ผู้หลุดพ้นชะตากรรม
“ฉัน… พีน่า บลัน ค่ะ… ยินดีที่ได้รู้จัก ถึงมีเรื่องที่ไม่รู้อีกมาก อาจทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็จะพยายามเต็มที่ค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ”
เมื่อได้ยินคำพูดทักทายที่ดูธรรมดาเช่นนี้ก็ทำให้ความกังวลของฉันจางหาย
เคยคิดสงสัยว่าถ้าวิลหลงรักนางเอกแล้วฉันจะรับมือยังไงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บังคับตามเนื้อเรื่องในเกม
พอได้รู้จัก ‘พีน่า’ ตัวจริงก็รู้ได้เลยว่าฉันได้คิดเรื่องเสียมารยาทกับเธอไปซะแล้ว คิดๆดูแล้วกรณีของวิลกับคนอื่นๆก็มีบุคลิกต่างออกไปจากในเกมด้วยเหมือนกัน
น่าอายที่เคยระแวงไปแบบนั้น แต่ก็ขอโทษออกไปไม่ได้ งั้นเดี๋ยวจะชดเชยให้ที่หลังก็แล้วกัน
วิลกับคนอื่นๆแสดงความเป็นห่วงหญิงสาวแห่งดวงดาวที่ถูกรับตัวเข้ามาอยู่ในสังคมชนชั้นสูงอย่างกะทันหัน จึงได้ขอให้ฉันเป็นตัวแทนช่วยในเรื่องที่พวกเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวเองไม่ได้ เพราะผู้หญิงก็มีเรื่องของผู้หญิงนี่นะ
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา… แต่การให้เป็นแค่ตัวแทนในบางโอกาสอาจไม่เพียงพอ”
“หมายความว่ายังไง?”
“เพราะการดูแลคุณพีน่าจะรวมถึงชีวิตประจำวันของนาง การให้เพศตรงข้ามทำเรื่องเช่นนั้นอาจดูไม่เหมาะ ซึ่ง ‘ตัวข้า’ เป็นคู่หมั่นของฝ่าบาท มีหน้าที่แบ่งเบาภาระของราชวงศ์เช่นกัน”
“ถูกข้องเจ้า ถ้าอย่างนั้น คนที่รับผิดชอบคือข้าแต่ผู้ดูแลจะเป็นเรมิเลีย อาจมีเรื่องให้ต้องทำอีกมากมาย แต่ข้าขอฝากไว้กับเจ้าได้ใช่ไหม?”
“แน่นอน ข้ายินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
เท่านี้ก็ถอดหน้ากากขุนนางใหญ่ที่แสดงอยู่นี่ออกไปได้สักที ฉันยิ้มอย่างร่าเริง คุณพีน่าที่กำลังมองฉันกับวิลเห็นแล้วก็ทำหน้างงๆ
“ฉันคือเรมิเลีย… เรมิเลีย โรส กราปเนอร์ ถ้ารู้สึกว่าเรียกยากก็เรียกแค่เรมิเลียก็ได้นะ คุณพีน่า”
“อะ เอ่อ… ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ดูเหมือนเธอจะตกใจที่คำพูดและการกระทำของฉันเปลี่ยนไป วิลเห็นแล้วก็ยิ้มให้อย่างเหนื่อยๆ
“ตัวจริงของเรมีก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ คุณพีน่าไม่ต้องใส่ใจหรอก”
“นั่นสินะ ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ไม่เป็นไรหรอก… แต่กับคนทั่วไปก็ต้อใช้การวางตัวอีกอย่าง”
ฉันเข้าไปจับมือกับคุณพีน่าที่ยังดูสับสนพร้อมกับอธิบายให้ฟัง
“วางตัวอีกอย่าง…?”
“คุณพีน่าเอง ตอนที่พูดกับผู้ใหญ่กับตอนที่พูดกับเด็กก็ใช้คำพูดไม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ? กรณีของฉันก็ประมาณนั้น ปรกติแล้วจะทำตัวแบบนี้กับเพื่อนสมัยเด็กหรือคนที่สนิทด้วยอย่างวิลนี่แหละ”
ฉันตอบไปแบบนั้น เธอก็กุมมือฉันกลับและพยักหน้าตอบรับ เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ ขนาดพยักหน้าอย่างอึ้งๆก็ยังน่ารัก
“เพราะฉะนั้น แม้ว่าต่อจากนี้คุณพีน่าจะถูกสั่งสอนเรื่องมารยาท แต่ก็ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอกนะ เป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิมนั่นแหละ ถ้าไม่อยู่ต่อหน้าสังคมก็ทำตัวตามสบายได้เต็มที่แบบฉันนี่ไง ตอนนี้เธออาจกังวลที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นหญิงสาวแห่งดวงดาว เพราะคุณพีน่ามีพลังที่พิเศษ ทางประเทศจึงต้องปกป้องให้ปลอดภัยและรับเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้หลีกเลี่ยงการเปิดตัวสู่สังคมชนชั้นสูงไม่ได้…”
อันที่จริง ‘โหมดขุนนาง’ ของฉันคือการเลียนแบบให้เหมือนเรมิเลียตันตัวจริงตามที่เห็นในเกม ต้องแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความสง่างาม สูงส่ง เยือกเย็น ถึงบางครั้งฉันจะหลุดบ้างก็เถอะ แต่ก็คิดว่าโดยรวมแล้วดูสมเป็น ‘คุณหนูผู้สูงศักดิ์’ และแน่นอนว่าไม่คิดจะเลียนแบบไปถึงนิสัยทางด้าน ‘จอมวายร้าย’ หรอกนะ
ฉันแน่ใจว่าถ้าเรมิเลียตันได้รับความรักจากคนรอบข้าง เธอก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่วิเศษแบบนี้ได้แน่ ฉันใช้บทบาทนี้เบื้องหน้าสาธารณะ แต่ตัวฉันภายในยังเป็นคนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ไม่รู้ว่าการบอกความจริงทั้งหมดให้เธอรู้จะดีไหม ถ้าดูจากมุมมองของคุณพีน่าก็จะเหมือนถูกทางประเทศกักตัวเพราะต้องการครอบครองพลังของหญิงสาวแห่งดวงดาว แต่อย่างน้อย เรื่องที่ต้องการปกป้องให้ปลอดภัยก็เป็นความจริง
“…เข้าใจแล้วค่ะ ฉันเองยังไม่รู้จักพลังนี้ดี ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว จึงอยากเรียนรู้วิธีควบคุมมันอย่างถูกต้อง”
“! ขอบคุณนะ… ฉันรู้ว่ามันยากที่ต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ ดังนั้นถ้ามีปัญหาอะไร ฉันจะช่วยเธอเอง”
เมื่อฉันพูดถึงถึงตอนนี้ เธอก็เริ่มหายเกร็งและทำตัวเป็นธรรมชาติมากขึ้น
อุก เป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้ ตามรายงานที่ได้รับจากทางวังหลวง บอกว่าสถานการณ์ภายในครอบครัวเก่าของหญิงสาวแห่งดวงดาวค่อนข้างเลวร้าย เรื่องนี้ก็มีบรรยายเอาไว้ในเกม ถึงจะเป็นปรกติที่ตัวละครหลักในเกมหรือมังงะจะเติบโตมาอย่างยากลำบาก แต่พอได้มาเห็นของจริงแล้วก็น่าหดหู่อยู่เหมือนกัน
ฉันไม่อาจเป็นครอบครัวให้เธอได้ แต่ก็อยากให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกันในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
หลังจากนั้น พวกเราก็เป็นเพื่อนสนิทกัน อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาจนเผลอทำให้วิลอิจฉา ‘คู่หมั้นของเจ้าคือข้าคนนี้ไม่ใช่หรือ?’ เวลาวิลงอนก็น่ารักดีเหมือนกัน พีน่าจึงเป็นห่วงและให้พวกเราได้ใช้เวลาด้วยกันสองต่อสองหลังจากที่ไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนี้มานาน ใบหน้าของฉันก็ร้อนผ่าวจนรู้สึกอาย
พีน่าเป็นเด็กดี น่ารัก มีความกระตือรือร้น แค่นี่ก็เดาได้เลยว่าเธอจะต้องเป็นที่นิยมแน่ และเธอก็เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนโดยเฉพาะพวกหนุ่มๆ
แต่ตัวเธอเองยังเป็นเด็กที่ขาดความมั่นใจและไม่ประสีประสาในเรื่องความรัก คิดว่า ‘พวกเขามองแค่ตำแหน่งหญิงสาวแห่งดวงดาวเท่านั้น’ แน่นอนว่ามีหลายคนที่พยายามตีสนิทเพราะมีเจตนาแอบแฝง แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีคนที่หลงรักในตัวของพีน่าเองอยู่ด้วย! พอพูดออกไป วิลก็ถามฉันว่า ‘ดูออกด้วยเหรอ?’ รู้สึกเหมือนโดนล้ออยู่เลย
ในตอนที่พีน่าตระหนักถึงภาระหน้าที่ของ ‘หญิงสาวแห่งดวงดาว’ มากกว่าใคร มันทำให้เธอรู้สึกหนักใจ จึงได้พยายามรักษาระห่างจากคนอื่น จึงทำให้ยิ่งห่างไกลจากเรื่องรักๆใคร่ๆ
เพราะหญิงสาวแห่งดวงดาวได้รับความคุ้มครองจากประเทศนี้โดยตรง ทำให้ทุกคนพยายามผูกมิตรกับเธอ และแน่นอนว่ามีพวกขี้อิจฉาคอยกลั่นแกล้งโผล่มาไม่หยุด แต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว เพราะมีอัศวินหญิงที่ถูกส่งมาคุ้มกัน กับฉันที่ปกป้องเธอในตอนที่ออกงานสังคม…
แน่นอนว่าพีน่าเข้ากับนักเรียนแทบทั้งหมดในโรงเรียนนี้ได้ดี แต่คนที่เธอสนิทด้วยจริงๆจะมีแค่ฉันกับมารี
มารีในเกมจะโผล่มาตั้งแต่ช่วงแรก เป็นตัวละครที่สอนระบบเกมให้กับผู้เล่น และแนะนำวิธีเพิ่มค่าความชอบของตัวละครที่จีบได้ ตัวจริงของเธอเป็นบุตรสาวของขุนนางตระกูลที่รับตัวพีน่ามาดูแลก่อนส่งมาที่เมืองหลวง แต่มิตรภาพของพวกเราในตอนนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเองโดยไม่ได้อ้างอิงจากเกม
แม้จะมีเหตุการณ์เพิ่มค่าความชอบเหมือนที่ฉันเคยเห็นในเกมเกิดขึ้นเป็นระยะ แต่พีน่าก็หลีกเลี่ยงทุกธงได้อย่างหมดจด และในตอนที่ฉันถามเธอเรื่องเกี่ยวกับความรัก เธอก็ตอบว่า ‘ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนั้น …อยู่กับเรมี่แบบนี้ไปเรื่อยๆสนุกกว่า’ เล่นเอาดีใจจนลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้คุยเรื่องอะไรกันอยู่
นั่นสินะ ถ้าวันหนึ่งพีน่าพาแฟนมาแนะนำ ฉันคงคิดในใจว่า ‘ไอ้หมอนี่กำลังแย่งเพื่อนของฉันไป’ …ถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงน่าตกใจอยู่เหมือนกัน
ทางด้านเนื้อเรื่อง ฉันได้ใช้ความรู้จากในเกมค้นหาช่องทางติดต่อโลกปีศาจได้สำเร็จก่อนกำหนด ทำให้สานสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ก่อนที่จะเกิดสงครามตามเนื้อเรื่อง และเช่นเดียวกับการที่ฉันต้องการช่วยชีวิตเรมิเลียตัน คราวนี้ฉันจะช่วยชีวิตคุณน้องชายของแองเจิ้ลให้ได้ด้วยอีกคน
แต่ฉันก็นึกถึงความตายของพ่อของโคลด แม้ว่าฉันจะช่วยเขาจากเนื้อเรื่องได้สำเร็จก็ตาม… แล้วคลิมล่ะ จะเกิดเหตุการณ์อื่นที่ฉันไม่รู้ทำให้เขาเสียชีวิตอีกหรือเปล่า หรือแองเจิ้ลที่ได้รับการชำระล้างแล้วจะกลับมาบ้าคลั่งเมื่อถึงเวลา… ฉันหวาดระแวงเหตุการณ์บังคับให้เกิดตามเกมพวกนี้เหลือเกิน ได้แต่กังวลว่าสักวันที่มันอาจจะมาถึงนั่นคือเมื่อไหร่ ฉันรู้ว่าตัวเองพยายามแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียวมากเกินไป แต่ก็อดคิดเรื่องพวกนี้ไม่ได้
แต่แล้ว วิลก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยฉันจากความกังวลอันไม่มีที่สิ้นสุดนี้ เสนอตัวเข้ามาช่วยหาวิธีแก้ไขไปด้วยกันทีละเรื่อง เขาเชื่อความรู้จากเกมที่ฉันอ้างว่าได้เห็นในความฝัน และยอมให้ความร่วมมือไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่ดูไร้ประโยชน์สักแค่ไหนก็ตาม
“ของแบบนี้มันต้องช่วยกันคิดสิ ไม่ต้องแกรงใจหรอก ไม่ว่าเหตุผลของเรมี่จะฟังดูแปลกขนาดไหนข้าก็พร้อมจะยอมรับมันทั้งหมด”
เขาพูดออกมาได้อย่างง่ายๆ
เจอแบบนี้เข้าไป ทำเอาฉันตกหลุมรักอีกครั้งเลยทีเดียว… เพียงแค่วิลยังอยู่ตรงนี้กับฉัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรพวกเราจะทำให้สำเร็จได้แน่ รู้สึกเหมือนความกังวลก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นอดีตอันห่างไกล
หลังจากปรับอารมณ์ใหม่ ความมั่นใจก็เต็มเปี่ยม เทพแห่งการสร้างผู้ร่วงหล่นถูกชำระล้างตามแผนการ ทุกคนรวมถึงเผ่าปีศาจได้รับการช่วยเหลือ
เรื่องราวต่างๆดำเนินต่อไป จนในที่สุด วิลกับฉันก็ได้แต่งงานกัน ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดี แม้จะยังรู้สึกอายอยู่บ้างแต่ฉันก็มีความสุข
พีน่ากลายเป็นบุคคลสำคัญที่มีหน้าที่ชำระล้างดินแดนให้บริสุทธิ์ จึงต้องเดินทางไปโลกปีศาจอยู่บ่อยครั้ง ฉันเคยแอบลุ้นว่า ‘ใกล้จะได้เห็นเรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างเธอกับแองเจิ้ลแล้วหรือยัง…?’ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง …ชิ
แม้จะไม่ถึงขนาดราบรื่นไร้กังวลไปทุกเรื่อง แต่ฉันก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้อย่างสงบสุขในฐานะเรมิเลีย ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นราชินีผู้สูงส่งในแบบที่เรมิเลียตันจะเป็นได้หรือเปล่า แต่ก็หวังว่าจะเป็นให้ได้อย่างนั้น
ดวงวิญญาณหรือตัวตนดั้งเดิมของเรมิเลียตันอาจไม่ได้อยู่ในตัวฉันอีกต่อไปแล้วก็ได้ เพราะในตอนที่ฉันคลอดลูกสาวออกมาก็รู้สึกว่าอะไรบางอย่างในตัวของฉันที่เคยรู้สึกมาตลอดตั้งแต่มาที่โลกนี้หายไป
ฉันก็รู้สึกได้ คล้ายกับรับรู้โดยสัญชาตญาณว่าเธอไม่ได้อยู่ในนี้แล้ว แต่ผู้หญิงที่เคยเป็นเรมิเลียตันก็ยังอยู่กับฉันที่นี่
“ลิลลี่ วันนี้อากาศดีนะ มีลมพัดอ่อนๆด้วย”
“แอ้…”
เมื่อฉันอุ้มเธอขึ้นมากอดเอาไว้ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนได้พบกับใครบางคนที่คอยให้กำลังใจฉันอย่างใกล้ชิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันอาจเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง ขโมยตัวตนและทุกอย่างของเรมิเลียตันคนเก่ามาโดยไม่ไม่ตั้งใจ… เพราะฉะนั้น ฉันจะรักเธอให้มากที่สุด ทำให้มีความสุขเป็น 2 เท่าเป็นการชดเชย
“นั่นน่ะหรือ ลูกสาวของเจ้า วิลเลียด”
“ใช่แล้ว เพิ่งจะคลอดเมื่อเร็วๆนี้เอง ชื่อว่าลิลลี่ เป็นเด็กที่น่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ”
วันนี้ คุณแองเจิ้ล ราชาแห่งโลกปีศาจ พันธมิตรสำคัญของประเทศ มาเยี่ยมพวกเรา
เขาเป็นตัวตนพิเศษที่มีพลังเวทสูงที่สุดแม้แต่ในหมู่ปีศาจ ตั้งแต่ตอนที่ออกเดินทางชำระล้างดินแดนก็ผ่านมา 8 ปีแล้ว แต่รูปร่างหน้าตาของเขาก็ดูไม่เปลี่ยนไปเลย คนใกล้ชิดของเขาอย่างคุณคลิมกับคุณมิซารี่ก็บ่นอยู่เสมอเรื่องที่เขาไม่มีครู่ครองเพื่อให้กำเนิดทายาท เพราะเมื่อประเทศสงบสุขแล้วอันดับต่อไปก็คือความมั่นคงของอนาคต
อายุขัยของปีศาจนั้นยืนยาวมาก ทำให้เขามักอ้างว่ายังมีเวลาอีกเหลือเฟือ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงราชาที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ฉันจึงเข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างของเขาที่พยายามผลักดันเรื่องพวกนั้น มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทุกคนหวังว่าเขาจะไปกันได้ด้วยดีกับพีน่า เมื่อถามไป เขาก็ปฏิเสธอย่างชัดเจน จึงไม่มีใครพูดถึงคู่นี้กันอีก พีน่าเองก็บอกว่า ‘รู้สึกเหมือนพี่ชายที่พึ่งพาไม่ค่อยได้มากกว่า’
ปัจจุบัน พีน่าสนุกอยู่กับการเดินทางรอบโลก เรียนรู้สิ่งใหม่ๆและช่วยเหลือผู้คนที่เธอได้เจอตามสถานที่ต่างๆ มีจดมายจากประเทศต่างๆที่เธอเขียนส่งมาถึงฉันเป็นระยะ เป้าหมายของเธอคือช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์ให้มากที่สุด เพื่อนรักของฉันเป็นคนที่น่าภูมิใจจริงๆ ทั้งฉันและมารีที่ตอนนี้เป็นนางกำนัลของวังหลวงต่างก็รอวันที่จะได้พบกันอีกครั้ง
ส่วนวิลกับคุณแองเจิ้ลก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ดูเหมือนคุณแองเจิ้ลเดินทางมาพบปะทางการทูตในครั้งนี้ก็เพราะหนีจากเสียงบ่นของคุณคลิม แต่ก็ยังถูกบอกมาว่า ‘ถ้าจะไปก็ไปหาเจ้าสาวกลับมาด้วย’
การประชุมเรื่องงานน่าจะเสร็จหมดแล้ว วิลซึ่งกลายเป็นคุณพ่อเห่อลูกสาวก็ได้เชิญเขามาพูดคุยเป็นการส่วนตัว จริงๆแล้วก็เพื่ออวดลูกสาวคนนี้กับเขา แองเจิ้ลตอบรับโดยไม่ว่าอะไร อารมณ์เหมือนมาบ้านเพื่อน น่าจะชินแล้วล่ะมั้ง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ คุณแองเจิ้ล เด็กคนนี้คือลิลลี่ค่ะ ผู้ที่จะเป็นเจ้าหญิงลำดับหนึ่งของประเทศนี้”
“อู…”
“เด็กคนนี้สินะ… ตอนที่ข้ามาครั้งที่แล้วยังอยู่ในครรภ์อยู่เลย เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน”
ฉันเดินเข้าไปหาทั้งสองและยกลิลลี่ในอ้อมกอดให้ต่ำลงเพื่อให้คุณแองเจิ้ลได้เห็นหน้าเธอได้ชัดๆ ลิลลี่มองกลับไปด้วยความสนใจและยื่นแขนเล็กๆของเธอออกไปหาคุณแองเจิ้ลราวกับต้องการจับตัวเขาเอาไว้
“อ๊ะ ดูเหมือนจะชอบคุณแองเจิ้ลเข้าให้แล้ว”
“!? ไม่ได้…ไม่ยอมยกให้แองเจิ้ลหรอก! ให้ลิลลี่ไปเป็นเจ้าสาวไม่ได้!”
“ใจเย็นๆสิ วิลเลียด นางยังเป็นเพียงทารก คิดไปถึงไหนของเจ้าน่ะ”
“ก็เพราะลิลลี่น่ารักขนาดนี้ตั้งแต่ยังเป็นทารกไงล่ะ! จะมีผู้ชายอย่างแองเจิ้ลมาติดพันก็ไม่แปลกหรอก…!”
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณแองเจิ้ล วิลมักเป็นอย่างนี้เวลาที่มีผู้ชายคนอื่นพูดถึงลิลลี่ ทั้งที่เขาเป็นคนเชิญมาเพราะอยากอวดลูกสาวแท้ๆ”
“น่ารำคาญชะมัด… ใครจะคิดเรื่องพวกนั้นกับเด็กตัวแค่นี้กัน”
วิลโวยวายด้วยเสียงที่เบาที่สุดเพื่อไม่ให้ลิลลี่ตกใจ และยิ่งเอะอะมากขึ้นเมื่อลิลลี่จับปลายนิ้วของแองเจิ้ลที่เอื้อมมือเข้าไปหาเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“หืม…”
“แองเจิ้ล…นี่เจ้าฉวยโอกาสจับมืองั้นเหรอ…!”
“จะบ้าหรือไง นางต่างหากที่จับนิ้วของข้าไว้”
“ใจเย็นๆก่อนสิ วิล กว่าลิลลี่จะถึงวัยที่ต้องแต่งงานก็อีกตั้ง 20 ปี ถึงตอนนั้น คุณแองเจิ้ลที่เป็นเผ่าปีศาจก็ยังดูหนุ่มอยู่ และลิลลี่ที่อายุ 20 จะต้องสวยขึ้นมากแน่ๆ น่าจะดูเหมาะสมกันดีนะ”
“?!! กับลิลลี่เนี่ยนะ!! ข้าไม่อนุญาต! แล้วก็ แองเจิ้ล คิดจะจับอีกนานแค่ไหน!”
“ก็บอกว่าข้าเป็นฝ่ายถูกจับไงล่ะ คุณนายก็อย่าไปแหย่วิลเลียดอย่างนั้นสิ”
“หุหุหุ”
ฉันหัวเราะให้กับวิลและแองเจิ้ลที่ดูสนิทกันดี ในขณะที่ทุกคนกังวลว่าลิลลี่จะร้องไห้ถ้าบังคับให้เธอปล่อยมือ
เลิกพูดถึงความเป็นไปได้ทางด้านอายุขัยดีกว่า สุดท้ายแล้วก็ต้องรอให้คุณแองเจิ้ลได้พบกับคนที่คิดว่าใช่ และสักวัน ลิลลี่ก็จะได้เจอกับคนที่เธอรักหมดหัวใจด้วยเหมือนกัน ถ้ามันทำให้เธอมีความสุข ฉันก็จะสนับสนุนเต็มที่
มีป๊ะป๋าขี้เป็นห่วงขนาดนี้คงจะลำบากหน่อยนะ ฉันพูดในใจกับลูกสาวขณะเฝ้าดูทั้งสองเถียงกันอย่างไม่สมเป็นราชาต่อไป
“… เอมิ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“หืม… พี่ชาย…?”
“ฝันร้ายเหรอ?”
“เอ๋?”
“เธอร้องไห้อยู่น่ะ”
เมื่อฉันเอามือปาดที่ใบหน้าก็ได้รู้ว่ามีน้าตาไหลอยู่ข้างแก้มตามที่พี่ชายของฉันบอก น่าจะไหลออกมาตอนที่หลับอยู่
“ฝันร้ายสินะ กลัวใช่ไหม?”
“ไม่รู้… ลืมไปแล้ว… คิดว่าน่าจะเป็นฝันดี เหมือนได้เห็นเรื่องที่ความสุขมากๆเลย… แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเศร้า”
พี่ชายหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาช่วยเช็ดน้ำตา และบอกว่า ‘นอนตรงนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก’ ฉันจึงลุกขึ้นมานั่ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในสวน รอบตัวมีเศษดอกไม้กระจัดกระจาย ดอกไม้ที่ฉันขอมาจากคนสวนเพราะอยากสานมงกุฎดอกไม้ให้หม่าม้า… แต่บรรยากาศน่านอนจึงเผลอหลับไปขณะที่กำลังทำอยู่
“ดอกไม้… ที่จะเอามาทำมงกุฎดอกไม้ให้หม่าม้า…”
“ยับยู่ยี่ขนาดนี้ คงเอาไปทำมงกุฎดอกไม้ไม่ได้แล้วล่ะ แต่ยังพอเอาไปทำดอกไม้แห้งได้ ถ้าพวกเรา 2 คน ช่วยกันใช้เวทมนตร์ชะล้างกับทำให้แห้งไปพร้อมๆกันก็ทำได้แน่”
“! อือ เอาสิ!”
ฉันกับพี่ชายเลือกดอกไม้สวยๆมาทำเป็นดอกไม้แห้งด้วยกัน ถ้าเสร็จแล้วก็จะไปหาคุณน้ามิซารี่เพื่อขอขวดแก้วที่ไม่ใช้แล้ว และใส่ดอกไม้แห้งลงไป พรมน้ำมันหอมนิดหน่อย ผูกริบบิ้น และเอาไปให้หม่าม้า ฉันสงสัยว่าแค่ขวดเดียวจะใส่พอหรือเปล่า ขอมาทำเผื่อพี่ชายด้วยก็แล้วกัน… ถ้ายังเหลืออีกก็ทำให้ป๊ะป๋า
“ไม่เศร้าแล้วใช่ไหม?”
“? อะไรเหรอ?”
“ที่ฝันก่อนหน้านี้ไง”
“อ๋อ…ลืมไปหมดแล้วล่ะ!”
“งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ”
หลังจากถูกพี่ชายลูบหัวอย่างเต็มแรง ฉันก็ออกเดินไปพร้อมกับห่อผ้าเช็ดหน้าที่มีดอกไม้แห้งเล็กๆใส่อยู่เต็ม
คิดถึงใบหน้ามีความสุขของทั้งสามคนที่จะได้เห็นหลังจากนี้ และฉันก็ลืมความรู้สึกที่ตกค้างจากความฝันนั้นจนหมด
MANGA DISCUSSION