ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5791 ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน(1)
ด้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5791
จื้อเฉิงกรุ๊ปเป็นกิจการที่มีชื่อโด่งดังของเตียนหนาน แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมที่ประกอบการอยู่ค่อนข้างไปในแนวดิ่ง ดังนั้นด้านนอกแวดวงใบชา กลับไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร
ซูจือหยูไม่เคยได้ยินแม้กระทั่งชื่อของจื้อเฉิงกรุ๊ปมาก่อน
แต่รูปแบบการประกอบการของเธอมีความสามารถตรงไปตรงมาเสมอ ไม่อืดอาดยืดยาดเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอที่อยู่ปลายสาย พลางหยิบกระดาษปากกาที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน พลางเอ่ยปากกล่าว: “ได้ค่ะคุณเย่ ไม่ทราบว่าคุณเย่อยากจะให้ฉันให้ความร่วมมือยังไง?”
เย่เฉินกล่าว: “ผมต้องการใช้ชื่อของตระกูลซูของคุณไปคุยกับเถ้าแก่ของพวกเขา ถ้าหากอีกฝ่ายสงสัยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลซูผู้สง่าผ่าเผยรวมทั้งผู้นำตระกูลตระกูลซู ทำไมถึงได้มีความสนใจต่อกิจการใบชานี้ คุณก็บอกพวกเขาไปว่า คุณปู่ของคุณอยู่ที่มาดากัสการ์ค่อนข้างชอบดื่มใบชาของพวกเขา ดังนั้นคุณจึงวางแผนว่าจะซื้อกิจการนี้ เอาเป็นว่าหลักๆแล้วให้พูดด้วยความมั่นใจว่ามีเงินและเอาแต่ใจตัวเองก็พอ”
“OK!”ซูจือหยูรับปากอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด กล่าวว่า: “คุณเย่โปรดให้เวลาฉันสักสิบนาที ฉันขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์คร่าวๆของกิจการนี้ก่อน จากนั้นจะทำแผนการเทคโอเวอร์คร่าวๆมาคุยกับคุณ”
เย่เฉินกล่าว: “ครับ ผมรอข่าวของคุณ”
ซูจือหยูวางสาย ก็รีบค้นหาข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับจื้อเฉิงกรุ๊ปในคอมพิวเตอร์ หลังจากที่เธอนำข้อมูลที่มีประโยชน์บางอย่างที่รวบรวมด้วยตนเองจดบันทึกเอาไว้ ครุ่นคิดอยู่หนึ่งนาที ก็โทรศัพท์กลับไปหาเย่เฉิน
เย่เฉินรับสาย ถามเธอ: “คุณหนูซูทำความเข้าใจเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
ซูจือหยูกล่าวอย่างนอบน้อม: “คุณเย่ เมื่อครู่นี้ฉันได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขาคร่าวๆหน่อยแล้ว บริษัทนี้เป็นกิจการร่วมหุ้นเอกชนบริษัทหนึ่ง ตอนนี้เถ้าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือผู้ก่อตั้งของพวกเขา ชื่อว่าหลูจื้อเฉิง ตอนแรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงแค่กิจการวิสาหกิจขนาดเล็กแห่งหนึ่ง แต่หลังจากการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในช่วงยุคแปดศูนย์ กิจการใบชาของพวกเขาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ค่อยๆพัฒนาจนกลายเป็นธุรกิจชาห้าอันดับแรกของเตียนหนาน”
จื้อเฉิงกรุ๊ปได้ปฏิรูปโครงสร้างหุ้นสำเร็จเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์IPO(การเสนอขายหุ้นให้กับคนทั่วไปเป็นครั้งแรก) แต่เนื่องจากขนาดของการขาดทุนและกำไรยังไม่มั่นคงมากพอ แม้ว่าจะได้รับคำแนะนำของคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์IPOแล้ว แต่ก้าวสุดท้ายก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ ไม่สามารถเข้าตลาดหุ้นได้อย่างสมบูรณ์”
“หลายปีก่อนพวกเขากัดฟันเข้าตลาดหุ้นแห่งที่สาม แต่ว่าเนื่องจากสาเหตุว่าบรัทมีการประเมินมูลค่าค่อนข้างต่ำ สภาพคล่องค่อนข้างแย่ และเป้าหมายทางการเงินที่ต่ำกว่าตามที่คาดการณ์ไว้ จึงถอยออกมาจากตลาดหุ้นแห่งที่สามอีกครั้ง”
“เมื่อครู่นี้ฉันสืบดูคร่าวๆหน่อยแล้ว มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดตอนที่อยู่ในตลาดหุ้นแห่งที่สาม มูลค่าตลาดตอนที่สูงสุดก็แค่หนึ่งพันล้านต้นๆเท่านั้น แต่ว่ารายงานงบการเงินของพวกเขาในหลายปีนั้นไม่ค่อยเป็นที่น่าพึงพอใจนัก ความนิยมของตลาดใบชาที่ลดต่ำลงจึงส่งผลกระทบกับกำไรของพวกเขา ลดการผลิตใบชาหรือผลการเก็บเกี่ยวดี ก็ส่งผลกระทบต่อกำไรของพวกเขาเช่นกัน มูลค่าทางตลาดก็ย่อมพลอยได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน”
“อีกอย่าง อุตสาหกรรมนี้ของพวกเขายังมีกิจการชั้นนำประจำถิ่นของเตียนหนานอีกด้วยนั่นก็คือจวี้อี้กรุ๊ป กิจการนี้นับว่าเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมนี้ แต่แม้ว่าจะเป็นพวกเขา การหมุนเวียนเงินทุนก็ไม่ค่อยราบรื่นมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าการจดทะเบียนเข้าตลาดทางอ้อมโดยการซื้อธุรกิจแบบย้อนกลับจะสำเร็จ แต่มูลค่าตลาดค่อนข้างร้อนแรงตอนแค่แรกเริ่มเท่านั้น ตอนนี้ตลาดเย็นลง มูลค่าทางตลาดของมันไม่ถึงแม้กระทั่งสองพันล้าน ดังนั้นฉากหน้าของทุนของอุตสาหกรรมใบชาอันที่จริงไม่นับว่าดีมากนัก”
“ย้อนกลับมาพูดถึงจื้อเฉิงกรุ๊ป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำกำไรได้ระดับสิบล้านทุกปีก็จริง แต่ว่า เงินแค่เล็กน้อยนี้หากวางในตลาดเงินทุนยังคงขาดพื้นที่ในการจินตนาการอยู่ จากที่พวกเขาโจมตีIPOหลายต่อหลายครั้ง เมื่อพิจารณาจากการดำเนินการที่ล้มเหลวหลายครั้งหลายคราว ยังคงพยายามต่อไป หลูจื้อเฉิงเถ้าแก่ของพวกเขาคงจะอยากขายหุ้นในตลาดหุ้นมาก แต่ติดอยู่ที่การเข้าตลาดหุ้นสิ้นหวัง ไม่สมความปรารถนามาโดยตลอด”
“ไม่เข้าตลาดหุ้น หลูจื้อเฉิงก็ทำได้เพียงคอยรักษาธุรกิจนี้เอาไว้ทุกปี คอยรักษากำไรระดับสิบล้านต่อปี ที่ถึงมือของเขาจริงๆ หนึ่งปีก็แค่ประมาณไม่กี่สิบล้านเท่านั้น ฝันที่จะถอนเงินหุ้นหลายร้อยล้านหยวนของเขา คาดว่าคงจะไม่มีหวังตลอดไป”