วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 895 จูบจนหน้าเล็กๆเป็นสีแดง
ตอนที่ 895 จูบจนหน้าเล็กๆเป็นสีแดง
“คิดได้ดีหนิ เป็นแม่บุญธรรมให้คุณ!”
จู่ๆวัจสาก็ตระหนักขึ้นมาได้ทันทีว่าชีวิตยังสามารถสนุกสนานและหวานฉ่ำได้ขนาดนี้!
“พี่สาวคนสาวสัญญากับทุกคนแล้วนี่นา! มองผมสิหล่อน่ารักขนาดนี้ทุกคนก็ต้องเชื่อฟังผมทั้งนั้นแหล่ะ!” หนุ่มน้อยทำท่าทางน่ารักพร้อมกับเขย่าเรียวขาเล็กขอวัจสา
สองพ่อลูกร่วมมือกันอย่างเข้าขากันดี
“ตะวัน ทำไมวันนี้ไม่ไปเรียน?”
คำถามของวัจสา ทำให้โลกในเทพนิยายของเด็กน้อยแตกสลายกลับไปสู่ความเป็นจริงที่โหดร้าย
วัจสาก็ตระหนักได้ว่าลูกชายโดดเรียน!
“หม่ามี๊นี่ไม่มีความสนุกเอาซะเลย! ทำไมจู่ก็มาทำลายบรรยากาศซะงั้น!”
ก่อนที่จะมาโรงเรียนสองพ่อลูกได้วางแผนไว้แล้วว่าจะทำยังไงถึงจะทำให้หม่ามี๊พอใจ
“สนุกกับผีอะไรหล่ะ! ตะวัน วันนี้ลูกไม่เข้าเรียนอีกแล้วหรอ?”
ความเป็นจริงสุดท้ายก็เป็นเหมือนบ่อโคลน!
“ธัชชัยช่วยด้วย!”
เมื่อเห็นว่าหม่ามี๊เอาจริงเด็กน้อยก็วิ่งแจ้นไปด้านหลังของพ่อธัชชัย
“ใครก็ช่วยลูกไม่ได้! รีบไปเข้าเรียนเลย!”
วัจสาเอื้อมมือไปลากเด็กน้อยที่ซ่อนอยู่หลังธัชชัย
“หม่ามี๊อย่าทำแบบนี้มันไม่ใช่แบบนั้นฟังผมอธิบายก่อน! พ่อว่าว่าหม่ามี๊มาที่นี่ ลูกชายสุดที่รักก็เป็นห่วงดังนั้นก็เลยมาหาหม่ามี๊กับเขา!”
วัจสาจับมือเด็กน้อยไว้ข้างนึงส่วนมืออีกข้างนึงเด็กน้อยกอดขาธัชชัยเอาไว้แน่น
ดูแล้วก็ทั้งน่าตลกและน่าสงสาร
“โดดเรียนก็คือโดดเรียนไม่ต้องใช้หม่ามี๊มาเป็นข้ออ้างเลย!”
วัจสาปล่อยมือเด็กน้อยเธอรู่ว่าลูกห่วงเขาจริงๆ กังวลเกี่ยวกับเธอหม่ามี๊คนนี้
“ผมเป็นคนให้ตะวันมากับผมเอง” สุดท้ายธัชชัยก็พูด
เขาเอื้อมมือไปโอบเอววัจสาขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ “เพื่อนนักเรียนดูลูกชายผมสิทั้งน่ารักหล่อเหลา, เป็นแม่บุญธรรมให้เขาหน่อยเป็นไง? แถมยังรับ1ฟรี1ด้วยนะ! รับลูกแถมพ่อ!”
“นี่คุณยังแกล้งทำอีก! ทำได้จริงรึไง?” วัจสากรอกตามองใส่เขายื่นกำเป็นกำปั้นส่งไปที่อกธัชชัย
“รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่? แอบตามฉันหรอ?”
“เพราะผมบอกกับธัชชัยว่าหม่ามี๊อยากได้ใบปริญญาเขาก็เลยบอกว่าหม่ามี๊อยู่ที่นี่”
เด็กน้อยเห็นว่าความโมโหของหม่ามี๊กลายเป็นเขินก็รีบเอาใจ “หม่ามี๊แต่ว่าใบปริญญานั่นก็ไม่ได้ดีไปกว่ากระดาษแข็งเช็ดปู๊ดๆไม่ใช่หรอ? จะมาทำมันทำไม?”
“ใครพูดเรื่องไร้สาระนี้กับลูก…..”
วัจสาที่ถูกทางโรงเรียนปฏิเสธก็อดไม่ได้ที่จะโมโห“ธัชชัยคนไม่ได้เรื่องบอก!”เจ้าเด็กน้อยนกสองหัวนี้เมื่อเห็นสีหน้าของหม่ามี๊ผิดไปอะไรๆก็โยนไปให้ธัชชัยทั้งหมด“เอ่อ…..คำพูดพล่อยๆทั้งหมดนั้นพวกเราไม่ควรจริงจังกับลูกขนาดนั้นนะ”IQของธัชชัยจะทำให้เด็กน้อยมืดมนได้ยังไง?สามคนพ่อแม่ลูกจูงมือกันเดินไปในสวนของมหาลัยพร้อมกับยังคงมีความรู้สึกบางอย่างอยู่และยิ่งกว่านั้นคือสามคนพ่อแม่ลูกนี้หน้าตาหล่อสวยกันทั้งบ้านซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีแบบนี้มาก่อนส่วนสิ่งที่ทำให้วัจสาพอใจมากที่สุดก็เพราะมีทั้งลูกชายที่หล่อเหลาน่ารักแล้วก็ยังมีความหล่อของ……อดีตสามี!“ภรรยาคุณดูสิว่าวันนี้เป็นวันที่ดีใช่มั้ยหล่ะ? ไม่งั้นเรามาใช้โอกาสจากวันที่อากาศดีอย่างงี้มาแต่งงานกันใหม่เถอะ?”สายตาของชายหนุ่มนั้นจริงใจและก็ยังมีเสน่ห์“ผู้นำทางธุรกิจของเมืองSจะหาภรรยาไม่ได้หรอ? หญิงสาววัยรุ่นสวยๆที่อยากมาเป็นแม่บุญธรรมของลูกชายคุณคงจะยาวจนล้อมโลกได้รอบนึงวัจสาบีบมือธัชชัยไม่แรงแต่ก็ไม่เบาๆ. สิบนิ้วเชื่อมถึงหัวใจ วัจสาก็อยากรู้ว่าถ้าตนเองกดที่ปลายนิ้วของเขาหัวใจก็จะเต้นตามมั้ย?“รู้ว่าผมจะไม่แต่งกับคนอื่นก็เลยกดดันผมงี้หรอ?ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวไว้และจ้องมองไปที่ดวงตาของเธอ “แต่ผมยอมให้คุณกดดันผมไปตลอดเลยนะ. ใครกันนะที่เอาใจผมไปไว้ข้างๆคุณ? คุณก็เติบโตอยู่ในใจผมตลอดไม่ว่าจะทำยังไงชีวิตนี้ก็ลบไปไม่ออก….นอกเสียจากว่าใจดวงนี้มันจะหยุดเต้น!”“ธัชชัย! พูดอะไรไร้สาระ!” วัจสารู้สึกเจ็บปวดรีบยื่นมือไปปิดปากบางของชายหนุ่ม “คุณกับตะวันต้องไม่เป็นอะไร!”“พวกเราสามคนต้องไม่เป็นอะไร พวกเรารักกัน!”เด็กน้อยกอดขาของพ่อแม่ไว้เดินอย่างออดอ้อนน่ารักที่จริงแล้วไม่ว่าจะแต่งงานหรือว่าแต่งงานใหม่ตนเองกับธัชชัยก็มีประสบการณ์ร่วมกันมาตั้งนานขนาดนี้. กระดาษแผ่นนั้นก็ไม่ได้ความหมายอะไรเลยถูกตามกฎหมายแต่ก็ไม่สามารถแสดงถึงความเหมาะสม; ความเหมาะสมก็ไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่วัจสาจะเข้าใจเรื่องนั้นทั้งหมด เธอก็ไม่อยากรีบร้อนเอากระดาษแผ่นนั้นแต่ถ้าเกิดเป็นเพราะแค่เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย, นั่นก็ไม่ต่างกับกระดาษเช็ดปู๊ดๆที่บอกลูกชายแต่มันก็มีความยากอยู่บ้างในเวลาอาหารกลางวันวัจสาพาพ่อธัชชัยพ่อลูกกินข้าวในมหาลัย“หม่ามี๊ ที่นี่คนทั้งเยอะทั่งวุ่นวาย! ลูกชายไม่อยากอยู่ที่นี่!”“ถ้างั้นก็ไปกินร้ายอาหารกับพ่อข้างนอก หม่ามี๊จะอยู่ที่นี่”แค่คำพูดของวัจสาประโยคเดียวก็สรุปให้เด็กน้อยเรียบร้อยเพราะไม่มีบัตรอาหารวัจสาจึงต้องขอยืมจากเด็กนักเรียนคนหนึ่งและให้เงินสด50หยวนซื้ออาหารตอนแรกสองพ่อลูกก็จะตามใจวัจสาแต่เมื่อเด็กน้อยเห็นฝูงชนมากมายจอแจเขาก็มึนงงไปหมดส่วนแถวที่วัจสาต่ออยู่นั้นก็มีแต่ผู้หญิงไม่มีที่ว่างให้ธัชชัยเลยตนเองหน่ะสามารถเบียดเข้าไปได้แต่กลัวว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะไม่ยอมธัชชัยยืนตระหง่าอยู่ข้างวัจสาที่ตัวครึ่งเมตรมองหญิงสาวตาประกายจู่ๆขบวนผู้หญิงก็เจี๊ยวจ๊าวขึ้นมา“ให้ตายสิ หนุ่มหล่อมาโรงเรียนเราแหล่ะ!”“มีความคล้ายกับ…..ลูกหลานคนรวยนะ!”“แต่ดูมั่นคงมีสันมากกว่าลูกหลานคนรวยมากๆเลย!”“มาที่นี่เพื่อหลีหญิงแน่! แต่แค่manพอ ฉันก็ชอบผู้ชายแบบนี้!”“แม่เจ้า บนตัวเขามีArmaniสีน้ำเงินแล้วก็มีvacheron-stantin……อย่างน้อยๆก็มากกว่าล้าน”“แต่น่าเสียดาย เหมือนกับว่าเขาเอาแต่มองคนที่สวมเสื้อไหมพรมนั่น“แต่ผู้หญิงคนนั้นก็สวยอยู่นะที่แท้ก็คนแบบไหนก็เหมาะกับคนแบบนั่นทั้งสองคนนั้นหน้าตาดีขนาดนั้น…..”วัจสาเริ่มรู้สึกเสียใจแล้ว, เสียใจที่ตนเองไม่น่าพาพวกเขามาที่โรงอาหารเลยเธอแค่อยากที่จะย้อนความทรงจำเก่าๆแต่นึกไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงในมหาลัยจะคลั่งขนาดนี้แล้วก็ยังมีธัชชัยพ่อลูกที่ได้รับความนิยมขนาดนี้วัจสาไม่สนใจธัชชัยหนุ่มหล่อนั้นที่ทั้งสดใสโดดเด่นไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะส่องแสงเหมือนหิ่งห้อยยามค่ำคืน. ใบหน้าหล่อสะอาดสะอ้าน คิ้วตางดงามละเอียดละอ่อนแล้วก็ยังมีกริยาท่าทางอย่างราชาที่ติดตัวมาแต่กำเนิด มันช่างทำให้สาวๆใจเต้นได้ง่ายเหลือเกินแต่ตอนนี้ในสายตาของหนุ่มหล่อนั้นมีเพียงแค่วัจสาคนเดียว เขามองเธอเท่าไหร่ก็มองไม่พอจนแทบจะอดไม่ได้ที่จะเอาเธอละลายเข้าไปในนัยน์ตาตนเองวัจสารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ชายคนนี้ตั้งใจป่ะเนี่ย? เธอรู้สึกว่าด้านหลังของเธอถูกจ้องด้วยความริษยาจนเป็นรูแล้ว“ธัชชัย…..คุณไปดูตะวันเถอะ ฉันถือคนเดียวก็ได้แล้ว!”วัจสาไม่อยากยืนอยู่กับชายหนุ่มท่ามกลางมรสุมสายตา“คุณวางใจเถอะ ลูกเราฉลาดขนาดนั้นไม่ถูกหลอกเดินไปไหนหรอก!”แค่ประโยคเดียวก็สามารถอธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขาได้วัจสาพูดอะไรไม่ออกก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อแถวต่อไปมันไม่ง่ายเลยที่จะรับแกงมาดีๆได้ ชายหนุ่มจึงเดินไปด้านหน้าหยิบถาดรองที่อยู่ในมือวัจสารับ“ภรรยา, มาผมเอง มันหนัก”สุภาพบุรุษ มีน้ำใจ! หญิงสาวพวกนั้นเริ่มอุทานขึ้นอีกครั้งวัจสาไม่ได้โวยวายอะไรเดินอย่างสง่างามผ่านไปพร้อมกับธัชชัยส่วนผู้ที่เป็นเด็กน้อยก็ถูกล้อมไปด้วยกลุ่มหญิงสาว มีทั้งลูบหัวทั้งถ่ายรูปเป็นที่น่าสนใจไม่แพ้พ่อเลย“หนุ่มน้อยน่ารักจัง!”“หนุ่มน้อยชื่ออะไรครับ?“ให้พี่สาวหอมทีได้มั้ย?”ตอนแรกที่เด็กน้อยถูกล้อมไปด้วยกลุ่มพี่สาวแสนสวยในใจก็ขัดแย้งนิดหน่อยแต่ว่าก็ลดลงเพราะเขารู้สึกว่าความรู้สึกของการเป็นดาวล้อมเดือนนั้นก็ไม่เลว!“อยากหอมผมหมดเลยหรอ? แต่ว่าผมเป็นผู้ชาย…..มันเขินนะ!”“ฮ่าๆๆ….” คำพูดของเด็กน้อยทำให้เหล่าหญิงสาวหัวเราะขึ้นมามีคนแซวเขาว่า “ก็หอมนิดนึงก็ได้!”“ก็ยังไม่เอาดีกว่า ผมกลัวพวกพี่อาย….”“โอ๊ย จะกระอักความน่ารักตายแล้ว!” มีนักเรียนหญิงคนนึงไม่สนแล้วว่าเด็กน้อยจะยอมไม่ยอมใช้นิ้มจิ้มไปที่หน้าของเด็กน้อยแล้วก็หอมๆเมื่อถึงตอนที่วัจสากับธัชชัยกลับมาถึงโต๊ะเด็กน้อยก็ถูกเหล่าหญิงสาวหอมจนหลงทางไปแล้วหน้าข้างนึงของเด็กน้อยเป็นสีแดงๆผสมกันเต็มไปด้วยลิปสติกสีต่างๆ“ว้าว!”หลังจากที่เห็นหนุ่มหล่อดูมั่นคงอย่างธัชชัยเหล่าหญิงสาวก็พากันอุทานกันขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนใหญ่ก็ลุกออกไปมีเพียงส่วนน้อยที่ยืนล้อมสองคนพ่อลูกแล้วออกความเห็นวัจสาอารมณ์ดีแล้วก็หัวเราะใช้กระดาษเปียกช่วยเช็ดหน้าลูกชายให้สะอาด“ตะวันแต่ลูกเป็นผู้ชายหอมผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไง?”“อะไร พวกเขาเริ่มก่อน, ก็คนมันหล่อช่วยไม่ได้!” เด็กน้อยยักไหล่เหมือนเป็นการอวด“ยังไงหลักๆก็ต้องขอบคุณยีนส์ของพ่อ!”เมื่อเห็นสองพ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยวัจสาก็อยากหัวเราะจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“หม่ามี๊ หม่ามี๊หัวเราะแล้วสวยขึ้นจัง! วันหลังหัวเรากับลูกบ่อยๆได้มั้ย?”“อย่ามาอวดฉลาดเลยนะ! กินข้าวตัวเองไป!”เพราะไม่มีถ้วยใบเล็กวัจสาจึงต้องใส่ถ้วยใหญ่ให้เด็กน้อยกิน”เอ๋? ทำไมถึงกินพวกนี้หล่ะ? ดอกขาวคืออะไรมันหมูหรอ? แล้วก็ยังมีไข่ผัดมะเขือเทศน้ำหน่อยๆ….เอ๋นี่มันคืออะไรกัน? แล้วก็มีน้ำเปล่าถ้วยนึง? นี่ไม่ใช่ให้คนกินนะ!”หลังจากที่เห็นอาหารบนโต๊ะเด็กน้อยที่แสนจะมีความสุขจู่ๆก็เฉยเมยขึ้นมาทันทีหมูตุ๋นน้ำแดงนี่ก็เหมือนมันหมูหน่อยๆ…..แล้วก็ยังมีไข่ผัดมะเขือเทศนี่น้ำเยอะ…..แล้วก็มีปลาทอด เด็กน้อยไม่เข้าใจก็ไม่แปลกสำหรับน้ำในปากเขาจริงๆแล้วคือซุปผักกาดดองและด้วยเพราะว่าวัตถุดิบที่น่าสงสารมันจมอยู่ข้างใต้จึงทำให้เหมือนเป็นถ้วยน้ำเปล่า….“นี่จะไม่ใช่ให้คนกินได้ยังไง? หม่ามี๊ของลูกยังกินข้าวที่นี่ได้มาได้ตั้ง4ปีวัจสาคีบหมูตุ๋นน้ำแดงชิ้นที่ผอมที่สุดให้เด็กน้อยแล้วก็ยังมีพวกไข่ให้อีก