ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 92 ไม่ยอมให้เธอต้องรู้สึกน้อยใจอีก
เดิมทีเฉียวเหวยอีก็ไม่อยากที่จะสร้างปัญหาเท่าไหร่นัก แต่ว่าคนอื่นกลับล้วนแต่หาเรื่องเธอ เธอจึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะไม่ตอบโต้ รวมไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่แพร่ไปทั่วทั้งบริษัทเกี่ยวกับเธอและถังอี้ และยังมีเรื่องนินทาที่กล่าวร้ายต่อตัวเธออีก เธอรู้ดี ว่าทั้งหมดนั้นเป็นโจวหรูเองที่คอยสร้างปัญหา
การที่ไม่ได้แสดงท่าทีออกมานั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่รู้เรื่อง
ในที่ห่างออกไปเล็กน้อย โจวหรูไม่รู้เลยว่าเฉียวเหวยอีกำลังพูดอะไรอยู่ เธอเห็นหยวนเป่าที่อยู่ห่างออกไปอีกฟากของฉากถ่ายทำกำลังมองมาที่เธอ แววตาดูเหมือนว่ากำลังพึงพอใจอะไรอยู่
เป็นลูกพี่ลูกน้องของถังอี้แล้วทำไมกัน ไม่ได้เป็นน้องสาวแท้ๆ เสียหน่อย และเธอก็มักจะต้องคอยดูแลเฉียวเหวยอี
นอกจากนี้ เธอเป็นพี่สาวน้องสาวกับซูหรูเยียนมานานหลายปีแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ ทุกคนต่างก็พากันให้เกียรติลี่เย่ถิงกันทั้งนั้น เลยต้องไว้หน้าเธอเอาไว้บ้างด้วย
"หรูเยียน ตอนบ่ายเฉียวเหวยอีต้องถ่ายทำกับพระรองแล้วนะ จะมาดูด้วยไหม" เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความเสียงไปให้ซูหรูเยียน
……….
เฉียวเหวยอีนั่งอยู่บนเตียงให้ห้อง กำลังพูดต่อบทละครอยู่กับฉินเอินไท่ที่เป็นพระรอง นักแสดงในกองคนอื่นๆ เองก็มีความสามารถไม่เลวเลย ต่อบทกันไม่กี่ทีก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
"ใช่ ใช่แล้ว อารมณ์เจ็บปวดแบบนี้แหละ ต้องไปให้ถึงอารมณ์แบบนี้!" ซ่งหยวนพูดแล้วหยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ฉินเอินไท่มองดูใบหน้าของเฉียวเหวยอีที่แดงจนขึ้นเป็นรูปนิ้วทั้งห้าประทับอยู่ ก็รู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อย ทุกคนต่างก็ทำการแสดงมานานหลายปี แทบที่จะไม่เคยพบเห็นการตบที่โหดร้ายและรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เฉียวเหวยอีมีรูปร่างหน้าตาราวกับเทพยดา ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนมีความรู้สึกที่ว่าตนเองไม่ได้รับความยุติธรรมเอาเสียเลย ไม่มีใครอาจทานทนเมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของเธอ เมื่อพบเห็นต่างก็ต้องหวั่นไหว ก่อให้เกิดความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปสวมกอดปลอบโยนอย่างมิอาจหักห้ามใจเอาไว้ได้
"งั้น พวกเรามาเริ่มถ่ายกันเถอะ พึ่งถ่ายฉากที่ถูกตบมา จะได้รีบไปทายาบนหน้าของเสี่ยวเฉียวเร็วๆ"
หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเปิดอุปกรณ์เพื่อดำเนินการถ่ายทำ ทันใดนั้นที่ด้านนอกของประตูก็พลันมีคนจำนวนหนึ่งบุกเข้ามา
ซ่งหยวนหันไปมองดู ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดขึ้นว่าให้เงียบเสียงลงนั้น ก็พลันได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ที่บุกรุกนั้นเป็นใคร สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที ลุกขึ้นยืนแล้วสาวเท้าเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของลี่เย่ถิงก่อนจะเอ่ยปากทักทายอย่างเคารพนอบน้อม "ท่านมาแล้วหรือครับ คุณลี่"
ลี่เย่ถิงหันไปมือส่งสัญญาณว่าให้เงียบลงเสีย เขาเดินไปอยู่ที่ตรงหน้าของกล้องด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ หลุบตาลงมองดูไปที่หน้าจอซึ่งกำลังจับภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง
"เจ็บไหม" ฉินเอินไท่ยื่นมือออกไป นิ้วมือสัมผัสเข้ากับใบหน้าของเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีนั้นรู้สึกเจ็บจริงๆ จากการตบครั้งนั้นทำให้ในปากนั้นมีเลือดไหลซึมออกมา และที่บริเวณแก้มเองก็บวมออกจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ฉินเอินไท่สัมผัสลงไปเบาๆ เธอก็เจ็บเสียจนเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ในทันที น้ำตาร่วงเผลาะลงมาในฉับพลัน
"อย่างร้องไห้เลย" ฉินเอินไท่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเอ่ยปลอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา "ฉันก็ปวดใจไปด้วย"
เฉียวเหวยอีช้อนตาขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่น่าสงสาร
ทางฝั่งนั้นกำลังแสดงกันอย่างสมบทบาทเข้าถึงอารมณ์ ส่วนทางฝั่งหลังกล้องถ่ายทำนั้น ซ่งหยวนกำลังท้องไส้ปั่นป่วนไม่สามารถควบคุมขาของตัวเองได้ ทำได้เพียงกระแอมไอแห้งๆ ออกมาเบาๆ หน้าของเฉียวเหวยอีถูกตบจนเป็นเสียอย่างนั้น ไม่รู้ได้เลยว่าลี่เย่ถิงจะมองเห็นหรือเปล่า
เขาเหลือบตามองไปที่ลี่เย่ถิงอย่างระมัดระวัง ปรากฏว่าสีหน้าของลี่เย่ถิงนั้นดูผิดแปลกไปเล็กน้อย
"ต่อไปนี้ ฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องเจอกับอะไรแบบนี้อีกแล้ว" ภายในห้อง ฉินเอินไท่ที่รู้สึกเจ็บปวดหัวใจก็รั้งเฉียวเหวยอีเข้าสู้อ้อมกอดของตนเอง
ทั้งสองคนพูดต่อบทกันอีกสองสามประโยค ฉินเอินไท่ก็ก้มหน้าลง แล้วประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีรู้ดีว่ากล้องถูกถ่ายจากทิศทางไหน จึงขยับศีรษะเล็กน้อย ริมฝีปากของฉินเอินไท่จึงไม่ได้ประทับลงบนริมฝีปากของเธอลงไปตรงๆ
ฉินเอินไท่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงแสร้งทำท่าประกบจูบต่อไปทั้งอย่างนั้น
แต่ว่าภาพที่ปรากฏออกมานั้น ทั้งสองคนกลับดูอ่อนโยนแล้วแนบแน่นกันมาก
"คัท!" ซ่งหยวนส่งเสียงลงไปในเครื่องวิทยุสื่อสาร
เฉียวเหวยอีผละออกมาจากฉินเอินไท่อย่างช้าๆ ในทันที แล้วจึงคืนสภาพอารมณ์ให้สีหน้ากลับมาเป็นดั่งเช่นเคย เลิกผ้าห่มออกแล้วลงมาจากเตียง
"เยี่ยมมาก!" หยวนเป่ายื่นแก้วน้ำไปให้เธอ
เฉียวเหวยอีเพียงแต่ยิ้มออกมาบางๆ แล้วดื่มน้ำลงไปหนึ่งอึก พลางเอามือลูบมุมริมฝีปากของตนที่ถูกฉินเอินไท่ประกบจูบ แล้วจึงเดินออกมาจากห้องที่ใช้ถ่ายทำ