คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 383 ยิ่งได้เข้าใกล้ ยิ่งโดนหลอกได้ง่าย
ตอนที่ 383 ยิ่งได้เข้าใกล้ ยิ่งโดนหลอกได้ง่าย
MBKตึกสูงตระหง่าน เฉกเช่นเหยี่ยวฝูงใหญ่อยู่บนท้องฟ้าของเมืองหลวง สูงกว่าสิ่งปลูกสร้างที่อยู่รอบๆกว่าเท่าตัว กระจกที่ชั้นสูงและกระจกบานใหญ่ยาวถึงพื้นที่อยู่รอบๆของกำแพงแต่ล่ะด้านสะท้อนแสงสว่างแพรวพราว
หลงเซียวเดินไปที่รถของกู้เยนเซิน เงาของหลงเซียวยืนอยู่หน้ารถ กำลังหันหน้าไปมองที่ด้านหน้าของตึกสูง
กู้เยนเซินก็เปิดประตูออกจากรถ ยืนกอดอกอยู่ข้างๆหลงเซียว ลูบๆคาง “ทำไมหรอคุณหลง? อาคารของตระกูลของตัวเอง ทุกวันต้องดูหลายๆรอบ ยังดูไม่พอ?”
หลงเซียวขยับปากไปมา จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ตึกแห่งนี้ มีพลังดึงดูดใช่มั้ย?”
กู้เยนเซินเบ้ปาก “ไร้สาระป่ะ? MBKนะ แขวนรูปนี้ไว้ก็มีแรงดึงดูดมากพอแล้ว ทำไมหรอ? เศรษฐีคิดว่าเงินของตัวเองมากเกินจนจ่ายไม่หมด ถึงได้รู้สึกเครียด? ไม่เป็นไร ถึงแม้ผมหาเงินเก่ง แต่ผมก็ใช้เงินเก่งมากกว่า เชี่ยวชาญด้านช่วยผู้ที่มีเงินมหาศาลแก้ไขความเครียดที่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปใช้ตรงไหน”
“ใช่ รู้สึกเครียด”
กู้เยนเซินตบบ่าหลงเซียวแล้วตบอีก ถอนหายใจแล้วกล่าว “คุณหลง คุณจัดเป็นพวกที่อยากได้แต่ไม่แสดงอาการ คุณสังเกตดูคนเหล่านี้ในเมืองหลวง ยังไม่รวมทั้งหมด ตัวเลขประชากรในทุกๆปีของเมืองหลวงสูงขึ้นสามล้าน ประชากรเยอะขนาดนี้ มีกี่คนที่แม้แต่อาหารเที่ยงก็ซื้อไม่ไหว หากคุณรู้สึกว่ามีเงินมากจนใช้ไม่หมด ก็เอาเงินไปโยนบนถนนเถอะ”
หลงเซียวใช้นิ้วเขี่ยแล้วเขี่ยอีกไปที่ปากอย่างไร้เสียงใดๆ “คุณชายกู้ คุณควรจะกลับได้แล้ว ขับรถระวัง”
หัวไหล่ที่มีมือกู้เยนเซินก็ชักออกทันที เขาปล่อยมือออก “มึน จะเปลี่ยนสีหน้าก็เปลี่ยนเลยหรอ ผมล้อเล่นกับคุณ โอเคโอเค ผมกลับล่ะ ถึงเมืองเจียงเฉิงแล้วอย่าลืมผมล่ะ”
หลงเซียวเกินเข้าไปในตึก เดินเข้าไปหน้าฟร้อนท์เห็นจี้ตงหมิงกำลังถือเอกสารชุดหนึ่ง
“บอส คุณกลับมาแล้ว”
หลงเซียวพยักหน้า “นี่เกิดอะไรขึ้น?”
จี้ตงหมิงกำลังกอดกล่องลังขนาดใหญ่ที่ข้างในมีเอกสารอยู่บางส่วน แล้วยังมีภาพออกแบบเป็นม้วน “นี่คือสิ่งที่คุณไปสัมมนาครั้งนี้ต้องใช้ ผู้ช่วยเหลียงให้คนส่งมาให้ ให้ผมส่งไปให้ก่อน
หลงเซียวเงียบ และไม่แสดงออกใดๆ “อืม”
จี้ตงหมิงเพิ่งกอดลังเอกสารไปศูนย์กลางขนส่งภายในบริษัท มือถือของหลงเซียวดังขึ้น บนหน้าจอขึ้นเป็นหมายเลขของหลงจื๋อ
“พี่ใหญ่ พี่ไปไหนแล้ว? ตอนเที่ยงผมจะไปหาพี่ พี่ไม่อยู่ห้องทำงานตลอดเลย”
“ออกมากินข้าว แล้วก็พักผ่อนด้วยเลย มีธุระอะไร?”
หลงเซียวรับโทรศัพท์ไปและเข้าลิฟท์VIPไป นิ้วมืออยู่บนตัวเลยหนึ่ง ตามองไปเห็นชั้นบน แล้วกดไปยังชั้นห้องทำงานของตน
“ผมได้ยินคณะประธานทางนั้นพูดว่า พี่ต้องไปรับเมืองเจียงเฉิงรับผิดชอบโครงการนั่นด้วยตัวเอง พ่อให้พี่ไปหรอ? พี่ใหญ่ ทำไมพี่ไม่อธิบายให้พ่อฟังชัดเจน พี่เป็นประธานระดับสูงของบริษัท มีหลายเรื่องที่ต้องให้พี่ตัดสินใจ ถ้าพี่ไปแล้วบริษัททางนี้จะทำยังไง?
“จะมีคนมารับงานหน้าที่ฉันชั่วคราว ต่อไปงานของแกก็สามารถรายงานพ่อได้โดยตรง
หลงเซียวสงบสติพูด แต่เมื่อหลงจื๋อได้ยินหลับรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย “พี่ใหญ่ ตำแหน่งของคุณไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้นะ ตอนนี้ฉันจะไปพูดกับพ่อให้เข้าใจ”
“เสี่ยวจื๋อ?”
หลงจื๋อวางสายไปแล้ว
หลงเซียวนวดๆคิ้ว ระหว่างคิ้วปรากฏเป็นรอยหยักแล้ว เสี่ยวจื๋อยังเด็กเกินไป วัยรุ่นใจร้อน ผลีผลามได้ง่าย ในใจถึงแม้จะเร่าร้อน แต่ตัวเองก็ยังควบคุมอารมณ์อะไรไม่ได้ หลงจื๋อแบบนี้ จะสามารถฉายเดี่ยวได้อย่างไร?
เอามือถือใส่ลงในกระเป๋า หลงเซียวหลับตาลึกๆ
——
หลงถิงนั่งอยู่ในห้องทำงาน ในมือกำลังถือและดูแผนงานฉบับหนึ่งอยู่ พลิกไปสองสามหน้า ประตูของห้องทำงานดังขึ้น
“เข้ามา”
หลงจื๋อผลักประตูเข้ามา แล้วก็เข้ามาในห้องทำงานทันที หลังจากที่ร่างกายได้เข้ามาภายในแล้ว เปิดประตูแล้วกล่าว “พ่อ ทำไมคุณให้พี่ใหญ่ไปเมืองเจียงเฉิง? โครงการนี้ความจริงแล้วก็มีคนรับผิดชอบที่เลือกไว้แล้ว ไม่ต้องให้พี่ใหญ่จัดการเลยสักนิด พ่อให้พี่ใหญ่ไปเมืองเจียงเฉิง แล้วยังจัดคนมาให้ทำงานแทนพี่ใหญ่ชั่วคราวอีก พ่อหมายความว่ายังไง?”
หลงถิงปิดแผนงาน แล้วกำลังใช้สายตาคลุมเครือมองไปที่ลูกชาย อารมณ์บนใบหน้าไม่แสดงออกถึงอาการใดๆ ไม่มีใครสามารถคาดเดาถึงจิตใจของเขาได้
“เสี่ยวจื๋อ แกเข้ามาแบบนี้ เพียงเพื่อเรื่องนี้?”
ในใจหลงจื๋อยอมรับไม่ได้ ใบหน้าไร้ซึ่งความสุข กัดฟันแล้วกัดฟันอีก “ถูก ผมคิดว่านี่พ่อกำลังเพ่งเล็งที่พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ทำเพื่อบริษัทตั้งมากมาย ตอนนี้บริษัทดำเนินการคล่องแล้ว พ่อกลับจะลดทอนอำนาจของพี่ใหญ่ พ่อคิดว่าผมดูไม่ออกหรอ?”
น้ำเสียงโกรธเคือง ถึงแม้จะกำลังระบายความในใจที่ไม่พอใจ แต่ต่อหน้าหลงถิง เขาก็เหมือนเด็กที่ไม่มีวันโตเรื่อยมา ความโกรธเคืองทั้งหมดหลงถิงมองว่าสามารถแก้ไขได้โดยใช้วิธีแบบจัดการกับเด็กที่ใช้อารมณ์
หลงถิงกำลังจับร่างกายส่วนบนอยู่ ใบหน้าแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย “เสี่ยวจื๋อ เรื่องนี้แกเข้าใจพ่อผิดแล้วนะ พ่อให้พี่ใหญ่ของแกไปเมืองเจียงเฉิงจัดการโครงการ เพื่อหวังว่าจะได้เป็นการฝึกฝนความสามารถของพี่แกให้มากขึ้น ตอนนี้เขาคือประธานของบริษัทแล้ว อำนาจในมือแน่นอนว่าไม่มีใครแทนได้ อีกทั้ง ก้าวต่อไปเขาก็ต้องขึ้นเป็นประธานบริษัท พ่ออายุมากแล้ว ไม่สามารถที่จะยึดเก้าอี้ตัวนี้ไว้ได้หรอก ไม่ช้าก็เร็วต้องเอาตำแหน่งให้พี่ใหญ่ของแก”
หลงจื๋อพยักหน้าด้วยความเหลือเชื่อ มือหนึ่งกำลังจับหลังเก้าอี้อย่างแน่น “งั้นพ่อให้พี่ใหญ่ขายหุ้นที่อยู่ในมือทิ้ง นี่หมายความว่าอย่างไร? หากความจริงพ่อต้องการให้พี่ชายเป็นประธาน ก็ควรจะให้หุ้นแก่เขา แต่ไม่ใช่เอาหุ้นที่อยู่ในมือเขาอยู่แล้วขายทิ้งไป”
หลงถิงหัวเราะเหอะเหอะเหอะสองสามครั้ง แล้วยืนขึ้นหัวเราะอย่างเอ็นดู ปรบหลังมือลูกชายสองครั้ง “เสี่ยวจื๋อ แกยังเด็ก มีเรื่องอีกมากที่ไม่เข้าใจ ธุรกิจเหมือนสนามรบ บางครั้งก็ต้องพิถีพิถันเรื่องกลยุทธ์และนโยบาย ฉันให้พี่ใหญ่แกให้ออกแล้วเข้า คือเพิ่มการพูดโน้มน้าวใจของบริษัทให้เขา ยังไงพี่แกก็ยังเด็ก พวกบอร์ดบริหารแก่ๆพวกนั้น เรื่องมาก
หลงจื๋อเงยหน้ากำลังมองไปที่บิดา อยากที่จะอ่านความคิดผ่านสายตาของเขา แต่ไม่มีอะไรสักอย่าง นั่นเป็นสายตาคู่ที่เขามองอะไรไม่ออก
“พ่อพูดจริงหรอ? คุณอยากที่จะเอาตำแหน่งประธานให้พี่ใหญ่จริงใช่ไหม?”
หลงถิงพยักหน้า หลับตาลง “ถูก พี่ใหญ่แกเป็นลูกคนโตของฉัน แน่นอนว่าฉันต้องให้ตำแหน่งเขา เพียงแค่ให้เขามีคุณสมบัติ ฉันให้เขาแน่ๆ”
โดนหลงถิงพูดไปทีหนึ่ง ความโกรธในใจหลงจื๋อก็ลดไปครึ่งหนึ่ง กัดกัดฟันแล้วกล่าว “พ่อต้องทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ตอนนี้นะ”
“เอาล่ะ ฉันยังมีประชุมต่อ แกกลับไปก่อน มีเรื่องอะไรพวกเราค่อยกลับบ้านไปคุยกัน อยากทานอะไรโทรไปที่บ้าน ทำงานเหนื่อยก็ไปขับรถเล่น
“พ่อ…….”
“ยังไม่กลับอีก? ความสามารถระหว่างแกกับพี่ชายต่างกันมาก ควรจะพยายามให้มากๆ พี่ใหญ่ของแกตอนที่อายุเท่าแก เป็นประธานบริษัทแล้ว ตอนนี้แกเป็นแค่ผู้จัดการบัญชี รีบๆอัพตัวเองขึ้นมา ไปเถอะ”
คำพูดน้ำผึ้งอาบยาพิษ พูดจนความสงสัยในใจของหลงจื๋อได้หายไปครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินบิดาจะมอบตำแหน่งประธานบริษัทให้กับพี่ใหญ่ หลงจื๋อสามารถปล่อยวางความคับข้องใจลงได้
หลงจื๋อเดินออกจากห้องทำงาน เหลียงจ้งซุนเข้ามา “ท่านประธาน จัดการเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม แจ้งคนที่เมืองเจียงเฉิง”
“ครับ ผมจะดำเนินการทันที”
หลงถิงหยักหน้า “หลงเซียวรอบคอบ ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่ทำสงครามโดยไม่มีแผน ระวังตัวมากขึ้น ห้ามหละหลวมแม้แต่น้อย
เหลียงจ้งซุนพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน “วันนี้เช้า ประธานเน้นย้ำให้ผมบอกกับท่าน พักผ่อนเยอะๆ “
“เหอะๆ พักผ่อน? ออกไปเถอะ”
“ครับ”
——
ในห้องทำงานของประธาน หลงเซียวจัดเตรียมเอกสารของตนเอง บนโต๊ะทำงานเหลือไว้แค่หน้าจอคอมสามเครื่อง เอกสารอย่างอื่นได้เก็บไว้เข้าไปในตู้เอกสารแล้วทั้งหมด ล็อคไว้ หนึ่งในเอกสารบางฉบับวางไว้ในกล่องเก็บของเอากลับบ้าน
จัดเก็บบางอย่างเสร็จแล้ว แอนดี้เคาะประตูเข้ามา
“ประธาน ประชุมบ่ายสามครึ่งกำลังจะเริ่มเข้าแล้วครับ เชิญคุณไปที่ห้องประชุมด้วยครับ
“โอเค”
แอนดี้ดูไปที่โต๊ะทำงานของบอส ของที่อยู่ข้างบนไม่เหลือไว้แล้ว แอนดี้ถามอย่างสงสัย “ประธานนี่คือ……”
“ช่วงที่ฉันไปสัมมนา จะมีคนมารับงานของฉัน ถึงเวลานั้นไม่ว่าใครจะมา บอกเขา สิ่งของสำนักงานในห้องทำงานนี้ เขาใช้ได้หมด แต่ตำแหน่งนี้ เขาอย่าวุ่นวาย โดยเฉพาะเก้าอี้ตัวนี้”
“ครับ!”
แอนดี้ไม่กล้าถามมาก ถึงแม้สีหน้าของประธานไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อต้องไปประจำข้างนอก ยังโดนคนให้มาแทนตำแหน่ง ไม่ว่าใครก็ไม่มีความสุขหรอก
หลงเซียวเดินไปยังห้องประชุม ร่างที่แอบแฝงไปด้วยความเยือกเย็นและความดุดัน แอนดี้อยู่ข้างหลังกำลังกอดเอกสารแล้วมอง
ประธานไม่มีใครแทนที่ได้ ไม่ว่าใครมา ก็ไม่ได้ทั้งนั้น!
ตอนนี้ ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ลั่วหานยุ่งมาค่อนวัน ใกล้จะสี่โมง นวดแขนพักผ่อนสักนิดอยู่ในห้องทำงาน ไม่ถึงห้านาที มีร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในห้องทำงาน
แค่รู้สึกว่าตรงหน้าทันใดนั้นเหมือนเงาและแสงถูกบังไว้ ลั่วหานเปิดตาขึ้น มองเห็นคนที่เข้ามาคือถังจิ้นเหยียน
“ว่าไง? คนไข้คนไหนที่จะปัญหาขึ้นมากะทันหัน?”
ถังจิ้นเหยียนส่งกาแฟร้อนให้เธอหนึ่งแก้ว “เพิ่งจะช่วยคนไข้ที่อยู่ปากประตูนรกกลับมา ทำไมยังเกิดขึ้นอีกคนเนี่ย? คนของรายการทีวีมาแล้ว อยากถ่ายรูปเราสองคนเอาไว้สักสองสามภาพ พูดว่าเป็นการโปรโมทระยะแรก”
ลั่วหานเพิ่งจะดื่มกาแฟเข้าไปในปาก แล้ววางลงไป “เร็วขนาดนี้?! ทำงานเร็วเกินไปหรือเปล่า?”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างละมุนละไม “น่าจะประมาณว่ากลัวคุณจะทิ้งงานระหว่างกลาง ตอนนี้เอาคุณไปโปรโมทก่อน ถึงเวลานั้นที่คุณถอนตัวก็ถอนไม่ได้แล้ว ไปเถอะ ดื่มไปเดินไป คนของรายการทีวีอยู่ข้างนอก ต้องเลือกฉาก”
ลั่วหานกุมขมับแล้วกุมขมับอีก “ฉันแค่ไม่มีสตินิดเดียวก็โดนตุ๋นขนาดนี้เลยหรอเนี่ย! โปรโมทรายการทีวีต้องใช้เวลานานเท่าไหร่?”
ทั้งสองพูดไปเดินไป ข้างหน้าคือคนของรายการทีวี มองเห็นหมอสวมชุดกาวน์ออกมา อดไม่ได้ที่จะทักทายด้วยความสุภาพ
ตอบสนองอย่างง่ายๆ ถังจิ้นเหยียนกล่าว “วันจันทร์เทปแรก โปรโมทเสร็จทั้งหมดก็น่าจะใช้เวลาราวๆสองเดือน คุณห้าสัปดาห์ ฉันห้าสัปดาห์”
ลั่วหานหยักหน้าอย่างจำใจ มาถึงขั้นนี้แล้วถอยก็ไม่ได้แล้วแน่นอน “งั้นก็ถ่ายเถอะ”
“โอเค หมอฉู่แต่งหน้าเพิ่มก่อนล่ะกัน เหอะๆ”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “จิ้นเหยียน ฉันคิดมาตลอดว่าคุณเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ไม่คิดว่าคุณจะมีทักษะในการต้มตุ๋น ตุ๋นเก่งเยี่ยมกว่าใครๆ ต่อไปไม่สามารถที่จะเชื่อใจคุณง่ายๆได้อีกแล้ว”
“เหอะๆ คำพูดโบราณที่จะหลอกคุณได้ ก็เป็นคนที่ใกล้ตัว ยิ่งใกล้ ยิ่งเพิ่มหลายเท่า หรือคุณไม่รู้หรอ?”
ลั่วหานหัวเราะเบาๆ ยิ่งเป็นคนใกล้ชิด ยิ่งโดนหลอกง่าย ใช่ไหม?”
ประมาณนั้น ใช่แล้ว