ทันทีที่หินดำชูกระดูกชิ้นนั้นขึ้นมา เทพธิดาพลันเข้าใจถึงต้นตอของความไม่สบายใจในช่วงก่อนหน้านี้ทันที
เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง!
ในมือของหินดำคือเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง!!
ศรแห่งการล่า คือทักษะศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดวง วิชาเฉพาะของนักบวชระดับสูงผู้ศรัทธาในเทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า
ผลของมันคือการสร้างลูกศรแสงอันทรงพลังที่ไม่มีวันพลาดเป้า ทำลายเป้าหมายและพื้นที่ใกล้เคียงให้ราบเป็นหน้ากลอง
มันคืออำนาจทำลายล้างของระดับทอง!
หากอีฟไม่ทันตั้งตัว แม้จะเป็นร่างจุติของเธอก็ไม่สามารถรับการโจมตีระดับนี้ได้
หากตกเป็นเป้าโจมตีด้วยเวทมนตร์บทนี้ เกรงว่าลูกแก้วกักเก็บวิญญาณที่ได้รับการซ่อมแซมแค่เพียงเพื่อให้ใช้งานได้ ก็อาจจะถึงขั้นพังทลายลง และส่งผลให้ร่างจุติของเธอหายไป
แล้วเบอร์เซิร์กเกอร์ที่ยังอยู่แค่ระดับเงินล่ะ…
ศรแสงระเบิดออกอย่างรุนแรง เปล่งแสงเจิดจ้าพร้อมเสียงกัมปนาทสนั่นหวั่นไหวไปทั่วป่า
พลังงานมหาศาลพวยพุ่งดั่งพายุ แรงกรรโชกของมันถอนรากถอนโคนต้นไม้โดยรอบจนโค่นล้มระเนระนาด
ผู้เล่นทั้งหมดต่างสูญเสียความสามารถในการมองเห็นและการได้ยินไปชั่วขณะ
…เมื่อแสงจางลงและทุกอย่างกลับสู่ความสงบ ภูมิประเทศของสนามรบเบื้องหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จุดที่เบอร์เซิร์กเกอร์เคยยืนอยู่ กลายเป็นแอ่งขนาดยักษ์ที่มีรัศมีมากกว่า 10 เมตร ควันสีขาวยังคงโชยขึ้นมาจากผิวดินที่ไหม้เกรียม…
ร่างของเบอร์เซิร์กเกอร์ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง มันล้มลงสู่พื้น สัญญาณชีพของมันอยู่ในเกณฑ์วิกฤติ
ปริมาณพลังชีวิตของโอ๊กการ์ดเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ แม้แต่มนตร์ศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดวงก็ไม่อาจสังหารมันได้ในทันที แต่มันก็บาดเจ็บสาหัสจนสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง
สาเหตุอีกส่วนเป็นเพราะหินดำมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับเงินขั้นต้น ในขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่ผู้ใช้เวท และไม่มีความแตกฉานในเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์
หากทักษะนี้ถูกใช้โดยนักบวชระดับเงินขั้นต้น เกรงว่าการโจมตีที่ผ่านมาจะกวาดล้างเหล่าผู้เล่นไปโดยสมบูรณ์
แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์เบื้องหน้าก็กำลังย่ำแย่ถึงขีดสุด
นักบุญอลิซทรุดกายลงบนพื้น ช่องท้องและช่วงอกของเธอถูกศรแสงพุ่งทะลวงผ่าน เกิดเป็นแผลเหวอะขนาดใหญ่ เลือดสีแดงสดยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้เล่นจำนวนกว่าครึ่งต่างระเหิดไปในพริบตา ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของซากศพ เหล่าผู้เล่นที่เหลือต่างอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถสู้รบได้อีกต่อไป…
มีเพียงอัลและน้องสาวทั้งสองที่รอดพ้นจากพลังทำลายล้าง ด้วยการปกป้องของเดมาเซียผู้ใช้ร่างเป็นโล่กำบังให้กับพวกเขา
การโจมตีเพียงครั้งเดียว สามารถสร้างความเสียหายได้ถึงเพียงนี้!
แม้จะยังพอมีผู้รอดชีวิต แต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นได้แต่อย่างใด
จำนวนผู้เล่นที่ยังมีชีวิตอยู่ มีเพียงไม่เกิน 30 คน ซึ่งสภาพร่างกายของพวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ในสภาวะวิกฤติ
สาวกระดับเงินทั้งสองต่างอยู่ในสภาพปางตายเช่นกัน…
ในสนามรบแห่งนี้ เหลือเพียงหินดำและออร์คจำนวนนับสิบที่ยังสามารถต่อสู้ได้อยู่
นอกจากนี้ สถานที่เกิดการปะทะยังอยู่ห่างจากเขตปลอดภัยถึง 50 กิโลเมตร แม้ว่าผู้เล่นจะฟื้นคืนชีพได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางกลับมาที่นี่ได้ทันเวลา!
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อปราศจากกำลังรบระดับเงินทั้งสอง เหล่าผู้เล่นก็ไม่เหลือไพ่ตายอะไรไว้รับมือกับหินดำผู้ซึ่งอยู่ในระดับเงิน!
เหล่าเอลฟ์ที่รอดตายต่างจับจ้องไปที่พวกออร์คด้วยใบหน้าซีดเซียว
สีหน้าของพวกเขายังมีเค้าลางของความสับสนจากแรงระเบิดที่เพิ่งประสบ
เหตุการณ์มันกลับตาลปัตรขนาดนี้ได้ยังไง?
พวกเรากำลังจะชนะไม่ใช่เหรอ…
ทำไมมันถึงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าขนาดนี้?
“บ้าบอ—-! เกมหมา!! ให้บุพการีเอ็งเล่นเหอะ!!”
เดมาเซียก่นด่าพร้อมกระอักเลือดคำโต
“พี่เดมาเซีย!”
อัลช่วยพยุงร่างของเดมาเซียด้วยความเป็นห่วง เขามองบาดแผลฉกรรจ์บนร่างของเอลฟ์หนุ่มด้วยความวิตก
ไม่มีอะไรโหดร้ายไปกว่าการที่ความหวังได้พุ่งขึ้นมาถึงจุดสูงสุด ก่อนจะพังทลายลง และกลายเป็นความสิ้นหวังในพริบตา
ในตอนแรกที่อัลเห็นโอ๊กการ์ด เขาตระหนักถึงตัวตนอันเป็นตำนานของอีกฝ่ายทันที
การปรากฏตัวของกลุ่มเอลฟ์ที่เปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่งและดุดัน กับนักบุญระดับเงินผู้สูงศักดิ์ ทำให้หัวใจของอัลพองโตขึ้นมา
เป็นไปได้ไหม ว่าพระมารดาที่คุณปู่เคยเล่าจะกลับมาแล้วจริง ๆ
อัลรู้สึกตื่นเต้นจนรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งปะทุขึ้นมาในอกตลอดเวลา ความหวังเล็ก ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจของเขา
ทว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสนามรบ ได้เหยียบย่ำหัวใจของเอลฟ์ตัวน้อยให้จมสู่ห้วงแห่งความสิ้นหวังถึงขีดสุด
เหล่าออร์คทั้งชั่วช้า ทั้งทรงพลัง
พวกพ้องร่วมเผ่าพันธุ์และสาวกแห่งธรรมชาติต่างแพ้พ่ายไปในพริบตา ด้วยเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกมัน
ณ เวลานี้ มีเพียงความสิ้นหวังที่ยังคงปรากฏในใจของอัล
“คุณปู่ครับ… พวกเรายังมีหวังอยู่จริง ๆ เหรอครับ…”
เขากุมมือเดมาเซียที่กำลังไอเป็นเลือดไม่หยุด ประกายแสงในแววตาของอัลเริ่มหายไป เอลฟ์ตัวน้อยกัดริมฝีปากและกำหมัดแน่น …
…
หินดำยังคงตกตะลึงในพลานุภาพของเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ ที่มาจากชิ้นส่วนกระดูกในมือของตน
“แปดวง… เวทมนตร์ระดับแปดวง…”
มันพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา สีหน้าของมันดูตื่นเต้นอย่างมาก
เดิมทีหินดำตั้งใจจะใช้เวทมนตร์สร้างความปั่นป่วน แล้วฉวยจังหวะนั้นหลบหนีไป มันไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะรุนแรงถึงขนาดนี้!
มันกวาดสายตาไปยังสภาพอันน่าสังเวชของเหล่าเอลฟ์รอบตัว โอ๊กการ์ดที่กำลังจะดับสูญ และนักบวชแห่งธรรมชาติที่บาดเจ็บจนสิ้นสติ มุมปากของมันพลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ …. ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!”
หินดำระเบิดเสียงหัวเราะดังกึกก้อง
“ดูเหมือนว่า… สาวกของธรรมชาติจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในตำนานนะ”
ความกังวลในใจของมันทุเลาลง
ถ้าเป็นแบบนี้…
สงสัยว่าต้นไม้โลกเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาไม่นาน น่าจะยังอ่อนแออย่างมาก ถึงต้องให้ไอ้พวกหูยาวหลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้
ถ้าต้นไม้โลกอ่อนแอ สาวกของมันย่อมต้องอ่อนแอ!
หึหึ… งานนี้ข้าจะได้รางวัลก้อนโตแน่นอน!
“ถ้าต้นไม้โลกฟื้นขึ้นมาแล้ว… เวทมนตร์คุ้มครองที่มันเคยใช้ไว้เมื่อพันปีก่อนย่อมเสื่อมลง เวลานี้จะเป็นโอกาสในการเพิ่มพูนอำนาจของพระบิดา!”
สีหน้าของมันทวีความคลั่งไคล้ขึ้นมาช้า ๆ
“คราวนี้ข้าคงไม่แคล้วได้รับพรจากองค์พระบิดา!”
หินดำสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ก่อนจะออกคำสั่งกับสมุนของมัน
“รีบกลับ และเอาไอ้เปี้ยกทั้งสามไปด้วย”
หินดำได้ล่วงรู้ความลับของป่าเอลฟ์แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจับเอลฟ์ประหลาดกลับไปที่เผ่าอีกต่อไป
นอกจากนี้ หินดำยังลอบสงสัยว่าเหล่าเอลฟ์จะมีวิธีสืบหาสหายของพวกมัน…
มิเช่นนั้น ตนคงไม่ถูกเปิดโปงตำแหน่งครั้งแล้วครั้งเล่า
มีเพียงเอลฟ์วัยเยาว์เหล่านี้ ที่มันจะไม่ยอมให้หลุดมือไปแน่นอน
เพราะนี่คือสินค้าชั้นดี!
เหล่าออร์คที่ได้ยินคำสั่งของหินดำ ต่างพยักหน้าให้พวกพ้องอย่างตื่นเต้น
พวกมันกรูกันเข้ามาฉุดกระชากอัลขึ้นมาจากพื้น เอลฟ์ตัวน้อยทั้งสามต่างถูกจับขึ้นพาดบ่า
“ปล่อย! ไอ้สารเลว! ปล่อยนะ!!”
อัลกรีดร้องพลางดิ้นรนสุดชีวิต
แต่เรี่ยวแรงของเอลฟ์วัยเด็ก ย่อมไม่มีทางขัดขืนออร์คฉกรรจ์ได้
เขาเงยศีรษะ มองไปทางต้นไม้โลกด้วยแววตาเศร้าโศก
“พระมารดา… ท่านมีตัวตนอยู่จริงเหรอครับ?”
“ถ้าจริง ทำไมท่านถึงปล่อยให้สาวกของท่านตายในสนามรบ…”
“ถ้าจริง ทำไมท่านไม่ปกป้องพวกเขา…”
“ทั้ง ๆ ที่ป่าแห่งนี้… คือเขตแดนของท่าน!!”
ใบหน้าของอัลเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา เขาตะโกนด้วยความเสียใจพร้อมฝืนยิ้มอย่างอดสู
อีกฝั่งของม่านน้ำตาที่เริ่มทำให้สายตาขุ่นมัว อัลเห็นสภาพของเหล่าเอลฟ์โดยรอบ อัลเห็นนักบุญแห่งธรรมชาติที่หมดสติ อัลเห็นโอ๊กการ์ดที่กำลังจะตายลง…
ความเศร้าโศกของเขาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“พระมารดาผู้ยิ่งใหญ่…”
“หากท่านได้ยินผม… โปรดช่วยสาวกของท่านด้วย…”
เมื่อกล่าวจบ อัลก็เงยศีรษะขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและแววตาที่แน่วแน่
“ผม… อัล มูนไลท์ ขอสาบานด้วยชีวิต ว่าจะมอบทั้งชีวิตและวิญญาณให้กับท่าน จะเป็นข้ารับใช้ผู้ภักดี ขอเพียงท่าน… ปกป้อง… ปกป้องพวกผม… ขอเพียงท่านสามารถช่วยพวกเรา!”
อัลพยายามยื่นมือขึ้นมา เลียนแบบการเคลื่อนไหวของปู่จากความทรงจำ ค่อย ๆ วาดสัญลักษณ์ต้นไม้ในระดับอก
“พระมารดา! ได้โปรด… โปรดแสดงปาฏิหาริย์!!”
เสียงของอัลล่องลอยไปไกลแสนไกล ท่ามกลางความเงียบสงัดของป่าใหญ่
หินดำเหลือบมองเอลฟ์ตัวน้อยที่ดิ้นรนไม่หยุดอย่างเย้ยหยัน
แต่ก่อนที่มันจะได้กล่าวอะไรออกไป เสียงทอดถอนใจเสียงหนึ่งกลับดังขึ้นมาในห้วงจิตของทุกสรรพชีวิตในบริเวณใกล้เคียง!
“…”
ในวินาทีนั้น ประกายแสงศักดิ์สิทธิ์พลันปะทุออกมาจากร่างของอัล!
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: น้องงงงงงงงง
…
อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413/ ค่ะ ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
MANGA DISCUSSION