ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5792 ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน(2
ด้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5792
เย่เฉินคิดไม่ถึงว่า เพียงแต่10นาทีซูจือหยูจะสามารถจัดระเบียบและสรุปข้อมูลออกมาได้มีประสิทธิภาพขนาดนี้ ในใจยอมรับมันสมองด้านการค้าของผู้หญิงคนนี้รวมทั้งความสามารถในการวิเคราะห์ ความสามารถในทางธุรกิจเป็นอย่างมาก
เขาถามซูจือหยู: “จากมุมมองของคุณหนูซู ถ้าหากจะเทคโอเวอร์บริษัทนี้ ควรจะเสนอเงินเท่าไหร่ถึงจะสมหวัง?”
ซูจือหยูกล่าว: “คุณเย่ พิจารณาจากข้อมูลที่ฉันสามารถสืบหาได้ในตอนนี้ หลูจื้อเฉิงเถ้าแก่ของพวกเขา มีอัตราส่วนการถือหุ้นสาธารณะอยู่ที่ 57.6% แต่จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นและตัวเลือกหุ้นอื่นๆ รวมทั้งหมดน่าจะอยู่ที่78.5% สมกับที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อยากจะเทคโอเวอร์จื้อเฉิงกรุ๊ปสำเร็จ ขอเพียงแค่สามารถทำให้หลูจื้อเฉิงพยักหน้าได้ ก็นับว่าสำเร็จแล้ว”
“เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์รายรับของหลูจื้อเฉิงในตอนนี้ ถ้าหากเขายังคงดำเนินกิจการนี้ต่อไปละก็ ถ้าดวงดีปีหนึ่งอาจจะได้กำไรสามสี่สิบล้าน ถ้าดวงไม่ดี ปีหนึ่งอาจจะไม่ได้กำไรเลยสักบาท ถึงขนาดอาจจะขาดทุน”
“หากมองไปอีก20ปีข้างหน้า รายได้สุทธิส่วนบุคคลของจื้อเฉิงกรุ๊ปที่จะอาจจะได้รับอย่างต่อเนื่อง น่าจะไม่มีทางเกินหกร้อยล้าน”
“ถ้าหากพวกเราเสนอราคาให้เขา สามารถรับรองได้ว่าหลังจากที่เขาขายทิ้งแล้ว ไม่มีข้อตกลงการเดิมพัน ไม่มีความล่าช้า สามารถเก็บเกี่ยวได้หกร้อยล้านขึ้นไปภายในครั้งเดียวละก็ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่น่ามีเหตุผลใดๆที่จะมาปฏิเสธการเทคโอเวอร์ของพวกเรา”
“หกร้อยล้านหารอัตราส่วนหุ้นที่เขาถือครอง ก็คือ78.5% พวกเราเสนอราคาให้จื้อเฉิงกรุ๊ป ควรจะอยู่ที่ประมาณเจ็ดร้อยหกสิบล้าน”
“แน่นอนว่า ราคานี้สุดท้ายแล้วจะสูงไปหรือต่ำไป ยังไงก็ต้องดูสถานการณ์ตอนที่เจรจากับหลูจื้อเฉิง ผ่านการพูดคุย มาวิเคราห์สภาพจิตใจของเขาในปัจจุบันรวมทั้งความคาดหวังทางจิตวิทยา ถ้าปลอดภัยหน่อย ส่วนตัวฉันแนะนำว่านำราคาทางจิตวิทยาตั้งไว้ที่แปดร้อยล้าน แต่ฉันจะใช้หกร้อยล้านในการยื่นข้อเสนอตอนเจรจากับเขา จะพยายามจัดการเขาให้ได้ในช่วงราคาเจ็ดร้อยถึงเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน!”
เย่เฉินถามเธอ: “มีความมั่นใจไหม?”
“มีค่ะ”ซูจือหยูกล่าวอย่างค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง: “ผู้ประกอบการอย่างหลูจื้อเฉิงนี้ หลายสิบปีที่ทำมาล้วนเป็นธุรกิจที่แท้จริง ถึงแม้ขนาดของธุรกิจจะใหญ่โต แต่เงินที่ได้มาก็ทีละเล็กละน้อยทั้งนั้น คนประเภทนี้ ในธุรกิจไม่มีความเป็นไปได้ที่จะร่ำรวยได้ภายในชั่วข้ามคืน อยากจะขายหุ้นในตลาดหุ้นก็ไม่มีโอกาสอีก ไม่ได้สัมผัสถึงความร่ำรวยภายในชั่วข้ามคืนได้เลยสักนิด ดังนั้นไมตรีจิตของคนก็ค่อนข้างที่จะสิ้นเปลืองมาก ไม่รู้ว่าเขาคาดหวังว่าจะมีคนสามารถรับเอากิจการของเขาไปดูแลได้ภายในคราวเดียว ทำให้เขาได้มีเงินก้อนโตก้อนหนึ่งที่มากพอที่จะปลีกตัวเกษียณไปได้อย่างราบรื่น อีกอย่างเขายังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีอำนาจควบคุมอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่เขาเพียงคนเท่านั้น ฉันเชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
เย่เฉินพึงพอใจมาก พูดกับเธอว่า: “ตอนนี้ผมอยู่ที่ผูเอ่อร์ คุณคิดว่าคุณจะใช้เวลานานขนาดไหนถึงจะจัดการเรื่องนี้ได้? ถ้าอย่างเร็วละก็ ผมจะรอคุณสองวัน ถ้าอย่างช้าละก็ ผมก็จะไปทำธุระอื่นที่พื้นที่อื่นก่อน รอหลังจากที่คุณจัดการเรียบร้อยแล้วผมค่อยกลับมา”
ซูจือหยูมองดูเวลา เอ่ยปากกล่าว: “ทางด้านนี้พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว แต่ในเมื่อคุณอยู่ที่ผูเอ่อร์ ถ้าอย่างนั้นน่าจะมีเวลาอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆพระอาทิตย์ถึงจะตกดิน ถ้าราบรื่นละก็ ก่อนหน้าที่พระอาทิตย์ของคุณทางด้านนั้นจะตกดิน ฉันน่าจะทำให้เขาพยักหน้าได้ ขอเพียงแค่เขาพยักหน้า ฉันสามารถวางเงินมัดจำให้เขาหนึ่งร้อยล้านได้ จากนั้นจะส่งทีมทนายไปที่นั่นเพื่อดำเนินการทำเรื่องโอนกับเขาภายในคืนนี้!”
“หนึ่งชั่วโมง?”เย่เฉินได้ยินคำตอบนี้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ได้ ถ้าอย่างนั้นผมจะรอฟังข่าวของคุณอยู่ที่นี่ ขอเพียงแค่เขาพยักหน้า หลังจากที่คุณวางเงินมัดจำก็บอกเขาว่า จะส่งที่ปรึกษาสองคนไปที่ฐานของภูเขาจื้อเฉิงของเขาเพื่อตรวจสอบก่อน ให้เขาแจ้งผู้รับผิดชอบฐานเตรียมตัวต้อนรับ!”