คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 327 มีภรรยาเป็นคุณหมอรู้สึกยังไง
ตอนที่ 327 มีภรรยาเป็นคุณหมอรู้สึกยังไง
เครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่เมืองหลวงอย่างปลอดภัย เมื่อลงจากเครื่อง หลงเซียวก็รีบนั่งรถตรงไปยังโรงพยาบาล
กู้เยนเซินมองดูเลือดที่แขนหลงเซียวที่เข้มขึ้นเรื่อยๆ ก็กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “คุณชายหลง ผมรู้สึกมาเสมอว่าร่างกายคุณเนี่ยทำด้วยเหล็ก แต่คิดไม่ถึงว่าคุณจะบาดเจ็บได้ เดี๋ยวตอนที่คุณหมอซุน ทำแผลให้ ผมต้องจับตาดูหน่อยแล้วละ”
ไป๋เวยนั่งอยู่ด้านหลัง เมื่อได้ยินคำพูดของกู้เยนเซินเธอก็เอามือปาดเหงื่อบนหน้า การที่เขาพูดแบบนี้กับหลงเซียวไม่ต่างจากรนหาที่ตายเอาเสียเลย เขาเสียสติไปแล้วหรือยังไง
หลงเซียวพิงไปยังเบาะที่นั่งแล้วพูดออกมาอย่างสบายใจว่า “คุณชายกู้ไปกินของดีอะไรมาเหรอ?”
กู้เยนเซินยังไม่ทันตั้งตัว เขาถามกลับว่า “หมายความว่ายังไง?”
หลงเซียวยิ้มเบาๆแล้วตอบว่า “ผมแค่อยากรู้ว่าคุณกินอะไรไป ถึงได้ใจกล้าขนาดนี้”
ไป๋เวยดึงความสนใจออกไป เขารู้สึกเห็นใจสถานการณ์ที่กู้เยนเซินกลืนไม่เข้าคายไม่ออกต่อหน้าหลงเซียวตอนนี้
เมื่อเห็นแขนและหน้าผากของหลงเซียวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไป๋เวยก็เอ่ยขอโทษว่า “ขอโทษนะ ฉันประมาทมากจนทำให้คุณเดือดร้อน”
กู้เยนเซินรีบพูดขึ้นว่า “เดือดร้อนอะไรกัน ผมกับคุณชายหลงไม่ได้เพิ่งร่วมสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ครั้งแรกนะ เพียงแค่ครั้งนี้คนน้อยไปหน่อย ไม่อย่างนั้นหลงเซียวไม่บาดเจ็บหรอก แต่คิดๆดูแล้วก็ตื่นเต้นดี ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายมานานแล้ว”
กู้เยนเซินพูดแล้วหัวเราะแหะๆ ทำนองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกสนาน
หลงเซียวนิ่งเงียบแล้วพูดว่า “เสิ่นเหลียวรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคุณแล้ว เรื่องในวันนี้เขาไม่ปล่อยไปแน่ ช่วงนี้คุณควรระวังเนื้อระวังตัวหน่อยนะครับ”
ไป๋เวยพยักหน้า รอยฟกช้ำบนตัวเธอตอนนี้เริ่มเจ็บปวด แต่มีเสื้อของกู้เยนเซินปิดบังไว้จึงมองไม่เห็น “คุณหลงพูดถูกค่ะ ฉันจะระมัดระวังตัวให้มากขึ้น”
กู้เยนเซินกัดฟันแล้วพูดว่า “เสิ่นเหลียวไอ้ชาติชั่ว คิดว่าวันนี้จะสามารถจับตัวเขาได้เสียอีก ที่ไหนได้มันไม่อยู่ในเรือ โธ่เว้ย!!”
ไป๋เวยพูดว่า “เสิ่นเหลียวไม่ใช่คนธรรมดา เขาไม่โง่ถึงขนาดลงมือด้วยตัวเองหรอกค่ะ คนในวันนี้ล้วนเป็นลูกน้องคนสำคัญของเขา การที่เขาขาดตัวช่วยไปถึงยี่สิบกว่าคนในทีเดียว คงจะโมโหเสียจนสติแตกแน่ ฉันว่าจะเดินทางไปเมืองเจียงเฉิงด้วยตัวเองเสียหน่อย”
“คุณบ้าไปแล้วเหรอไง?” กู้เยนเซินตัดบทและตะคอกออกมาด้วยความไม่พอใจ “เสิ่นเหลียวมันเป็นพวกอันธพาล คุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจะเอาอะไรไปสู้กับเขา? คุณจะตายยังไงยังไม่รู้เลย”
ไป๋เวยหันไปมองหลงเซียว เขาเองก็พยักหน้าเช่นกัน
“ฉันต้องขอโทษมากจริงๆที่ทำให้คุณหลงต้องบาดเจ็บ และก็ขอบคุณประธานกู้ด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ฉันเป็นคนก่อ ฉันจะจัดการเองค่ะ”
หลงเซียวมองไปยังไป๋เวยที่นั่งอยู่เบาะนั่งหลังคนขับ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “คุณเป็นเพื่อนของภรรยาผม เธอเคยบอกว่าจะช่วยคุณ ดังนั้นเรื่องที่เธอให้สัญญาไว้ ผมจะช่วยคุณเอง การที่จะต่อกรกับเสิ่นเหลียวคุณทำคนเดียวไม่ได้แน่ อย่าวู่วามไป”
“แต่ฉันไม่ต้องการเห็นภาพแบบวันนี้อีกนะคะ” ไป๋เวยรู้สึกผิดมาก เธอเป็นใครกัน? มีสิทธิ์อะไรให้คนอย่างลั่วหานและหลงเซียวมาช่วยเหลือ?
หลงเซียวปิดตาลงอย่างเหนื่อยล้า “วันนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เรื่องของเสิ่นเหลียวฟังผมก็พอ อย่าทำอะไรโดยพลการ หากคุณตกอยู่ในมือของเสิ่นเหลียวอีก ผมคงจะไม่ไปช่วยครั้งที่สอง”
ไป๋เวยอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ชะงักไว้และหันไปพยักหน้ากับกู้เยนเซิน
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลงเซียวพูดขึ้นว่า “คุณชายกู้ คุณและไป๋เวยก็เป็นคนของบริษัทฉู่ซื่อ คอยดูสถานการณ์เคลื่อนไหวไว้ และดูแลความปลอดภัยส่วนตัวของเธอด้วย ยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“คุณชายหลง นี่มัน……”
“ตกลง!”
ไป๋เวยยังไม่ทันจะพูดจบ กู้เยนเซินก็ตอบรับทันควันโดยไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียว
รถตรงมาถึงโรงพยาบาล กู้เยนเซินพยุงหลงเซียวไปยังลิฟต์VIP ขึ้นสู่ห้องผู้ป่วยชั้นบนสุด อันถูกตกแต่งไปด้วยความหรูหรา ในนั้นคุณหมอซุนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อมองเห็นแขนของหลงเซียวได้รับบาดเจ็บ คุณหมอซุนก็ตกใจแทบบ้า “คิดว่าจะไม่มีโอกาสรักษาบาดแผลให้คุณอีกแล้วนะ คุณชายหลง คุณไม่ได้ต่อสู้แบบดุเดือดมานานมากแล้วนะ”
หลงเซียวขมวดคิ้วแล้วนั่งที่โซฟา “ว่าง?”
คุณหมอซุนกระแอมขึ้น “ไม่ไม่! ผมยุ่งมากนะ! เดี๋ยวจะทำแผลให้เดี๋ยวนี้หละครับ”
กรรไกรตัดลงบนแขนเสื้อของเขา คุณหมอซุนบอกว่า “น่าเสียดายเสื้อจริงๆ”
หลงเซียวมองดูคุณหมอซุน “ลองพูดเรื่องไร้สาระอีกสักทีสิ?”
“ไม่แล้วครับ ไม่ๆๆๆ! จะทำแผลเดี๋ยวนี้แหละครับ!”
กู้เยนเซินและไป๋เวยมองหน้ากัน จากนั้นกู้เยนเซินพูดขึ้นว่า “คุณหมอซุน ชีวิตช่วงนี้ว่างเหมือนปลดเกษียณเลยไหม? ตั้งแต่ภรรยาหลงเซียวกลับมาก็ไม่ค่อยได้ยินชื่อคุณเท่าไหร่ เหงาหรือเปล่า?”
คุณหมอซุนตัดเสื้อของหลงเซียวออก เผยให้เห็นบาดแผลที่อยู่ภายใน บาดแผลนั้นเป็นรอยกระสุนที่เกือบจะเจาะไปยังกระดูก มันลึกมากจริงๆ
“ผมอยากจะอยู่อย่างเหงาๆแบบนี้ทั้งชีวิตเลย” พูดจบก็หยุดเลือดให้หลงเซียว “คุณหลง แผลนี้ค่อนข้างลึกนะ จะเจ็บหน่อย คุณจะฉีดยาชาไหม?”
ไป๋เวยพูดออกมาว่า “ไร้สาระ ต้องฉีกสิ!”
หลงเซียวตอบว่า “ไม่ต้อง ยาชามีผลกระทบต่อระบบประสาท เย็บเลย”
กู้เยนเซินมองไปยังแขนของหลงเซียว “คุณชายหลง เส้นประสาทที่แขนไม่ส่งผลไปถึงสมอง ไม่มีผลต่อเซลล์ฉลาดของคุณหรอกน่า ถ้าไม่ฉีดจะเจ็บมากนะ”
หลงเซียวจ้องเขาตาเขม็ง ทำให้เขาต้องหยุดพูดลง
ไป๋เวยทนดูไม่ได้จึงหลบสายตา คุณหมอซุนพูดคุยกับหลงเซียวไปพลางเย็บแผลไป ท่าทางของเขากระฉับกระเฉงมาก เพียงไม่ถึงสามนาทีก็เย็บเสร็จเรียบร้อย
หลงเซียวพูดว่า “คุณชายกู้ โทรหาจี้ตงหมิงหน่อย บอกให้เขาเอาเสื้อมาให้ผมชุดหนึ่ง”
“ครับผม”
เมื่อเย็บแผลเสร็จแล้ว หลงเซียวก็ไปล้างคราบเลือดที่ติดอยู่ เมื่อเดินออกมาพบว่าจี้ตงหมิงนำเสื้อมาให้เขาแล้ว
“เจ้านายครับ ชุด”
หลงเซียวเปลี่ยนชุดแล้วกำชับว่า “เรื่องที่ผมบาดเจ็บในวันนี้ห้ามทุกคนบอกให้ลั่วลั่วรู้เป็นอันขาด เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้ว วางใจเถอะ”
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย หลงเซียวก็นำมือใส่ในกระเป๋ากางเกงแล้วพูดว่า “ผมจะไปหาลั่วลั่ว แยกย้ายได้”
กู้เยนเซินเบ้ปาก “หลงเซียว นี่คุณจะกลายเป็นคนกลัวเมียแล้วเหรอเนี่ย มันไม่ใช่สไตล์คุณเลยนะ!”
หลงเซียวไม่แม้แต่จะหันหลังไปสนใจเขา เดินขึ้นลิฟต์ไป
ลั่วหานประชุมกลุ่มย่อยเรียบร้อยแล้วกลับมายังห้องทำงาน หวาเทียนและหลินซีเหวินยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ ทั้งสามคนสีหน้าไม่ดีนัก
ลั่วหานชี้ไปยังแผ่นCTแล้วพูดว่า “ผู้ป่วยมีอาการแบบนี้ หมายความว่าไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ เพราะตอนนี้ผู้ป่วยไม่เพียงแต่เป็นโรคหัวใจ ปอดก็พบปัญหาเช่นกัน ตอนนี้เราต้องรักษาสองอย่าง”
หลินซีเหวินพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ผู้ป่วยจะยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ไหม? เขารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลคางโบ๋มากว่าครึ่งปีก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตอนที่ถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลเราก็มีสภาพแย่แล้ว หากเขามาเสียชีวิตที่นี่ แค่คิดดูก็รู้ว่าจะเป็นอย่างไร”
ลั่วหานมองดูแผ่นCTแล้วพูดว่า “ ยังมีความหวังอยู่บ้าง แต่ต้องดูว่าผู้ป่วยจะให้ความร่วมมือไหม”
หวาเทียนพยักหน้า “ถูกต้อง เนื้อร้ายตรงปอดบางคนสามารถผ่านไปได้ แต่บางคนก็ไม่ได้ ต้องดูว่าใจเขาสู้ไหม ส่วนเรื่องของหัวใจเราจะต้องช่วยกันหาวิธี……”พูดจบเขาก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “คุณหมอฉู่ ยังหาคนบริจาคหัวใจให้หวังเถียนเถียนไม่เจอเลย เพราะกรุ๊ปเลือดเธอค่อนข้างพิเศษ หากเข้ากันไม่ได้ หลังผ่าตัดจะทำให้เธอรับไม่ไหวและเสียชีวิต”
ลั่วหานเอามือกุมขมับ “ฉันรู้ดีค่ะ เธอตื่นหรือยัง?”
หลินซีเหวินส่ายหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนที่เธอย้ายมาที่นี่ ตื่นอยู่ไม่กี่ชั่วโมง จากนั้นก็สลบจนปัจจุบัน แต่ชีพจรยังมั่นคงสม่ำเสมอ ถ้าเธอยังนอนหลับอยู่แบบนี้ อาจทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นอีกหน่อย”
หวาเทียนพูดว่า “นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราแตกต่างยังไงกับตาย? ตอนนี้เธอเท่ากับเป็นเจ้าหญิงนิทราไปแล้ว”
“โธ่เว้ยหวาเทียน คุณช่วยพูดอะไรให้น่าฟังกว่านี้หน่อยได้ไหม!”
ลั่วหานโบกมือขึ้น “เอาล่ะๆๆ กรณีของเถียนเถียนค่อนข้างจะซับซ้อน การที่ให้เธอนอนหลับแบบนี้ก็เป็นการยืดเวลาออกไปหน่อย ตอนนี้อย่าเพิ่งปลุกให้เธอตื่น ถ้าเธอตื่นด้วยตนเองละก็รีบแจ้งฉันเข้าใจไหม”
เธอพูดแล้วมองออกไปยังนอกห้อง พบว่ามีชายชุดดำคนหนึ่งยืนอยู่ที่นอกห้อง แรงกดดันบางอย่างแผ่เข้ามาในห้อง ทำให้ทั้งสามหันไปมองหลงเซียวพร้อมๆกัน
คิ้วคมมีเสน่ห์ สายตาเยือกเย็น หลงเซียวในชุดสูทยืนอยู่และมองเข้ามาด้านใน
“คุณหลง”
“สวัสดีครับคุณหลง”
ทั้งสองคนออกจากห้องทำงานลั่วหานตามมารยาท จึงเหลือเพียงพวกเขาแค่สองคน
ลั่วหานลุกขึ้นและมองไปที่หลงเซียว จากความรู้สึกของหมอ เธอจับได้ว่าวันนี้หลงเซียวดูแปลกไป จึงได้ยื่นมือไปจับหน้าเขาแล้วถามว่า “เป็นอะไรคะ?”
หลงเซียวเอามือหนาใหญ่กุมมือเรียวบางของเธอไว้ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ตอนแรกก็เป็นครับ แต่พอเห็นหน้าคุณผมก็หายดีแล้ว”
ลั่วหานไม่ใส่ใจกับคำพูดเขา “อย่ามาปิดบังฉันนะคะ”
พูดจบอีกมือหนึ่งก็วางลงบนหน้าอกเขาบริเวณหัวใจ “เป็นอะไรกันแน่คะ?ทำไมหัวใจเต้นเร็วแบบนี้ อัตราการเต้นของหัวใจคุณไม่ปกตินะ คุณได้รับบาดเจ็บเหรอคะ?”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “มีภรรยาเป็นคุณหมอนี่ ผมจะปกปิดอะไรไม่ได้เลยซินะครับ บาดเจ็บนิดหน่อยไม่เป็นไรมาก”
ลั่วหานมองไปที่ร่างกายของเขา “บาดเจ็บตรงไหนคะ? ฉันขอดูหน่อย”
หลงเซียวเอามือประคองเธอมานั่งที่โต๊ะ “ไม่มีผลกระทบอะไรมาก ที่รักคุณไม่ต้องกังวลนะครับ คุณบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาผมใช่ไหม คุณพูดได้เลยครับ”
ลั่วหานมองไปด้วยสายตาสงสัย “ไม่ยอมพูดก็ไม่เป็นไร คืนนี้กลับไปฉันจะตรวจดูด้วยตัวเอง”
“ครับผม คืนนี้ผมจะยอมให้คุณภรรยาตรวจทุกประการ” หลงเซียวนั่งด้วยท่าทางผ่อนคลาย ทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ ความเหนื่อยล้าต่างๆก็หายไปทันที
ลั่วหานหยิบเอกสารออกมาจากลิ้นชัก “นี่เป็นข้อมูลของภรรยาหวังเค่ย จากเดิมฉันเพียงแค่จะหาวิธีช่วยเหลือลูกสาวของเขาเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้พบเข้ากับข้อมูลนี้”
เธอยื่นเอกสารไปให้หลงเซียว
หลงเซียวหยิบมาดูแล้วพูดว่า “สิ่งนี้ผมรู้”
ลั่วหานประหลาดใจมาก “คุณรู้? คุณรู้ว่าภรรยาของหวังเค่ยคือ……”
“ใช่ครับ ผมเคยให้คนไปตรวจสอบ ตอนที่ผมรู้ความจริงก็มีท่าทีไม่ต่างจากคุณ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าเป็นแบบนี้ก็ไม่เลว”
ลั่วหานปวดหัวมาก “แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ! ที่รักคะ ตอนนี้ฉันสับสนไปหมด ภรรยาของเขาคือ……พระเจ้า! ฉันจะบ้าแล้ว!”
หลงเซียวไม่มีท่าทีตื่นเต้นใดๆ “ไม่มีอะไรน่าตกใจนะครับ ภรรยาของเขาหน้าตาดี แต่งงานกับชายที่อายุมากกว่าก็เป็นเรื่องปกติ อีกทั้งพ่อของเสิ่นเหลียวก็เป็นใหญ่ในเมืองเจียงเฉิง หากใช้อำนาจของเขา น่าจะได้ในสิ่งที่อยากได้ เหมาะสมกันดี”
ลั่วหานมึนงงมาก “ภรรยาของหวังเค่ยหลังจากหย่าร้างกันก็ไปแต่งงานกับพ่อของเสิ่นเหลียว และยังมีลูกอีกด้วย! เหอะๆ น้องสาวที่น่ารักของฉันแต่งงานกับเสิ่นเหลียว……โลกนี้มันแคบจริงๆ!”
หลงเซียวยิ้มแล้วตอบว่า “ที่รักครับ ไม่ต้องคำนึงว่าเธอเป็นใคร เพียงแค่คุณอยากทำให้บอกผมได้เลย ส่วนขั้นตอนนั้น ผมจะจัดการเอง”