คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 382 ก่อนออกเดินทางไกล หน้าเนื้อใจเสือนะ
ตอนที่ 382 ก่อนออกเดินทางไกล หน้าเนื้อใจเสือนะ
ทานข้าวด้วยกันกับเกาจิ่งอาน ลั่วหานถามอย่างสงสัย ตอนนี้ความสัมพันธ์หลงเซียวกับเกาจิ่งอานสนิทกันถึงขั้นนัดทานข้าวเที่ยงแล้วหรอ?
ทั้งสองเป็นพวกยุ่งทั้งวัน คิดไม่ถึงว่าในขณะที่ยุ่งมากขนาดนั้นยังสามารถนัดกันออกมาทานข้าวได้?
ลั่วหานไม่คิดมากไม่ได้
“อืม งั้นก็ดี ฉันไม่มีธุระอะไรแล้ว พวกคุณกินข้าวกันต่อเถอะ”
“โอเค ภรรยารีบทานข้าวนะ”
เมื่อพูดจบ หลงเซียววางสาย เมื่อก้มหน้า ค้นพบว่าเกาจิ่งอานกำลังมองดูตนด้วยสายตาที่กิ๊กกัน ในแววตาแสดงออกถึงความเงียบ และความตกใจ
หน้าเนื้อใจเสือไม่ใช่วันเดียวจะทำได้ เอาสหายโยนเข้ากองในกองไฟก็ใช่ว่าวันเดียวจะฝึกสำเร็จ เกาจิ่งอานถือว่าได้เรียนรู้ความร้ายกาจของหลงเซียวแล้ว
พูดโกหกได้อย่างเยือกเย็น แล้วยังทำให้เขาเชื่อใจได้อีก วิธีนี้ไม่ได้เลียนแบบกันง่ายๆนะ
“ลูกพี่ คุณโกหกแม้กระทั่งพี่สะใภ้ ยังมีเรื่องอะไรที่คุณไม่กล้าทำ? นับถือนับถือ” เกาจิ่งอานยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วพุ่งเขย่าไปที่หลงเซียว “พี่เซียว เหล้าแก้วนี่ฉันแสดงความเคารพคุณ อนาคตยังหวังว่าให้คุณสอนผมหน่อย
หลงเซียวบีบแก้วไวน์ แล้วชนกับเขาสักหน่อย “แกนี่เก่งในการประจบสอพลอ บิดเบือนความจริง แล้วก็ วันนี้ที่ฉันดื่มเหล้าเพราะฉันไม่ขับรถ หากฉันเดาไม่ผิด วันนี้แกขับรถมาเองล่ะสิ?”
เกาจิ่งอานเพิ่งจะดื่มเหล้าเข้าไป เหล้าเพิ่งจะไหลออกมาจากปากนิดหน่อย อีกนิดเดียวแทบจะพุ่งออกมาทั้งหมด “แคะแคะแคะ ผมเอาแต่คิดเรื่องจะมีความสุขในการดื่มเหล้ากับคุณ จนลืมเรื่องขับรถไปเลย”
หลงเซียวดื่มอย่างสบายใจ “เหล้าดื่มมากไม่ได้ ลั่วลั่วไม่ให้ฉันดื่มเหล้า ฉันไม่ได้เป็นพวกติดเหล้า แกก็จำเอาไว้”
เกาจิ่งอานรู้สึกว่าเหล้านี้รสชาติดีจริงๆ สมแล้วที่เป็นสไตล์ของท่านเซียว ยังเป็นสิ่งสะสมของเขา โอกาสไม่ได้มีมาทุกวัน ดื่มไปสองสามอึก “จำไว้ ผมจะจำไว้ ต่อไปนี้ผมออกจากบ้านจะพยายามดื่มเหล้าให้น้อยลง ให้ดีไม่ดื่มเลย”
“ฉันไม่ได้ให้แกจำเรื่องนี้ ให้แกจำเอาไว้ ว่าคำพูดของภรรยา ต้องเชื่อฟัง”
หลงเซียววางแก้วเหล้าลงแล้ว เหลือไว้สองคำยังไม่ดื่ม
“……” เกาจิ่งอานกลืนน้ำลาย หัวเราะแห้งๆสองครั้ง “พี่เซียว ผมยังไม่แต่งงานเลย จะมีภรรยาได้ไง ตอนนี้ผมคนเดียวกินอิ่มนอนอุ่น”
หลงเซียวมองดูไปที่นาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์าบนข้อมือ บ่ายโมงแล้ว “นี่เป็นเรื่องที่แกทำไม่ถูกต้อง ผู้ชายแต่งานทำการ ไม่แต่งงาน จะทำการได้อย่างไร?”
“……” เกาจิ่งอานโดนหลงเซียวสั่งสอนไปหนึ่งครั้ง นิ้วกุมไปที่คิ้วทั้งสองข้าง ดวงตาที่สวยงามค่อยๆหลับลง “ตอนนี้ผมยังไม่อยากรีบแต่งานนะ แล้วผมยังหาคนที่หาเหตุผลให้ผมแต่งงานได้เลย คนเดียวเท่านั้น แล้วยัง……แคะแคะ ผมยังทานไม่อิ่ม ผมทานต่อนะ”
คนเดียวเท่านั้น ก็คือลั่วหาน เสียดายเธอคือภรรยาของคุณ ผมก็แย่งไม่ได้แล้ว
คิดคิดแล้วเจ็บหัวใจเกินบรรยายเหลือเกิน
“อันนี้……ฉันพยายาม!”
หลงเซียวหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปากอย่างสง่างาม “ฉันกินอิ่มแล้ว แกค่อยกินล่ะกัน เรื่องที่ให้แกทำแกก็ทำตามความคิดแก เจอปัญหาติดต่อหาฉันทันที หากช่วงนั้นเกิดการกระทบกระทั่งขึ้นซึ่งๆหน้า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรทั้งนั้น ปกป้องตัวเองไว้ก่อน”
ปกป้องตัวเองไว้ก่อน……เกาจิ่งอานได้ยินแล้วเศร้าเสียใจ
พูดจบ หลงเซียวลากเก้าอี้ออกแล้วยืนขึ้น ชุดสูทที่เรียบไม่มีแม้กระทั่งรอยยับใดๆ รูปร่างสูงยาวสง่ายืนขึ้น อากาศรอบๆถูกอบอวลด้วยกายกลิ่นที่สูงสง่า
เกาจิ่งอานจะลุกขึ้นส่งเขา ถูกหลงเซียวยกมาห้ามไว้ “ทานข้าวต่อไปเถอะ ดื่มเหล้าแล้วอย่าขับรถ”
เกาจิ่งอานชะงักชั่วขณะ คนที่พูดกับเขาตอนนี้คือหลงเซียวจริงๆใช่ไหม? พระเจ้า ใช่หลงเซียวที่ใครไม่ตั้งใจดูที่เรียกฟ้าเรียกฝนคนนั้นจริงหรือนี่?
กลืนสลัดที่อยู่ในปากออกมาด้วยความไม่คาดฝันว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น เกาจิ่งอานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค……ผมรู้แล้ว ลูกพี่ขับรถระวังด้วยนะ”
หลงเซียวไม่พูดอะไรอีก ขายาวที่ใส่กางเกงสแล็คสีดำออกไปจากร้านอาหารตะวันตก ไม่นานคนก็เดินถึงลานจอดรถ หยังเซินเปิดประตูรถ “ท่านประธาน ต่อไปจะไปไหนครับ?”
“ไปสำนักงานใหญ่บริษัทฉู่ซื่อ
“ได้ครับ ท่านประธาน”
โครงการที่เมืองเจียงเฉิงประมาณช่วงวันสองวันนี้จะเริ่มดำเนินการ หลงถิงจะต้องแต่งตั้งเขาออกไปทำอย่างแน่นอน ก่อนที่ออกไปเขาต้องเคลียร์เครื่องสำคัญสองสามเรื่องให้ชัดเจนก่อน
หลงเซียวนั่งข้างหลังของรถแล้วพักสายตา ใบหน้าอันหล่อเหลาสะท้อนความไม่สบายใจออกมา แล้วขมวดคิ้ว
หยังเซินเห็นบอสเริ่มเหนื่อย ก็ขับรถช้าลง ให้เขาได้พักระหว่างอยู่บนถนนพอดี
ผ่านไปยี่สิบนาที รถมาจอดด้านประตูหน้าที่ตึกใหญ่บริษัทฉู่ซื่อ เมื่อรถจอด หลงเซียวก็ตื่น พักผ่อนไปยี่สิบนาที ทำกิจกรรมมาหนึ่งวันเต็มและแล้วก็ได้รับการรีแล็กซ์
เปิดประตูรถให้บอสลงจากรถ หยังเซินถามอย่างต้อนรับขับสู้ “ท่านประธานยังมีแพลนอย่างอื่นอีกหรือไม่?”
หลงเซียวได้ใส่กระดุมเม็กที่เมื่อกี๊ตอนพักผ่อนได้ปลดออก หันไปมองแล้วกล่าว “ทำไมหรอ?”
หยังเซินรู้สึกสับสนลำบากใจนิดหน่อยแล้วจึงกล่าวว่า “ผม……ภรรยาผมจะเกิดลูกแล้ว กำหนดคลอดก็ช่วงวันสองวันนี้ ผมอยาก……ผมอยากกลับไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ ไม่ทราบว่าท่านประธานฝั่งนี้…… หากท่านประธานยังมีแพลนอื่นอีก ผม…..”
“ทำไมไม่บอกให้เร็วกกว่านี้” หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัด ขมวดชัดกว่าครั้งที่แล้วเสียอีก สายตามองไปที่หยังเซินที่บนใบหน้าแสดงออกถึงความสับสน “เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้?”
หยังเซินตกใจจนขาอ่อนหมดแล้ว ลังเลแล้วกล่าวว่า “ผม……ผมกลัวจะกระทบงาน”
หลงเซียวใช้สายตาอันสงบมองไปที่หยังเซิน ”ภรรยาแกอยู่ที่โรงพยาบาลไหน”
หยังเซินตอบอย่างตรงๆ “อยู่ที่โรงพยาบาลสตรีและเด็กของเมืองตะวันตก”
นั่นเป็นโรงพยาบาลที่ทั่วไปมากแห่งหนึ่ง คนที่รับเงินเดือนแบบหยังเซินนี้ เลือกคลอดลูกที่โรงพยาบาลแบบนี้ก็ทำให้เกิดความกดดันมากแล้ว คลอดบุตรอย่างน้อยต้องจ่ายสามสี่หมื่น ไม่ได้ล้อเล่น
“ขับรถของฉันไป รับภรรยาของเธอไปส่งที่โรงพยาบาลหวาเซี่ย ฉันจะช่วยแกติดต่อหมอสูตินรีแพทย์ที่นั่น ไปเถอะ”
หลงเซียวพูดอย่างหนักแน่ ผ่านไปสักพักหยังเซินก็ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ท่านประธาน……นี่…….”
“ยังชะงักทำไมอีก? ไปสิ วันนี้อนุญาตให้แกหยุดงาน ไม่ต้องมาทำงานสักพัก”
“โอเคครับโอเคครับ ขอบคุณท่านประธานมากครับ ขอบคุณท่านประธานมากครับ!”
มองดูด้านหลังของที่สูงใหญ่ที่เดินขึ้นไปบันไดอาคารห้องทำงานของบริษัทฉู่ซื่อ หยังเซินเกือบจะต้องเช็ดน้ำตา คือท่านประธานพูดจริงๆใช่มั้ย? ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นความจริงเท่าไหร่เลยนะ?
หลงเซียวเดินไปถึงตึกบริษัทฉู่ซื่อ หน้าฟร้อนท์เห็นหลงเซียวก็รีบมาทันที! อีกนิดเดียวเกือบจะเป็นลมตรงนั้นแล้ว “หลง คุณหลง ท่านมาหาประธานไป๋หรือเปล่า? ฉันจะพาคุณไปเดี๋ยวนี้
“ไม่ต้อง” เสียงที่น่าฟังเพียงพูดแค่สองคำหัวใจของพนักงานผู้หญิงหน้าฟร้อนท์ก็หลุดออกมา
หลงเซียวเข้าใจรูปแบบบริษัทฉู่ซื่ออย่างมาก แล้วกดลิฟท์ ขึ้นไปชั้นบน หลงเซียวใช้ช่วงเวลาที่ว่างนี้โทรศัพท์ไปหาผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหวาเซี่ย บอกกล่าวเรื่องของภรรยาหยังเซินด้วยตัวเอง
ทางนั้นรับปากจะดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน
วางสายไป ลิฟท์เปิดออกแล้ว
ร่างอันสง่างามเดินออกจากลิฟท์ ข้างหน้าก็คือห้องทำงานของไป๋เวย สิบกว่าตำแหน่งที่อยู่ข้างๆล้วนแล้วแต่เป็นผู้ช่วยของท่านประธาน เลขา
“พระเจ้า ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? ท่านประธานMBKมาแล้ว”
“ใช่เขาจริงๆด้วย สุดท้ายคือภรรยาของตัวเองอยู่ดี สามีแห่งชาติ”
ในเสียงแห่งความอิจฉาแบบหนึ่ง หลงเซียวเดินไปที่ห้องทำงานไป๋เวยอย่างไม่เหลียวมองซ้ายขวา เลขาประธานของไป๋เวยเห็นหลงเซียวก็ยืนขึ้น “คุณหลง……”
หลงเซียวพยักหน้า “ประธานไป๋อยู่ไหม? ”
เขาเพิ่งถามจบ ไป๋เวยกับกู้เยนเซินออกมาจากลิฟท์พอดี “คุณชายหลง? คุณ……มาได้ยังไง?”
หลงเซียวไม่พูดพร่ำทำเพลง “มีธุระ พูดต่อหน้าดีกว่า เชิญเข้ามา”
เข้ามา? แค่เสี้ยววินาทีก็กลายเป็นบอสใหญ่แล้ว แต่ก็ถูก บริษัทฉู่ซื่อเป็นของภรรยาเขา แล้วก็เป็นของเขาด้วย สามีภรรยาไม่แยกทรัพย์สินกันหรอก
“โอเค”
ทั้งสามคนเข้าไปในห้องทำงาน ไป๋เวยรู้สึกด้วยตนเองว่าต้องเชิญหลงเซียวนั่งตำแหน่งหลัก ชงกาแฟให้หลงเซียวเองกับมือ
กู้เยนเซินกำลังดูจากข้างๆ แววตาเริ่มถอดสี!
เขาและไป๋เวยคบหาดูใจกันจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยได้ดื่มกาแฟที่เธอชงเองกับมือเลย เมื่อหลงเซียวมาถึงก็ได้รับบริการระดับสูงเลยซะงั้น ช่างกระตุ้นคนได้จริงๆ
“คุณหลง วันนี้คุณมาธุระงานหรือว่าเรื่องส่วนตัว? หากเป็นเรื่องงาน กาแฟแก้วนี้ให้คุณ หากเป็นเรื่องส่วนตัว งั้นผมก็จะไม่เกรงใจแล้ว”
ตอนกู้เยนเซินกำลังพูดอยู่ มือก็อ้าออกไปถึงขอบแก้วกาแฟ นิ้วหัวแม่มือจับเข้ากับขอบแก้วเพื่อยกกาแฟขึ้นบนมือของตัวเอง
หลงเซียวไม่มองแม้แต่น้อย “ช่วงสองสามวันนี้ผมจะไปจากเมืองหลวง เร็วสุดก็ครึ่งเดือนจึงจะกลับมา ช่วงครึ่งเดือนนี้คือช่วงสำคัญในการเทคโอเวอร์บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป ผมหวังว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นนะ”
มือที่กู้เยนเซินยื่นออกไปได้เก็บเข้ามาทันที แล้วเพ่งมองไปที่หลงเซียว ไม่กล้าเชื่อคำพูดของเขาเลย!
“คุณไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม? ถึงแม้รู้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญคุณก็ยังจะไป? มีปัญหาอะไร? ทำไมคุณต้องไปเอง? สามารถเปลี่ยนคนไปแทนได้ไหม?”
“ไม่ได้ ต้องเป็นผมที่ไปเอง เกี่ยวกับบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป มีจุดสำคัญสองสามจุดที่ผมต้องแจ้งให้พวกคุณทราบ ตั้งใจฟังให้ดี ยึดสองสามจุดนี้ไว้ เทคโอเวอร์บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปในราคาถูกนั้นไม่ยาก……”
หลงเซียวตัดขาดช่องทางนำเข้าสินค้าของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป เรียกคืนผู้ลงทุนของพวกเขารออีกสองสามด้านที่ดำเนินการในเชิงลึกจัดการอย่างละเอียดรอบคอบ สุดท้ายต้องได้คำตอบ “ดังนั้น เวลาหนึ่งสัปดาห์เพียงพอแล้ว”
เพียะเพียะเพียะ!
หลงเซียวพูดจบ กู้เยนเซินพูดนิดหน่อยแล้วเริ่มปรบมือ “คุณหลง สมกับที่เป็นคุณหลง กาแฟแก้วนี้เป็นของคุณ คุณสมควรได้ดื่มมัน”
นัยน์ตาสีดำหลงเซียวบ่งบอกถึงความงง “กาแฟผมไม่ดื่มแล้วล่ะกัน ถ้าดื่มหมด ผมเกรงว่าจะกระทบความกระตือรือร้นของคุณชายกู้ที่จะทำงานแทนผม อีกทั้งทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น ไม่ใช่เป็นงานอดิเรกของผม”
ไป๋เวยนวดๆจมูก “ทำตามวิธีการของคุณหลง ต่อให้พวกเราเทคโอเวอร์บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป โม่ล่างคุนก็ยังยากจนมากๆอยู่ดี ทั้งยังหนี้สินมากมาย”
กู้เยนเซินเบ้ปาก “แน่ล่ะ! หรือให้เงินเขาสักก้อนให้เขาได้ใช้ในยามแก่อย่างสบายๆ? โม่ล่างคุนมีความสุขตลอดไป ต้องลำบากหน่อยแล้ว หลงเซียวให้เงินบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป นับไปนับมาแค่พอสำหรับโม่ล่างคุนชดใช้ค่าเสียหายคืนให้กับหุ้นส่วนเท่านั้น แม้กระทั่งการกู้เงินจากธนาคาร เขาเกรงว่าต้องนำบ้าน รถ ที่ดินทั้งหมดไปจำนอง ไอหยา เสียดายจังเสียดายจัง ไม่ว่าจะยังไงก็ตามก็จะเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงที่ตกเป็นข่าวใหญ่ชั่วขณะ ทำถึงขั้นนี้แล้ว พุ้ยๆ ไม่ทำไม่ตาย”
หลงเซียวพูดธุระจบ เป็นเวลาบ่ายสองสิบนาที ก่อนบ่ายสามต้องกลับไปที่บริษัท ยังมีโครงการอีกมากมายที่เขาต้องไปจัดการ
“ตอนนี้คุณชายกู้น่าจะไม่ยุ่งนะ?”
“ทำไมหรอ? ผมเพิ่งจะประชุมเสร็จ ไม่ถือว่ายุ่ง”
“ในเมื่อไม่ยุ่ง ขับรถส่งผมที่บริษัทหน่อยสิ”
กู้เยนเซินชี้แล้วชี้อีกไปที่จมูกของตน “ผม?”
หลงเซียวหยักหน้า “ที่นี่มีแค่พวกคุณสองคน คุณไม่ไป หรือคุณจะให้ประธานไป๋ไป? หากคุณยินยอม ผมก็ไม่ขัดข้อง”
“ไป! ผมไปส่งคุณ”
“โอเค ตอบตกลงตั้งแต่เมื่อกี๊ก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่หรอ? บังคับให้ผมพูดเรื่องที่ค้านต่อจิตใจทำไม?”
เชดดดดด! เขารู้สึกน้อยใจด้วย