ตอนที่ 26 อัศวินผู้ทรงเกียรติ 5
อัศวินผู้ทรงเกียรติ 5
ตามแผนที่วางไว้คือ แสดงให้พวกเขาได้เห็นว่ากำลังถูกตัวตนอันชั่วร้ายหลอกโดยไม่รู้ตัว และกล่าวไปว่า ‘ทางเราไม่อยากเป็นพันธมิตรกับประเทศที่ร่วมมือกับคนเช่นนี้’ เพื่อเป็นการกดดัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนคงต้องเปลี่ยนขั้นตอนกันนิดหน่อย…
เดิมทีท่านเรมิเลียผู้เมตตาต้องการทำให้เป็นเรื่องภายใน ปิดคดีให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความแตกตื่น แต่ชื่อเสียงของท่านเรมิเลียจะยังคลุมเครือต่อไป ผู้คนที่สนับสนุนเธออาจคิดว่าเป็นฉากจบที่ไม่สวยงามสักเท่าไหร่ ท่านแองเจิ้ลกับข้าก็เช่นกัน พวกเราจึงได้วางแผนกันอย่างลับๆเพื่อเปิดเผยความจริงในแบบที่ชัดเจนที่สุด ให้คนที่ร่วมประณามท่านเรมิเลียในอดีตได้เห็นกันชัดๆ
สุดท้ายแล้ว งานเลี้ยงจะปั่นป่วนวุ่นวายสักแค่ไหนก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ เพราะมันคือการประจานกลางงานเลี้ยงเหมือนที่มกุฎราชกุมารวิลเลียดเคยทำ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราแสดงให้เห็นถึงความจริง ไม่ใช่การใส่ร้าย
ตอนนี้ท่านแองเจิ้ลก็ได้กล่าวถึงยาอันตรายที่ใช้สารต้องห้าม(จริงๆแล้วเป็นแค่น้ำหอมธรรมดา)ที่ได้กลิ่นจากหญิงสาวแห่งดวงดาว สามารถอ้างได้ว่าเป็นเจตนาทำร้ายเผ่าปีศาจ เอาล่ะ องค์ราชาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
แล้วนั่น เดวิดกำลังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าด้วยความสับสน ข้าถึงกับแสดงความเสียใจให้กับเขาโดยไม่ปิดบัง เพราะข้าที่ถูกทาบทามให้เป็นคนคุ้มกันหญิงสาวแห่งดวงดาวได้ทำการถอนตัวออกมา… และเขาก็ได้เข้าไปรับตำแหน่งนั้นด้วยความสมัครใจ หลังจากนี้เขาคงเป็นได้แค่อัศวินไร้สังกัด
น่าเศร้าที่ต้องมาเห็นเพื่อนสมัยเด็ก คนที่ข้าเคยสนิทดั่งพี่น้อง ในสภาพนี้ …เขาควรเติบโตขึ้นมาเป็นอัศวินผู้ทรงเกียรติ ไม่รู้เลยว่าเขากลายมาเป็นสาวกผู้ตาบอดเช่นนี้ได้อย่างไร หรือคำสาปของหญิงสาวแห่งดวงดาวได้ทำลายความมีเหตุผลในใจของเขา?
“ไม่ใช่นะ! นี่มันก็แค่…”
“ข้าเคยได้รับราบงานว่ามีผู้ที่ต้องการซื้อส่วนผสมของยาต้องห้าม ผู้ที่รับผิดชอบได้ปฏิเสธไปแล้ว แต่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดสินบน เขาจึงขายเกสรดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในโลกปีศาจเป็นของปลอมไปแทน ข้าขอถามหน่อย ตัวเจ้าที่ส่งกลิ่นยาต้องห้ามนั่นออกมา หากไม่ได้มีเจตนาลอบทำร้ายข้าแล้วมันจะหมายความว่าอะไรได้อีก?”
“อุ…”
จากการสอบสวนของท่านแองเจิ้ลทำให้รู้ว่าเรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายคนซึ่งคาดว่าถูกบงการโดยหญิงสาวแห่งดวงดาว น่าเสียดายที่มีคนกลางคนหนึ่งถูกฆ่าปิดปากหลังการส่งมอบ เมื่อไม่มีพยานและหลักฐานอื่นก็ทำให้พวกเราถึงทางตัน แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ยืนยันตัวผู้ที่อยู่ปลายทางได้แล้ว
และที่สำคัญ เธอรู้ผลกระทบของยาตัวนี้อยู่แล้ว ดูได้จากการที่เธอพยายามไม่พูดโกหกต่อหน้าราชาปีศาจ ท่านแองเจิ้ลเคยบอกว่าหญิงสาวแห่งดวงดาวคนนี้เป็นผู้ครอบครองความทรงจำแห่งโลก ดูเหมือนจะจริงตามนั้น
ท่านเรมิเลียเป็นผู้ที่ได้รับคำพยากรณ์จากสวรรค์จึงได้รู้ถึงการมีอยู่ของตัวยาต้องห้ามและรู้จักพลังของดวงตาท่านแองเจิ้ลอยู่แล้วเช่นกัน แต่ก็มีตัวตนอันชั่วร้ายมอบความรู้แบบเดียวกันให้กับผู้หญิงคนนี้ หรือตัวตนนั้นมอบพลังให้เพราะเห็นเป็นร่างของหญิงสาวแห่งดวงดาว… ไม่ว่าอย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็ใช้ความรู้ในทางที่ผิด สิ่งที่เธอทำมีแต่อาชญากรรมที่ตั้งใจก่อขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อันเลวร้ายเท่านั้น ถึงขั้นฆ่าคนที่ทำงานให้เพียงเพื่อไม่ให้ตามสืบถึงตัว
“อืม ที่ไม่ตอบก็เพราะเจ้ารู้อยู่แล้วว่าข้ามองเห็นคำโกหกได้สินะ เป็นอย่างที่ได้ยินมาจริงๆ”
“ม- ไม่ใช่… ฉันก็แค่อยากเป็นเพื่อนกับเผ่าปีศาจ…”
“ด้วยการวางยาน่ะเหรอ? โชคดีที่เรมิเลียเตือนข้าเอาไว้ก่อน”
“ทำไมท่านแองเจิ้ลถึงรู้จักยัยนั่น…?!”
“…อัศวินตรงนั้น ทำให้นางเงียบซะ หากข้าได้ยินคำพูดหยาบคายต่อสตรีผู้มีพระคุณในการกอบกู้ประเทศของข้าอีกครั้งไม่ว่าจากใครก็ตาม ข้าอาจเผลอสำเร็จโทษมันตรงนี้เลยก็ได้ แล้วก็ เจ้ามนุษย์ ข้าไม่เคยอนุญาตให้เจ้าเรียกชื่อของข้า ข้าไม่สนยศประดับที่ประเทศนี้มอบให้กับเจ้า เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่อยากตายก็ระวังคำพูดเอาไว้ให้ดี”
ผู้หญิงคนนี้กล้าเรียกท่านเรมิเลียว่า ‘ยัยนั่น’ หน้าตาเฉย ข้าโกรธจนเกือบจะลืมเกียรติของอัศวินและเข้าไปลงมือกำจัดในทันที แต่ทันใดนั้น ข้าก็รู้สึกถึงความโกรธเกรี้ยวที่รุนแรงยิ่งกว่าจากท่านแองเจิ้ล ข้าจึงยังทนอยู่เฉยๆได้
มนุษย์โดยรอบถูกกดดันด้วยจิตคุกคามของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้ ชายผู้ที่โกรธเพื่อผู้หญิงที่เขารัก ถ้าบอกไปตอนนี้ก็คงไม่มีใครเชื่อว่าคนคนนี้เป็นคนขี้ขลาดจนน่าหงุดหงิด แค่บอกความในใจกับผู้หญิงที่เขารักก็ยังไม่กล้า
แม้ว่าเขาจะทำตัวเหลาะแหละต่อหน้าผู้หญิงที่เขารัก แต่ถ้าเป็นเรื่องของผู้หญิงที่เขารักแล้วเขาจะจริงจังเป็นที่สุด อย่างเช่นตอนนี้ ดังนั้น ข้าจึงสามารถฝากฝังเธอไว้กับเขาได้อย่างสบายใจ แม้ว่าเขาจะทำตัวเหลาะแหละต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักก็เถอะ เป็นเรื่องที่ต้องพูดย้ำถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว
สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีสำหรับหญิงสาวแห่งดวงดาว ท่านเรมิเลียจึงพยายามช่วยไม่ให้เรื่องบานปลาย แต่ผู้หญิงคนนี้โง่เกินกว่าจะรับข้อเสนอ เธอเอาคอพาดลงบนแท่นประหารด้วยตัวเอง ทั้งที่พวกเรายังไม่ทันได้ใช้หลักฐานที่เตรียมมาด้วยซ้ำ
เธอเริ่มเผยให้เห็นความอัปลักษณ์
อย่างน้อยก็ฉลาดพอที่จะเลือกใช้คำพูดที่ไม่เป็นการโกหกต่อหน้าท่านแองเจิ้ลเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าคำโกหกไม่มีผลกับเขา… แต่ท่านแองเจิ้ลก็รู้ตัวและไล่ต้อนให้ได้คำตอบที่ต้องการจนได้
สายตาของผู้คนโดยรอบที่มองไปยังหญิงสาวแห่งดวงดาวเริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ ตัวเธอเองก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าหน้ากากที่เธอสวมไว้มันไม่มีอีกต่อไป
“ข้าไม่รู้ว่าคนในประเทศนี้ยกย่องเจ้ามากแค่ไหน แต่ข้าไม่เลือกปฏิบัติกับใครเพียงเพราะชื่อเสียงของคนคนนั้น ถึงอย่างนั้น เรมิเลียก็เป็นถึงผู้ที่ถูกท่านเร็นเงะ เทพธิดาองค์สุดท้องของเทพแห่งการสร้าง แต่ตั้งให้เป็นเทพีแห่งการชำระล้างโดยตรง แต่เรมิเลียที่ข้ารักคือหญิงสาวผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ อุทิศตนช่วยเหลือทุกคนบนโลกโดยไม่แบ่งแยก ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้เหลือเพียงตัวคนเดียว ไม่ว่านางจะมีพรแห่งเทพหรือไม่ก็ตาม”
หากพวกเรากำลังอยู่บนเวทีในโรงละคร นี่ก็คงเป็นฉากสำคัญที่พระเอกบอกรักนางเอกต่อหน้าอดีตคู่หมั้นของเธอและคนร้ายที่เคยใส่ความและขับไล่นางเอกไปได้ครั้งหนึ่ง เขาประกาศออกมาว่าเธอคือผู้หญิงที่เขารักและบรรยายถึงหัวใจอันงดงามของท่านเรมิเลียที่ทำให้เขาหลงรักเธอ ถึงจะเป็นการสารภาพรักที่ดูมักง่ายไปหน่อยแต่ก็น่าประทับใจระดับหนึ่ง
“ฝ่าบาท ขออนุญาต”
ถึงขั้นตอนจะผิดจากแผนที่วางไว้ แต่ท่านแองเจิ้ลก็ให้สัญญาณแล้ว ข้าจึงต้องเสียมารยาทสักเล็กน้อยกราบทูลองค์ราชา โดยปรกติ อัศวินผู้ติดตามจะไม่ควรเอ่ยทักราชาของประเทศอื่นโดยตรง แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่พอใจกับการไร้มารยาทของข้าก็คงต้องอ้างว่า ‘ข้าหมายถึงฝ่าบาท ราชาแห่งโลกปีศาจ ท่านแองเจิ้ล’ แล้วค่อยหาทางพาเข้าประเด็นหลักที่หลัง
แต่ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา เพราะสถานการณ์ในตอนนี้เริ่มมีความวุ่นวาย ข้าจึงฉวยโอกาสพูดกับองค์ราชาโดยไม่ต้องอ้างชื่อท่านแองเจิ้ล
ในขณะที่พวกเราตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน ข้าก็พูดถึงสิ่งที่เตรียมมาแสดงให้พวกเขาได้ดูในวันนี้ เรื่องนี้เป็นคำสั่งจากท่านราชาปีศาจโดยตรง และข้าตัดสินใจทำด้วยตัวเองโดยขัดต่อความประสงค์ของท่านเรมิเลีย
ในฐานะที่ข้าเป็นอัศวินรับใช้ท่านเรมิเลีย ข้ารู้สึกผิดจากใจจริง ที่นำอัญมณีเวทมนตร์เหล่านี้มาใช้งานตามอำเภอใจ ทั้งที่เธอไว้วางใจข้าถึงขนาดฝากหลักฐานสำคัญให้ดูแล แต่ท่านเรมิเลียใจดีเกินไป คิดให้อภัยแม้แต่กับอาชญากร ดังนั้น ข้าจึงต้องปกป้องเธอโดยการเปิดโปงแผนชั่วของผู้หญิงคนนี้! ข้ากับท่านแองเจิ้ลยอมเป็นคนใจร้าย แม้ท่านเรมิเลียจะอ้อนวอนสักแค่ไหนก็จะไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้…!
บาปของผู้ที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนักบุญผู้กอบกู้โลกที่แท้จริง ประเทศนี้ต้องตระหนักเอาไว้ให้มาก
ข้าเจ็บปวดหัวใจเหลือเกินที่ต้องฝ่าฝืนคำสั่งของท่านเรมิเลีย… เมื่อเรื่องนี้จบลงเมื่อไหร่ ข้า โซเฟีย ขอสัญญาว่าจะกลับไปเป็นอัศวินผู้ซื่อสัตย์ ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านเรมิเลียอย่างเคร่งครัด! เพราะฉะนั้น ได้โปรดให้ข้าได้ทำตามความปรารถนาของตัวเองในครั้งนี้ด้วยเถิด
ท่านแองเจิ้ลกางบาเรียไว้รอบพวกเราเพื่อกันท่านเรมิเลียเข้ามาห้ามในกรณีที่ท่านคลิมหยุดเธอเอาไว้ไม่ได้ ข้าจึงเริ่มแผนการหลักในทันที แสดงภาพคนบาปที่แท้จริงและผู้สมรู้ร่วมคิดให้ทุกคนได้เห็นโดยเร็ว เพราะข้ามั่นใจว่าท่านเรมิเลียคงทำอะไรสักอย่างกับบาเรียนั้นได้ไม่ยาก
ภาพบันทึกถูกเวทมนตร์ขยายให้ใหญ่จนเห็นได้ชัดทั่วทั้งห้อง แสดงให้เห็นหน้าผู้กระทำผิดที่ให้ความร่วมมือหญิงสาวแห่งดวงดาวจัดฉากใส่ร้ายทีละคน
บางคนเริ่มตะโกนราวกับคนบ้า ‘นี่มันของปลอม’ คนพวกนี้ต้องจับไปสอบสวนใหม่อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นถึงจะรู้สำนึก นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน คนรับใช้ส่วนตัวของท่านเรมิเลีย สามัญชน และนักเรียนทุนที่ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยง คนในครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ในที่นี้จึงต้องรับความขายหน้าไปแทน นี่เป็นโอกาสตัดความสัมพันธ์กับอาชญากรพวกนั้นได้แล้ว
ข้าไม่รับฟังข้ออ้างที่ว่าพวกเขาถูกหลอกให้ทำเรื่องพวกนั้น เพราะพวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าการให้การเท็จเป็นความผิด หากทำเพราะความปรารถนาดีจริงๆก็ควรบอกไปว่า ‘ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ยกเว้นโกหกในคำให้การ’ …อันที่จริงก็มีบางคนทำเช่นนั้น แต่ทั้งที่พวกเขาสามารถช่วยพูดแก้ต่างให้ท่านเรมิเลียว่าพยานคนอื่นถูกสั่งให้ให้การเท็จได้…
ไม่สิ อย่าเพิ่งคิดในแง่ร้ายมากนักจะดีกว่า
และแล้วท่านเรมิเลียก็เข้ามาขัดจังหวะในช่วงสุดท้ายได้สำเร็จ ระหว่างแสดงฉากร่วมประเวณีของหญิงสาวแห่งดวงดาวที่ทำให้ทุกคนฮือฮา หลังจากได้เห็นความชั่วร้ายของผู้หญิงคนนี้แล้วคงไม่มีใครคิดอยากปกป้องเธออีกแน่…!
โดยส่วนตัวแล้วข้าอยากให้มีการลงโทษอดีตคนคุ้มกันของท่านเรมิเลียให้หนัก พวกเขาเป็นถึง ‘อัศวิน’ แต่ก็ยังทำเรื่องผิดจรรยาบรรณร้ายแรงอย่างการขายเจ้านาย ข้าไม่ต้องการให้มีอัศวินประเภทนี้ให้เกียรติของอัศวินต้องมัวหมอง!
มกุฎราชกุมารกับหญิงสาวแห่งดวงดาวเริ่มทะเลาะกันเอง ข้ารู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่ฝ่าบาททำตัวเหมือนเป็นผู้เสียหาย กล่าวโทษคนอื่นด้วยสีหน้าโศกเศร้าเหมือนตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด หากในตอนนั้นเขาเชื่อใจท่านเรมิเลียสักนิดก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อยากตะโกนด่าออกไปตอนนี้เหลือเกิน ไม่ได้ไม่ได้ ต้องอดทนไว้
เรื่องลับหลังของผู้หญิงคนนั้นถูกเปิดโปงจนหมด เธอพยายามบีบน้าตาแต่ไม่มีใครคิดสงสารเธออีกต่อไป ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ยอมรับความจริงและเริ่มอาละวาดเหมือนคนบ้า แหกปากตะโกนด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวโดยที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อะไรได้อีกนอกจากทำให้ทุกคนได้เห็นธาตุแท้ของเธอมากขึ้นเท่านั้น
“คุณพีน่า… ช่างน่าสงสารจริงๆ ต้องการความรักจากคนอื่นถึงขั้นใช้คำสาปหลอกลวง ทั้งที่ความรักเหล่านั้นมันไม่จริง… คุณอยากได้ความรักมากจนยอมรับความรักจอมปลอมได้เลยหรือ…?”
และแล้ว ท่านเรมิเลียก็ได้แสดงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้เห็น
ท่านเรมิเลียร้องไห้ให้กับจุดจบของอาชญากรทีเคยเห็นเธอเป็นศัตรู…! อย่างกับนักบุญในเรื่องเล่านิทาน… ไม่สิ เป็นอยู่แล้วต่างหาก…
มีจิตรกรอยู่แถวนี้บ้างไหม! อยากตามตัวมาจารึกฉากนี้ไว้เหลือเกิน แต่คงเป็นไปไม่ได้
หากมีตำนานหลงเหลือถึงคนรุ่นหลังก็อยากให้ได้มาเห็นภาพนี้ด้วย น่าเสียดาย… เดี๋ยวข้าไปขอให้ท่านแองเจิ้ลใช้กระจกน้ำสะท้อนอดีตกับฉากนี้ด้วยดีกว่า แล้วบันทึกเก็บสำรองเอาไว้ในอัญมณีเวทมนตร์หลายๆก้อน! เข้าท่า เอาตามนี้แหละ!
“ทำไมเจ้าต้องสงสารนางด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ใส่ร้ายเจ้าจนต้องถูกขับไล่เชียวนะ…”
“ไม่ค่ะ แองเจิ้ล… จริงอยู่ที่ข้าเสียใจอย่างมากในตอนที่ถูกทุกคนประณามด้วยความผิดที่ไม่ได้ก่อ แต่ตอนนี้ข้ามีความสุขดี โดยที่คุณพีน่า… ใช้เงินทองมากมาย ซ้ำยังขายร่างกาย เพื่อให้ผู้คนรังเกียจข้า… สุดท้ายนางก็ยังไม่มีความสุขเลยไม่ใช่หรือ…? ทั้งการทำให้ข้าได้รับความอัปยศ ทั้งการใช้คำสาปควบคุมจิตใจของผู้คน แต่คุณพีน่าก็ไม่เคยได้พบกับรักแท้… ข้ารู้สึกสงสารคุณพีน่าเหลือเกิน…”
มีแต่ท่านเรมิเลียที่คิดสงสารในโชคชะตาของคนบาป… แม้กระทั่งหยดน้ำตาที่ไหลออกมาก็ยังงดงาม…
ท่านแองเจิ้ลก็ดูเหมือนจะซื่อตรงมากขึ้นนิดหน่อยหลังจากบอกความในใจได้สำเร็จ เขาโอบกอดเธอเอาไว้ดูสมเป็นคู่รัก
บรรยากาศในห้องโถงเงียบสนิทเหมือนมีใครตายเมื่อท่านแองเจิ้ลปิดกั้นเสียงของหญิงสาวแห่งดวงดาวที่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
พวกที่เริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลนคือคนที่ปรากฏอยู่ในภาพบันทึกว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดหรือไม่ก็เป็นคนในครอบครัวของพวกเขา บางคนถึงกับทรุดและเริ่มร้องไห้
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าใครคือคนดีใครคือคนเลว และรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป
รอบข้างเกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งงาน แม้ว่าข้าจะมีคนรู้จักและญาติพี่น้องอยู่ในหมู่คนพวกนั้นแต่ข้าก็ไม่มีความรู้สึกสงสาร บางทีข้าอาจจะเป็นคนใจดำมากกว่าที่คิด
พวกเขาแพ้พนันที่เอาอนาคตของตัวเองเป็นเดิมพัน แน่นอนว่าคนฉลาดจะไม่ทำเช่นนั้น แต่ข้าก็เข้าใจได้ว่าบางคนไม่สามารถปฏิเสธได้เนื่องจากตำแหน่งหรือความสัมพันธ์ที่พวกเขาต้องการรักษาไว้
สุดท้ายก็เป็นแค่คนโง่ที่คิดเข้าข้างหญิงสาวแห่งดวงดาวทั้งๆที่รู้ว่าการให้การเท็จคือความผิด จริงอยู่ที่พวกเขาถูกหลอกด้วยแผนร้ายของหญิงสาวแห่งดวงดาว แต่คนที่ตัดสินใจให้ความร่วมมือก็คือตัวพวกเขาเอง ดังนั้นก็เตรียมตัวรับโทษให้สมกับความโง่เขลานั่นเสียเถอะ
และแล้วก็เกิดการชุลมุนจนไม่สามารถดำเนินงานเลี้ยงต่อไปได้อีก องค์ราชารีบออกจากงานเพื่อไปจัดการกับปัญหายุ่งยากที่กำลังจะตามมา อย่างน้อยการลงนามเป็นพันธมิตรระหว่างประเทศนี้กับโลกปีศาจอย่างเป็นทางการก็เสร็จเรียบร้อยดี ส่วนตัวตนจากตำนานอันยิ่งใหญ่ ‘หญิงสาวแห่งดวงดาว’ รุ่นปัจจุบันก็ถูกระบุว่าเป็นตัวปลอม ในเมื่อเรื่องมันชัดเจนถึงขั้นนี้แล้วพวกเขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
รอบตัวมีแต่ความวุ่นวาย ท่านแองเจิ้ลจึงพาท่านเรมิเลียที่ยังสับสนออกไปข้างนอกในทันที
เรื่องแบบนี้เขามักตัดสินใจและลงมือได้รวดเร็วน่าชมเชย
“คุณหนูโซเฟีย! พ่อของท่านไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ตัวท่านมีตำแหน่งอยู่ในโลกปีศาจแล้วหรือ!”
“เสียใจเรื่องครอบครัว… ไม่สิ คุณหนูโซเฟียโชคดีจริงๆที่ถอนตัวได้ทันก่อนเกิดเรื่อง”
ข้าอยากกลับไปหาท่านเรมิเลียที่กำลังทำใจกับเรื่องพวกนี้ให้เร็วที่สุด
แต่ขุนนางพวกนี้ไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะสร้างเส้นสายกับข้า โดยเฉพาะพวกที่รู้จักกับข้าอยู่แล้วก่อนหน้านี้ พวกเขาทยอยเข้ามาชวนพูดคุยกันอย่างไม่เกรงใจ พูดจาประจบประแจงกันตรงๆ หน้าไม่อายกันจริงๆ…
ผู้บัญชากองอัศวินยังคงได้รับความไว้วางใจจากองค์ราชา แต่เนื่องจากเดวิดซึ่งควรเป็นผู้ติดตามคนสนิทของกษัตริย์องค์ต่อไปเกิดเรื่องเช่นนี้จึงทำให้ขั้วอำนาจเกิดความสั่นคลอน
ซิลเวสผู้เป็นพี่ชายแม้จะมีตำแหน่งเป็นเซียนดาบแต่อำนาจทางการเมืองยังคงต่ำเมื่อเทียบกับเดวิด ผู้มีฝีมือโดดเด่น ดูมีอนาคตไกล ซ้ำยังยังสนิทสนมกับกับมกุฎราชกุมาร
คนพวกนี้คือขุนนางที่สนับสนุนเดวิด… หรือจริงๆแล้วคือคนที่อยู่ฝ่ายมกุฎราชกุมารเช่นเดียวกับครอบรัวของข้า เมื่อเห็นว่าเดวิดตกต่ำจนไม่สามารถฉุดขึ้นมาได้อีก และพวกเขาลังเลที่จะย้ายฝั่งไปสนับสนุนซิลเวสซึ่งอยู่ฝ่ายเดียวกับเจ้าชายลำดับหนึ่ง เอลฮาซา จึงได้คิดหาที่พึ่งใหม่โดยฝากตัวเข้าไปในขั้วอำนาจอื่นผ่านหญิงสาวที่เป็นมากกว่าอัศวินธรรมดาทั้งที่อายุยังน้อยเช่นนี้
แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ในโลกปีศาจ!
“เอ่อ… ตัวข้าเป็นเพียงอัศวิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดสรรสินค้าหรือทรัพยากรของทางนั้น”
“โปรดอย่าเข้าใจผิด พวกเรามาทักทายเพราะเห็นเป็นคนรู้จัก ไม่ได้คาดหวังกับเรื่องพวกนั้น!”
“ตระกูลของพวกเราคบหากันมาเนิ่นนาน แม้ท่านจะถอนตัวออกไปแล้วแต่ข้าก็อยากรักษาความสัมพันธ์เอาไว้”
ก็คิดเอาไว้แล้วว่าพวกนี้จะไม่ยอมถอยง่ายๆ ถึงจะปฏิเสธตรงๆก็ไม่มีผลอยู่ดี ข้าต้องหาวิธีหนีไปจากตรงนี้ให้ได้… ก่อนอื่นต้องออกไปจากวงล้อม… ขณะคิดหาวิธีก็มีคนเข้ามาจับมือข้าและเสียงของท่านมิซารี่ ‘เอาล่ะนะ’
“?! นี้มัน… ออกมาอยู่ที่สวน?”
“กับคนพวกนั้น จริงๆจะใช้กำลังขู่กลับไปก็ทำได้ง่ายๆ… แต่แสดงความต่างทางเวทมนตร์ให้เห็นจะดีกว่า”
ท่านมิซารี่ยิ้มอย่างภูมิใจ ปลายนิ้วกวาดไปที่วงเวทเรืองแสงกลางอากาศเพื่อให้มันสลายไป เธอคือคนที่พาพวกเราออกมาจากงานเลี้ยง และทำได้สำเร็จอย่างงงาม… เธอพูดต่อว่า ‘ฉันเป็นนักวิจัย ไม่ถนัดเรื่องพวกนั้นเหมือนกัน’
คนอื่นๆที่เหลือดูเหมือนจะกระจัดกระจายไปรอบพระราชวัง อีกสักพักคงไปรวมตัวกันที่ห้องรับรองที่ท่านแองเจิ้ลกับท่านเรมิเลียล่วงหน้าไปก่อนหลังจากทั้งสองบอกความในใจให้กัน… น่ากังวลที่ต้องปล่อยให้ท่านเรมิเลียอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง… แต่ถ้าคิดว่าผู้ชายคนนั้นคือท่านแองเจิ้ลก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!
วันนี้ข้าคงไม่เข้าใกล้งานเลี้ยงน่ารำคาญนั่นอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ได้ยินว่ายังมีบางคนขออยู่ต่อในงานเพื่อเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่มของมนุษย์ให้เต็มที่ อืม แข็งแกร่งจริงๆ
“เอ่อ… ท่านคลิม”
“ขอโทษครับ…!”
ข้ามองไปยังมือของข้าที่ท่านคลิมจับเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ส่งผ่านเวทมนตร์เคลื่อนย้ายของท่านมิซารี่ เมื่อทักออกไปเขาก็ปล่อยอย่างรวดเร็ว
ถึงจะรู้สึกแปลกๆแต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ
และท่านมิซารี่ก็มองมาพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดคนเดียว ‘หืม’ ‘อย่างนี้นี่เอง’ แล้วสายตานั่นมันหมายความว่ายังไง
“ไหนๆก็เป็นวันงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่ทั้งที และยังกอบกู้ชื่อเสียงให้คุณเรมิเลียได้สำเร็จ… มาปิดท้ายด้วยงานเต้นรำกันเถอะ”
“ทำไมถึง…”
“เอาน่า เดี๋ยวฉันจะทำอะไรสักอย่างกับเพลงให้เอง”
หลังจากพูดกึ่งบังคับ ท่านมิซารี่ก็เข้ามาจับข้ากับท่านคลิมและดึงพวกเรามาเผชิญหน้ากัน
“ทั้งที่พี่เสนอมาเอง แล้วทำไมไปยัดเยียดให้คนอื่นทำล่ะครับ?”
“แค่เต้นกับพี่น้อง เมื่อไหร่ก็ทำได้ วันดีๆแบบนี้ต้องทำอะไรให้แปลกใหม่กันหน่อย”
แล้วท่านคลิมก็ได้กลายมาเป็นคู่เต้นรำกับข้าโดยที่ยังมีท่าทางต่อต้านท่านมิซารี่อยู่เล็กน้อย
“ต้องขอโทษด้วย คุณโซเฟีย… ที่ให้ทำตามพี่สาวเรื่องมากของผม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการรบกวนแต่อย่างใด และข้ากำลังสุขใจที่ได้เห็นหน้าผู้ชายพวกนั้นในตอนที่ความจริงปรากฏ อยากฉลองด้วยการเต้นรำอยู่พอดี”
“ดูเหมือนผมจะตัวเล็กกว่า? น่าจะลำบากแล้ว”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา! .. แต่ว่า อันที่จริง…”
แม้ว่าที่ตรงนี้ไม่มีใครอื่น แต่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าอาย ข้าจึงกระซิบบอก
“ข้า… เต้นรำไม่เป็น”
“เอ๋? ทั้งที่เป็นคู่ซ้อมเต้นให้กับคุณเรมิเลีย?”
“นั่นคือส่วนของฝ่ายชาย แต่ไหนแต่ไรข้าเคยแต่ถูกขอให้เล่นบทของฝ่ายชาย… แม้จะเคยมีคู่หมั้นแต่ก็ไม่เคยออกงานด้วยกันสักครั้ง…”
สมัยก่อนก็เคยเรียนมาบ้างแต่ไม่เคยได้ใช้งานจริงจึงได้ลืมไปจนหมด ตอนที่ฝึกซ้อมกับท่านเรมิเลียก็เป็นตัวแทนฝ่ายชายเหมือนกับก่อนหน้านี้ในทุกๆครั้ง ทำให้ร่างกายจดจำว่าเป็นเรื่องปรกติ… จะให้รับบทของฝ่ายหญิงเอาตอนนี้ ไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ
นานๆครั้งก็มีเข้าร่วมงานเต้นรำและถูกเชิญบ้าง แต่ข้าก็มักจะมองหาผู้หญิงคนอื่นเพื่อขอเปลี่ยนตัวก่อนจะเริ่ม ซึ่งในตอนนี้ไม่มีคนอื่นให้ใช้วิธีนั้นได้
“อื่ม… ถ้าอย่างนั้น ให้ผมรับบทฝ่ายหญิงแทนไหมครับ?”
“ท่านคลิมหรือคะ?”
“ใช่แล้ว ให้คุณโซเฟียทำตามที่ตัวเองถนัดน่าจะดีกว่า? …ส่วนผม จะแบบไหนก็ไม่มีปัญหา ยิ่งตอนนี้กำลังดีใจที่ความรักของพี่ชายมีความคืบหน้าสักที ได้ฉลองด้วยการเต้นรำก็ดีเหมือนกัน”
ท่านมิซารี่นำพิณมาจากที่ไหนสักที่และเริ่มบรรเลงบทเพลง ข้าจึงเริ่มขยับเท้าไปตามจังหวะพร้อมกับท่านคลิม พวกเราอยู่ในเครื่องแบบอัศวินองครักษ์ และข้าก็ตัวสูงกว่า ใครมาเห็นอาจคิดว่าเป็นคู่ชายล้วน
ข้าจับมือและโอบเอวของเขาตามท่วงท่าที่เคยทำเป็นประจำ ฝ่ามือที่ใหญ่กว่ากับรอบเอวที่กว้างของเขาทำให้เกิดความรู้สึกไม่คุ้นเคย ทั้งที่เคยเต้นรำในฐานะผู้ชายมาแล้วหลายครั้งแต่ครั้งนี้รู้สึกประหม่าที่สุดถึงขั้นสะดุดในบางครั้ง
“ขออภัย หลังจากนี้ข้าจะหมั่นฝึกซ้อม… เผื่อคราวหน้ามีโอกาสออกงานร่วมกันในฐานะผู้ติดตามอีกครั้ง”
“ผมไม่คิดมากหรอกครับ ส่วนสำคัญที่สุดในการเต้นรำคือคู่เต้นต่างหาก”
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับข้าเช่นนี้
ในตอนนั้นข้าไม่เข้าใจว่าท่านมิซารี่จับคู่ให้พวกเราเต้นรำกันเช่นนี้มีความหมายว่าอย่างไร… แต่ก่อนจะรู้ตัว การเต้นรำสลับบทบาทในครั้งนี้ก็ได้กลายเป็นช่วงเวลาดีๆสำหรับข้า
Chapters
Comments
- ตอนที่ 37 ผู้กุมเศรษฐกิจแห่งหมู่บ้านต้นกำเนิด กุมภาพันธ์ 2, 2024
- ตอนที่ 36 เด็กน้อยในหมู่บ้านเกิดใหม่ สิงหาคม 2, 2023
- ตอนที่ 35 ผู้ริเริ่มเทศกาลฉลองวันก่อตั้ง กรกฎาคม 27, 2023
- ตอนที่ 34 หญิงสาวผู้เป็นส่วนหนึ่ง กรกฎาคม 22, 2023
- ตอนที่ 33 ราชาปีศาจเผชิญวิกฤต กรกฎาคม 18, 2023
- ตอนที่ 32 นักบุญในหน้าที่ กรกฎาคม 15, 2023
- ตอนที่ 31 ผู้เก็บรักษาความสุข กรกฎาคม 11, 2023
- ตอนที่ 30 ผู้หลุดพ้นชะตากรรม กรกฎาคม 6, 2023
- ตอนที่ 29 ดวงดาวที่ล่องลอยในความฝัน มิถุนายน 30, 2023
- ตอนที่ 28 นักบุญในห้องวิจัย มิถุนายน 27, 2023
- ตอนที่ 27 นักเล่าเรื่องในเมืองแห่งการค้า มิถุนายน 22, 2023
- ตอนที่ 26 อัศวินผู้ทรงเกียรติ 5 มิถุนายน 15, 2023
- ตอนที่ 25 อัศวินผู้ทรงเกียรติ 4 มิถุนายน 8, 2023
- ตอนที่ 24 อัศวินผู้ทรงเกียรติ 3 มิถุนายน 2, 2023
- ตอนที่ 23 อัศวินผู้ทรงเกียรติ 2 พฤษภาคม 29, 2023
- ตอนที่ 22 อัศวินผู้ทรงเกียรติ 1 พฤษภาคม 24, 2023
- ตอนที่ 21 ราชาปีศาจผู้มากด้วยปัญหา 2 พฤษภาคม 18, 2023
- ตอนที่ 20 ราชาปีศาจผู้มากด้วยปัญหา 1 พฤษภาคม 5, 2023
- ตอนที่ 19 ผู้รับบทจอมวายร้าย พฤษภาคม 5, 2023
- ตอนที่ 18 ผู้ที่อยู่ภายในหญิงสาวแห่งดวงดาว เมษายน 24, 2023
- ตอนที่ 17 คนที่เคยเป็นครอบครัว เมษายน 19, 2023
- ตอนที่ 16 ผู้สูญเสียความสุนทรีย์ในเสียงดนตรี เมษายน 19, 2023
- ตอนที่ 15 อัศวินตระบัดสัตย์ เมษายน 12, 2023
- ตอนที่ 14 อดีตคู่หมั้นผู้โศกเศร้า เมษายน 8, 2023
- ตอนที่ 13 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 13 มีนาคม 30, 2023
- ตอนที่ 12 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 12 มีนาคม 24, 2023
- ตอนที่ 11 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 11 มีนาคม 17, 2023
- ตอนที่ 10 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 10 มีนาคม 14, 2023
- ตอนที่ 9 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 09 มีนาคม 14, 2023
- ตอนที่ 8 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 08 มีนาคม 9, 2023
- ตอนที่ 7 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 07 มีนาคม 9, 2023
- ตอนที่ 6 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 06 มีนาคม 3, 2023
- ตอนที่ 5 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 05 มีนาคม 3, 2023
- ตอนที่ 4 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 04 กุมภาพันธ์ 28, 2023
- ตอนที่ 3 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 03 กุมภาพันธ์ 28, 2023
- ตอนที่ 2 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 02 กุมภาพันธ์ 28, 2023
- ตอนที่ 1 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 01 กุมภาพันธ์ 28, 2023
MANGA DISCUSSION