ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5357 เจี้ยนกงติ้งหยวน 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5357 เจี้ยนกงติ้งหยวน 2
ชายคนนั้นเหยียดคร้าน กล่าวทอดถอนใจ: “ที่ฉลาดน่ะเป็นท่านเอิร์ลจงหย่ง บอกว่าไปนิวยอร์กเพื่อตรวจสอบเรื่องที่จู่โจมตระกูลอานล้มเหลวเมื่อครั้งที่แล้ว ความจริงเขาต้องไปผ่อนคลายในโลกแห่งแสงสีของนิวยอร์กแน่ ๆ มีแค่เราสองคนที่ต้องมาลำบากตรวจสอบอะไรพวกนี้อยู่”
กล่าวไป เขาก็พลางชี้ไปที่ซากปรักหักพังที่ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน และพูดอย่างไม่พอใจ: “ตรวจสอบ ๆ ๆ ตรวจสอบอะไรล่ะ กลายเป็นแบบนี้แล้ว ยังมีอะไรให้ตรวจสอบอีก”
ผู้หญิงกอดไหล่กล่าว: “ในเมื่อผู้มีพระคุณสั่งแล้ว คูณกับฉันก็ต้องให้ความใส่ใจหน่อย”
กล่าวไป เธอก็ถอนหายใจอีกครั้ง: “เอางี้นะท่านเอิร์ลเจี้ยนกง ตอนนี้มีอยู่สองทาง ถ้าไม่ตรวจสอบดูว่าหลินหว่านเอ๋อร์ไปจากยุโรปเหนือด้วยวิธีไหน ก็ตรวจสอบดูว่าทหารม้ากล้าที่พวกเราส่งมาหายตัวไปจากยุโรปเหนือได้ยังไง ทางเลือกทั้งสองทางนี้ พวกเราเลือกคนละทาง ฉันใจกว้างหน่อย ให้คุณเป็นคนเลือกก่อน”
ชายบนที่นั่งขนขับ ก็คือท่านเอิร์ลเจี้ยนกงหนึ่งในสี่ท่านเอิร์ลขององค์กรพั่วชิงนั่นเอง ชื่อจริงคือโอวป๋อจวิน
โอวป๋อจวินลูบจับพวงมาลัย แจะปากกล่าว: “ให้เกียรติผู้หญิงก่อน ให้ท่านเอิร์ลติ้งหยวนเป็นคนเลือกก่อนเถอะ!”
พูดไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวหยอกล้อ: “ใช่สิ ถ้าท่านเอิร์ลติ้งหยวนสามารถกลายเป็นมาร์ควิสติ้งหยวนหรือไม่ก็ดยุคติ้งหยวนได้ในอนาคต ก็อย่าลืมผมล่ะ!”
ผู้หญิงบนที่นั่งข้างคนขับ คือท่านเอิร์ลติ้งหยวนหนึ่งในสี่ท่านเอิร์ล หยุนหรูเกอ
แม้ว่าหยุนหรูเกอจะเป็นผู้หญิง แต่กลับมีฝีมือที่แข็งแกร่งมาก และได้ต่อสู้เพื่อผู้มีพระคุณไปทั่วทุกสารทิศในช่วงแรก ๆ ดังนั้นจึงถูกผู้มีพระคุณแต่งตั้งให้เป็นท่านเอิร์ลติ้งหยวน และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ในท่านเอิร์ลทั้งสี่
เดิมที ผู้มีพระคุณองค์กรพั่วชิงได้ยึดตามระบบของหัวเซี่ยในสมัยโบราณ ได้ตั้งยศ ดยุค มาร์ควิส เอิร์ล ไวส์เคานท์ บารอนทั้งห้าระดับ ในองค์กรพั่วชิง
แต่เนื่องจากดยุค และมาร์ควิสเป็นขุนนางระดับสูง หรือไม่ผู้ครองเมืองในสมัยโบราณ และองค์กรพ่อชิงก็ไม่เคยมีการแต่งตั้งแยกมาก่อน ดังนั้นจนถึงตอนนี้ ในองค์กรพั่วชิง ทั้งสองตำแหน่งนี้ก็เพียงมีไว้แต่ยังไม่มีการแต่งตั้งมาก่อน
และก็ด้วยเหตุนี้เอง ตอนนี้องค์กรพั่วชิงนอกจากผู้มีพระคุณ รองลงมาก็คือท่านเอิร์ลทั้งสี่
อย่างไรก็ตาม ผู้มีพระคุณก็เคยได้ให้สัญญามาก่อน หากใครสามารถช่วยเขาตามหาหลินหว่านเอ๋อร์กับแหวนวงนั้นเจอ และได้สมหวังตามปรารถนา ก็จะแต่งตั้งคนผู้นั้นให้เป็นมาร์ควิสทันที
และเมื่อได้เป็นมาร์ควิส ก็จะมีโอกาสเลือกที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้เพื่อเป็นพื้นที่แต่งตั้งของตน และสร้างกองกำลังของตนเองขึ้นมาในพื้นที่แต่งตั้งของตน ถึงเวลานั้น มาร์ควิสเพียงแค่ฟังสั่งจากผู้มีพระคุณในตอนที่ผู้มีพระคุณเท่านั้น เวลาอื่น ๆ สามารถแสดงฝีมือได้ตามอำเภอใจ
ในตอนนี้เอง หยุนหรูเกอได้ยิ้มเยาะตัวเองขึ้นมา แล้วกล่าว: “ถ้าหากฉันตามหาหลินหว่านเอ๋อร์เจอ ตามหาแหวนที่ผู้มีพระคุณต้องการเจอได้จริง ๆ ฉันก็ไม่มีทางที่จะยอมรับแต่งตั้งเป็นมาร์ควิสอะไรนั่นอย่างแน่นอน”
โอวป๋อจวินยิ้มกล่าว: “ทำไม? เธอกลัวว่าจะเกินหน้าเกินตาเหรอ?”
หยุนหรูเกอโบกมือ: “ฉันก็แค่ปลงแล้วเท่านั้นเอง ยศตำแหน่งอะไรนั่น ไม่สำคัญเท่าฝีมือด้วยซ้ำ ถ้าฉันได้ความดีความชอบอันดับหนึ่งมาครองจริง ๆ ผู้มีพระคุณมอบโอสถให้ฉันเป็นรางวัลเยอะ ๆ หน่อย ฉันก็พอใจมากแล้ว
โอวป๋อจวินพยักหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “มาท่านเอิร์ลติ้งหยวน สองทางเลือก คุณเลือกทางใดทางหนึ่ง”
หยุนหรูเกอครุ่นคิดอยู่สักพัก กล่าว: “ฉันสืบทางทหารม้ากล้าแล้วกัน หลินหว่านเอ๋อร์เจ้าเล่ห์เกินไป ฉันอาจไม่ฉลาดเท่าเธอ”
ภายในใจของโอวป๋อจวินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้ากล่าว: “ได้ งั้นผมเลือกทางหลินหว่านเอ๋อร์ก็แล้วกัน”
ความจริงแล้ว โอวป๋อจวินอยากเลือกทางทหารม้ากล้ามากกว่า เพราะเมื่อเทียบกันแล้วทางนั้นยังพอจะมีเค้ามูลอยู่บ้าง หากหาเบาะแสที่ทหารม้ากล้าพวกนั้นหายตัวไปในยุโรปเหนือไม่ได้ ยังสามารถลองไปเสี่ยงโชคในไซปรัสได้
แต่ว่า เบาะแสทางหลินหว่านเอ๋อร์นั้น ไม่มีเค้ามูลอะไรอยู่เลยจริง ๆ
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ต่างอะไรกับการหายตัวไปจากที่แห่งนี้อย่างไร้ร่องรอย และยังมีความเป็นไปได้มากว่าเธอจะไปยังที่ใดก็ได้ในโลกใบนี้ หากสืบตามเบาะแสนี้ขึ้นมาจริง ๆ พูดได้ว่ามันยากยิ่งกว่ายากเสียอีก
ส่วนสาเหตุที่เขาให้หยุนหรูเกอเป็นคนเลือกก่อน นั่นเพราะว่าเขามีความอะไรบางอย่างกับหยุนหรูเกอมาโดยตลอด อยากจะฝึกฝนแบบเป็นคู่เป็นมีความสุขไปพร้อมกันร่วมกับเธออย่างคู่รัก แม้ว่าเขาจะไม่มีวิธีฝึกฝนแบบเป็นคู่ แต่หากได้ผู้หญิงที่ฝีมือร้ายกาจอย่างหยุนหรูเกอมาเป็นคู่ ก็ถือว่าคุ้มค่า
และก็เพราะเหตุนี้ ถึงแม้เขาจะไม่อยากเลือกเบาะแสทางหลินหว่านเอ๋อร์ แต่เมื่อเห็นหยุนหรูเกอได้เลือกอีกทางแล้ว เขาก็ไม่มีวิธีอื่นอีก จึงได้แต่ยอมรับมัน
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ หยุนหรูเกอก็ถอนหายใจออกมา พลางกล่าว: “ช่างเถอะ เบาะแสทางทหารม้ากล้า ยกให้ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงดีกว่า ฉันจะไปสืบทางหลินหว่านเอ๋อร์เอง”
โอวป๋อจวินถามด้วยความประหลาดใจ: “ทำไมท่านเอิร์ลติ้งหยวนถึงเปลี่ยนใจล่ะ? เบาะแสทางหลินหว่านเอ๋อร์สืบยากที่สุดเลยนะ!”
หยุนหรูเกอหัวเราะเบา ๆ หนึ่งครั้ง กล่าวอย่างลวก ๆ : “มันไม่ง่ายที่จะตรวจสอบ และไม่มีเบาะแสอะไรที่ใช้อ้างอิงได้ แต่ก็เพราะแบบนี้ ฉันก็สามารถไปบางที่ที่ฉันอยากไปได้ ถือซะว่าเป็นการเสี่ยงโชค เสี่ยงโชคไป ท่องเที่ยวไป ก็ดีเหมือนกัน”
โอวป๋อจวินแอบดีใจ จากนั้นก็ยกหัวแม่มัวขึ้นมา กล่าวชื่นชม: “เยี่ยม! ท่านเอิร์ลติ้งหยวนเยี่ยมยอดไปเลยจริง ๆ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เบาะแสทางทหารม้ากล้า ก็มอบให้ผมเป็นคนสืบเองเถอะ!”