ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 16 ย้ายออกจากตระกูลเฉียว
ผู้อาวุโสท่านไอสองสามที แล้วตอบกลับเสียงแหบว่า“เจิ้งกั๋ว นายเคยคิดไหม ว่าเธอก็เป็นลูกสาวนายเหมือนกัน……ตอนนั้นนายก็รู้ว่าอันถงเป็นคนยังไง นายยังปล่อยให้เธอพาเหวยอีไปที่ตระกูลลี่ เรื่องกลายเป็นแบบนี้ เป็นความผิดของนายที่เป็นพ่อ ไม่ใช่ความผิดของเหวยอี”
“ความผิดของฉัน? ตอนเด็กเหวยอีรังแกอีเหรินยังไงคุณไม่เห็นหรอ? ฉันเก็บเธอไว้มันก็ไม่ยุติธรรมกับอีเหรินและชิงหรู!”
ผู้อาวุโสก็ไอขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับว่าในคอมีอะไรติดอยู่
เฉียวเหวยอีผลักประตูเปิดเข้าไปอย่างแรง ประตูกระแทกกับผนังทำให้เกิดเสียงดังขึ้น คนที่อยู่ข้างในก็ต่างตกใจกับความกระทันหันนี้
เฉียวเจิ้งกั๋วลุกขึ้น จากที่แต่เดิมจะด่า พอเห็นว่าเป็นเฉียวเหวยอีที่เดินเข้ามาหน้านิ่ง คำพูดที่ติดอยู่ที่ปากก็ถูกกลืนลงไป
เฉียวเหวยอีทำเหมือนว่าเขาเป็นอากาศ เดินไปข้างเตียงของผู้อาวุโสเฉียว นำถุงยาที่อยู่ในมือวางไว้ข้างหัวเตียง
“ยานี้ฉันเพิ่งได้มาจากเพื่อน ใช้ร่วมกับยาที่ฉันนำมาจากต่างประเทศเมื่อวาน ประสิทธิภาพจะดีกว่า เดี๋ยวคุณปู่ลองกินดูนะคะ”เฉียวเหวยอีพูดเสียงเบา เหลือบมองผ้าที่ผู้อาวุโสเฉียวกำไว้ในมือ มันเป็นสีแดงสดบาดตา
“เธอมีเพื่อนในประเทศด้วยหรอ?”เฉียวเจิ้งกั๋วอดไม่ได้ที่จะถาม
“เกี่ยวอะไรกับคุณ?”เฉียวเหวยอีหันไปมองเฉียวเจิ้งกั๋วด้วยสายตาเย็นชา
ผู้อาวุโสท่านป่วยขนาดนี้ ไอขนาดนี้ เมื่อคืนก็เพิ่งอาเจียนเป็นเลือด ตอนนี้ยังไอเป็นเลือดอีก เฉียวเจิ้งกั๋วยังจะพูดจาแบบนี้ต่อหน้าท่านได้ ช่างเป็นลูกที่กตัญญูจริง!
“เฉียวเหวยอีเธอ……”เฉียวเจิ้งกั๋วขมวดคิ้วจนเป็นปม
“อีกอย่าง เมื่อคืนเซียวเซิ่งดูถูกตระกูลเฉียวยังไง คุณเฉียวลองไปถามลุงหวังดูนะ คุณคิดว่าเซียวเซิ่งเป็นคนดี ก็ได้ งั้นก็ให้เฉียวอีเหรินแต่งไป หรือไม่คุณก็แต่งไปเอง”เฉียวเหวยอีไม่รอเขาพูดจบ ก็พูดอย่างยิ้มเย็น
เฉียวเจิ้งกั๋วโกรธจนหน้าเปลี่ยนรูป“เธอพูดอะไรของเธอ!”
เฉียวเหวยอีตอบกลับเฉยๆ“ขอโทษค่ะ พอดีฉันไม่ชอบเก็บของเหลือกินจากถังขยะ”
พูดจบ ก็หันมาพูดกับผู้อาวุโสเฉียวว่า“คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พอถึงเวลาแล้ว ฉันจะพาผู้ชายที่เหมาะสมกลับมาหาคุณ คุณพักรักษาตัวไปเถอะ อย่าเอาแต่กังวลเรื่องของฉันเลย”
ผู้อาวุโสเฉียวมองเฉียวเหวยอี อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ พูดว่า“เป็นความผิดของฉัน ที่ไม่ได้สืบลักษณะนิสัยของอีกฝ่ายให้แน่นอน”
หลักจากเกิดเรื่องของตระกูลลี่ อนาคตของเฉียวเหวยอีก็กลายเป็นไข้ใจของผู้อาวุโสท่าน เมื่อสองเดือนก่อนเขาตรวจเจอมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ก็กังวลมากกว่าเดิม ถึงได้รีบให้เฉียวเหวยอีกลับมา รีบให้เฉียวเหวยอีหาคู่ครอง
เขารู้ว่าหลังจากที่ตัวเองจากไปแล้ว เฉียวเหวยอีก็จะเสียที่พึ่งสุดท้าย ถึงได้ทำสิ่งที่ผิดไป
“ไม่เป็นไรค่ะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่ใช่ความผิดของคุณ”เฉียวเหวยอียิ้มให้กับผู้อาวุโส หันไปเทน้ำอุ่นวางไว้ข้างๆให้เขาแก้วหนึ่ง เปิดขวดยา ป้อนให้ผู้อาวุโสกินกับมือ
ทำอย่างกับว่าเฉียวเจิ้งกั๋วไม่มีตัวตน
ผู้อาวุโสเฉียวกินไปพักหนึ่ง เพียงไม่กี่นาที อาการไอก็ค่อยๆหายไป
เฉียวเหวยอีเห็นแบบนั้น ก็โล่งใจ
ยาตัวนี้ กว่าเธอจะเอามาได้มันยากลำบากมาก
ผู้อาวุโสมีเวลาไม่มากแล้ว เฉียวเหวยอีหวังว่าในช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ อยากให้อยู่แบบเจ็บปวดน้อยที่สุด
เธอเก็บยาแทนผู้อาวุโส จากนั้นหันกลับไปมองเฉียวเจิ้งกั๋วที่อยู่ข้างๆ พูดเสียงเย็นว่า“ในเมื่อการที่ฉันอยู่ที่ตระกูลเฉียวทำให้พวกคุณพ่อแม่ลูกไม่สบายใจ งั้นฉันย้ายออกไปก็ได้ คุณวางใจเถอะ คุณไม่ชอบฉัน เห็นแล้วรู้สึกแทงตา ฉันเองก็ไม่ได้ชอบที่จะเห็นพวกคุณเหมือนกัน”
“เหวยอี แต่เธอไม่มีธุระกิจหรือแหล่งเงิน เธออยู่ข้างนอกคนเดียว……”ผู้อาวุโสเฉียวได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา
“ที่ฉันเรียนสถาบันภาพยนต์หลายปีมานี้ ก็ได้รับงานเสดงเป็นระยะๆ แม้จะไม่ใช่บทบาทที่สำคัญอะไรมาก แต่ก็พอมีเงินบ้าง”เฉียวเหวยอีพูดปลอบเสียงอ่อนว่า“คุณวางใจเถอะ ฉันมีสะสมไว้อยู่”
เฉียวเหวยอีคุยกับผู้อาวุโสเสร็จ ก็รีบกลับห้องตัวเอง
แต่เดิมที่เขาอยู่ที่นี่ก็ไม่สะดวกจะทำอะไรอยู่แล้ว ง่ายต่อการที่พวกเขาจะเห็น วันนี้ถือโอกาสนี้ออกจากที่นี่ ให้ทุกคนรู้สึกดีใจกันหน่อย
สัมภาระเธอไม่เยอะ ตอนเก็บก็สะดวก ขณะที่กำลังเก็บเสื้ออยู่ ก็มีเบอร์โทรเข้ามา