ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 206 เบาะแสการหายตัวของจิ้งอ๋อง (๑)
หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นนางก็แค่ยิ้มมุมปาก แต่มิได้กล่าวอะไร
ดูเหมือนว่าใจของสายลับของเสด็จอาคนนี้ ยังไม่อยู่เคียงข้างตน หยุนชางหันหน้าไปมองเฉี่ยนอิน "แจ้งทุกคนในเมืองหลวง จับตาดูการเคลื่อนไหวภายในเมืองให้ดี เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงครู่เดียว และพวกเขาพาคนมาด้วย แน่นอนว่าไปได้ไกลนักหรอก
เฉี่ยนอินพยักหน้า แววตาของนางจับจ้องไปที่จิ้งอิ่ง แล้วยิ้มออกมาอย่างมีเล่ศนัย นางหยิบขลุ่ยไม้ไผ่ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือออกมาจากแขนเสื้อ แล้วเป่ามันอย่างแรง แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้น จิ้งอิ่งตะลึงแล้วก้มหน้าลง นางเข้าใจแล้ว หยุนชางสั่งให้เฉี่ยนอินไปส่งข่าวต่อหน้าตนก็เพื่อที่จะบอกกับนางว่า หากว่าอยากจะติดต่อนาง แม้ว่ามิได้อยู่ใกล้กัน ก็สามารถติดต่อได้อย่างกะทันหัน พวกเขาเป็นสายลับของท่านอ๋องทั้งหมด…
ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ตรวจสอบอย่างดี แต่กลับไม่พบสิ่งใด ไม่พบจิ้งอ๋องและก็ไม่พบเส้นทางลับเช่นกัน
หยุนชางนั่งอยู่ตรงหน้าหน้าต่าง ฝนก็เริ่มตกอีกครั้ง มีเสียงหัวเราะของสาวๆ ดังมาจากห้องโถงด้านหน้า หยุนชางก้มหน้าลงมองดูขนลูกธนูในมือ ซึ่งเป็นของที่นางหยิบมาจากหอชิงซือโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
หยุนชางเฝ้าดูอยู่นาน แล้วจึงนำขนลูกศรนั้นให้เฉี่ยนอินไปและพูดด้วยเสียงเบาๆ ว่า "สั่งให้คนไปตรวจสอบร้านทำเหล็กในเมืองหลวง และสอบถามว่าช่วงที่ผ่านมาใครได้ใช้เหล็กสั่งทำลูกธนูกลวงที่ได้รับการอนุมัตินี้ไป"
เฉี่ยนอินรีบตอบรับ และถอยลงไป
หยาดฝนนอกหน้าต่างตกลงบนใบไผ่ ทำให้เกิดเสียงที่ไพเราะ หยุนชางถอนหายใจ นางทราบดีว่าจิ้งอ๋องคงไม่เสี่ยงที่จะเอาตัวเองไปปรากฏตัวในที่ที่อันตรายเช่นนั้น อีกทั้งคนเจ้าเล่ห์อย่างจิ้งอ๋อง จะถูกลักพาตัวไปง่ายๆ ได้อย่างไรหรือ?
เพียงแต่ว่า แม้ว่าในใจของนางจะบอกกับตัวเองว่าจิ้งอ๋องไม่กระไรอย่างแน่นอน แต่นางก็ยังไม่สามารถต้านทานคลื่นแห่งความกังวลนั้นได้
ข้างนอกมีเสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง และมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาหาตน หยุนชางเพ่งมองไปทางประตูและเห็นฉินยีเดินเข้ามาพร้อมกับถือชามน้ำผึ้งในมือ
หยุนชางตกตะลึงและจึงนึกขึ้นได้ว่า หรืออาจเป็นเพราะวันนี้ตนนั้นกังวลมากจนเกินไป ตนมีเลือดประจำเดือนเป็นครั้งแรก นางไม่ทราบว่าควรทำเช่นไร ดังนั้นจึงรับน้ำผึ้งนั้นมาและเสวยลงไป
ฉินยีพูดพึมพำ " เมื่อสักครู่นั้นองค์หญิงทรงตากฝนมา ฉะนั้นจึงต้องพักผ่อนให้ดีเพคะ เมื่อสตรีอยู่ในช่วงประจำเดือนนั้นง่ายต่อการเกิดภาวะมดลูกเย็นเป็นอย่างมากเพคะ ฉะนั้นจึงต้องระวังเป็นอย่างมากเพคะ"
หยุนชางพยักหน้าจากนั้นก็ได้ยินฉินยีกล่าวว่า " เมื่อสักครู่นั้นขันทีเจิ้งมารายงานผลการแข่งของงานชมบุปผชาติ และอันดับหนึ่งคือดอกจื่อหลงว่อเสวี่ย(ดอกเบญจมาศ)ที่ซุนหย่าเหนียงนำมา และอันดับสองคือเว่ยจื่อ(ดอกโบตั๋น)ของว่านฉินเอ๋อร์ที่มาจากฉีโจว อันดับที่สามเป็นชิงหลงว่อโม่ฉือ(ดอกโบตั๋น)ของเฉียนหยุนตี๋ที่มาจากหยุนโจว คุณหญิงของตระกูลเวินมิได้แม้แต่สามอันดับแรกเลยเพคะ"
"เช่นนั้นหรือ?" หยุนชางยิ้มมุมปาก ซุนหย่าเหนียงคนนี้คบเป็นมิตรได้ ในเมื่อนางได้ชัยชนะไป แสดงว่านางคงได้อภิเษกสมรสในตระกูลชั้นสูงอย่างแน่นอน บางทีนางอาจจะมีประโยชน์ต่อข้าในภายหลังก็เป็นได้
"องค์หญิงเจ้าคะ" เงาร่างสีดำมืดปรากฏตัวในห้อง ฉินยีตะลึงแล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าว และมองดูหญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นมานี้ด้วยความสงสัย
"เมื่อสักครู่นั้น หลังจากที่เกิดเรื่องกับท่านอ๋องไปเพียงครู่เดียว องค์ชายสามของแคว้นเย้หลางก็กล่าวว่าไม่ค่อยสบายตัวนัก จากนั้นก็ขอตัวลาออกไปเจ้าค่ะ"
หยุนชางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หญิงชุดดำ นางเลิกคิ้วขึ้น "ทำไมหรือ? เจ้าคิดว่า ชางเจียชิงซูเป็นคนที่จับตัวนายท่านของเจ้าไปหรือ?"
จิ้งอิ่งเงียบลงเมื่อได้ยินเช่นนี้ ผ่านไปอยู่นานจึงกล่าวว่า " ชางเจียชิงซูรู้สึกว่านายท่านเป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่สามารถโจมตีแคว้นหนิงได้มาโดยตลอด เป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้แคว้นเย้หลาง จึงมิได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท ฉะนั้นเขาจึงมีความเกลียดแค้นต่อนายท่านมาโดยตลอดเจ้าค่ะ"
หยุนชางถอนหายใจ นางส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า " เจ้าคิดว่า ตัวตนของชางเจียชิงซูเป็นอย่างไรหรือ?"
จิ้งอิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "อารมณ์ร้อนและฉุนเฉียว แน่วแน่ในการตัดสินใจ ไม่ห่วงหน้าพะวงหลังเจ้าค่ะ"
หยุนชางพยักหน้าแล้วถามว่า " แล้วเจ้าคิดว่าการวางกลอุบายของวันนี้เป็นอย่างไร?"
จิ้งอิ่งเงียบลงทันที ใช่แล้ว ตนใจร้อนเกินไป ทหารของแคว้นเย้หลางไม่อ่อนแอ อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่ของแคว้นเย้หลางเป็นชนเผ่าเร่ร่อนสักส่วนมาก และม้าในการรบของพวกเขานั้นเป็นม้าชั้นดี หาชางเจียชิงซูมีความสามารถเช่นนี้ แล้วเหตุใดเขาจึงถูกนายท่านโจมตีจนต้องทิ้งชุดเกราะหนีไปอย่างน่าอับอายเช่นนั้น
หยุนชางมิได้สนใจจิ้งอิ่งอีกต่อไป นางเดินไปที่โต๊ะและยืนนิ่ง ๆ ตอนนี้ในเมืองหลวงนี้ คนที่กล้าลงมือกับจิ้งอ๋องนั้นมีเพียงไม่กี่คนก็เท่านั้นเอง ก็มีเพียงแต่มหาเสนาบดีหลี่ ชางเจียชิงซู อ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ย..และ….จักรพรรดิหนิง..
หยุนชางหยุดชะงัก เมื่อนึกถึงคนสุดท้ายแล้ว ใจของนางสั่นเล็กน้อย ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้จิ้งอ๋องเคยคิดเช่นนี้ พี่น้องหักหลังกันเพื่อราชอาณาจักรนั้นมีเยอะแยะถมไป ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พวกเขามิใช่พี่น้องที่แท้จริง
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย วันนี้ เกรงว่าจะกลับวังมิได้แล้ว ตอนนี้จักรพรรดิหนิงอยู่ในตำหนักนอกวังนี้ แม้วันนี้จะมีเรื่องมากมายเกินขึ้นในตำหนักนอกวังนี้ แต่ทว่า มีคนเฝ้าอยู่มากมายเช่นนั้น ก็คงปลอดภัยกว่าเป็นอย่างมาก หากว่ากลับพระราชวังไปในยามดึกเช่นนี้ เกรงว่าอาจจะเจอการลอบสังหารระหว่างทาง
เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป ไม่มีข่าวคราวใดๆ ที่ห้องโถงด้านหน้าเลย หยุนชางเดินไปที่ตำหนักด้านในและนั่งลงหลังจากเสวยกระยาหารไปเพียงเล็กน้อย
"วันนี้ไม่มีเหล่าสนมเดินทางมา มีลานว่างอยู่มากมาย เจ้าพาเหล่าคุณหญิงไปพักผ่อนเถิด ทางที่ดีให้พักผ่อนลานละสองคน จะได้ปรนนิบัติได้ง่าย เจ้าพาสาวใช้ไปเพิ่มอีกหน่อย" หยุนชางกล่าวเบาๆ
ฉินยีพยักหน้าและถอยหลังออกไป
เฉี่ยนอินเดินเข้ามาอย่างเปียกปอน "องค์หญิงเพคะ มีข่าวมาส่งจากด้านนอกว่า ได้ตรวจร้านเหล็กที่ร้านแล้วเพคะ ไม่มีใครสั่งทำลูกธนูแบบนี้เพคะ หัวของลูกธนูนี้มีโครงสร้างพิเศษและทำจากแร่เหล็ก หากว่าทำให้เมืองหลวงจริงต้องมีคนทราบอย่างแน่นอนเพคะ"
หยุนชางพยักหน้า ในเมื่อมิได้สั่งทำที่เมืองหลวง ฉะนั้นคงต้องสั่งทำจากนอกเมืองแล้วส่งเข้ามา
เฉี่ยนอินทราบดีว่าหยุนชางคิดอย่างไร นางจึงรีบตอบกลับอีกครั้งว่า "ประตูเมืองทั้งสี่หม่อมฉันได้ไปถามแล้วเพคะ ทุกวันนี้มีเพียงทูตสองทีมที่นำสิ่งของจำนวนมากจากภายนอกเข้ามา และจวนเจ้ากรมกลาโหมกับจวนหลี่เพคะ"
จวนเจ้ากรมกลาโหมนั่นก็คือตระกูลหวัง หยุนชางส่ายหน้า ตระกูลหวังเป็นคนของจิ้งอ๋องอย่างแน่นอน และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะลงมือกับจิ้งอ๋อง
ฉะนั้นใครกันนะที่เป็นคนลงมือ อ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ย ชางเจียชิงซูหรือมหาเสนาบดีหลี่กันแน่นะ
"วันนี้เซี่ยโหจิ้งมาหรือไม่?" หยุนชางกล่าวเบาๆ
"มาเพคะ และตอนนี้ก็ยังอยู่เพคะ" เฉี่ยนอินตอบอย่างรวดเร็ว
หยุนชางนิ่งเงียบ วันนี้เวินหยูอวี้มาอย่างเตรียมพร้อม เพียงแต่ข้าเกรงว่าจุดประสงค์ของนางคือแผนเสื้อผ้านั่นต่างหาก แต่ดูเหมือนว่าถูกจิ้งอ๋องจัดการไปแล้ว เวินหยูอวี้ปลอมตัวเป็นตนแล้วไปหลอกล่อจิ้งอ๋อง ฉะนั้นเวินหยูอวี้ต้องรู้จักคนกลุ่มนั้นอย่างแน่นอน
ตนจำได้อย่างชัดเจนว่า ครั้งที่แล้วที่ตนถูกจับตัวไปก็เพราะเวินหยูอวี้เช่นกัน
มีเพียงจวนมหาเสนาบดีเท่านั้นที่มีความสัมพันธ์กับเวินหยูอวี้ ดูเหมือนว่าทุกคนในจวนเวินนั้นเคารพหาเสนาบดีหลี่เป็นอย่างมาก
หรือจะเป็นฝีมือของมหาเสนาบดีหลี่?
แต่ทว่า… สีหน้าของหยุนชางหยุดชะงัก หากว่ามหาเสนาบดีหลี่ไม่โง่เขลาล่ะก็ ท่านไม่มีทางที่จะลงมือกับจิ้งอ๋องในเวลาเช่นนี้อย่างแน่นอน จิ้งอ๋องและท่านไม่ถูกกัน นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบเป็นอย่างดี หากมีอะไรเกิดขึ้นกับจิ้งอ๋อง คนส่วนมากก็คงสงสัยในตัวท่าน นอกจากนี้แล้ว ตอนนี้ทหารของแคว้นเย้หลางยังมิได้ถอยทัพ แคว้นเซี่ยก็ดูเป็นภัยอย่างมาก หากเกิดเรื่องขึ้นกับจิ้งอ๋อง ในแคว้นหนิงนี้ไม่มีแม่ทัพที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถเช่นจิ้งอ๋องแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น หากทั้งสองแคว้นร่วมมือกัน แคว้นหนิงก็จะตกอยู่ในอันตราย
หลายปีที่ผ่านมานี้มหาเสนาบดีหลี่ฝึกฝนนายพลให้เก่งกาจอยู่ตลอด แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ประสบความสำเร็จ ในเวลานี้ มหาเสนาบดีหลี่ไม่กล้าลงมือกับจิ้งอ๋องอย่างแน่นอน
หยุนชางหันไปมองเฉี่ยนอินและกล่าวว่า " หากเจ้าเป็นคนจับตัวจิ้งอ๋องไป เจ้าจะนำตัวจิ้งอ๋องไปซ่อนไว้ที่ใดหรือ?"
เฉี่ยนอินไม่คาดคิดว่าหยุนชางจะถามเช่นนี้ นางตกตะลึงแล้วจึงกล่าวพร้อมยิ้มว่า "องค์หญิงมักกล่าวเสมอว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดมิใช่หรือเพคะ? หรือว่าท่านจะถูกซ่อนตัวอยู่ในตำหนักนอกวังนี้หรือไม่เพคะ?"