เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 213 ลาก่อนเทพนักแข่งรถแห่งเขาชิวหมิง
“รถหวูหลิงหงกวง? รถหวูหลิงหงกวงที่ไหน เธอดูผิดล่ะมั้ง”
เจียงเฉิงส่ายหน้า
รถหวูหลิงหงกวง?
รถขยะอย่างหวูหลิงหงกวงไล่ทันเฟอร์รารีของฉัน แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
จนกระทั่ง ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาข้างๆ “เพื่อนร่วมชั้นเฉินเจียง พวกเราจะไปรอพวกคุณที่อ่าวย่าหลงนะ พวกคุณค่อยๆ ขับ ไม่ต้องรีบร้อน”
เฉินเจียงตกตะลึง
เพราะเขาฟังออกว่า นี่คือเสียงของอิ่นหนิงหยู่ เขาถึงกับงุนงงในทันที หันไปทางด้านข้าง มีรถหวูหลิงหงกวงคันหนึ่งจริงๆ และคนที่อยู่ในที่นั่งข้างคนขับก็เป็นอิ่นหนิงหยู่จริงๆ
“เพื่อนร่วมชั้นเฉินเจียง แล้วพบกันนะ”
อิ่นหนิงหยู่โบกมือให้เฉินเจียงเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปหาฉินเฟิงและพูดอย่างตื่นเต้น “พี่เขย เร็วเข้า ทิ้งห่างพวกเขาไปไกลๆ เลย ให้พวกเขาดูถูกฉันไม่ได้อีก”
“ตกลง”
ฉินเฟิงเหยียบคันเร่งอีกครั้ง เลี้ยวแล้วตรงออกไปทันที จนแซงเฟอร์รารีคันนั้นอย่างไม่เห็นฝุ่น
“บัดซบ!”
เฉินเจียงสบถคำหยาบออกมาทันที
ตกตะลึงอ้าปากค้าง!
เขามองเห็นอะไร รถหวูหลิงหงกวงแซงเฟอร์รารีของเขาได้อย่างคาดไม่ถึง เรื่องบ้าอะไร นั่นมันรถหวูหลิงหงกวง ส่วนของเขาคือเฟอร์รารี!
ไม่ใช่ของย้อมแมว
ของแท้ราคาจริง
“กูไม่เชื่อ”
แววตาของเฉินเจียงเป็นประกายชั่วร้ายทันที จากนั้นก็เหยียบคันเร่งอีกครั้ง ต่อมาก็เป็นภาพเดียวกับเฉิงหง คือมองไม่เห็นรถหวูหลิงหงกวงคันนั้นแล้ว
จนกระทั่งอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา
เฟอร์รารีของเฉินเจียงเพิ่งมาถึงอ่าวย่าหลง ถึงจะเห็นรถหวูหลิงหงกวงที่ส่องแสงเงางามจอดอยู่หน้าประตูรวมกับบรรดารถหรู ไม่ได้โดดเด่นอะไร
แต่ในขณะนี้ มันกลับแยงตาเป็นพิเศษ
“เพื่อนร่วมชั้นเฉินเจียง คุณก็มาเร็วมากนะ”
ที่หน้าประตู อิ่นหนิงหยู่ก้าวลงจากรถ เดินเข้ามาพร้อมกับฉินเฟิง ก่อนจะกล่าวทักทายเฉินเจียง
“อรุณสวัสดิ์…”
เฉินเจียงแสยะยิ้ม ไม่อยากพูดอะไร
“เฮ้อ สามคนนี้เป็นแฟนของคุณใช่ไหม? สวยจัง คุณชายเฉิน คุณนี่โชคดีจริงๆ”
จากนั้นอิ่นหนิงหยู่ก็ชำเลืองมองสามสาวที่ก้าวลงจากรถของเฉินเจียง ผิวขาว ขายาวสวย จึงชื่นชมพอเป็นพิธี แล้วแสดงจุดยืน
แต่สามสาวกลับส่ายหน้า “ไม่ใช่ พวกเราแค่ผ่านมาเท่านั้น พวกเราไม่มีรถ รถของคุณชายเฉินมีที่นั่งพอดี พวกเรากับเฉินเจียงเป็นเพียงเพื่อนนักเรียนธรรมดาเท่านั้น”
เพื่อนนักเรียนธรรมดา!
พวกเธอรู้ว่าเฉินเจียงอยากได้อิ่นหนิงหยู่มาตลอด ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ต้องการทำเรื่องไม่ดี ถึงอย่างไรเงินค่าขนมหนึ่งแสนต่อเดือน จะทิ้งอู่ข้าวอู่น้ำนี้ไปไม่ได้
“ใช่แล้ว พวกเราเป็นแค่เพื่อนนักเรียนธรรมดาเท่านั้น”
เฉินเจียงอธิบายอีกครั้ง ยิ้มเล็กน้อย เหมือนสุภาพบุรุษอ่อนน้อม จากนั้นก็โบกมือไปมาและพูดว่า “ผมเข้าไปก่อนนะ ต้องไปพูดคุยทักทายหน่อย”
ว่าแล้วเขาก็เข้าไปกับสามสาว
หลังจากเข้าไปแล้ว อิ่นหนิงหยู่ก็เอามือวางลงบนไหล่ของฉินเฟิง แกล้งทำเป็นจะอาเจียน “ไอ้แซ่ฉิน คุณเห็นแล้วหรือยัง เล่นละครเก่งจริงๆ สามสาวนั่นก็คือแฟนของเขา ยังบอกว่าเป็นเพื่อนนักเรียนธรรมดา เห็นอิ่นหนิงหยู่ใสซื่อไม่มีสมองเหรอ?”
“ค่อยๆ อ้วกไปนะ”
ฉินเฟิงหัวเราะ
จากนั้นฉินเฟิงและอิ่นหนิงหยู่ก็เดินเข้าไป หามุมพักผ่อน พวกเขาขับรถมาเกือบครึ่งชั่วโมง
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา คนอื่นๆ เพิ่งทยอยมาถึง
ท่ามกลางผู้คน เฉิงหงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าหม่นหมอง ชำเลืองมองดูอิ่นหนิงหยู่และฉินเฟิงที่กำลังตากแอร์อยู่ทางด้านหนึ่ง เธออดโมโหไม่ได้ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคิดไม่ออกว่า ทำไมปอร์เช่ของเธอถึงถูกรถหวูหลิงหงกวงแซงเอาได้
แต่อย่างไรก็คิดไม่ออกอยู่ดี แซงได้คือความจริง
ดังนั้นเธอจึงไม่นึกอยากไปสมน้ำหน้าอิ่นหนิงหยู่ แต่อิ่นหนิงหยู่เป็นคนไม่ยอมถูกเอาเปรียบ เธอนั่งลงทันที แล้วตะโกนเสียงดังว่า “เฉิงหง ปอร์เช่ของเธอซื้อของปลอมมาหรือเปล่า ฉันมาถึงแล้วสองชั่วโมง เธอโอ้เอ้มาสาย ฉันว่านะ เธอเอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินหน่อยดีไหม?”
ประโยคนี้ ทุกคนในงานได้ยินกันหมด
สีหน้าของเฉิงหงแดงก่ำอย่างฉับไว ก่อนหน้านี้ที่ประตูมหาวิทยาลัยเธอเยาะเย้ยอิ่นหนิงหยู่มาตลอด หัวเราะเยาะรถหวูหลิงหงกวงของอิ่นหนิงหยู่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า รถหวูหลิงหงกวงคันนั้นจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้
“เอาล่ะ ทุกคนเลิกทะเลาะกันได้แล้ว”
ในเวลานี้ เฉินเจียงเดินออกมา สุภาพอ่อนน้อม วางมาดหัวหน้าชั้น เข้ามาไกล่เกลี่ยให้ทุกคน
“โอเค เพื่อเห็นแก่หัวหน้าชั้น ฉันจะไม่ถือสาหาความคนไม่มีทางสู้”
เดิมทีเฉิงหงที่ยังไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร พอเห็นเฉินเจียงออกมา ก็เอามือกอดอก มีสีหน้าของผู้ชนะ ไม่พูดอะไรอีก ไม่รังแกคนไม่มีทางสู้
“ฮ่าๆ ไร้ยางอาย”
อิ่นหนิงหยู่บุ้ยปาก นั่งลงบนที่นั่งต่อไป
แต่ในเวลานี้เฉินเจียงได้บอกให้คนนำไม้เสียบลูกชิ้นเข้ามามากมาย และพูดกับทุกคนว่า “ทุกท่าน เพื่อเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพในชั้นเรียน เรามาเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นกันเถอะ ในอ่าวย่าหลง ห้องหนึ่งจะพักได้แค่สองคนเท่านั้น ดังนั้นพวกเรามาจับสลากกัน จับได้ใคร ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องอยู่ด้วยกัน โอเคไหม?”
“หัวหน้าชั้น อันนี้ตื่นเต้นมาก”
“ฉันเห็นด้วย ฉันเห็นด้วยมากๆ ชูมือเห็นด้วยสุดๆ”
นักศึกษาชายในชั้นเรียนเหล่านั้นยกมือเห็นด้วยทันที
เพราะการได้พักกับนักศึกษาหญิงมันเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ดีกว่าพักกับนักศึกษาชายด้วยกัน นอกจากนี้ยังอาจทำให้จุดประกายไฟแห่งความรักขึ้นมาได้อีกด้วย
“ฉัน…”
นักศึกษาหญิงบางคนเห็นด้วย
พอนักศึกษาหญิงส่วนหนึ่งเห็นมีคนเห็นด้วยจำนวนมาก ก็ไม่อยากปฏิเสธให้งานล่ม และในใจของพวกเธอยังมีความใฝ่ฝันบางอย่าง พวกเธอต้องการพักกับเฉินเจียง
“ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าชั้น จะจับเป็นคนสุดท้ายแล้วกัน เชิญทุกท่าน”
เฉินเจียงยื่นถังไม้เสียบลูกชิ้นให้คนเหล่านั้นทีละคน บางคนจับแล้ว หน้าถอดสี และมีบางคนจับแล้ว ต่างฝ่ายต่างดีใจ แต่โดยรวมก็ถือว่าดี
แม้ว่าจะต้องพักอยู่กับคนที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ก็อยู่ไม่นาน
ไม้เสียบลูกชิ้นค่อยๆ ถูกจับจนเกือบหมดแล้ว
“สองคนนี้ เหลือแค่พวกคุณแล้ว”
เฉินเจียงเข้ามาทางด้านข้างของฉินเฟิงและอิ่นหนิงหยู่ ไม้เสียบลูกชิ้นที่อยู่ในมือยังเหลืออีก 5-6 อัน ให้ฉินเฟิงและอิ่นหนิงหยู่จับ สีหน้าท่าทางเป็นธรรม
ในเวลานี้ อิ่นหนิงหยู่ได้แอบกระซิบบอกฉินเฟิง “น่าจะมีกลโกง”
“อืม”
ฉินเฟิงก็พยักหน้าอย่างเงียบๆ
คุณชายตระกูลเฉินคนนี้ ไม่มีทางให้จับสลากโดยไม่มีสาเหตุ เขาอาจจะกำลังคิดหมายปองอิ่นหนิงหยู่ เขาจึงคลำลงไปในถังไม้เสียบลูกชิ้น การเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก ดูสบายๆ แต่ฉินเฟิงก็สัมผัสถึงสิ่งที่อยู่ภายในได้คร่าวๆ
เหลืออีก 5-6 อัน แต่ละอันไม่เหมือนกัน
บางที ทั้ง 5-6 อันนี้ล้วนเป็นห้องว่างทั้งหมด ตัวเองเขามีอีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่าอิ่นหนิงหยู่จะจับได้อันไหน เขาก็จะมีวิธีหยิบไม้เสียบลูกชิ้นที่คู่กันออกมาได้
เช่นนั้นเขาก็จะสามารถพักอยู่ในห้องเดียวกันกับอิ่นหนิงหยู่สมใจ เพราะมันเป็นกิจกรรมของชั้นเรียน อิ่นหนิงหยู่คนเดียวไม่สามารถปฏิเสธได้ สุดท้ายเฉินเจียงก็อาจจะทำแผนชั่วได้สำเร็จ
แผนการไม่เลว แต่น่าเสียดายที่คุณเจอผม