ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 14 โลกนี้มันกลม
“คุณชาย จูเซวี่ยได้ทำรายการแลกเปลี่ยนที่ตู้นั้น”อู๋โยวที่อยู่ข้างๆชี้ไปที่เครื่องชำระเงินที่อยู่ไม่ไกล ขยับเข้าไปกระซิบกับลี่เย่ถิง
ลี่เย่ถิงหันไปมองเครื่องนั้น แล้วกลับไปมองยังที่ที่เฉียวเหวยอีอยู่ เธอได้หายไปแล้ว
“กำลังมองอะไรอยู่?”ผู้ชายสองคนเดินมานั่งลงข้างลี่เย่ถิงแล้วถามขึ้น
“ไม่มีอะไร”สักพัก ลี่เย่ถิงก็ละสายตา ตอบกลับเฉยๆ
เขาคิดมากไปหรอ
เฉียวเหวยอีจะมาอยู่ที่สถานที่แบบนี้ได้ยังไง?นี่สุ่ยหันเป็นที่ที่ต้องใช้จ่ายราคาสูงมาก ถึงเธออยากเข้ามาก็มาไม่ได้
……
เฉียวเหวยอีที่ออกมาจากประตูอีกบาน ก็หันกลับไปมองข้างหลังหลายครั้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครตามมา ถึงได้โล่งใจ จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าในที่ที่ไม่มีคน
ข้างนอกเริ่มสว่างแล้ว เธอเดินไปแถวย่านที่คึกคัก แล้วโบกแท็กซี่
“ไปไหนครับ?”คนขับแท็กซี่ถาม
เฉียวเหวยอีมองไปยังถุงยาของผู้อาวุโสเฉียวในมือ แล้วพูดว่า“หลิงหลงเก๋อ”
หลิงหลงเก๋อเป็นโรงน้ำชายามเช้าที่มีชื่อเสียงว่าเก่าแก่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิง ผู้อาวุโสท่านชอบกินขนมฝูหรงของที่นี่มาก เป็นทางผ่านเธอพอดี แวะซื้อไปให้หน่อยแล้วกัน
ธุรกิจของหลิงหลงเก๋อไปได้ดีมาก เริ่มตั้งแต่ตีสี่ตีห้า ไปจนถึงเที่ยงๆถึงจะเริ่มว่าง
ตอนที่เฉียวเหวยอีไปถึง ที่นั่งก็เต็มหมดแล้ว
“กรุณารอข้างนอกสักครู่ ขนมฝูหรงใกล้จะห่อเสร็จแล้ว”พนักงานพูดกับเฉียวเหวยอีน้ำเสียงแบบขออภัย
เฉียวเหวยอีก็ว่างอยู่แล้ว จึงหันหลังไปหาที่นั่งแถวประตู โดยนั่งเว้นห่างจากลูกค้าคนอื่นๆที่รอโต๊ะเหมือนกัน
วันนี้ฝนก็ยังคงตกอยู่ ละอองฝนที่ตกลงมาตรงหลังคาลอยตามกระแสลมมาโดนเฉียวเหวยอี
รถคันหนึ่งแล่นมาจอดอยู่หน้าประตูหลิงหลงเก๋อ ผู้หญิงแต่งตัวสวยถือร่มโปร่งใสเดินลงมาจากรถ ขมวดคิ้ว อย่างกับว่ารู้สึกไม่ชอบที่ฝนตก
“คุณชายบอกว่าเที่ยงวันนี้จะมากินข้าวที่บ้าน เขาชอบกินหลงจิ่งซูของที่นี่มาก จะต้องซื้อไปเตรียมให้เขาสักหน่อย”พ่อบ้านตระกูลเฉียวที่อยู่ข้างๆพูดเสียงเบากับเฉียวอีเหรินที่ทำหน้าบึ้งอยู่
“คุณซื้อเองกับมือ มันต้องมีความหมายอยู่แล้ว”
เฉียวอีเหรินทำหน้านิ่ง แล้วพยักหน้าไป ช่วงที่เงยหน้าขึ้น ก็สบตาเข้ากับเฉียวเหวยอีที่นั่งอยู่ตรงมุมพอดี
ทั้งสองจ้องกันอยู่พักนึง เฉียวอีเหรินก็แสยะยิ้มขึ้นที่มุมปาก แกล้งทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็น ตรงดิ่งไปหาผู้จัดการที่อยู่หน้าประตู แล้วพูดว่า“ชั้นบนมีที่ว่างใช่ไหม?”
“มีค่ะมีค่ะ คุณหนูเฉียวรอสักครู่นะคะ”ผู้จัดการตอบกลับแบบพยักหน้าไปด้วย
อีกด้านพนักงานที่ห่อขนมฝูหรงของเฉียวเหวยอีเสร็จแล้ว พูดกับเฉียวเหวยอีว่า“ขนมฝูหรงได้แล้วค่ะ มาคิดเงินได้เลยค่ะ!”
เฉียวเหวยอีลุกขึ้น เดินไปที่เคาน์เตอร์ทางเข้า หยิบแบงค์ร้อยหนึ่งใบออกมาจากกระเป๋า แล้วหยิบแบงค์ห้าสิบออกมาอีกสองใบ ยื่นให้แคชเชียร์
“ยังขาดอีกยี่สิบค่ะ”พนักงานพูด
เฉียวอีเหรินที่อยู่ข้างๆก็มอง อดไม่ได้ขำขึ้นมานิดๆ
ขนาดแบงค์ร้อยสองใบยังไม่มีเลย น่าสงสารจริงๆ
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆมีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย กำลังจะไปช่วยเฉียวเหวยอีจ่าย เฉียวอีเหรินก็ดึงเขาไว้
เฉียวเหวยอีไม่ได้สนใจเธอ ควักแบงค์สิบหยวนกับเศษเหรียญอีกหนึ่งกำออกจากกระเป๋า วางไว้ตรงเคาน์เตอร์
เธอยังไม่ทันได้ทำบัตรภายในประเทศ เงินพวกนี้ก็เป็นเงินที่คิงยัดไว้ในกระเป๋าเธอก่อนที่จะกลับจากประเทศb เธอใช้มันไปบ้างแล้ว เหลือแค่เศษเงินเท่านี้
พนักงานนับเงินจบครบ ก็ส่งถุงขนมฝูหรงให้เฉียวเหวยอี
ขณะที่เฉียวเหวยอีกำลังจะยื่นมือไปรับ เฉียวอีเหรินก็ปัดถุง ทำให้ถุงตกลงที่พื้น
ไม่ไกลจากนี้ อู๋โยวที่กำลังจะลงรถไปซื้อหลงจิ่งซู เพิ่งลงรถ ก็เจอเข้ากับเฉียวเหวยอีและเฉียวอีเหรินที่ยืนอยู่หน้าประตู
เขาอึ้งไปพักหนึ่ง ก็รีบหันกลับไปมองลี่เย่ถิงที่อยู่ในรถ