ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 207 เบาะแสการหายตัวของจิ้งอ๋อง (๒)
หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อยและไม่กล่าวอะไร
มีเสียงขลุ่ยดังขึ้น หยุนชางเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหันแล้วสบตากับเฉี่ยนอิน เฉี่ยนอินเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดออก พบกระดาษหนังแพะถูกเข็มทองปักไว้ที่หน้าต่าง เฉี่ยนอินหยิบกระดาษแพะลงมาแล้วอ่าน จากนั้นสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที "องค์หญิงเพคะ จวนเล็กๆ ทางตะวันออกของเมืองมีสิ่งผิดปกติเพคะ"
หยุนชางรับกระดาษมาแล้วอ่าน นัยน์ตาของนางเผยความสงสัยขึ้นมา ในกระดาษกล่าวไว้ว่า ก่อนหน้านี้พบคนสวมชุดสีเทายกเกี้ยวเล็กๆ เข้าไปในจวนทางตะวันออกของเมือง จวนนั้นถูกขายออกไปเมื่อห้าวันที่แล้ว คนที่ซื้อจวนนี้ชื่อหลินหัว
"ข้าจะไปที่นั่น เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่"หยุนชางกล่าวด้วยเสียงเบา จากนั้นนางก็กระโดดออกจากหน้าต่างไป
"องค์หญิงเพคะ…"เฉี่ยนอินตะโกนอย่างเร่งรีบ แล้วรีบมองออกไปนอกหน้าต่าง และพบว่าหยุนชางหายตัวไปแล้ว เฉี่ยนอินทำตาโตแล้วกัดริมฝีปากเพร้อมกล่าว "องค์หญิงที่แสนดีของหม่อมฉัน ตอนนี้เราอยู่ในตำหนักนอกวังนะเพคะ หากฝ่าบาททรงตามตัวท่าน แล้วหม่อมฉันควรจะทำอย่างไร ดี"
เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุมาหลายต่อหลายครั้ง ทหารองครักษ์ในตำหนักนอกวังจึงเพิ่มขึ้นและแข็งแกร่งมากขึ้น จนเป็นเหตุทำให้หยุนชางต้องใช้ความพยายามอย่างมากในตอนที่นางออกนอกตำหนักไป และมีบาดแผลที่แขนอยู่หลายแผล
ทันทีที่นางออกจากตำหนักนอกวัง หยุนชางก็หาหนิงเฉี่ยนเจออย่างรวดเร็ว และขอให้หนิงเฉี่ยนพานางไปที่ข้างๆ จวนที่กล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้ ภายในจวนนั้นมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา หัวใจของหยุนชางเต้นอย่างแรง เป็นไปได้หรือไม่ว่าจิ้งอ๋องจะอยู่ในนี้จริง? เพียงแต่เหตุใดตนจึงไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของสายลับจากแถวนี้
วิชาตัวเบาของหนิงเฉี่ยนนั้นยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นนางจึงเข้าไปดูเส้นทางก่อน หยุนชางยืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้วแอบฟังเสียงซุบซิบจากด้านใน หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ได้ยินเสียงนกหวีดเบา ๆ
หยุนชางรีบปีนข้ามกำแพงเข้าไป ภายในจวนนั้นไม่ใหญ่มาก เป็นเพียงจวนต่อกันสี่ท่อน มีลานหน้าจวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ตำแหน่งของหยุนชางและหนิงเฉี่ยนในตอนนี้ อยู่ที่ลานด้านหน้าจวน หยุนชางขมวดคิ้ว ที่นี่มีการป้องกันที่หนาแน่น แต่โชคดีที่ถึงแม้ว่าคนที่คอยคุ้มกันจะเป็นยอดฝีมือทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่ระดับปรมาจารย์ หยุนชางจึงสามารถจัดการได้ดี
มีคนเดินมาทางนี้ หยุนชางจึงซ่อนตัวอยู่ในทุ่งดอกไม้ ขมวดคิ้วเบาๆ ในตำแหน่งนี้ หากสองคนนี้เดินเข้ามา พวกเขามีโอกาสพบนางทั้งสองอย่างแน่นอน หยุนชางคิดในใจจึงยกมือขึ้น และมีเข็มเงินยิงออกมาจากแขนเสื้อนาง เสียงเข็มเงินที่ปักเข้าที่ร่างกายก็ดังขึ้น หยุนชางพยักหน้าให้หนิงเฉี่ยนเบาๆ หนิงเฉี่ยนก็โยนวัตถุมีแสงออกไปทางด้านนอก และได้ยินเสียง "บูม"เท่านั้น ห้องโถงของจวนด้านหน้าก็ถูกไฟไหม้ขึ้นมา
"ไฟไหม้! ไฟไหม้!"เสียงดังขึ้น หนิงเฉี่ยนเดินเข้าไปโอบเอวของหยุนชางไว้อย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดขึ้นและขึ้นไปบนหลังคา
หยุนชางเห็นว่ามีคนเดินมาที่ห้องโถงด้านหน้า แต่ว่ามีคนที่ดูเหมือนมีศิลปะการต่อสู้ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นมองหน้า แล้วเดินตรงไปที่ห้องด้านข้างอย่างเงียบๆ
ดวงตาของหยุนชางเป็นประกาย จากนั้นหนิงเฉี่ยนก็ดึงตัวนางมาแล้วใช้วิชาตัวเบาโดดไปบนหลังคาห้องนั้น
มีเสียงสนทนาเบาๆ ดังมาจากด้านล่าง "ข้าเกรงว่าคงจะมีคนมาพบที่นี่แล้ว เรานำตัวองค์หญิงหยุนชางไปส่งที่จวนของนายท่านโดยเร่งด่วนเสียดีกว่า"
หยุนชางตกตะลึงเล็กน้อย องค์หญิงหยุนชาง? ตนอยู่ที่นี่มิใช่หรือ?
นางยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็พบว่ามีชายชุดเทาสองคนวิ่งออกจากห้องนั้นพร้อมแบกเงาร่างสีแดงเข้มไว้ จากนั้นก็ใช้วิชาตัวเบาหายจากจวนไป
"นายหญิงเจ้าคะ…"หนิงเฉี่ยนกล่าวเบาๆ
มีแสงสลัวส่องประกายในดวงตาของหยุนชาง "ดูเหมือนว่าคนที่คนของที่นี่อยากจับมิใช่เสด็จอา แต่กลับเป็นข้า"เมื่อสักครู่นั้นหยุนชางได้เห็นแล้วว่าหญิงสาวที่ถูกอุ้มตัวออกไปนั้น คือเวินหยูอวี้ที่สวมเสื้อผ้าของตนไว้
"เจ้าส่งคนตามพวกเขาไป และดูว่าพวกเขาไปที่ใด ข้าจะกลับไปที่ตำหนักนอกวังก่อน"หยุนชางหันหลังแล้วไปทางตำหนักนอกวัง จิ้งอ๋องไม่อยู่ที่นี่…….
"องค์หญิงเพคะ ในที่สุดองค์หญิงก็กลับมา"ทันทีที่หยุนชางเข้ามาในตำหนัก ก็พบสาวใช้ทั้งสองเดินไปมาอยู่ในห้องอย่างร้อนรน หยุนชางอมยิ้ม "เป็นกระไรหรือ? เกิดเรื่องกระไรขึ้นหรือ?"
ฉินยีพยักหน้าและกล่าวว่า "เกิดเรื่องขึ้นที่พระราชวังเพคะ หย่าผินเหนียงเหนียง เมิ่งเจี๋ยอวี๋ และฮองเฮาต้องยาพิษเพคะ…… เมื่อสักครู่นั้นฝ่าบาทได้ออกพระราชโองการ ให้กลับพระราชวังประเดี๋ยวนี้เพคะ"
"บังเอิญเช่นนี้เลยหรือ?"หยุนชางขมวดคิ้ว บังเอิญจนยากที่จะไม่สงสัย นางสนมทั้งสี่คนต้องยาพิษในเวลาเดียวกัน ใครกำลังคิดทำกระไรกันแน่
ฉินยีพยักหน้า "หม่อมฉันได้ยินว่า เมื่อสักครู่นั้นฝ่าบาททรงพิโรธจนเกือบจะฆ่าขันทีที่มารายงานเพคะ"
หยุนชางพยักหน้า "ฉะนั้นก็กลับพระราชวังกันเถอะ"ขณะที่พูด นางก็เดินออกไปด้านนอก
เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู จู่ๆ นางก็หยุดฝีเท้าลง "ไม่สิ เรื่องนี้ช่างแปลกไปหน่อย…"
เฉี่ยนอินขมวดคิ้ว "หม่อมฉันก็ทราบว่าเรื่องนี้แปลกเพคะ หลายท่านต้องยาพิษในเวลาเดียวกัน ไม่ทราบเช่นนั้นเพคะว่าใครกันที่เก่งกาจเช่นนี้ คิดใช้โอกาสที่ฝ่าบาทไม่อยู่ในพระราชวัง แล้วลงมือกับเหล่าสนมวังหลัง แต่หม่อมฉันสงสัยเพคะ หากวางยาพิษเหล่านางสนมวังหลัง แล้วพวกท่านเสียชีวิตขึ้นมาจะเกิดผลประโยชน์อย่างไรหรือ?"
หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อสักครู่นั้นนางเกือบจะต้องอุบาย เป็นอย่างที่เฉี่ยนอินกล่าว มันไม่มีผลใดๆ หากวางยาพิษกับเหล่านางสนม อย่างมากที่สุดฮองเฮาก็แค่ควบคุมมหาเสนาบดีได้เล็กน้อย และคนอื่นๆ แทบไม่มีความสำคัญใดๆ เลย แต่ทว่าเหตุใดมันจึงบังเอิญเช่นนี้…
"นี่เป็นกลอุบายล่อเสือออกจากถ้ำ"หยุนชางกัดริมฝีปากแล้วยืนขึ้น "ข้ากลับวังมิได้ ข้าจะรออยู่ที่นี่ บางทีเสด็จอาอาจจะมิได้ออกนอกตำหนักนอกวังนี้เลยก็เป็นไปได้ คนนั้นสร้างเรื่องใหญ่เช่นนั้นก็เพื่อที่จะหลอกล่อเสด็จพ่อกลับพระราชวังไป หากเสด็จพ่อกลับไป ทหารในตำหนักนอกวังนี้ก็จะถอนตัวออกไปอย่างน้อยเศษสามส่วนสี่เช่นกัน อย่างมากที่สุดก็เหลือเพียงองครักษ์ส่วนเล็ก ๆ ไว้เพื่อตรวจหาเบาะแสของจิ้งอ๋อง ในเวลาเช่นนี้ ง่ายต่อการหนีเป็นที่สุด"
ความสงสัยเล็กน้อยปรากฏในดวงตาของเฉี่ยนอิน "แต่องค์หญิงเพคะ หลังจากที่จิ้งอ๋องหายตัว ฝ่าบาทแทบจะพลิกแผ่นดินเพื่อตามหาท่านแล้วเพคะ แต่ก็ยังไม่พบท่าน หากว่าท่านอ๋องอยู่ในตำหนักนอกวังจริง แล้วจะหาไม่เจอได้อย่างไรเพคะ"
หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา "อาจเป็นเรื่องยากหากคิดจะขุดอุโมงค์เพื่อลงไปที่ตีนภูเขาโดยตรง ต้องใช้เวลามากเกินไป ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มีคนอยู่ที่นี่ไม่น้อย หากคิดจะทำเช่นนี้ซึ่งเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง แต่ทว่า หากขุดถ้ำไว้สำหรับซ่อนตัวชั่วคราวนั้นกลับไม่ยากกระไร เจ้ามิต้องกล่าวอะไรมาก ข้าจะเฝ้าอยู่ที่นี่แน่นอน เจ้าส่งจดหมายไปบอกหนิงเฉี่ยนให้นางปลอมตัวเป็นข้าแล้วตามเสด็จพ่อกลับไปที่พระราชวังก่อน"
เฉี่ยนอินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า จากนั้นจึงหยิบขลุ่ยไม้ไผ่ออกมาแล้วเป่า
ไม่นาน หนิงเฉี่ยนก็เดินเข้ามา หยุนชางบอกกล่าวเรื่องนี้ให้นางฟัง และขอให้หนิงเฉี่ยนเปลี่ยนเสื้อผ้า หยุนชางมองดูหนิงเฉี่ยนสวมหน้ากากหนังคน เปลี่ยนชุด แล้วจำผมใหม่ แล้วจึงยิ้มและกล่าวว่า "วิชาแปลงโฉมของเจ้ายอดเยี่ยมอย่างมาก แม้แต่ข้าเองก็ดูไม่ออก"
เมื่อหนิงเฉี่ยนเตรียมตัวเรียบร้อย จากนั้นก็มีขันทีมาเชิญหยุนชางไป หยุนชางพยักหน้า หลังจากที่ซ่อนตัวอยู่หลังฉากกั้นแล้ว หนิงเฉี่ยนก็พาเฉี่ยนอินและฉินยีเดินออกไป หยุนชางยืนอยู่ในตำหนักเป็นเวลานาน จากนั้นก็ได้ยินเสียงในตำหนักค่อยๆ เงียบลง
ผ่านไปอยู่นาน ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่เย็นชาดังขึ้นมาเหนือหัว "ฝ่าบาทลงจากภูเขาไปแล้วเจ้าค่ะ"
หยุนชางพยักหน้า ยกมือขึ้นและผิวปากเป็นจังหวะแปลกๆ จากนั้นก็มีสตรีชุดดำปรากฏตัวขึ้นมาเป็นสิบกว่าคน หยุนชางกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า"จิ้งอ๋องหายตัวไปในหอชิงซือ จับตาดูรอบๆ หอชิงซือให้ดี"
หยุนชางพาคนไปเฝ้าใกล้หอชิงซือและไม่เคลื่อนไหวไปไหน นางเฝ้าทั้งคืน เช้าตรู่นี้ในตำหนักนอกวังเงียบเป็นอย่างมาก หยุนชางเห็นคนแบกกระสอบแล้ววิ่งออกจากหอชิงซืออย่างกะทันหัน หยุนชางตกใจเล็กน้อย แววตาของนางจับจ้องไปที่กระสอบแล้วยิ้มมุมปากขึ้นมา
"นายหญิงเจ้าคะ……."มีเสียงถามดังมาจากข้างหลังนาง
หยุนชางยกมือขึ้นแล้วส่ายหน้า "ตัวปลอม"
ทุกคนตกตะลึงและมองไปที่กระสอบ ทั้งๆ ที่ไม่เห็นอะไรเลย แล้วเหตุใดนายหญิงจึงทราบว่าเป็นตัวปลอม?
หยุนชางยิ้มมุมปาก แม้ว่าคนกลุ่มนี้จะฉลาด แต่ก็พลาดในจุดรายละเอียดเล็กๆ คนในกระสอบนั้นเหยียดตัวตรงหรือ ร่างกายของเขาดูเหมือนว่าถูกมัดอย่างแน่น หยุนชางมองดูถุงกระสอบ อย่างมากที่สุดถุงกระสอบนี้ก็มีความยาวเพียงห้าฟุตกว่าๆ แต่จิ้งอ๋องสูงเจ็ดฟุต และเพียงแค่มองดูรูปร่างของเขา ก็ทราบแล้วว่ามิใช่จิ้งอ๋อง
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีหลายคนยกถุงกระสอบออกมาอีกครั้ง หยุนชางส่ายหน้า คราวนี้ส่วนสูงคล้ายๆ กัน แต่ตัวใหญ่เกินไป
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนสองคนเปิดประตูแล้วเดินออกไปทางด้านนอก
หยุนชางหรี่ตา "ตามเขาไป…"
"นายหญิงเจ้าคะ แต่พวกเขามิได้จับตัวใครไว้นะเจ้าคะ…"มีคนมองตามไปแต่กลับไม่พบถุงผ้าที่ควรจะมี ฉะนั้นจึงขมวดคิ้ว
แสงประกายปรากฏขึ้นในดวงตาของหยุนชาง "หนึ่งในนั้นถูกควบคุมสติเอาไว้ ท่าเดินของเขาเหมือนกับของจิ้งอ๋องไม่มีผิด"
"องค์หญิงเจ้าคะ เราเข้าไปแย่งตัวจิ้งอ๋องกลับมาเลยดีหรือไม่เจ้าคะ?"คนข้างหลังกระซิบ
หยุนชางตกตะลึง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา คำพูดของนางราวกับว่าเราจะไปแย่งตัวเจ้าบ่าว
"เราไม่รู้ว่าอีกฝั่งมีกี่คน เรามีกันแค่ไม่กี่คน อย่าได้ใช้กำลังเลยดีกว่า ตามไปดูก่อนว่าพวกเขาจะไปที่ไหนกันแน่ อย่างได้ทำให้พวกเขาตื่นตัว"
หยุนชางพาทุกคนตามเขาสองคนไป และเห็นว่าพวกเขาออกจากตำหนักไปสำเร็จ หลังจากที่พวกเขาออกจากวังก็มีคนเพิ่มขึ้นอีกสองสามคน ดูเหมือนจะเป็นเหล่าคนที่แบกกระสอบออกไปก่อนหน้านี้ หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชาและรู้สึกสงสัยขึ้นมาอย่างมาก ใครกันนะ ช่างใจกล้าและระมัดระวังเช่นนี้