[นิยายแปล] Akuyaku Reijou no Naka no Hito ~Danzai sareta Tenseisha no Tame Usotsuki Heroine ni Fukushuu Itashimasu~ - ตอนที่ 32 นักบุญในหน้าที่
นักบุญในหน้าที่
“ขอบคุณท่านเรมิเลียจริงๆ…! หมู่บ้านนี้อยู่รอดต่อไปได้ก็เพราะท่านยอมรับคำร้องในครั้งนี้ แม้พวกเราไม่มีสิ่งตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อให้! อย่างน้อยก็ขอให้ท่านรับสิ่งนี้เอาไว้ด้วย…”
“พวกท่านอย่าได้ลำบากเลย! ข้าเพียงแค่ผ่านมาหาวัตถุดิบที่ต้องการ…ต้องขอบคุณพวกท่านมากกว่า!”
ข้าแสดงความเกรงใจออกมาขณะปฏิเสธของรางวัลที่ถูกส่งให้
สำหรับหมู่บ้านบ้านนอกจนๆแห่งนี้ เอมิจะต้องเต็มใจมาช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ดังนั้นข้าจึงทำในสิ่งเดียวกัน โดยแค่กล่าวขอบคุณสำหรับที่พักที่พวกเขาจัดเตรียมให้เท่านั้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นภารกิจเสริมใน ‘เกม’ จากความทรงจำของเอมิ แทนที่จะรับของตอบแทนที่เป็นเพียงจี้ห้องคอเก่าๆ ของดูต่างหน้าภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน ข้าควรทำเพื่อกระจายชื่อเสียงของข้าดีกว่า
เป้าหมายของข้าคือแร่ที่อยู่ในเหมือง วัตถุดิบสำหรับยกระดับเตาหลอมที่ใช้ในการแปรธาตุ และใกล้ๆกันก็จะมีหมู่บ้านที่ไร้รับความเสียหายจากอสูรที่ทำรังอยู่ตามถ้ำในภูเขา จึงกลายเป็นภารกิจปราบปรามอสูรเพื่อช่วยชาวบ้านให้เหล่าตัวละครหลักที่เดินทางผ่านมารับทำ ตามเนื้อเรื่องของ ‘เกม’ ในโลกของเอมิ
รางวัลที่ถูกเสนอตอนรับภารกิจจะต่ำมาก แต่ถ้ารับคำร้องและจัดการให้สำเร็จ ในตอนที่กลับไปรับเงินรางวัลจะถูกบอกว่า ‘ขอมอบสิ่งนี้ให้นอกเหนือจากเงินรางวัล’ มันเป็นเพียงจี้ห้องคอเก่าๆดูไม่มีราคา แต่ถ้าอ่านในรายระเอียดก็จะรู้ได้ว่าอัญมณีที่ประดับอยู่เป็นของหายาก เอาไว้ขายในร้านค้าได้ในราคาที่สูงมาก
มันไม่ใช่ภารกิจที่จำเป็นต่อเนื้อเรื่องหลัก การเก็บแร่ก็สามารถเข้าไปทำได้โดยไม่ต้องผ่านหมู่บ้าน แต่ข้ารับคำขอเพราะต้องการหาทุนสำหรับหมู่บ้านในเขตปกครองของข้า เพื่อให้ประชากรผ่านฤดูหนาวไปได้อย่างราบรื่น แต่แผนของข้าก็เกิดความคลาดเคลื่อน
ในเกมไม่ได้บอกถึงระเอียดเกี่ยวกับของรางวัลพิเศษชิ้นนี้ ข้าไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นของดูต่างหน้าภรรยาสำหรับหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าจึงรับมันเอาไว้ไม่ได้ เพราะข้าเชื่อว่าถ้าเอมิผู้เมตตารู้เรื่องนี้ก็ต้องไม่ยอมรับมันเช่นเดียวกันอย่างแน่นอน
ข้าไม่ใช่คนดีตั้งแต่พื้นฐานเหมือนกับเอมิ จึงหวังว่าเขาจะคิด ‘นักผจญภัยเรมิเลียคนนี้ดูเหมือนมีคุณธรรม ควรหาทางตอบแทนด้วยสิ่งอื่น’ แต่ ‘เรมิเลียของเอมิ’ ที่แท้จริง จะไม่มีความคิดเช่นนั้น ข้าจึงไม่ทำอะไรเพิ่มเติม
ดังนั้น ข้าจะไม่รับของสำคัญของเขา และไม่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณชัดเจนเกินไป จึงเรียกร้องไปเพียง ‘หากข้าผ่านมาที่หมู่บ้านนี้อีกครั้ง ก็ขอให้พวกท่านต้อนรับเหมือนที่ผ่านมา’
ข้ามั่นใจว่าคาดเดาคำพูดและการกระทำของเอมิได้อย่างถูกต้อง จึงบอกไปว่า ‘ข้าเก็บแร่ที่ต้องการได้ตามเป้าหมายเดิม อีกทั้งชิ้นส่วนอสูรก็เป็นทรัพยากรอันมีค่า ข้าไม่ได้ขาดทุนตรงไหนเลย’ และแสดงรอยยิ้มอันอ่อนโยนให้พวกเขาได้เห็น
จริงๆแล้วข้าก็ไม่คิดจะกลับมาที่นี่อีก สถานที่นี้ไม่มีค่าอะไรนอกจากแร่ที่เก็บมาแล้ว
ในตอนที่รับภารกิจก็ได้รับการรับรองอย่างดี ถ้าชำแหละอสูรก็จะได้วัตถุดิบ ชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการก็นำไปขาย แค่นี้ก็ทำกำไรได้แล้ว
แต่ข้าก็ยังรู้สึกเสียดายกำไรที่ควรจะได้เพิ่มเติมจากส่วนนั้นอีก แต่ก็ต้องปล่อยมันเอาไว้และคิดหาวิธีอื่นแทน
อาจจะต้องเร่งแผนการสักเล็กน้อย ข้าคิดว่าควรบุกทำลายองค์กรใต้ดินที่ตัวละครเด็กอาชีพนักฆ่าคนหนึ่งทำงานให้ หากข้าทำสำเร็จ เงินทั้งหมดที่ระดับหัวหน้าองค์กรรวบรวมมาได้ก็จะตกเป็นของข้า ซึ่งมันจะกลายเป็นเงินทุนมหาศาลให้กับหมู่บ้านที่ข้าปกครอง
ไม่ได้ ไม่ได้… มันยังเร็วเกินไป ต้องรอให้ถึงปลายฤดูหนาว จนกว่าน้องสาวของเด็กคนนั้นที่ถูกองค์กรใช้เป็นตัวประกันป่วยหนัก ข้าต้องรอให้ถึงเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะต้องไม่ใจร้อนให้แผนของข้าต้องผิดเพี้ยนไปมากกว่านี้
อันที่จริง องค์กรได้วางยาพิษเพื่อให้นักฆ่าฝีมือดีทำตามคำสั่ง ให้ยาแก้พิษโดยอ้างว่า ‘เป็นยาสำหรับโรคนี้ มีแต่คนขององค์กรเท่านั้นที่ผลิตมันขึ้นมาได้’
เพราะต้องดูแลน้องสาว ทำให้เด็กคนนั้นเริ่มรับงานใต้ดิน ออกจากบ้านกลางดึกทุกคืนโดยบอกกับน้องสาวว่าทำงานเป็นผู้ช่วยในร้านเหล้า
ตัวเขาเองอาจจะยังไม่รู้แต่พวกเขามีสายเลือดปีศาจ แม้จะเบาบางแต่ก็แสดงผลออกมาได้ นั่นคือเหตุผลที่เขามีพลังเวทอยู่ในระดับกลางสำหรับมนุษย์ พละกำลังสูงกว่าคนทั่วไป และมองเป็นในที่มืดได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับข้า
ข้าจะปรากฏตัวออกมาเหลือพวกเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน หลังจากนั้นข้าจะเชิญพวกเขาไปเป็นผู้อยู่อาศัยที่หมู่บ้าน พวกเขาอาจช่วยกระจายข่าวว่า ‘เรมิเลีย’ ผู้เมตตา ทำอะไรเพื่อพวกเขาบ้างและพวกเขารู้สึกซาบซึ้งมากแค่ไหน และพวกเขาจะกลายเป็นทรัพยากรอันมีค่าของหมู่บ้านในที่สุด
เรื่องรายระเอียดขั้นตอนต่างๆเอาไว้คิดเมื่อถึงเวลา ตอนนี้ข้าต้องจัดการเรื่องเงินทุนของหมู่บ้านให้เรียบร้อยก่อน ไม้ฟืนจำนวนมากเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฤดูหนาวเพื่อไม่ให้ชาวบ้านหนาวตาย แต่บริเวณรอบหมู่บ้านไม่มีป่าที่สามารถตัดไม้มาทำฟืนได้ เครื่องสวมใส่สำหรับกันหนาวก็มีไม่เพียงพอ ต้องหาซื้อทั้งไม้ฟืนและเครื่องสวมใส่จากภายนอก ทั้งหมดจำเป็นต้องใช้เงินซึ่งตอนนี้ก็ยังมีไม่พอ… ยังมีทางเลือกรวบรวมชาวบ้านมาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เจ้าของดินแดนเป็นการชั่วคราวในฤดูหนาว แต่ข้าไม่อยากอยู่ใต้ชายคาเดียวกับคนพวกนั้นนานหลายเดือน ถึงอย่างนั้นก็ปล่อยให้มีใครตายไม่ได้
ถ้าเป็นเอมิ จะต้องคิดช่วยเหลือทุกคนเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้น เธอจะไม่อ้างว่าปัญหาทางการเงินเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่เธอจะคิดหาวิธี ‘ทำให้ทุกคนอบอุ่นตลอดฤดูหนาวโดยไม่พึ่งพาเงินหรือฟืน’ ข้าจึงต้องคิดในมุมมองเดียวกัน
ถ้าให้อยู่อย่างแออัดก็อาจทำให้รู้สึกอุ่นขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็เสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งก็ต้องคำนวณถึงปริมาณยารักษาที่จะเก็บสำรองไว้ วกกลับมาเป็นเรื่องปัจจัยไม่เพียงพออีกจนได้… น่ารำคาญจริงๆ
น่าจะมีวิธีให้ความร้อนโดยไม่ใช้ฟืน… อาจจะมีเรื่องพวกนี้อยู่ในความรู้ของเอมิ? บางสิ่งที่นำมาดัดแปลงให้ใช้งานเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ชนิดใหม่ ถ้าไปได้สวยก็สามารถผลิตขายเป็นเงินได้อีก อุปกรณ์เวทมนตร์ทำความร้อนนั้นมีอยู่แล้ว หากข้าจะทำก็ต้องเป็นอุปกรณ์ให้ความร้อนโดยไม่ปล่อยเปลวไฟ ไม่มีความเสี่ยงต่อเหตุเพลิงไหม้ ต่อให้ขายแพงสักแค่ไหนก็มีคนต้องการซื้อแน่
ข้าจะไม่ยอมให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว ไม่ให้เกิดเป็นข่าวอันน่าเศร้าภายใต้ความรับผิดชอบของข้า ไม่ว่าจะเป็นความตายเพราะอากาศหนาวหรือจากอาการเจ็บป่วย เอมิจะไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น ข้าต้องคิดหาวิธีที่ดีที่สุดและลงมือทำโดยไม่ให้มีความผิดพลาด
สำหรับตอนนี้ มาออกแบบอุปกรณ์เวทมนตร์ชนิดใหม่กันดีกว่า เพื่อให้ชาวบ้านอยู่รอดตลอดฤดูหนาว อาจจะต้องสละเวลานอนสักนิดแต่ข้าจะคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า ‘เครื่องปรับอากาศ’ ขึ้นมาให้ได้ และถ้าผลิตออกมาได้จริงก็อยากให้เป็นของที่ใช้เพิ่มความเย็นในฤดูร้อนได้ด้วย เพราะคนในโลกของเอมินิยมใช้เพื่อการนั้นมากกว่า
แม้หมู่บ้านนี้จะยากจนแต่พวกเขาก็วางแผนจะจัดงานเลี้ยงอาหารเย็นให้เพื่อแสดงความขอบคุณที่ข้าช่วยปราบอสูรตามคำร้อง เมื่อหลานของหัวหน้าหมู่บ้านเข้ามาเชิญ ข้าก็คุกเข่าลงให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกันและบอกไปว่า ‘รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ขอให้ข้าได้ร่วมโต๊ะอาหารมื้อนี้ด้วยเถิด’ พร้อมกับยิ้มออกมาให้ดูงดงามที่สุด