ผู้กุมเศรษฐกิจแห่งหมู่บ้านต้นกำเนิด
ข้ากำลังวิเคราะห์ถึงปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดกับหมู่บ้านลูเกรซ
ซึ่งก็คือ ภายในหมู่บ้านแห่งนี้แทบจะไม่มีการใช้เงินตรากันเลย เหตุผลหลักๆคงเป็นเพราะมันไม่มีความจำเป็น ข้าเองก็ไม่อยากเทียบมันกับระบอบสังคมนิยม… แต่ชาวบ้านสามารถรับอาหาร 3 มื้อได้โดยตรงที่ ‘โรงอาหาร’ ตามกำหนด เสื้อผ้ากับข้าวของที่จำเป็นก็มีธอร์นเป็นผู้จัดหามาให้
อุปกรณ์กับเครื่องเรือนก็เป็นของที่ชาวบ้านช่วยกันทำขึ้นมาเองจากวัสดุที่หาได้จากรอบๆหมู่บ้านและแจกจ่ายให้กันอย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน จึงไม่มีใครเข้าใจคุณค่าของเงินตรานอกจากกลุ่มของของธอร์นที่ต้องค้าขายกับบุคคลภายนอก และหมู่บ้านก็พัฒนาในลักษณะนี้มาโดยตลอด
ข้ารู้มาว่ามันเป็นสามัญสำนึกจากบ้านเกิดของพวกเขา ในโลกปีศาจอันแร้นแค้น ประชากรทุกคนต้องทำทุกอย่างที่ทำได้และแบ่งปันทุกสิ่งที่หามาได้ให้กันและกันเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์
ระบบเดียวกันนี้กำลังถูกใช้เป็นเรื่องปรกติภายในหมู่บ้าน แม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการในปัจจัยก็จะสูงขึ้น การที่ระบบนี้ยังดำเนินต่อไปได้ในปัจจุบันก็เพราะเผ่าปีศาจทุกคนมีจิตสำนึกเพื่อชุมชน แต่เมื่อหมู่บ้านเติบโตขึ้นก็จะมีคนนอกอพยพเข้ามามากขึ้น ซึ่งก็มีโอกาสเจอกับคนเห็นแก่ตัวที่คิดใช้ระบบนี้เพื่อเอาเปรียบคนอื่น และไม่มีทางที่จะกำจัดบุคคลเช่นนั้นออกไปได้หมด
ข้ามีแผนให้กิลด์นักผจญภัยมาเปิดสาขาที่นี่ เพราะฉะนั้นคงถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขาให้รู้จักการแลกเปลี่ยนด้วยเงินตรา
“ดังนั้น ข้าจะสร้างสกุลเงินใหม่สำหรับหมู่บ้านลูเกรซโดยเฉพาะ และจะก่อตั้งธนาคารขึ้นมาภายในหมู่บ้าน”
“เอ่อ…”
เมื่อพูดออกไป ธอร์นและพรรคพวกของเขาก็แสดงท่าทางเหมือนอยากจะบอกว่า ‘มีเหตุผลอะไร ในเมื่อประเทศนี้ก็มีสกุลเงินอยู่แล้ว’ แต่ข้าก็พูดต่อไป
“เงินของหมู่บ้านที่ข้าคิดไว้จะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของเงินเหรียญที่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตสูง แต่จะใช้กระดาษที่เป็นหนึ่งในผลผลิตของหมู่บ้านกับหมึกชนิดพิเศษพิมพ์ลวดลายลงไป พวกเราจะให้สิ่งนี้แทนเงินเหรียญ”
“นี่มัน… มีส่วนผสมของผงอัญมณีเวทมนตร์?”
“ถูกต้อง ข้าผสมเศษอัญมณีเวทมนตร์ของข้าลงไปเพื่อป้องกันการปลอมแปลง”
อัญมณีเวทมนตร์เป็นของที่มีราคาสูงเพราะมันต้องอาศัยทักษะที่สูงระดับหนึ่งในการแปรรูป แต่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้าที่แปรรูปพวกมันออกมาได้ง่ายๆ
นอกจากนั้น การผลิตเงินธนบัตรในครั้งนี้จะใช้อัญมณีเวทมนตร์ที่หมดสภาพแล้วจากอุปกรณ์เวทมนตร์นำกลับมาใช้ใหม่ ต้นทุนในการผลิตจึงถูกลดลงให้ต่ำที่สุด
ผู้ที่มีเวทมนตร์ทุกคนจะรู้ในทันทีว่าหมึกที่ใช้พิมพ์มีผงอัญมณีเวทมนตร์เป็นส่วนผสม และผู้ที่มีสัมผัสทางด้านเวทมนตร์สูงจะสามารถบอกได้ว่าอัญมณีเวทมนตร์นี้ผลิตโดยใคร มันจึงผ่านเงื่อนไขสำหรับใช้เป็นเงินตรา
เท่านี้ก็พอที่จะให้ใช้จ่ายกันภายในหมู่บ้านได้แล้ว
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ผิดข้อกำหนดทางกฎหมาย การผลิตเงินปลอมนั้นเป็นความผิดก็จริง แต่ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามใช้เงินสกุลอื่น
“หากใช้เงินในการซื้อสิ่งของก็จะทำให้ความลังเลในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นลดลงใช่ไหม?…ประชากรในหมู่บ้านนี้ต่างก็มีเสื้อผ้า บ้าน และได้รับอาหารอย่างพอเพียง แต่ข้าก็อยากให้พวกเขาได้รับการเติมเต็มในชีวิตมากกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่นบางคนต้องการบางสิ่งเพื่อใช้ในงานอดิเรก หรือคนที่ต้องการดื่มเหล้าหลังเลิกงาน เข้าใจใช่ไหม?”
“แค่ให้สิ่งของพื้นฐานกับพวกเขาคงยังไม่เพียงพอจริงๆ ทราบแล้วครับ …ท่านเรมิเลียกำลังคิดถึงอนาคตของคนในหมู่บ้าน”
“การได้เฝ้ามองเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตไปพร้อมกับหมู่บ้านก็น่าสนุก”
“ฮ่าฮ่า นั่นก็จริงครับ”
ข้าเตรียมอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยชั้นต่ำ แลกกับการให้พวกเขาสร้างผลผลิตส่งออกขายไปยังดินแดนอื่น มันอาจเป็นวิธีทำกำไรที่คุ้มค่าที่สุดแต่ก็ยังไม่พอ และเผ่าปีศาจที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาจนถึงตอนนี้ต่างก็รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับข้า จึงไม่มีการเรียกร้องสิ่งใดเพิ่มเติม ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดี
ชาวลูเกรซต้องมีวัฒนธรรมโดเด่น สุขภาพแข็งแรง และใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย จนประชาชนในดินแดนอื่นต้องอิจฉา เพราะสุดท้ายแล้วมันต้องเป็นให้ได้เทียบเท่ากับดินแดนที่เอมิต้องการให้มันเป็น
“แต่ว่า ทำไมท่านเรมิเลียถึงต้องใช้สกุลเงินใหม่?”
“หากใช้สกุลเงินของประเทศ ก็มีแต่ต้องหาเม็ดเงินจากดินแดนอื่นเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นสกุลเงินใหม่ก็จะสามารถผลิตและกำหนดค่าเงินได้เอง”
“…อย่างนี้นี่เอง รายได้จากภายนอกก็ใช้สำหรับซื้อสินค้าจากภายนอก”
ในตอนนี้หมู่บ้านสามารถสร้างสินค้าได้หลากหลายชนิดแล้วก็จริง แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ยังจำเป็นต้องหาซื้อจากดินแดนอื่น รวมถึงวัสดุก่อสร้างที่ต้องใช้ในปริมาณมากเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายได้จากสินค้าส่งออกของลูเกรซนั้น ตามปรกติแล้วจะถูกใช้เพื่อพัฒนาหมู่บ้านแทบทั้งหมด
เงินหมุนเวียนที่จะให้ชาวบ้านภายในหมู่บ้านได้ใช้ก็จะเป็นเงินชนิดใหม่ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้ภายในหมู่บ้านโดยเฉพาะ กำหนดให้เป็นแบบนี้จะสะดวกกว่า
เช่นเดียวกับทองคำที่เป็นของหายากและไม่เหมาะที่จะนำมาใช้จ่ายทั่วไป ดังนั้น ถ้าข้ากำหนดคุณค่าของมันโดยการประกาศออกไปว่า ‘ธนบัตรเหล่านี้สามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินของประเทศนี้ได้’ มันก็จะได้รับความไว้วางใจให้เป็นเงินประจำหมู่บ้านในที่สุด
ถ้าควบคุมสมดุลของเม็ดเงินหมุนเวียนในธนาคารให้ดี ก็จะควบคุมค่าเงินได้
“ข้ามีรายชื่อชาวบ้านที่มีความสามารถในการคำนวณเลข… ข้าคิดจะให้พวกเขาเป็นลูกจ้างของ ‘ธนาคาร’ แห่งใหม่ที่กำลังจะก่อตั้ง”
“…ขอบคุณครับ…ที่อุตส่าห์คิดถึงพวกเขา”
“คนที่มีความสามารถในการคำนวณนั้นมีค่า ยิ่งเป็นอดีตพ่อค้าก็ยิ่งมีความเหมาะสม”
เผ่าปีศาจที่มีความสามารถระดับเดียวกับธอร์นยังมีอีกมากมาย แต่ในตอนนี้ในหมู่บ้านยังรองรับพวกเขาไม่ได้ทั้งหมดเพราะไม่มีงานที่เหมาะสมกับความสามารถของพวกเขา หากแผนการนี้ทำให้เศรษฐกิจภายในหมู่บ้านเฟื่องฟูก็จะมีการประกอบธุรกิจกันมากขึ้น เป็นการเปิดช่องทางให้เผ่าปีศาจเหล่านี้มีโอกาสแสดงพรสวรรค์ออกมาได้อย่างเต็มที่
“…พอคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้วก็เกิดความรู้สึกคล้ายกับความฝันที่ได้เห็นทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข”
คุณค่าของสกุลเงินใหม่จะเป็นตัวชี้วัดศักยภาพทางเศรษฐกิจ สิ่งนี้จะทำให้รายได้หมุนเวียนภายในหมู่บ้านเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา และหมู่บ้านที่มีความเจริญสูงก็จะดึงดูดเผ่าปีศาจอีกมากมายให้อพยพเข้ามามากยิ่งขึ้น
ระยะนี้เผ่าปีศาจไม่ได้มีแค่กลุ่มที่อพยพมาจากเมืองอื่นเท่านั้น แต่ยังมีพวกที่อาศัยอยู่ตามถิ่นทุรกันดารหรือพื้นที่ห่างไกล พรรคพวกของธอร์นได้กระจายออกไปค้นหาและรวบรวมคนเหล่านั้นจากมาจากทั่วทุกพื้นที่
เมื่อได้เห็นเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ได้รับการช่วยเหลือก็ทำให้ธอร์นแสดงความยินดีออกมาราวกับเป็นเรื่องของตัวเขาเอง
“อย่าเพิ่งพอใจกับสภาพความเป็นอยู่ในตอนนี้จะดีกว่า ลูเกรซยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล จนกว่ามันจะกลายเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ”
“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นพวกผมคงต้องทำงานให้หนักขึ้นแล้วสิครับ”
ธอร์นพูดอย่างร่าเริงด้วยความคาดหวัง ข้าทำเป็นไม่รับรู้เรื่องนั้นรวมถึงดวงตาที่เริ่มชื้นของเขา
ช่วงเวลาเช่นนี้ เอมิต้องอยากปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักพักแน่
MANGA DISCUSSION