คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 380 วิกฤติบริษัทโม่ซื่อ กู้สถานการณ์คืนยาก
ตอนที่ 380 วิกฤติบริษัทโม่ซื่อ กู้สถานการณ์คืนยาก
หลงเซียวตอบกลับไป ฝั่งโม่ล่างคุนตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ในสายได้ยินแค่เสียงหายใจ
“คุณโม่ ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลานั่งฟังคุณพูด ถ้าคุณอยากขายโม่ซื่อให้ผมตอนนี้ ผมจะให้ราคาพิเศษกับคุณ”
เพราะตอนนี้บริษัทมีปัญหาหนักขนาดนี้ เรื่องหนี้สินของโม่ล่างคุนตอนนี้ก็ค่อนข้างหนัก
โม่ล่างคุนนั่งลงไปในเก้าอี้ ตาทั้งสองข้างเบิกกว้างเหมือนปลาตาย เขามองเมืองหลวงนี้ออกไปจากหน้าต่าง ตึกโม่ซื่อ บริษัทใหญ่หนึ่งในเมืองนี้ เคยเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เสมอกับMBK ทำไมตอนนี้ถึงมาถึงจุดนี้ได้? ทำไม……ทำไมถึงมาถึงจุดนี้ได้?
“หลงเซียว คุณจะ…….ให้หนทางผมหน่อยไม่ได้เหรอ? คุณจะดูโม่ซื่อหายไปแบบนี้เหรอ? หลงเซียว” สองคำสุดท้าย โม่ล่างคุนเน้นเสียงหนัก มีความเศร้าโศก มีความโกรธ มีความเอือมระอา โม่ล่างคุนรู้สึกขายหน้าต่อหน้าหลงเซียว
“คุณโม่ หนทางไม่ใช่คนอื่นให้ แต่คุณต้องแสวงหาเอง ผมเคยให้โอกาสโม่ซื่อหลายครั้ง แต่คุณโม่คุณไม่รักษามันเอง คุณโม่คิดดูเอง โอกาสที่ผมเคยให้โม่ซื่อ น้อยไหม?” น้ำเสียงเคร่งขรึม ชัยชนะที่ใกล้แล้ว หลงเซียวใช้ทัศนคติที่ดีที่สุดแล้ว
เขาโยนคำถามให้โม่ล่างคุน ให้เขาคิดเอง
โม่ล่างคุนขยับปาก ผ่านไปเนิ่นนานก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ
“ถ้าคุณโม่ไม่มีอะไรแล้ว อย่างนั้นการสนทนาของเราก็คงจบลงแค่นี้?”
พูดจบ หลงเซียวก็วางสาย โยนมือถือไปด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน
โม่ล่างคุนมืออ่อน โทรศัพท์ร่วงจากมือของเขา
ปัง
โทรศัพท์ตกไปที่พื้น กระเด็นไปสองที
โม่หรูเฟยถึงแขนของโม่ล่างคุนไว้อย่างตกใจ เบิกตากว้างมองสีหน้าของพ่อ เสียงสั่นเครือ
“พ่อ……เป็นยังไงบ้าง? หลงเซียวพูดยังไง? เขายอมให้โอกาสโม่ซื่ออีกครั้งไหม? เขาพูดยังไง?”
“เพี๊ยะ”
โม่ล่างคุนยกมือขึ้นกะทันหัน ตบไปที่หน้าของโม่หรูเฟย
ตบนี้ โม่ล่างคุนใช้แรงทั้งหมดของเขา รอยนิ้วมือพิมพ์อยู่บนใบหน้าของเธอ ทำให้โม่หรูเฟยตกใจอึ้งไปทันที
จับหน้าที่แดงก่ำเอาไว้ โม่หรูเฟยมองโม่ล่างคุนอย่างไม่อยากเชื่อ ปากสั่นกลืนน้ำลาย ถามขึ้นน้ำเสียงติดขัด “พ่อ พ่อตบหนู? ตบหนูทำไม?”
โม่ล่างคุนมองมือตัวเอง เขาก็ตกใจกับการกระทำของตัวเอง แล้วจึงวางมือลง
แก้มซ้ายของโม่หรูเฟยถูกเขาตบจนแดงบวมไปทั้งแผ่น ตาแดงน้ำตาคลอ “พ่อ……ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อไม่เคยตีหนูเลย ตอนนี้……พ่อถึงกับต้องตบหนู? หนูเป็นลูกสาวพ่อนะ ยังมีอะไรสำคัญกว่าหนูอีก?”
โม่ล่างคุนโกรธมาก ลูกสาวที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้เขาไม่รู้จะระบายอารมณ์โกรธนี้ยังไง ได้แต่ถอนหายใจ “เฟยเฟย ลูก…..เฮ้อ ทำไมลูกถึง……ทำไมถึงได้เอาเงินก้อนใหญ่อย่างนี้ไปให้ซุนปิงเหวิน? ถึงแม้ลูกกับเขาเป็นสามีภรรยากัน แต่ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญของโม่ซื่อ ลูกรู้ไหมว่าเงินก้อนนี้มันมีความหมายยังไง? ลูก……เฮ้อ”
โม่หรูเฟยก้มหน้า น้ำตาไหลลงมาเป็นพรากๆ เธอรู้สึกอึดอัดพูดไม่ออก “หนูจะไปรู้ได้ยังไงว่าโม่ซื่อเกิดเรื่องแบบนี้ เราแต่งงานกันแล้ว เป็นสามีภรรยากัน บริษัทของเขามีปัญหา หนูช่วยเขามันผิดตรงไหน? หลงเซียวทำให้หนูหมดหนทาง ซุนปิงเหวินช่วยหนู และเวลาที่เขาเดือดร้อนหนูจะช่วยเขาไม่ได้เลยเหรอ? เพราะหลงเซียวคอยทำลายโม่ซื่อลับหลัง ถึงหนูจะไปเอาเงินไปช่วยเขา โม่ซื่อก็ไม่มีทาง…..”
“หุบปาก”
โม่ล่างคุนถูกคำพูดลูกสาวทำให้โมโหจนห้ามตัวเองไม่ได้ ยกแขนขึ้นมา ทำท่าจะตบ แต่ก้มหน้าเห็นลูกสาวร้องห่มร้องไห้ สุดท้ายก็วางมือลง “เฟยเฟย พ่อไม่ได้อยากโทษลูก แต่ตอนนี้โม่ซื่อกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ ครั้งนี้โม่ซื่อคง……”
“ท่านประธาน”
โม่ล่างคุนหันไปมองทางประตูออฟฟิศ ผู้ช่วยวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน เหงื่อเต็มหน้าผาก
“เป็นอะไร? รีบร้อนอะไร ฟ้าถล่มหรือไง”
โม่หรูเฟยลุกขึ้น หันหน้าไปทางหนึ่งเช็ดน้ำตา หันกลับมาด้วยสีหน้าหยิ่งยโสเหมือนเดิม การแต่งหน้าเสมือนเจ้าหญิง ยังคงดูสูงส่งไม่เปลี่ยน
ผู้ช่วยอยู่ในอาการเหนื่อยหอบ หน้าแดงจากการวิ่ง หันหน้าไปมองฝั่งโม่หรูเฟย จากนั้นก็กลืนน้ำลาย “ท่านประธาน คุณหนู มีหุ้นส่วนหลายท่านบอก……จะหายหุ้นในมือทั้งหมด และต้องการเป็นเงินสด ฝ่ายการเงินคำนวณดูแล้ว เงินหมุนเวียนในบริษัททั้งหมดตอนนี้ก็ไม่พอจ่ายให้พวกเขา ท่านประธานว่า……”
โม่ล่างคุนสีหน้าซีดเซียว ล้มลงไปนั่งที่เก้าอี้ นั่งนิ่งปรับลมหายใจอยู่พักใหญ่ “ว่า……ยังว่ายังไงได้อีก ออกไป”
ผู้ช่วยโดนโม่ล่างคุนตะโกนใส่ ตกใจวิ่งออกไปทันที
โม่หรูเฟยตระหนักถึงความร้ายแรงแล้ว มันเกินความสามารถเธอแล้ว เกินขอบเขตที่เธอจะควบคุมได้แล้ว จึงได้ลงตัวลง ไม่อวดดี ไม่ถกเถียง
“พ่อ ตอนนี้เราไม่มีวิธีแล้วจริงๆ เหรอ? ทางธนาคารว่ายังไง? จากชื่อเสียงของโม่ซื่อแล้ว ไปกู้เงินที่ธนาคารก็ต้องพอมีวิธี พ่อ เราไปลองดูที่ธนาคาร”
โม่ล่างคุนส่ายหน้า วินาทีนี้ มืดฟ้ามัวดิน เหมือนฟ้าถล่ม “พ่อไปถามมาแล้วหลายธนาคาร พวกเขาจะไปให้เงินเราอีก อย่าว่าให้เงินเลย ถ้าธนาคารรู้สถานการณ์ของโม่ซื่อตอนนี้ คงตามมาทวงหนี้ถึงหน้าบ้านแล้ว โครงการที่แล้วของโม่ซื่อลงทุนไปเป็นเงินมหาศาล”
โม่หรูเฟยมือตกไปบนโต๊ะ “หนูไปหาอาเหวิน ดูว่าเขายังมีเงินเท่าไหร่”
โม่ล่างคุนหัวเราะ หัวเราะอย่างหมดแรง “หาเขา? ลูกนึกว่าเขาจะยอมช่วย? เฟยเฟย อย่าโง่เลย ครั้งที่แล้วที่ลูกเอาเงินไปช่วยเขาพ่อก็รู้แล้ว บริษัทเขามีปัญหาทางการเงิน เงินที่ลูกให้เขาพอให้แค่เติมช่องโหว่เท่านั้น เงินหมุนเวียนของเขามีจำกัด ไม่มีเงินเหลือหรอก”
“กู้เงิน? กู้เงินในนามของเขา? หรือว่า…..พ่อ เราเอาโรงงานไปค้ำประกัน ต้องมีวิธีแน่นอน หนูไม่เชื่อว่าโม่ซื่อใหญ่โตขนาดนี้ กิจการตั้งหลายสิบปี บอกไม่มีก็ไม่มี? หนูไม่เชื่อ หนูไม่เชื่อ”
สำหรับความบ้าคลั่งของลูกสาว โม่ล่างคุนได้แต่ลุกจากเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง เขาเดินไปริมหน้าต่าง มองความรุ่งเรืองของเมืองนี้ เมืองนี้เคยมีสถานที่สำหรับเขา เขาเคยสูงส่ง เคยมีคนยกย่องนับถือ แต่ความร่ำรวยก็เหมือนหมอกควัน เสี้ยววินาทีก็เหลือเพียงอากาศ
“เฟยเฟย เอาโรงงานไปค้ำประกันให้ธนาคาร กลัวว่าไม่นานก็โดนยึด โรงงานหลายแห่งที่นอกเมือง ถูกธนาคารปิดผนึกแล้ว ลูกไม่รู้เหรอ?”
“อะไรนะคะ?”
โม่หรูเฟยหน้าซีดไปทันที
“ตอนนี้หุ้นส่วนต่างพากันถอนทุน หุ้นของโม่ซื่อตกไปจุดต่ำสุดแล้ว นี่หมายความว่า……ชะตาชีวิตของโม่ซื่อถึงจุดจบแล้ว ณ ตอนนี้ ไม่ก็ประกาศล้มละลาย หรือไม่ก็……ขายโม่ซื่อทิ้ง”
“ไม่……เป็นไปไม่ได้ หนูไม่ยอม เป็นเพราะหลงเซียวแน่นอน เพราะเขา หนูจะไปหาเขา หนูไม่ปล่อยเขาไว้แน่”
“เฟยเฟย หยุดเดี๋ยวนี้ หนูไปหาเขาตอนนี้ก็เท่ากับไปตาย”
“หนูไม่ยอม”
“หยุด ถ้ายังเป็นลูกสาวของโม่ล่างคุน ก็หยุดเดี๋ยวนี้”
“พ่อ หนูออกจากวงการเพื่อโม่ซื่อ ตอนนี้กลับบอกหนูว่า โม่ซื่อจบแล้ว หนูไม่ยอม พ่อปล่อยหนู หนูไม่ยอม”
โทรศัพท์โม่หรูเฟยดังขึ้นมา กลั้นความโกรธและน้ำตาไว้ โม่หรูเฟยหยิบมือถือมา หน้าจอแสดงเป็นเบอร์ของเกาจิ่งอาน
“พ่อ……คือ เกาจิ่งอาน เขาโทรหาหนูทำไม? —— เกาจิ่งอานนั่งอยู่ในออฟฟิศ หมุนเก้าอี้หันไปทางหน้าต่าง ภายในห้องทำงานประธานบริษัทอึนเคอ มองเห็นวิวครึ่งหนึ่งของเมืองหลง วิวดี บรรยากาศดี
“น้องเฟย พี่เห็นข่าวแล้ว เห็นตลาดหุ้นวันนี้แล้วด้วย พี่คิดว่าตอนนี้น้องเฟยต้องวิ่งหาเงินไปทั่วแน่”
เกาจิ่งอานจิบกาแฟคำหนึ่ง กาแฟที่เติมน้ำตาล รสชาติกลมกล่อม
“พี่โทรมา หมายความว่ายังไง? ถ้าจะโทรมาหัวเราะเยาะ ไม่จำเป็น”
“ฮาๆ ดูอาการแล้วไม่เหมือนคนเป็นหนี้ท่วมหัวนะ เท่าที่รู้มา ตอนนี้หนี้สินของโม่ซื่อเกินสองหมื่นล้านแล้ว สองหมื่นล้านสำหรับโม่ซื่ออาจไม่ใช่อะไร แต่เธอก็รู้ว่าหนี้สินมันก็เหมือนการเป่าลูกโป่ง ยิ่งอยู่ยิ่งโต สุดท้าย…..ปัง ระเบิด ภาพนั้น มันช่าง…..ว้าว น่ากลัว”
“เกาจิ่งอาน หุบปากเลย”
เกาจิ่งอานยักคิ้ว หยิบเสื้อสูทจากเก้าอี้อย่างเชื่องช้า “น้องเฟย เมื่อไหร่ที่โม่ซื่อประกาศล้มละลาย ทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลโม่ก็จะถูกธนาคารยึด ถึงตอนนั้นพวกเธอก็จะไม่มีแม้แต่บ้านจะอยู่ ตอนนี้ก็ดีกับพี่หน่อย พี่ให้บ้านพวกเธออยู่ได้”
“ถุย ไม่ต้องมาตอแหล”
“ออ ก็ใช่ พี่คิดออกแล้ว ยังมีซุนปิงเหวิน ยังมีน้องเขยที่จะช่วยพวกเธอได้ ถ้าอย่างนั้น เธอก็ยังอวดดีต่อได้ แต่มีเรื่องหนึ่งจะบอก ทั้งเมืองหลวงเขารู้เรื่องของโม่ซื่อกันหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครกล้ารับโม่ซื่อหรอก ให้พ่อเธอเตรียมตัวไว้ ตอนนี้ขายโม่ซื่อให้ลูกพี่ฉัน อาจจะยังพอมีเงินมาใช้หนี้ ถ้าสายกว่านี้ กลัวจะ……ลูกพี่ฉันรู้จักนะ หลงเซียว”
“เกาจิ่งอาน ไม่ต้องไปเข้าข้างคนนอกเลย คนที่พี่ช่วยอยู่ตอนนี้คือใครรู้ไหม เขาเป็นคนทำให้พี่สาวพี่เข้าคุก นี่ยังมา…..”
เกาจิ่งอานวางสาย ใส่เสื้อสูทอย่างรวดเร็ว
“ท่านประธาน รถเตรียมเรียบร้อยแล้ว จะไปไหนครับ?”
เกาจิ่งอานอารมณ์ดี “ไปหาลูกพี่ผม”
ตึกแห่งหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจกลางเมืองหลวง หลงเซียวก็ใส่สูท เดินออกจากออฟฟิศ หยิบมือถือออกมา “อาเซิน ขับรถอารอที่หน้าบริษัท ออกไปตอนนี้”
“ครับ ท่านประธาน”