ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 93 อยากพูดแต่พูดไม่ออก
ทั้งสามฉากที่ถ่ายวันนี้ เธอถ่ายครั้งเดียวจบทุกฉาก ไม่ได้เป็นการรบกวนเวลาของทุกคนเลย จึงทำให้ทุกคนสามารถเลิกงานได้เร็ว ไม่มีการถ่ายทำในตอนกลางคืนอีก
เธอไม่อยากที่จะออกไปร่วมกินข้าวกับทุกคนคืนนี้ ขณะที่กำลังจะส่งเสียงทักทายซ่งหยวนออกไปนั้นเอง ทันทีที่เงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พลันสบสายตาเข้ากับดวงตาของผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ซ่งหยวน
เฉียวเหวยอีไม่รู้มาก่อนเลยว่าลี่เย่ถิงจะมา มือที่กำลังลูบมุมริมฝีปากของตนเองอยู่นั้นก็หยุดชะงักลง
ลี่เย่ถิงได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่กลับพาซูหรูเยียนมาถ่ายทำ MV ด้วยตนเอง
เมื่อคืนวานเธอระทมทุกข์อยู่ที่ด้านนอกคฤหาสน์ ลี่เย่ถิงกลับไม่แม้แต่จะโผล่หน้าออกมาให้เห็น
เธอก็ต่ำต้อยเช่นนี้แหละ รู้อยู่แก่ใจดีว่าเขามีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว ยังหน้าไม่อายไปเกาะติดอยู่กับตัวเขาและซุ่ยซุ่ย แถมยังไปเซ็นสัญญา 1 ปีกับเขาอีก
เวลาล่วงผ่านไปหลายวินาที เธอแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าของซ่งหยวน จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "ผู้กำกับคะ คืนนี้พวกคุณไปทานกันเลยนะคะ ฉันคงไม่ไปหรอกค่ะ ยังรู้สึกเจ็ทแล็กอยู่เลยค่ะ"
"คุณลี่ได้พาหรูเยียนมาถ่ายทำ MV ของเพลงหลัก ถ้าไม่อย่างงั้นก็ไปด้วยกัน…….." ซ่งหยวนครุ่นคิดอยู่สักครู่ ทำใจกล้าแล้วพูดกับเฉียวเหวยอีดังว่า
"ไม่หรอกค่ะ พวกคุณไปสนุกกันเถอะค่ะ" เฉียวเหวยอีส่งรอยยิ้มไปให้ซ่งหยวน แล้วตอบกลับด้วยเสียงที่แผ่วเบา
กล่าวจบ ก็เบือนหน้าแล้วหันไปทักทายกับลี่เย่ถิงและซูหรูเยียนที่อยู่ข้างๆ กัน "คุณลี่ พี่หรูเยียน ขอโทษด้วยนะคะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็กินข้าวด้วยกันสักมื้อสิ โรงแรมก็อยู่ไม่ห่างจากที่นี่" ซูหรูเยียนยิ้มบางๆ ให้เธอ "ใช้เวลาไม่นานหรอก ยังไงคืนนี้เธอก็ต้องกินข้าวอยู่ดีไม่ใช่เหรอ"
"ฉันไม่ทานข้าวเย็นแล้วค่ะ" เฉียวเหวยอีหันไปมองซูหรูเยียน แล้วตอบกลับเบาๆ
"สูง 160 เซนติเมตร หนัก 49 กิโลกรัม นี่ก็ถือว่าเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบแล้วนะ มีตรงไหนที่ยังต้องลดน้ำหนักอยู่อีก ถ้าอย่างนั้นก็กินไม่กี่คำก็พอแล้ว" ซูหรูเยียนไม่คิดที่จะยอมแพ้แล้วปล่อยเธอไป เอ่ยตอบเธออย่างอ่อนโยน
พูดเสร็จ ก็หันหน้าไปมองหยวนเป่าที่อยู่ด้านหลังของเฉียวเหวยอี "คงจะไม่ใช่หยวนเป่าที่สั่งห้ามไม่ให้เธอกินหรอกนะ"
ทุกคนต่างต่อบทสนทนากันหลายประโยค ลี่เย่ถิงกลับจ้องมองไปที่เฉียวเหวยอีด้วยแววตาที่ลึกล้ำ ไม่ละสายตาไปแม้แต่นิดเดียว
เฉียวเหวยอีรู้ว่าเขาจ้องมองเธออยู่ มือที่กำแก้วน้ำอยู่นั้น ก็ออกแรงบีบเคล้นมันเสียจนเรียวนิ้วมือขึ้นเป็นสีขาว
ซูหรูเยียนเย้าแหย่หยวนเป่าให้รู้สึกลำบากใจ หยวนเป่าเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปว่าอย่างไรดี
แต่ว่าเธอรู้ดีว่าเฉียวเหวยอีไม่อยากที่จะนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกันกับซูหรูเยียน ขณะที่กำลังคิดที่จะเอ่ยหาคำแก้ตัวออกไปเพื่อปฏิเสธนั้น เฉียวเหวยอีก็อ้าปากพูดขึ้นมาเสียก่อน "หยวนเป่าไม่ได้สั่งให้ฉันลดน้ำหนักหรอกค่ะ"
"แต่ว่า ในเมื่อพี่หรูเยียนก็เอ่ยปากชวนกันเสียขนาดนี้แล้ว ฉันคงจะตอบปฏิเสธไม่ได้แล้ว"
ในเมื่อซูหรูเยียนกับลี่เย่ถิงไม่รู้สึกกระอักกระอ่วน ถ้าอย่างนั้นเธอเองก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนด้วยเช่นกัน แล้วก็เป็นการไปกินข้าวไม่กี่คำก็เท่านั้นเอง
เมื่อเธอกล่าวจบ ก็หมุนตัวแล้วเดินจากไปคนเดียวเลยทันที
เธอมองหารถที่จอดอยู่บริเวณหน้าประตูมาหนึ่งคัน แล้วขึ้นไปนั่งในรถ นั่งรออยู่บนรถสักครู่ ก็เห็นว่าลี่เย่ถิงและซ่งหยวนกับคนอีกไม่กี่คนเดินออกมาจากด้านใน
ชั่วขณะก่อนที่ลี่เย่ถิงจะขึ้นรถ เขาก็เหลือบสายตาหันมามองเธอก่อนหนึ่งที
เฉียวเหวยอีที่นั่งอยู่ด้านในโดยมีกระจกทึบมืดสีดำกั้นเอาไว้อยู่ เธอจ้องมองไปที่เขาโดยปราศจากการส่งเสียงใดๆ ออกมา เธอรู้ว่าเขารู้ดีว่าเธออยู่ในนี้ เพราะว่ามีการทำลำดับที่เอาไว้อยู่
ลี่เย่ถิงเพียงแค่มองมาหนึ่งทีด้วยใบหน้าที่ยังคงไร้ซึ่งอารมณ์ แล้วจึงถอนสายตากลับคืนไป
ลี่เย่ถิงและซูหรูเยียนได้จากออกไปก่อนแล้ว จากนั้นเธอจึงค่อยลงมาจากรถคันนั้น แล้วจึงไปขึ้นรถของบริษัทคันเดียวกันกับที่พวกของซ่งหยวนนั่ง
ขณะเดินทาง ซ่งหยวนหันหน้ามามองเธออยู่หลายครั้ง ราวกับว่ามีอะไรที่อยากจะเอ่ยออกมาแต่ก็ชะงักไปและไม่ได้พูดอะไร
นอกจากนี้แล้วยังมีคนอื่นนั่งอยู่ด้วย ซ่งหยวนจึงไม่ควรที่จะเอ่ยอะไรออกมา สุดท้ายแล้วลี่เย่ถิงกับเฉียวเหวยอีมีความสัมพันธ์กันอย่างไรกันแน่ แล้วเฉียวเหวยอีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับถังอี้อีก เขาไม่รู้อะไรเลย
เพื่อเอาใจลี่เย่ถิง ซ่งหยวนจึงได้จองห้องที่หรูหรา ห้องรับประทานอาหารนั้นมีห้องเล่นไพ่นกกระจอก ห้องคาราโอเกะ และห้องสำหรับพักผ่อนอยู่มากมายหลายห้อง ตอนที่เฉียวเหวยอีเข้าไปในห้องนั้น ก็ไม่เห็นตัวของลี่เย่ถิงอยู่เลย จะเห็นก็เพียงแต่โจวหรูและคนอีกไม่กี่คนกำลังนั่งเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ด้วยกันกับซูหรูเยียน