาลัยสนุกๆ ชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ จนกระทั่งได้พบกับอิ่นหนิงหยู่ ที่ปฏิเสธเขาอย่างไม่ไว้หน้า ปฏิเสธมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง
เรื่องนี้ทำให้เขานึกสนุกขึ้นมา
ดังนั้น ที่ผ่านมาเขาจึงตามจีบอิ่นหนิงหยู่อย่างไม่ลดละ ยิ่งไม่ได้ก็ยิ่งต้องการมากที่สุด เขาต้องคว้าผู้หญิงอย่างอิ่นหนิงหยู่มาให้ได้ เขาสาบานกับทายาทรุ่นสองอย่างตัวเองเอาไว้
“คุณชายเฉิน คุณนี่เยี่ยมยอดจริงๆ คุณออกมาเป็นคนสุดท้าย แต่ตอนนี้ได้กลายที่หนึ่งแล้ว เฟอร์รารี 458 ของคุณสุดยอดจริงๆ”
“จะไม่สุดยอดได้ยังไง เฟอร์รารีคันนี้ราคาสองล้านกว่าเชียวนะ”
ผู้หญิงเหล่านั้นชื่นชมเฉินเจียง
เฉินเจียงถูกชมจนตัวลอย และในเวลานี้ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์ ก่อนจะบอกว่า “คุณชายเฉิน พวกเธอบอกว่ารถหวูหลิงหงกวงคันนั้นไล่ตามมาแล้ว”
“ไล่ตามมาแล้ว? พวกเขาขับช้าจริงๆ”
เฉินเจียงส่ายหน้า “สงสัยพวกเธอจะคิดถึงมิตรภาพที่เคยมี เลยยอมให้อิ่นหนิงหยู่ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่รอ ผมยังต้องไปจัดการธุระที่อ่าวย่าหลงก่อน หลังจากถึงอ่าวย่าหลงแล้ว ผมค่อยรอพวกเขาอีกสักสามสี่ชั่วโมง…”
ทันทีที่เสียงเงียบลง
เด็กสาวคนหนึ่งก็ตกตะลึง ชี้ไปที่นอกหน้าต่าง “คุณชายเฉิน ข้างนอกมีรถหวูหลิงหงกวง”