เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1888 จบสิ้น
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1888 จบสิ้น
หลังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ในที่สุดรถม้าผลึกน้ำแข็งเหาะออกมาจากท้องฟ้าแน่นขนัดแล้ว
ลู่ฝานแปลงโฉมใบหน้า ตามเธอไปเงียบๆ
สถานที่ที่มีคนพลุกพล่านลงมือยากจริง ลู่ฝานรอให้เธอเหาะไปถึงที่ที่มีคนน้อย
หรือไม่ก็กลับไปที่ห้องแล้วเขาค่อยลงมือ
แต่หลังจากตามอยู่สักพัก ลู่ฝานเห็นว่ารถม้าผลึกน้ำแข็งมีท่าทางเหมือนจะเลี้ยวกลับ
ลู่ฝานแอบรู้สึกว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาจากในรถม้าผนึกน้ำแข็ง
เหมือนธิดาเทพเห็นเขาแล้ว!
ยิ้มบางๆ เหมือนธิดาเทพมีความรู้ด้านสะกดรอยตาม!
แต่ลู่ฝานไม่แคร์ โดนจับได้แล้วยังไง
ระยะแบบนี้ ถึงธิดาเทพใช้แรงทั้งหมดหลบหนี เขาก็ตามทันอยู่ดี
ลู่ฝานแอบปรับปราณชี่ของตัวเองให้เรียบร้อย
แต่เหมือนธิดาเทพไม่มีท่าทีว่าจะหนีไปอย่างรวดเร็ว
จู่ๆ รถม้าเลี้ยวแล้วเหาะไปทางอื่น
ลู่ฝานเดินเร็วขึ้น ตามรถม้าของธิดาเทพไป
ทันใดนั้น รถม้าลงมาจอดในถนนเล็กๆ แห่งหนึ่ง
อาจเป็นเพราะถนนแห่งนี้ไม่กว้าง ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่ ทำให้ดูเงียบสงบมาก
รถม้าของธิดาเทพหยุดลงบนถนน นักบู๊ชุดขาวถืออาวุธเดินออกมาจากรถม้า
สีหน้าพวกเขาดูจริงจัง ความอาฆาตพลุ่งพล่าน
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาโยนมุกลงบนพื้น
ค่ายกลโปร่งแสงปรากฏขึ้นครึ่งถนนทันที
ธิดาเทพค่อยๆ เดินออกมาจากรถม้า
มองรอบๆ ด้วยสายตาเย็นชา ธิดาเทพพูดเสียงกังวาน “ออกมาเถอะสหาย สะกดรอยตามคนอื่นไม่ใช่เรื่องสนุกหรอก!”
ลู่ฝานได้ยินคำพูดของธิดาเทพจากไกลๆ
เดินออกมาจากมุมด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม
ลู่ฝานรู้สึกว่าสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขาทันที
เหมือนปลายเข็ม เหมือนคมมีด นัยน์ตาเต็มไปด้วยความแหลมคม
ธิดาเทพเพ่งมองมาทางลู่ฝาน อาจเป็นเพราะใบหน้านี้ของลู่ฝานธรรมดาเกินไป ทำให้เธอจำไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงขมวดคิ้วแน่น
“นายเป็นใคร ทำไมต้องสะกดรอยตามฉัน!”
ธิดาเทพพูดเสียงดังแล้วขยับนิ้วเบาๆ เหมือนกำลังออกคำสั่งบอกให้นักบู๊ข้างๆ เตรียมลงมือตลอดเวลา
ลู่ฝานก้าวเข้ามาพูดว่า “หานเยียน ธิดาเทพแห่งประเทศเป่ยเสิน จำฉันไม่ได้เหรอ”
ธิดาเทพจ้องใบหน้าที่ผ่านการแปลงโฉมของลู่ฝาน “ขอโทษด้วย ฉันเจอคนมามากมาย คนหน้าตาธรรมดาแบบนาย ฉันจำไม่ได้จริงๆ นายช่วยเตือนความจำฉันหน่อยได้ไหม”
ลู่ฝานเดินมาข้างหน้าพลางพูดว่า “ได้ ฉันคือคนที่เคยโดนเธอหลอก แล้วก็โดนเธอหลอกอีก แต่ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ เคยเดินทางในอากาศเวิ้งว้างกับเธอ เคยชมวิวประเทศกับเธอ เดิมทีฉันนึกว่าเธอเป็นธิดาเทพที่หยิ่งผยอง บริสุทธิ์สูงส่ง มีคุณธรรมสูงส่ง แต่เธอกลับทำร้ายคนอื่นแล้วชิงสมบัติ เป็นเรื่องที่ไร้ยางอายสุดๆ เธอเป็นคนเห็นแก่ตัว คุณธรรมยังเทียบกับผู้ฝึกชั่วร้ายกระจอกๆ ไม่ได้เลย แม้เธอถูกเรียกว่าธิดาเทพ แต่แท้จริงแล้วทำแต่เรื่องที่ผู้ฝึกชั่วร้ายทำ หน้าตาสะสวย จิตใจอัปลักษณ์ ฉันบรรยายแบบนี้ เธอจำฉันได้หรือยังล่ะ”
ลู่ฝานยกยิ้มมุมปากเบาๆ แต่นัยน์ตากลับมีความดุดัน
เขาจงใจใช้คำพูดถากถางธิดาเทพ ความตกตะลึงปรากฏบนใบหน้าธิดาเทพทันที
เธอชี้หน้าลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายคือ……นายคือ……”
ตอนนี้ลู่ฝานอยู่ห่างจากรถม้าผลึกน้ำแข็งเพียงร้อยก้าวเท่านั้น ค่อยๆ หุบยิ้มแล้วพูดว่า “ว่ายังไง ยังจำไม่ได้เหรอ งั้นฉันจะเตือนความจำเธออีกนิดละกัน ประเทศหลิง หม้อสือฟาง คนใช้ของเธอที่ตายไป!”
สีหน้าธิดาเทพแปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม พลังปราณแข็งแกร่งพุ่งขึ้นบนตัว
ผมปลิวสะบัดขึ้นมาเอง
ชี้หน้าลู่ฝานแล้วพูดว่า “ฆ่า ฆ่าเขาซะ!”
เมื่อได้ยิน นักบู๊ชุดขาวที่อยู่ข้างรถม้าพุ่งไปหาลู่ฝานทันที
พลังปราณพลุ่งพล่าน เศษหินดินทรายด้านล่างกระจายไปรอบๆ เสียงมิติแตกร้าวดังขึ้นไม่หยุด
ลู่ฝานมองนักบู๊ชุดขาวที่พุ่งเข้ามา เขาพลิกฝ่ามือ กระบี่หนักไร้คมปรากฏขึ้นในมือ
“กระบี่มังกรเพลิงคำราม!”
พรึ่บ!
มังกรเพลิงปรากฏออกมา เคลื่อนตัวพาดผ่านข้างตัวนักบู๊ชุดขาวด้วยความเร็วสูงสุด
มังกรยักษ์สีแดงเพลิงเหมือนมังกรเทพเลื้อยอยู่ที่ขอบฟ้า ทุกที่ที่ผ่านไป เต็มไปด้วยสีแดงเพลิง
พลิ้วไหวปราดเปรียว ไม่มีเศษฝุ่นอะไรเลย
เคล็ดวิชาบู๊ที่ดุดัน พลังทำลายล้างน่ากลัว แต่เมื่อลู่ฝานใช้ กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
นี่คือการพัฒนาเคล็ดวิชาบู๊ของลู่ฝาน ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ควบคุมเคล็ดวิชาบู๊ของตัวเอง ต้องโชว์สไตล์ของตัวเองออกมาให้ได้ด้วย
เคล็ดวิชาบู๊อย่างกระบี่เพลิงมังกรคำราม ลู่ฝานเข้าใจอย่างถ่องแท้มานานแล้ว
ตอนนี้ลู่ฝานสามารถเอาวิถีของตัวเองผสานเข้าไป เปลี่ยนแปลงเคล็ดวิชาบู๊นี้ใหม่อีกรอบ ดังนั้นเมื่อใช้ออกมาจึงดูไม่ธรรมดาเช่นนี้
แสงเพลิงกะพริบ ตัวของลู่ฝานมาถึงหน้าธิดาเทพหานเยียน
กล้ามเนื้อบนใบหน้าลู่ฝานบิดไปมา ไม่นานลู่ฝานกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ลู่ฝานแห่งประเทศอู่อาน ตอนนี้เธอคงจำได้แล้วใช่ไหม!”
ลู่ฝานเพิ่งพูดจบ นักบู๊ชุดขาวที่อยู่ด้านหลังพ่นเลือดออกมาเหมือนน้ำพุ
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
นักบู๊ชุดขาวที่พละกำลังถือว่าไม่แย่ พากันล้มลงบนพื้นทั้งหมด พลังชีวิตหายไปอย่างรวดเร็ว
ลู่ฝานไม่ออมมือ และไม่มีทางออมมือด้วย
กระบี่หนักไร้คมไม่มีเลือดสักนิด ปักลงตรงหน้าธิดาเทพ
“ลู่ฝาน!”
เหมือนธิดาเทพพูดลอดไร้ฟันออกมา
ตอนพูด ลู่ฝานเห็นเส้นเลือดตรงหน้าผากเธอเต้นตุบๆ
ธิดาเทพลงมือทันที
กระบี่เทพน้ำแข็งหมื่นปีโจมตีออกมา รวดเร็วมาก วิชากระบี่ดุดัน ตอนนี้พลานุภาพที่ธิดาเทพโจมตีออกมาเหนือกว่าตอนสู้กับศิษย์พี่ฉู่สิงเมื่อครู่
เป็นไปตามคาด มนุษย์มีศักยภาพที่ซ่อนอยู่จริงๆ
แต่สิ่งเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลกับลู่ฝาน
คว้ามือซ้าย กระบี่เทพน้ำแข็งหมื่นปีร่วงลงบนตัวลู่ฝาน
ความเย็นบนกระบี่ พลังปราณของธิดาเทพ สำหรับลู่ฝานแล้ว มันเหมือนลมเย็นพัดผ่านไป
แม้เย็นมาก แต่ไม่ได้ผลอะไรสักนิด
“การพัฒนาของเธอน้อยมาก!”
ลู่ฝานพูดเบาๆ
ใช้แรงที่มือซ้าย เสียงหักดังขึ้น
กระบี่เทพน้ำแข็งหมื่นปีโดนหักเป็นสองท่อน ธิดาเทพใบหน้าตกตะลึง จะเคลื่อนตัวถอยไปด้านหลัง
แต่ขณะนั้น ประกายสว่างวาบขึ้นนัยน์ตาลู่ฝาน เธอชะงักอยู่ที่เดิมทันที
วิชาดับวิญญาณ!
ร่างกายเริ่มกลายเป็นหิน ธิดาเทพสั่นไปทั้งตัว “ลู่ฝาน ทำไมนายถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้!”
ลู่ฝานเอากระบี่หนักไร้คมขวางไว้ที่คอธิดาเทพ “คำว่าเป็นไปไม่ได้ใช้กับฉันไม่ได้หรอก เธอไม่น่ายั่วโมโหฉันเลยจริงๆ”
ธิดาเทพมองกระบี่หนักไร้คมของลู่ฝาน กัดฟันพูดว่า “นายไม่มีทางฆ่าผู้หญิง ใช่สิ! ความแค้นระหว่างนายกับฉันสะสางกันได้ ฉันจะขอโทษนาย มอบของเป็นการชดใช้ ถ้านายปล่อยฉัน ทุกอย่างพอพูดกันได้”
ลู่ฝานมองตาธิดาเทพแล้วพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ท่าทางของเธอทำให้ฉันคิดถึงคนคนหนึ่ง”
ธิดาเทพตาเป็นประกาย “ใคร คนรู้จักนายเหรอ เธอเคยทำแบบนี้ นายเลยปล่อยเธอเหรอ ฉันพอมีโอกาสแบบเธอไหม ลู่ฝาน แค่นายปล่อยฉัน ฉันยอมเป็นสาวใช้ของนาย”
ลู่ฝานมองหน้าธิดาเทพอย่างเฉยเมย “ขอโทษด้วย คนนั้นชื่อจางเยว่หาน เธอก็ตายคามือฉันเหมือนกัน ฉันไม่เหมือนศิษย์พี่สาม ฉันฆ่าผู้หญิงได้!”
เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเหวี่ยงกระบี่หนักไร้คมอย่างแรง
เลือดสาดกระเด็นเหมือนดอกซากุระปลิวไปรอบๆ
พายุพัดพาความเย็นออกไป ธิดาเทพล้มลงพื้นเสียงดัง
สีหน้ามีความตกตะลึง ไม่อยากเชื่อ ไม่พอใจ
ถ้าเธอรู้ว่าการมาประเทศฉิงเทียนครั้งนี้จะอันตรายขนาดนี้ เธอไม่มีทางมาแน่นอน
ถ้าเธอรู้ว่าพละกำลังของลู่ฝานน่ากลัวขนาดนี้ เธอควรหนีตั้งแต่เห็นลู่ฝานแวบแรกแล้ว
แต่บนโลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า มีเพียงคำว่าต้องเท่านั้น
พลังชีวิตในดวงตาจางหายไป ธิดาเทพนอนอยู่บนพื้น ไม่มีพลังชีวิตอีกแล้ว
ลู่ฝานเก็บกระบี่หนักไร้คม มองศพธิดาเทพแล้วพูดว่า “แบบนี้เราถึงจะจบสิ้นกัน”
ลู่ฝานดีดนิ้วเบาๆ เปลวเพลิงลุกโชนแผดเผาทุกสิ่ง