วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 861 รู้ว่าเขาเป็นพ่อ
ตอนที่ 861 รู้ว่าเขาเป็นพ่อ
” พ่อบุญธรรมครับ พวกสิบสองเขากลับมาแล้ว!”
คนที่รายงานอำเภอพัดรักคือสี่ที่ยืนอยู่ตรงประตูเหมือนผู้พิทักษ์ที่เพิ่งมาจากปราสาทsky dreamพร้อมกับห้า
แปดได้รับบาดเจ็บเมื่อตอนลงรถยังเซๆ อยู่บ้าง แม้ว่าตนเองจะจัดการกับปากแผลแล้วแต่ลูกกระสุนที่เข้าไปในร่างกายต้องเอาออกมาอย่างด่วน
สิบสองส่งแปดให้กับห้า ส่วนตนเองเข้าไปรายงานเกี่ยวกับบ้านพักให้อำเภอพัดรักฟัง
“ไม่สำเร็จเหรอ?”
เมื่อเห็นท่าทางยอมรับผิดของสิบสองอำเภอพัดรักก็พอจะรู้ผลแล้ว แต่เขาก็มีความสงสัย: “วิศาลจัดการยากขนาดนั้นเลยเหรอ? แกสองคนเลยทำอะไรเขาไม่ได้?”
“เพราะจู่ๆ ธัชชัยก็โผล่มาแถมยังสู้เพื่อปกป้องวิศาล….ดังนั้นพวกเราเลย….”
สิบสองรู้ว่าตนเองมีความผิดเพราะถ้าเขาไม่มัวแต่เสียดายมีดโค้งก็จะสามารถตัดเครื่องมืออาชญากรรมของวิศาลได้ก่อนที่ธัชชัยกลับมาช่วยชีวิต
เขาไม่อยากหาข้อแก้ตัวแต่ก็ยังทำไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าตนเองจะได้ตายแบบไหน เขาซื่อสัตย์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากตายแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว
“อาชัยก็อยู่หรอ? เขาบาดเจ็บรึเปล่า? พวกแกไม่ได้ทำร้ายเขาใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยินว่าธัชชัยลูกชายตนเองก็อยู่อำเภอพัดรักก็อยู่ไม่สุข
จากสีหน้าของอำเภอพัดรักก็สามารถดูออกว่าสิ่งที่ตนเองกับแปดเลือกนั้นถูกต้องแล้วถ้าเกิดเขาทำร้ายธัชชัยขึ้นมาจริงๆ ก็เท่ากับทำภารกิจสำเร็จแต่ก็จะไม่มีทางที่จะมารายงานอำเภอพัดรักได้เลย
ฆ่าวิศาลไม่ได้ก็แค่ด่าสักพักหนึ่งแต่ถ้าทำให้ธัชชัยบาดเจ็บแม้แต่โอกาสจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีแล้ว
“ผมกับแปดไม่ได้สู้กับเขาดังนั้นก็เลยออกมา!”
อำเภอพัดรักผ่อนคลายลงค่อยๆ นั่งลงบนโซฟา: “ถ้างั้นก็ดี”
“วิศาลเจ็บหนักคงก่อเรื่องไม่ได้อีกสัก!”
“เฮอะ ครั้งนี้ก็ถือว่าโชคดี!” ผ่านไปสักพักก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้: “พวกแกไม่ได้เปิดเผยตัวตนใช่มั้ย?”
“ไม่ครับ……แต่ว่า…..” สิบสองหยุดพูด
“แต่ว่าอะไร?” อำเภอพัดรักถามเสียงเข้ม
“พ่อบุญธรรมผมรู้สึกว่าจากIQของธัชชัยเขาน่าจะพอเดาออกแต่แรกแล้วว่าคุณเป็นพ่อแท้ๆ ของเขา?”
คำพูดของสิบสองมาจากเมื่อตอนที่อยู่ในโพร์ทอง ธัชชัยรู้จักพวกเขาอย่างชัดเจนแต่ไม่ได้แฉ
อำเภอพัดรักนั่งอยู่ที่เก้าอี้เหมือนกับว่ากำลังคิดเกี่ยวกับคำพูดของสิบสอง
“แต่วัจสาบอกกับฉันว่าเธอไม่ได้บอกธัชชัยแต่สมองของอาชัยนั้นดีมากไม่แปลกใจที่เขาสามารถเดาเองได้!”
ขณะที่พูดเรื่องพวกนี้อยู่อำเภอพัดรักก็ดูมีน้ำเสียงที่พึงพอใจเหมือนกับว่ามีลูกที่ฉลาดโดดเด่นขนาดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตนเองแล้ว!“พ่อบุญธรรมผมก็ยังคงคิดว่าธัชชัยน่าจะเดาด้วยตนเองไม่งั้นหลังจากที่พวกเรากลับมาครั้งนี้เขาก็น่าจะเข้ามาโจมตีพวกเราไปนานแล้วเพื่อมาแก้แค้นสิบสองพูดความคิดและมุมมองของตนเองอำเภอพัดรักพยักหน้า: “ก็จริง ครั้งนี้ที่พวกเรากลับมาเขาไม่ได้บุกมาโจมตีเหมือนแต่ก่อนคิดดูแล้วเขาคงรู้ว่าฉันพ่อคนนี้จะไม่ทำร้ายเขา”อำเภอพัดรักมีความสุขมากที่ได้เรียกตนเองว่าพอแต่ก็ไม่รู้ว่าธัชชัยจะยอมรับเขาเป็นพ่อหรือไม่เห็นได้ชัดว่าหัวข้อนี้เบี่ยงเบนความสนใจของอำเภอพัดรักได้ดีเขาไม่ตำหนิสิบสองกับแปดที่ทำงานพลาด“แต่ตอนนี้ธัชชัยคอยปกป้องวิศาลอยู่ข้างๆ ตลอดถ้าพวกเราจะลงมืออีกครั้งก็ลำบากหน่อยแถมพวกกลยุทธ์ของเราเขาก็รู้ดีแล้วเขาจะโกรธพ่อบุญธรรมมั้ย?”สิบสองไม่โง่ เขารู้ว่าอำเภอพัดรักกับธัชชัยพ่อลูกดวลกันไม่ว่าจะทำยังไงพ่อบุญธรรมของเขาก็เป็นฝ่ายบาดเจ็บ“จัดการเยอะขนาดนั้นไม่ได้! วิศาลนี้จะต้องหายไป! ลูกชายของฉันพรมมินจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับผู้ชายได้ยังไง? ถ้าหากกุลภายังอยู่เธอก็ไม่อยากเห็นลูกชายโดนดูถูกเหยียดหยาม!”อำเภอพัดรักพูดอย่างงี้ออกมาจากปากตนเองแสดงว่าเขาไม่ยอมปล่อยวิศาลไปแน่นอน!……กลางคืนอันเงียบสงบเด็กน้อยตะวันเป็นเหมือนจิงโจ้ที่กอดรัดคอหม่ามี๊ไว้แน่นคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของเธอที่จริงเด็กน้อยก็มีความขัดแย้งอยู่บ้างเพราะเขาต้องการความรักของพ่อแล้วก็ของแม่ด้วยแต่ก็กลัวพ่อจะแย่งหม่ามี๊ไปแล้วก็ยังมีความระวังอยู่หน่อยๆ เพราะเด็กน้อยต้องการความรักของพ่อแม่แต่เพียงผู้เดียวเพราะไม่ได้ปีนกำแพงมานานการเคลื่อนไหวของอาร์มก็ไม่ชำนาญเท่าตอนที่เขาเป็นทหารรับจ้าง, หลังจากเขาปลดอุปกรณ์เตือนภัยออกจนหมดเหงื่อก็ท่วมแล้วในห้องนอนใหญ่ชั้นสองแสนอบอุ่นมองเห็นแม่ลูกนอนหลับอยู่บนเตียงอาร์มก็ใจไม่แข็งพอที่จะรบกวนแต่เป้าหมายของเขาก็คือการรบกวนสองคนแม่ลูกแม้ว่ามันจะดูไร้ปรานีไปหน่อยแต่มันก็ไม่ใช่การทำร้าย และเมื่อคิดอย่างงี้อาร์มก็เริ่มสงบลงเด็กน้อยไม่เพียงแต่กอดแม่อยู่บนเตียงเท่านั้นแต่ขาสั้นๆ ก็ยังวางพาดอยู่บนเอวอีกด้วยดูแล้วทั้งโหดทั้งน่ารักอาร์มต้องการที่จะเอื้อมมือไปดึงเด็กน้อยให้ออกมาจากอ้อมกอดของวัจสาแต่นึกไม่ถึงว่าแค่ดึงเขาเบาๆ เด็กน้อยก็ยิ่งคลานเข้าไปในอ้อมกอดของวัจสามากยิ่งขึ้นของรักของหวงนี้ก็ไม่มีใครแล้วอาร์มก็ใจเย็นค่อยๆ ดึงเด็กน้อยออกมาครั้งแรกไม่ได้ก็ครั้งที่สองครั้งที่สาม…..แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาไม่ได้ปลุกให้เด็กน้อยตื่นแต่กลับปลุกวัจสาให้ตื่น“ตะวันทำอะไร? นอนดีๆ สิ…….”วัจสาบ่นพึมพำเมื่อเธอลืมตาขึ้นก็เห็นอาร์มชุดดำที่ยืนอยู่ข้างเตียงเตรียมจะเอาลูกชายในอ้อมกอดเธอไป“เห้ย!”วัจสาร้องด้วยความกลัวพร้อมกับกอดลูกชายไว้แน่น“แกเป็นใคร? คิดจะทำอะไร?”อาร์มเปลี่ยนเสียงให้ทุ้มเข้ม: “เอาเด็กส่งมาให้ฉัน!”“ไม่…..อย่าแตะลูกฉัน! ออกไป!”วัจสาถอยตัวหนีจนเกือบจะกลิ้งตกเตียงแต่เธอไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจหัวเข่าที่โดนกระแทกกอดลูกเอาไว้แน่นเด็กน้อยตื่นด้วยเสียงร้องของวัจสาพร้อมขยี้ตาถามว่า: “หม่ามี๊เป็นอะไร? โอ๊ะ! คนไม่ดีคนนี้เป็นใคร!เด็กน้อยมองอาร์มที่สวมชุดสีดำ“รีบเอาเด็กมาให้ฉัน!”เขาก้าวเข้าไปใกล้แม่ลูกที่ตื่นตระหนก สำหรับเรื่องที่ทำให้คนตกใจอาร์มรู้สึกว่ามันก็สนุกดี“ออกไป! ไอ้คนนิสัยไม่ดีอย่ามารังแกหม่ามี๊นะฉันจะสู้กับแก!”เด็กชายตัวน้อยมายืนขวางหน้าหม่ามี๊ไว้ เขาไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหม่ามี๊สุดที่รักของเขาแน่!“สู้? ตัวเล็กอย่างงี้หน่ะเหรอ? ไปกับฉันดีๆ ดีกว่า!”อาร์มเข้าไปใกล้พวกเขาอีกพร้อมทั้งกางแขนออกทั้งสองข้างเพื่อจะเอาตัวเด็กน้อยตะวันที่คอยปกป้องหม่ามี๊ตนเองอยู่ไป, ยังไงก็ยังมีเวลาเพราะธัชชัยก็ยังไม่รีบกลับมาจากโพร์ทองตนเองก็หยอกเด็กคนนี้ไปก่อนละกัน“อย่า! แกอย่ามาแตะลูกฉัน! "วัจสาอุ้มเด็กน้อยไปตรงหน้าต่างอย่างระมัดระวังหลังจากนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างสุดแรง: “ช่วยด้วย! มีคนคนจะจับเด็ก! มาเร็วๆ!”วัจสาต้องปกป้องลูกตัวเองให้ดีที่สุดถึงแม้ว่าตนเองจะเป็นยังไงก็ตามก็ต้องปกป้องเด็กน้อยเพราะนี่คือลูกสุดที่รักของเธอ!หลังจากที่เหล่าแม่บ้านคนรับใช้คนขับรถได้ยินเสียงกรีดร้องของวัจสา คนขับรถก็รีบถือไม้เบสบอลขึ้นมาแม้แต่รองเท้าก็ยังไม่ทันได้ใส่รีบพุ่งขึ้นมาอาร์มคิดไม่ถึงว่าวัจสาจะมีพลังตะโกนเพียงนี้มันคือการตะโกนร้องขอชีวิตแบบสุดพลัง. เพื่อปกป้องเด็กน้อยแล้วเธอก็มีพลังออกมานับไม่ถ้วนเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากขึ้นล่างอาร์มก็รีบกระโดดลงจากทางหน้าต่างหนีไปและตามสัญชาตญาณของวัจสาก็เบี่ยงตัวหลบหลีกทางให้อาร์มก็กระโดดลงไปทางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว“ไอ้คนเลวนั่นมันโดดหน้าต่างลงไปแล้ว! รีบตามไปเร็ว! อย่าให้หนีไปได้!”เด็กน้อยที่เห็นคุณลุงขับรถถือไม้เบสบอลมาก็รีบชี้ทางที่อาร์มหนีไปเสาหลักของบ้านอย่างธัชชัยไม่อยู่ดังนั้นคนขับรถจึงไม่ได้ไล่ตามต่อแต่กลับอยู่ถามสถานการณ์ของแม่ลูกโชคดีที่พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเพียงแค่ตกใจวัจสาที่ช็อกอยู่ก็รีบโทรหาธัชชัยทันทีนิ้วมือของเธอก็สั่นไม่หยุดเรื่องนี้เกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกวัจสาจึงไม่อยากปิดบังอะไรกับธัชชัยที่เป็นพ่อและเธอก็ไม่มีทางที่จะแบกไว้คนเดียวได้, ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายตลอดชีวิตนี้เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ก่อนที่วัจสาจะโทรหาธัชชัยเขาก็กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ที่โพร์ทองไฟที่ลุกไหม้ห้องนอนของวิศาลก็ดับลงแล้วแต่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ต่อไปได้ดังนั้นธัชชัยจึงให้วิศาลอยู่ในห้องพยาบาลไปชั่วคราวก่อนถึงแม้จะเป็นแค่ห้องพยาบาลแต่ก็หรูหราจนเทียบไม่ติดคราบเลือดบนตัววิศาลก็ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยปากแผลก็จัดการแล้ว แต่รอยแผลที่อยู่บนหน้าตั้งแต่แก้มจนถึงติ่งหูมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้“พวกแกเป็นหมู? ยังมีประโยชน์อยู่มั้ย? วิศาลเลี้ยงคนไม่มีประโยชน์อย่างงี้ได้ยังไง เจ้านายอยู่ในห้องนอนโดนลอบฆ่า พวกแกกินหญ้ารึไง?”บอดี้การ์ดของวิศาลเรียงแถวหน้ากระดานฟังคำสั่งสอนของธัชชัยอย่างละอายใจ“อย่ามาพูดว่าพวกแกเข้าไปในประตูกลนี้ไม่ได้! ของเล่นนี้มันก็เป็นของตาย! หรือว่าพวกแกก็ตาย?”เมื่อเห็นวิศาลถูกเล่นงานในรังของตนเองธัชชัยจึงไม่พอใจอย่างมากในเมืองSโชคชะตาของเขาและวิศาลเชื่อมกันแล้วก็ยังมีโสธรเพื่อนคนนั้นอีกคน พวกเขาทั้งสามคนมีความสัมพันธ์ที่คอยช่วยกันคบคิดสิ่งต่างๆวิศาลเอนนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเงียบๆ แต่เป็นความเงียบที่หายากที่จะมองดูธัชชัยโกรธมากขนาดนี้“ถ้าเจ้านายพวกแกถูกฆ่าตายแกคิดว่าพวกแกจะยังมีชีวิตอยู่มั้ย? หลักของน้ำพึ่งเรื่องเสือพึ่งป่าหล่ะ? ถ้าเขาตายพวกแกก็เป็นแค่ของที่ฝังพร้อมคนตายเท่านั้นแหละ!”ธัชชัยส่งเสียงต่ำ ก็แค่ตีพวกเขาด้วยตนเองเท่านั้นแล้วเมื่อวิศาลเห็นธัชชัยโกรธก็เกิดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากแต่ว่ามันดันขยับไปโดนยังบาดแผลตรงที่อยู่มุมปากดังนั้นมันการแสดงออกมามันจึงบิดๆ เบี้ยวๆ“ตอนนี้ลูกพี่พวกแกอยู่ที่นี่เปลี่ยนกะกับฉันตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อปกป้องเขา ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาพวกแกก็ตายไปด้วยเลย!”เมื่อเทียบกับความรุนแรงและการตอบโต้ของวิศาล, หลักการโน้มน้าวของธัชชัยนั้นนับว่ามีสติปัญญาและมีประโยชน์เมื่อธัชชัยต้องการจะตำหนิอีกครั้งจู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นวัจสาที่โทรมาก็ทำให้ธัชชัยรู้สึกไม่สบายใจเบาๆ