[นิยายแปล] Game of the World Tree - ตอนที่ 93 พวกเจ้าโปรดอย่าเอาชีวิตไปทิ้ง!
เอลฟ์จำนวนนับร้อยพร้อมอาวุธครบมือ ได้มาถึงบริเวณแนวหลังของทัพออร์ค!
เอลฟ์เหล่านี้มีรูปร่างหน้าตาคละกันไป ราวกับมาจากคนละเผ่า ส่วนใหญ่สวมชุดเกราะที่ถูกสร้างมาอย่างปราณีต และจุดร่วมหนึ่งของพวกเขาคือความเป็นหนุ่มสาว
ภายในมือของเอลฟ์แต่ละตนมีอาวุธแทบทุกประเภทแตกต่างกันไป ใบหน้าอนาคตของชาติเหล่านี้ดูดุร้ายบ้าคลั่ง และกำลังจ้องเขม็งไปที่พวกออร์คราวกับเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
“แย่มากค่ะ! บวกกันไปขนาดนี้แล้วได้ไงคะ! ชั้นยังไม่ได้ยิงไฟร์บอลซักนัด!”
น้ำเสียงนี้ฟังดูดูขุ่นเคืองใจอย่างหนัก
“NPC ปิ้วไปอีกตัวแล้ว!”
เสียงนี้ฟังดูตื่นตระหนก
“เชี่ย! วิ่งเข้าไปให้ว่อง! ช่วยพวกเอลฟ์เร็ว!
ส่วนเสียงนี้เปี่ยมล้นด้วยความร้อนใจ
“อะไรอยู่บนฟ้าล่ะนั่น? มังกรเรอะ?”
เสียงนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความฉงน
“อย่างเท่! เซฟสกรีนช็อตเร็ว!”
เสียงนี้ฟังดูตื่นเต้นอย่างมาก
“สกรีนช็อตบ้านเธอดิ! ไอ้นั่นมันศัตรูนะ! รีบเข้าไปคุ้มกัน NPC เร็ว!! เปอร์กับแต้มผลงานทั้งนั้น—-!!”
ส่วนเสียงนี้… คล้ายว่าเจ้าของเสียงกำลังใจสลายจนแทบจะขาดใจตาย
“รับทราบ! ลุยลุยลุยลุย! คุ้มกัน NPC!”
“อูลา—-!”
เสียงคำรามของพวกเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
แต่เมื่อเหล่าเอลฟ์ประหลาดผู้มาช่วยเหลือเห็นเผ่าเฟลมตายจากไปตนแล้วตนเล่าจากอีกฟากของสนามรบ สีหน้าท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เหล่าผู้มาเยือนดูตื่นตระหนกและเคียดแค้นดั่งสุนัขชิวาว่าบ้าเลือด
เหล่าเอลฟ์เหล่านี้… คือบรรดาผู้เล่นที่แห่กันมาทำเควส!
ภายหลังการปะทะกับกลุ่มออร์คนักล่าเมื่อคราวที่แล้ว ผนวกกับการฟาร์มอย่างหนักของกลุ่มผู้เล่นที่มาจากการเปิดรับสมัครรอบที่ 2 ในปัจจุบันผู้เล่นที่เข้าสู่ระดับเหล็กได้มีจำนวนถึงเกือบ 400 คน
ศึกครั้งนี้จึงแทบเรียกได้ว่าเป็นการจู่โจมเต็มกำลังรบของเหล่าผู้เล่น!
เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา บรรดาผู้เล่นต่างทราบดีว่าผลตอบแทนจากภารกิจหลักนั้นมากมายมหาศาลขนาดไหน!
…
เมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกและรับรู้ถึงความกังวลจากเบื้องลึกของหัวใจในคำพูดของผู้มาเยือน ดวงตาของเอลฟ์เผ่าเฟลมก็เริ่มมีน้ำตาคลอขึ้นมา
“เอลฟ์! นั่นเอลฟ์ไม่ผิดแน่! พวกพ้องของพวกเรามาช่วยเหลือแล้ว!
เอลฟ์ชราตนหนึ่งสะอื้นไห้
ดวงตาของโฟลซิลกลับมามีแสงแห่งความหวังอีกครั้ง เธอยกไม้เท้าขึ้นและสั่งการ
“กำลังเสริมมาถึงแล้ว! จงร่วมมือกันและฝ่าออกไปให้ได้!!”
เพียงชั่วพริบตา ขวัญกำลังใจของเผ่าเฟลมก็หวนกลับมาอีกครั้ง!
อีกฝั่งหนึ่ง กลุ่มออร์คล้วนตกตะลึงจากการจู่โจมสายฟ้าแลบของเหล่าผู้เล่น
“ไอ้พวกหูยาวมันยกโขยงกันมาจากไหนอีกแล้ววะ?!”
เมื่อเห็นร่างสูงจำนวนนับร้อยพร้อมยุทโธปกรณ์สุดอลังการ นักบวชออร์คก็ตื่นตะลึงจนชาไปทั่วศีรษะ
มหาคีรีไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการลับของหินดำ และพระบัญชาจากอูลร์ก็ไม่ได้รับการป่าวประกาศ เหล่านักบวชทั่วไปและพวกออร์คจึงไม่ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงในป่าเอลฟ์…
การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของเอลฟ์นับร้อยจึงทำให้พวกมันหวาดหวั่นอย่างมาก
…ทว่าภายหลังจากการปะทะกับเอลฟ์ประหลาด เหล่าออร์คกลับต้องตะลึงงัน
เพราะพวกมันพบว่าพละกำลังของเอลฟ์เหล่านี้จัดอยู่ในระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่มีเอลฟ์ตนใดแข็งแกร่งเกินช่วงกลางของระดับเหล็กขั้นต้น แถมประสบการณ์ในการต่อสู้ก็ยังจัดอยู่ในขั้นย่ำแย่…
ด้วยการตวัดดาบเพียงฉับเดียว เอลฟ์จำนวนหลายตนก็ถูกส่งลงไปนอนกองกับพื้นราวกับผัก
“ก… กากมาก!”
นักรบออร์คต่างจ้องมองร่างของเหล่าเอลฟ์ที่ทรุดอยู่กับพื้นหลังจากการประมือเพียงครั้งเดียว
ใบหน้าที่หมองคล้ำของนักบวชออร์คกลับมามีออร่าทันที มันร้องลั่น
“ไอ้พวกนี้มันเป็นมือใหม่ทั้งฝูง! รีบจับพวกมันไว้เร็ว!”
ส่วนทางเผ่าเฟลม เมื่อเห็นกลุ่มเอลฟ์วัยหนุ่มสาวเริ่มบาดเจ็บล้มตาย สีหน้าของพวกเขาพลันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความโศกเศร้าอย่างยิ่งยวด น้ำตาของพวกเขาแทบจะไหลอาบใบหน้า
เอลฟ์ชราที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่สิบตนต่างชำเลืองมองกันและกัน ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
กระแสพลังของพวกเขาเปลี่ยนไป เอลฟ์สูงวัยเหล่านี้กำลังจะทุ่มโจมตีหมดหน้าตักอย่างไม่เกรงกลัวว่าตนจะบาดเจ็บ!
“พวกพ้องของเราใช้เลือดเนื้อและชีวิตของตัวเองสร้างโอกาสขึ้นมาให้ พวกเราต้องฝ่าออกไปให้ได้!”
พวกเขาคำรามพร้อมพุ่งตัวเข้าหาออร์คเพื่อเปิดฉากการปะทะ
และเมื่อเห็นเหล่าเอลฟ์ชราจำนวนนับสิบที่พุ่งตัวเข้าสู้อย่างไม่คิดชีวิต น้ำตาของผู้เล่นก็แทบจะไหลอาบใบหน้าเช่นกัน
“เชี่ย! อากงอาม่า!! อย่า—!!!
“ค่าประสบการณ์ของเค้าอ่า–! ค่าประสบการณ์กับแต้มผลงานทั้งนั้นเลยอ่า—! หัวใจน้อย ๆ ของเค้า! เจ็บ!! มาก!!!”
“บุกเว้ย! ไปช่วยพวกเขาเร็ว!”
“ท่านอัลอยู่ไหน! ท่านอัลอยู่ไหน? เฮลป์มี ช่วยข้าที––!!”
บรรดาผู้เล่นตะโกนโหวกเหวกพลางสู้ด้วยทุกอย่างที่พวกตนมี
นับเป็นอีกครั้งที่หัวใจของกองทัพออร์คถูกคลื่นแห่งความตื่นตะลึงถาโถมใส่
เพราะถึงแม้เหล่าเอลฟ์ที่กำลังดาหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องจะอ่อนแอขนาดไหน แต่พวกเขากลับไม่เกรงกลัวความตายแม้แต่น้อย
พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความเสียหายให้กับออร์ค เอลฟ์บางตนถึงกับยอมพลีชีพเพื่อสร้างบาดแผลให้นักรบออร์ค!
ไม่เพียงแค่นั้น เหล่าเอลฟ์ประหลาดดูราวกับจะเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดโดยสิ้นเชิง ต่อให้ลมหายใจของพวกเขากำลังจะหยุดลง เอลฟ์พวกนี้ก็จะพยายามฝากรอยเขี้ยวไว้บนร่างของเหล่าออร์ค…
ออร์คจำนวนมากพลาดท่าถูกพวกเอลฟ์คลั่งกระโจนรวบตัว เอลฟ์พวกนั้นตะโกน ‘จัดมา!’ ก่อนจะถูกยิงถล่มไปพร้อมกับออร์คด้วยเวทมนตร์จากเอลฟ์ตนอื่น…
“บ้าไปแล้ว! เอลฟ์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!”
นักบวชออร์คจ้องมองกลุ่มเอลฟ์ผู้ไม่สนความเป็นความตายของสหายรบ มันเสียขวัญจนนิ่งชะงักโดยสมบูรณ์
บรรดาเอลฟ์จากเผ่าเฟลมก็ตกอยู่ในความตื่นตะลึงไม่แพ้กัน
โฟลซิลมองตามกลุ่มเอลฟ์ที่วิ่งเข้าไปพลีชีพ เธอรู้สึกใจสลาย สะเทือนใจ และสับสน
เธอตะโกน
“ลูกหลานข้า! พวกเจ้าโปรดอย่าเอาชีวิตไปทิ้ง!”
แต่เหล่าเอลฟ์ผู้มาช่วยเหลือกลับไม่ยอมหยุด ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภายในระยะเวลาไม่ถึงสิบนาที เอลฟ์จำนวนนับโหลได้ตายจากไป
บรรดาเอลฟ์จากเผ่าเฟลมในยามนี้ ได้แต่เฝ้ามองพร้อมหยาดน้ำตาคลอเบ้า
เป็นเวลานานนับร้อย ๆ ปีที่พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึงการบาดเจ็บล้มตายของหมู่เอลฟ์จำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้!
และ… ผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดยังเป็นเพียงแค่หนุ่มสาว!
“เจ้าหนู โปรดอย่าเอาชีวิตไปทิ้งแบบนั้น!”
“ฆ่ามัน! พวกเราบุก!!!”
“ไอ้ออร์คต่ำช้า! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เผ่าเฟลมทั้งหมดพากันลุกฮืออย่างโกรธแค้น และกระโจนเข้าต่อสู่โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตน
เอลฟ์หนุ่มสาว… คืออนาคตของปวงเอลฟ์!
ทันทีที่เห็นเหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมเปิดฉากต่อสู้อย่างสุดกำลัง น้ำตาของเหล่าผู้เล่นที่มาเพื่อช่วยเหลือก็ไหลพรากออกมาอาบใบหน้า
“โว้ย—-! อากงอาม่า! ตั่วเฮียตั่วเจ้—!! อย่าพาตัวเองไปตายแบบนั้น—!!!
“ช่างพวกเราเถ้อ–! เราไม่มีวันตายคร้าบ!”
“มีคนตายอีกแล้วอ่า โฮ—- พระแม่––! ดวงใจน้อย ๆ ของหนู เจ็บ! มาก! มาก!!”
“เชือดมัน! จัดไปคนละตัว! จับมันล็อกแล้วยิงถล่มให้หมด!!”
เหล่าผู้เล่นยกระดับการต่อสู้ขึ้นไปอีกขั้น
“บ้าไปแล้ว! เอลฟ์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!”
นักบวชออร์คตกอยู่ในความตะลึงเมื่อเห็นเหล่าเอลฟ์ที่จู่ ๆ ก็บ้าเลือดกันขึ้นมาทั้งกองทัพ
และในจังหวะนั้น ร่างเล็กร่างหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากฝูงชน
เขาคือเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินและนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าที่ยังเยาว์วัยของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและโทสะ
ในมือของเขาปรากฏดาบสั้นเล่มหนึ่ง เด็กหนุ่มพุ่งตัวตวัดดาบในมือผ่านกลุ่มออร์ค ฉวัดเฉวียนไปมากลางกองกำลังของพวกมันอย่างรวดเร็ว
ออร์คทุกตัวในเส้นทางที่อัลพุ่งตัวผ่าน ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
ฝ่ายผู้เล่นเริ่มกลับมาได้เปรียบอีกครั้งในชั่วพริบตา
“บอสอัลจุติ!”
“เจ๋งมากอัล!”
เหล่าผู้เล่นพร้อมใจกันตามเก็บกวาดผลงานของอัล พวกเขารุมยำพวกออร์คที่บาดเจ็บสาหัสจนถึงแก่ความตาย
ในเวลาเพียงอึดใจเดียว จำนวนผู้เสียชีวิตฝั่งออร์คได้พุ่งทะยานขึ้น สวนทางกับขวัญกำลังใจของพวกมันที่กำลังดิ่งลง!
“ระดับเงิน! ระดับเงินโผล่มาอีกตัวแล้ว!”
เมื่อเห็นอัลที่พุ่งตัวไล่ล่าเหล่าออร์คกลางสนามรบ นักบวชออร์คก็หวาดวิตกจนสีหน้าคล้ำเขียว
เละ…
ทุกอย่างมันเละเทะหมดแล้ว!
หากการปรากฏตัวของเหล่าผู้เล่นถูกทัพของออร์คต้านรับไว้ได้อย่างสูสี การปรากฏตัวของอัลผู้มีระดับเงินก็ย่อมเป็นการทำลายสมดุลนี้ลง!
และแล้วกองกำลังออร์คก็เริ่มเพลี่ยงพล้ำ
ส่วนทางกลุ่มผู้เล่นที่ทะลวงฝ่าเข้ามาถึงแนวหน้า ก็ได้พบกับเผ่าเฟลมในที่สุด
“เจ้าหนูผู้กล้าหาญ!”
เมื่อได้พบหน้ากับกลุ่มหัวหมู่ทะลวงฟัน โฟลซิลก็เผยความตื่นเต้นออกมา
เธอกวัดแกว่งไม้เท้าในมือ พร้อมที่จะสู้ต่อ
ทว่าผู้เล่นคนหนึ่งกลับพุ่งตัวเข้ามาขวางหน้าเธอไว้ทันที
เสียง สวบ ดังขึ้นพร้อมกับเลือดอุ่น ๆ สาดกระเซ็นใส่ใบหน้าของโฟลซิล
ดาบของออร์คตัวหนึ่งเพิ่งจะเสียบทะลุกลางอกของผู้เล่นคนนั้น…
โฟลซิลพลันชะงัก
เธอรีบพุ่งเข้าไปโอบร่างของเอลฟ์วัยรุ่นที่กำลังกระอักเลือดออกมา ดวงตาของเธอฉ่ำวาวด้วยหยาดน้ำตา
“ทำไม… ทำไม…”
ผู้เล่นคนนั้นได้แต่ยิ้มกลับมาระหว่างสำรอกเลือดกองใหญ่ ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเศร้า
“ท่านเทพธิดา… กล่าวไว้… ว่าอย่าปล่อยให้พวกท่านบ… บาดเจ็บ…
พวกเราจ… จะ… ไม่ให้ท่าน… บาดเจ็บ… เด็ด… ขาด…”
“แต่…”
โฟลซิลดูขมขื่น
“ต่อให้เจ้าไม่เข้ามากันไว้… ข้าก็ปัดป้องมันได้….”
ผู้เล่น: “…”
“แค่ก แค่ก… อะเฮื้อ—!”
เขากระอักเลือดคำโตออกมาสองครั้ง ก่อนจะคอพับและสิ้นชีพไปทั้ง ๆ แบบนั้น…
สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเริ่มเกิดขึ้นทุกแห่งหน
“โถลูก! ข้าแก่ขนาดนี้แล้ว ข้าไม่ควรค่ากับการให้เจ้ามารับดาบแทน!!”
“เจ้าหนู! อดทนไว้เจ้าหนู!”
“ทำไม! ทำไมเจ้าต้องทำถึงขั้นนี้!”
“อ๊า—-! ไอ้พวกออร์คเวร! พวกเขายังหนุ่มยังสาว เป็นอนาคตของเผ่าเราแท้ ๆ”
บรรดาผู้เล่นเข้าร่วมกับกลุ่มเอลฟ์เผ่าเฟลมทีละคน แต่พวกเขากลับไม่ได้ต่อสู้กับเหล่าออร์คอีกต่อไป… ในยามนี้ผู้เล่นต่างปกป้องเหล่าเอลฟ์อย่างสุดกำลัง เพื่อไม่ให้เผ่าเฟลมได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย
…แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของตัวเองก็ตาม
เหตุการณ์นี้ทำให้บรรดาเอลฟ์จากเผ่าเฟลมรู้สึกสะเทือนใจ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่สามารถทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้าได้แม้แต่น้อย
พวกเขารู้สึกราวกับตัวเองกลายเป็นเอลฟ์เชื้อเจ้า ในยามที่ฝ่ากองทัพของเหล่าศัตรูออกมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งได้รับการคุ้มกันโดยเหล่าสมาชิกเผ่าผู้ต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตน
สถานการณ์ในสนามรบค่อย ๆ พลิกผัน พวกออร์คเริ่มหนีตายจากการไล่ล่าของอัลและเหล่าผู้เล่นบางกลุ่ม…
ในขณะเดียวกัน ไมเรล มังกรดำบนท้องฟ้า ก็ยังไม่สามารถทำลายกรงแสงออกมาได้แม้ผ่านมาครู่ใหญ่
มันทำได้เพียงอาละวาดอย่างต่อเนื่องอยู่ในกรงแสง เฝ้ามองอัลและผู้เล่นไล่ล่ากลุ่มออร์ค พลางคำรามอย่างเกรี้ยวกราด
“ไอ้เผ่าเจ้าเล่ห์แสนชั่วร้าย จะป่าเถื่อนอะไรขนาดนี้! Ruaa——! ข้าจะไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!!”
สำหรับเอลฟ์ที่ตายด้วยน้ำมือของออร์ค มันเลือกที่จะมองข้ามไป
เพราะในมุมมองของไมเรล พวกชั่วร้ายควรได้รับโทษประหาร…
หลังจากที่ได้ยินการคำรามจากมังกรดำ เหล่าผู้เล่นก็ได้แต่ตะลึงงัน
“เผ่าเจ้าเล่ห์แสนชั่วร้าย?”
“…มันหมายถึงพวกเราเรอะ?”
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: ใช่ค่ะ… เอลฟ์ตาแดงที่ไล่ล่าทุกชีวิตในป่า = พวกชั่วร้าย ไม่ผิดแน่นอน
…
อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _