ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 15 แต่งออกไปดีแล้ว
บังเอิญเลย เมื่อกี้พวกเขาไปดักรอจูเซวี่ยที่นี่สุ่ยหันอยู่พักหนึ่ง ก็ไม่เห็นจูเซวี่ยจะมา อีกเดี๋ยวจะไปกินข้าวเที่ยงที่ตระกูลเฉียว ดังนั้นลี่เย่ถิงถึงได้สั่งมาเป็นพิเศษว่าให้มาซื้อหลงจิ่งซูสองกล่อง
“คุณชาย คุณจะ……”
ในรถ สายตาของลี่เย่ถิงจ้องไปที่เฉียวเหวยอี ไม่พูดอะไร
ถุงกระดาษในมือเฉียวเหวยอีถูกปัดออก เงยหน้าขึ้น มองตาขวางไปที่เฉียวอีเหริน เฉียวอีเหรินก้มหน้ากดโทรศัพท์มือถือแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“เก็บขึ้นมา”เฉียวเหวยอีพูดเสียงต่ำสีหน้าไม่แสดงอาการอะไร
เฉียวอีเหรินเหยียบขนมฝูหรงอีกครั้ง แล้วเตะมันออกไป
“บอกให้เธอเก็บมันขึ้นมา ไม่ใช่ให้เหยียบ”เฉียวเหวยอียังคงพูดเสียงต่ำ
“เธอเรียกฉันหรอ?”เฉียวอีเหรินทำเหมือนว่าเพิ่งได้ยิน ชี้เข้าหาตัวเอง แล้วถามกลับเสียงเบา
“ฉันเรียกหมา”เฉียวเหวยอีตอบกลับนิ่งๆ
“เธอ……”เฉียวอีเหรินอึ้งไปพักนึง ก็โมโหขึ้นมาทันที
“มีแต่คนที่คิดว่าตัวเองเป็นหมาเท่านั้นที่จะโกรธ”เฉียวเหวยอีพูดแบบแสยะยิ้มให้เธอเบาๆ
พนักงานที่อยู่ข้างๆเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน ก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทำลายสถานการณ์ว่า“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันถือไม่ระวังเอง เดี๋ยวไปห่อให้ใหม่นะคะ!”
ที่จริงเฉียวเหวยอีก็ไม่ได้อยากจะสนใจเฉียวอีเหรินอยู่แล้ว ก็พยักหน้าให้กับพนักงานว่า“โอเค ขอบคุณนะ”
เฉียวอีเหรินที่อยู่ข้างๆเห็นว่าเธอมีท่าทีไม่สนใจ ก็ยิ่งโมโห ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า“ฉันอยากจะรู้ว่าใครจะกล้าไปห่อให้เธอ!”
พนักงานยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับตัวเลย
“จะไปรังแกพนักงานเขาทำไม?”เฉียวเหวยอีหันมามองเฉียวอีเหริน “ไม่ต้องให้พวกเขาห่อก็ได้ แต่เธอช่วยเก็บขนมฝูหรงขึ้นมาหน่อย ไม่งั้น……”
“ไม่งั้นจะทำไม?”เฉียวอีเหรินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ไม่งั้น วันนี้เธอก็ไม่ต้องกินข้าวละ”ในขณะที่เฉียวเหวยอีกำลังพูด ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า กด110 “เราไปคุยกันที่โรงพัก ยังไงซะฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นเธอ เฉียวอีเหรินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง”
ลูกค้าที่อยู่ข้างๆเริ่มซุบซิบกัน บางคนก็จำเฉียวอีเหรินได้แล้ว
เฉียวอีเหรินมองไปรอบๆ เห็นนิ้วของเฉียวเหวยอีกำลังจะกดโทรออก ก็คว้ามือเธอไว้ทันที พูดกับพนักงานว่า“ตาบอดหรือไง? ยังไม่รีบไปห่อกล่องใหม่มาอีก!”
ไม่กี่นาทีต่อมา เฉียวเหวยอีถือถุงขนมฝูหรงที่ถูกห่อใหม่อย่างพอใจ ไม่ได้สนใจหน้าที่บูดบึ้งของเฉียวอีเหริน แล้วขึ้นรถแท็กซี่ที่อยู่ข้างทาง
ลี่เย่ถิงจ้องจนเธอขึ้นรถ อารมณ์ภายใต้ดวงตาคู่นั้นสับสนวุ่นวาย
เฉียวเหวยอี เหมือนจะแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
……
เฉียวเหวยอีเพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์เฉียว ข้อความจากคิงก็ผุดขึ้นมาบนมือถือ“อีกฝ่ายเสนอราคาขึ้นมาเป็นยี่สิบเท่าแล้ว จะรับไหม?”
เฉียวเหวยอีตอบเพียงสองคำสั้นๆ“ไม่รับ”
ขณะที่เก็บมือถือ เธอก็ได้ยินคนรับใช้คุยกันในสวน ว่าเมื่อคืนอาการของผู้อาวุโสท่านแย่ลงอีกแล้ว ไอเลือดออกมาเยอะมาก
มะเร็งปอดระยะสุดท้าย ไม่มียารักษา ทนได้หนึ่งวันก็คือหนึ่งวัน
เธอไม่ได้พูดอะไร รีบเดินผ่านประตูหลังไปยังอาคารหลังเล็กที่อยู่ข้างหลัง
กำลังจะเคาะประตู แต่ได้ยินเสียงของเฉียวเจิ้งกั๋วจากข้างใน“……คุณก็รู้ ตระกูลเซียวถือว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมากๆในเมืองเจียงเฉิง ถ้าหากพูดถึงฐานะของตระกูลเฉียวเรา ไม่ว่าจะทำยังไงเหวยอีก็ไม่มีทางเอื้อมถึง!
จะพูดให้แย่หน่อย ตอนนั้นที่เธอถูกไล่ออกจากตระกูลลี่ ก็นับเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ตระกูลใหญ่ๆในเมืองเจียงเฉิงมีใครไม่รู้บ้าง? แล้วเธอยังไปตีคุณชายของตระกูลเซียวจนเข้าโรงพยาบาลไปอีก!ดีหน่อยที่คนอื่นเขาเห็นถึงความสัมพันธ์ของอีเหรินกับตระกูลลี่ แค่เหวยอีแต่งไปทางนั้น เรื่องนี้ก็จะดีขึ้น“
มือของเฉียวเหวยอีที่เอื้อมไปได้ครึ่งหนึ่ง หยุดอยู่กลางอากาศ