คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 313 หลงจื๋อไอ้คนสารเลว
ตอนที่ 313 หลงจื๋อไอ้คนสารเลว
คนไข้ที่เสียชีวิตกะทันหันมันแปลกอยู่แล้วแน่นอน หลังจากได้ฟังการวิเคราะห์ของหลงเซียวแล้ว ถังจิ้นเหยียนก็รู้สึกสงสัยไม่น้อย ถ้าเกิดยอมจำนนต่อปัญหานี่ล่ะก็ ดูจากความขัดแย้งที่ยังคงค้างคาอยู่ระหว่างหลงเซียวกับซุนปิงเหวิน ทางฝั่งนั้นคงจะไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้แน่นอน มันจะต้องยิ่งทำให้เรื่องยุ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่ถังจิ้นเหยียนครุ่นคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็รู้สึกว่ากระดูกสันหลังของเขาจู่ๆก็เย็นวูบขึ้นมา หลุมปัญหานี่มันใหญ่และ ลึกมากจริงๆ
พอเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา หลงเซียวกลับยิ้มๆอย่างสบายจิตสบายใจ“ตอนนี้รู้สึกว่าการเป็นหมอที่มีความรู้ความสามารถด้านการแพทย์มันดีมากใช่ไหมล่ะ?”
ถังจิ้นเหยียนก็พูดยิ้มๆเช่นกัน“เทียบกับการที่ต้องวางอุบายหลอกลวงกันไปมาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจแล้ว เป็นหมอถือเป็นทางเลือกที่ดีมากเลยล่ะ”
หลงเซียวยกมุมไม่ได้พูดตอบอะไร แต่หันหน้ามองไปยังวิวทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่าง สถานะสูงส่ง ดูน่าเกรงขาม มีความกล้าหาญชาญชัยในการทำสิ่งต่างๆ การที่จะมาถึงจุดจุดนี้ได้ เบื้องหลังต้องทุ่มเทไปตั้งเท่าไร มีน้อยคนนักที่ยากจะรู้ได้
ถังจิ้นเหยียนกับเขามองท้องฟ้าใสที่ทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตานอกหน้าต่าง เหมือนกับว่าจะสัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยวของคนที่อยู่จุดสูงมักจะไม่มีมิตรสหายที่แท้จริง ผ่านไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น“ถ้าเกิดมีคนกำลังทำเรื่องเลวจริงๆล่ะก็ พวกเขาก็คงจะไม่เห็นด้วยกับการชันสูตรศพแน่นอน ถึงตอนนั้น……”
หลงเซียวสบถเบาๆด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ไม่เห็นด้วย? นี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับที่พวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยหรอกนะ”
หลงเซียวพูดประโยคพวกนี้จบไม่ถึงหนึ่งนาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เห็นชื่อที่เด้งขึ้นมา รอยยิ้มของหลงเซียวก็เต็มไปด้วยความยโสโอหังราวกับราชา“เป็นยังไงบ้าง?”
จี้ตงหมิงพูดขึ้น“ติดต่อกันเรียบร้อยแล้วครับ นิติเวชไปโรงพยาบาลหวาเซี่ยโดยตรงเลย พวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ต้องทำตามขั้นตอนนี้ พวกเขาใกล้จะออกกันแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงโรงพยาบาลหวาเซี่ย”
“ได้ แจ้งคนของโรงพยาบาลให้เตรียมตัวให้พร้อม”
“ครับ หัวหน้า”
หลังจากรายงานเรื่องทั้งหมดไปอย่างชัดเจนถี่ถ้วน จี้ตงหมิงก็พูดขึ้นกับผู้อำนวยการหวังของสถานีตรวจ“ผู้อำนวยการหวัง ต้องมาลำบากให้ท่านลงมาวิ่งเรื่องด้วยตัวเองซะได้”
ผู้อำนวยการหวังยิ้มๆด้วยความรู้สึกเกรงใจมากกว่าเขา“ที่ไหนกันล่ะครับ สามารถช่วยคุณหลงจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จผมก็พลอยได้หน้าไปด้วย เชิญคุณไปแจ้งให้คุณหลงทราบ พวกเราจะจัดการอย่างสุดความสามารถ ถ้าเกิดมีคนมีเจตนาทำเรื่องไม่ดี พวกเราจะไม่ประนีประนอมอย่างแน่นอน”
จี้ตงหมิงยิ้มๆอย่างอบอุ่น เวลาออกมาติดต่อกับบุคคลต่างๆ ผู้ช่วยตัวแทนถือว่าเป็นภาพลักษณ์ของหัวหน้า จี้ตงหมิงทำได้อย่างไม่เลวเลย
“ลำบากผู้อำนวยการหวังแล้ว ผมจะไปแจ้งให้ครับ”
ผู้อำนวยการหวังพูดขึ้นด้วยความกังวล“แล้ว คนที่ไปจอแจกันที่ประตูของโรงพยาบาล ตอนนี้ก็ไล่ไปได้แล้วใช่ไหม? ได้ยินว่าคุณนายหลงก็อยู่ที่โรงพยาบาลหวาเซี่ย ไปรบกวนทำให้เธอพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ใช่ไหม?”
จี้ตงหมิงพูดขึ้น“ตอนนี้ไม่ต้องครับ ถ้าเมื่อไรที่ต้องการคงต้องขอมารบกวนผู้อำนวยการหวังอีกนะครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจๆ”
จี้ตงหมิงพูดต่อ“ผู้อำนวยการหวังงานยุ่งขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนเวลาท่านแล้วล่ะครับ”
“คุณจี้ เดี๋ยวผมเดินไปส่งคุณเอง”
“ผู้อำนวยการหวังส่งตรงนี้ก็ได้ครับ”
“ครับ……ครับ คุณจี้เดินทางปลอดภัยนะครับ”
สถานการณ์นี้ดูเหมือนง่ายๆไม่มีอะไรแต่กลับเป็นบทสนทนาและคำบอกลาที่แฝงไปด้วยความลึกลับ สายตาเฉียบแหลมมองทะลุถึงข้อดีข้อเสียของกันและกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อำนวยการหวังที่มีสถานะเป็นถึงบุคคลระดับหัวหน้าของเขต อยู่ต่อหน้าผู้ช่วยของหลงเซียวสุดท้ายก็ต้องถ่อมเนื้อถ่อมตัว จริงๆมันก็น่าคิดอยู่ไม่ใช่น้อย
หลังจากส่งจี้ตงหมิงกลับไปด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจแล้ว คนของสถานีตำรวจก็เริ่มเคลื่อนไหวกันตามปกติ รถตำรวจสามคันมีแพทย์ตำรวจประจำอยู่สองสามคน ขับแล่นไปบนถนนอย่างยิ่งใหญ่ เหมือนกับจงใจจะสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน
หลงเซียว คนใหญ่คนโตระดับนี้ ถ้าสามารถผูกความสัมพันธ์กับเขาได้ ใครมันจะไม่อยากได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์กันล่ะ?
——
หลินซีเหวินจัดการเคสคนไข้ต่างๆของตัวเองจนหมดแล้ว จึงรีบขึ้นลิฟต์ไปหาลั่วหานที่ห้องผู้ป่วยVIP
พอมาถึง ก็เห็นชายรูปหล่อสามคนกำลังยืนมีสีหน้าตกใจเหมือนกันอยู่ในห้อง หลงเซียวไม่ต้องพูดถึง ทุกครั้งที่หลินซีเหวินเห็นเขาก็ล้วนแต่อดไม่ได้ที่จะลดเนื้อถ่อมตัวลงไปเยอะ ส่วนถังจิ้นเหยียน……หลินซีเหวินแทบไม่อยากจะล้างมือเลยจริงๆ
เพียงแต่ตอนที่สายตามองไปยังหลงจื๋อ เห็นได้ชัดว่าสีหน้าเปลี่ยนไป กัดฟัน กำมือแน่น
หลงจื๋อโบกมือให้เธออย่างกระตือรือร้น“ยัยบ้านนอก ในที่สุดคุณก็มาหาหัวหน้าของคุณแล้ว หัวหน้าของคุณนอนอยู่บนเตียงมานานขนาดไหนแล้ว คุณกลับเพิ่งจะมาเอาตอนนี้ ความรู้สึกช้าไปไหม?”
คนบ้านนอก?
คำเรียกนี้กลับทำให้ถังจิ้นเหยียนรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเท่าไร
หลินซีเหวินในตอนนี้ก็ยิ่งกัดฟันแน่นขึ้นไปอีก!
ให้ตายสิ เธอพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าถังจิ้นเหยียนมาโดยตลอด กลับถูกทำลายลงภายในชั่วพริบตาด้วยปากเสียๆของหลงจื๋อ
“คุณชายรองหลงล่ะก็ คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอคุณที่นี่ น่ายินดีเหลือเกินค่ะ!”หลินซีเหวินทำท่าทีที่เหมือนกับไม่ค่อยสนิทกับหลงจื๋อ
ไม่อยากจะพูดเวิ่นเว้อไร้สาระอะไรกับเขา
พยายามที่จะปกปิดความสัมพันธ์ที่คลุมเครือนั่นระหว่างทั้งสองคน ความสัมพันธ์ที่คิดๆดูแล้วก็อึดอัดจนหาอะไรเปรียบไม่ได้ ไม่ควรจะบอกให้คนนอกรู้จริงๆ!
“ผมไม่ได้อยู่ที่นี่? วันนี้คุณเจอผมได้ยังไง? ไม่เจอผม แล้วคุณหารายได้พิเศษได้ยังไง? ไม่หารายได้พิเศษ แล้วคุณจะใช้คืนยังไง?”
หลงจื๋อน้ำเสียงสบายๆ โดยเฉพาะรอยยิ้มบนใบหน้า ทำท่าทำทางแบบเศรษฐีผู้สูงส่งจนทำให้มีกำปั้นหนึ่งซัดตรงเข้ามาที่เขา จนเขาล้มลงไปอยู่ที่พื้น
ในตอนนี้ มันก็คือฝีมือของหลินซีเหวินนั่นเอง!
ให้ตายสิ หลงจื๋อนี่มันสุดๆเลย!อับอายขายขี้หน้าสุดๆ!
อย่างที่คิดเอาไว้ ไม่รอให้หลินซีเหวินเปิดปากพูดอีก เหล่าคนในห้องพากันมองพวกเขาสองคน ลั่วหานถามขึ้นอย่างสงสัย“คืน? หมอหลินต้องคืนเงินเหรอ? เงินอะไร?”
ถังจิ้นเหยียนก็ถามขึ้นมาต่อ“หมอหลินมีปัญหาทางการเงินอะไรหรือเปล่า? ถ้ามีปัญหาพวกเราสามารถช่วยคุณได้นะ”
หลินซีเหวินแทบอยากจะมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด แล้วลากไอ้สารเลวนี่ไปด้วย!
หลงจื๋อจ้องเขม็งหลินซีเหวิน รอยยิ้มยิ่งดูหยิ่งผยองขึ้น“รายละเอียดพวกคุณไม่ต้องถามแล้วล่ะ ขืนถามเยอะไปล่ะก็กลัวว่าหมอหลินคงจะอยู่ในโรงพยาบาลหวาเซี่ยต่อไปไม่ได้แล้วน่ะสิ เรื่องบางเรื่องรู้กันแค่ผมกับเธอก็พอแล้ว”
ทำไมถึงรู้สึกว่าหลงจื๋อยิ่งอธิบายยิ่งดูคลุมเครือมากกว่าเดิม? เขาราวกับว่าไม่ได้อธิบายอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังดูมีพิรุธกว่าเดิมด้วย ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดขึ้นไปอีก
ให้ตายสิ!คนจิตใจทราม!
หลงจื๋อหันมาดูเวลา จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างสบายจิตสบายใจ“พี่สะใภ้ พี่ใหญ่ ที่นี่ผมฝากต่อด้วยล่ะ ผมเริ่มหิวแล้ว จะไปกินข้าวก่อน”
พอพูดเสร็จ หลงจื๋อก็สับขาเดินจากไปทันที พร้อมกับจะลากหลินซีเหวินไปด้วย!
เขาคิดที่จะลากข้อมือของเธอไป แต่ขณะที่หลินซีเหวินเห็นมือของเขายื่นตรงมาหาตัวเอง ก็สะบัดหนีอย่างแรง คิดว่าจะสามารถหลบหนีเงื้อมมือของเขาได้ คาดไม่ถึงว่าดันสะบัดมือของตัวเองเข้าไปอยู่ในมือของเขาเข้าไปดี
หลงจื๋อรู้สึกแค่ว่าจู่ๆที่มือก็สัมผัสได้ถึงอะไรอุ่นๆเต็มกำมือ คิดไม่ถึงว่าในมือจะคว้าหลินซีเหวินเอาไว้ได้ ผิวพรรณที่ละเอียดนุ่มนวลชวนหลงใหลของเธอแนบชิดเข้ากับมือของตน ไม่คาดคิดว่ามันจะให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูกแบบนี้!
มือเล็กๆอยู่ในเงื้อมมือของเขา ถูกมือของเขากำไว้พอดี สัมผัสที่แปลกใหม่และให้ความรู้สึกดีจู่ๆก็ทำให้เขาอึ้งตะลึงขึ้นมา อึ้งตะลึงราวกับถูกไฟช็อต
หลินซีเหวินกัดฟันกรอดๆ กระทืบเท้าอย่างแรง“คุณชายรองหลง นี่หมายความว่ายังไง!”
สมควรไปตาย!
มือข้างที่หลงจื๋อไอ้คนเลวนี่กุมไว้ดันเป็นมือที่ถังจิ้นเหยียนเคยมาแตะไว้ มือที่ถังจิ้นเหยียนเคยแตะแล้ว มือที่เธอไม่อยากที่จะไปล้างน้ำมือนั้น ดันมาถูกหลงจื๋อทำลายมันทิ้งอย่างน่าอนาถ!
ความขัดแย้งนี้มันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว
“คุณชายรองหลง คุณอยากตายเหรอ!” หลินซีเหวินถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าสถานะของคนที่อยู่ที่นี่ด้วยในตอนนี้ค่อนข้างพิเศษไม่เหมาะสมที่จะลงไม้ลงมือล่ะก็ เธอจะต้องฉีกเขาเป็นชิ้นๆ!ขย้ำเขาทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอดแน่นอน!
หลงจื๋อรีบปล่อยมือออก“sorry!ไปเหยียบโดนอุ้งเท้าคุณซะแล้ว”
“คุณกล้าด่าฉันเหรอ!”
“ยังไง? คนที่ด่าก็คือคุณต่างหากล่ะ”
“คุณรอก่อนเถอะ!”
ทั้งสองไล่ตามกันออกไปจากห้องผู้ป่วย ไม่นานตรงทางเดินก็มีเสียงทะเลาะเจี๊ยวจ๊าวกันดังขึ้น
ทั้งสามคนภายในห้องมองหน้ากัน เหมือนว่าผู้ใหญ่สามคนกำลังดูเด็กทะเลาะกันอยู่ ทั้งหมดพากันยิ้มอย่างคาดไม่ถึง
ลั่วหานพอเห็นหลินซีเหวินกับหลงจื๋อดูสนิทสนมกันแบบนี้ ก็นึกถึงนัดดูตัวของถังจิ้นเหยียน ก่อนจะถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง“ใช่แล้ว นัดเมื่อวานของคุณเป็นยังไงบ้าง? ทางฝั่งนั้นเป็นคนยังไงเหรอ?”
สายตาของหลงเซียวมองไปยังถังจิ้นเหยียน พูดแบบนี้ เขาไปนัดดูตัวแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่
ถังจิ้นเหยียนไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนดี เขาอยากจะทำให้ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น“เจอแล้ว พอได้”
ลั่วหานพยักหน้า มองสำรวจถังจิ้นเหยียน“ไม่มีเจอเหตุการณ์อะไร……พิเศษๆบ้างเลยเหรอ?”
เช่นถูกคนมาทำลายแผนการอะไรแบบนี้
เหตุการณ์พิเศษ……เหตุการณ์พิเศษเมื่อคืนเยอะเกินไป
“เจอไม่น้อยเลย แต่สุดท้ายก็จัดการเสร็จสิ้นไปหมดแล้ว ยังดีที่ยังถือว่าราบรื่น”ถังจิ้นเหยียนหน้าตาปฏิเสธ ไม่เต็มใจที่จะนึกถึง
ลั่วหานแววตาเปล่งแสงประกายอย่างชาญฉลาดขึ้นอีกครั้ง“คุณไม่ได้เจอหมอหลินเหรอ?”
“หือ? หมอหลิน? เธอทำไมเหรอ?”ถังจิ้นเหยียนมองไปนอกประตู ในตอนนี้หลินซีเหวินหายไปไม่เห็นแล้ว
“ไม่มีอะไร เมื่อคืนเหมือนกับว่าเธอก็ไปที่นั่นเหมือนกัน คงจะไปคนละเวลาล่ะมั้ง”ในใจครุ่นคิด ถ้าถังจิ้นเหยียนไม่ได้เจอหลินซีเหวิน แสดงว่านัดดูตัวเมื่อคืนคงจะไม่เลวเลย
แล้วหลินซีเหวินล่ะ?
หรือว่าที่วันนี้เธอกับหลงจื๋อเป็นแบบนี้ ก็เพราะเกิดความขัดแย้งกันมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว?
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ มันก็ชักจะน่าสนใจขึ้นจริงๆแล้ว
“เห้อ คุณหลงคุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ เหอะๆๆ ผม……ไม่ได้มารบกวนพวกคุณใช่ไหม?”
คณบดีเฉินเดินสับขาเข้ามาด้วยความรีบร้อน ข้างหลังตามมาด้วยคณะหัวหน้าคนสำคัญสองสามท่าน ทุกคนสวมชุดกาวน์สีขาว ท่าทางอ่อนน้อมมีมารยาท
หลงเซียวสีหน้าไร้อารมณ์“มีอะไรเหรอ?”
“มีคนของทางสถานีตำรวจมาแล้วครับ บอกว่าจะมาชันสูตรศพ ผมกำลังคิดว่า……คุณกับหมอฉู่จะออกไปหาพวกเขาสักหน่อยไหม?”สายตาหลงเซียวยิ่งดูเย็นชาขึ้น หมอเฉินยิ้มอย่างขอโทษด้วยความตกใจ“ถ้าอย่างนั้น……ผมไปดูสักหน่อยแล้วกัน ไม่รบกวนพวกคุณที่นี่แล้วครับ”
ถังจิ้นเหยียนพูดให้บรรยากาศไม่อึดอัดขึ้น“ผมไปกับคุณด้วย คณบดีเฉินไปกันเถอะครับ”
“ได้ หมอถังคุณมาด้วยก็ได้”
ลั่วหานยืดตัวพูดขึ้น“คณบดีเฉิน รบกวนคุณเอาเอกสารการผ่าชันสูตรให้ฉันดูก่อนด้วยนะคะ เรื่องมันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของฉัน ฉันอยากจะรีบรู้ผลให้เร็วที่สุด”
“แน่นอนครับ!แน่นอน!คุณวางใจได้”
หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว ลั่วหานกลั้นยิ้มมองใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาของหลงเซียว แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้“คุณทำหน้าทำตาแบบนี้ทำให้หมอเฉินตกใจแย่แล้วนะคะ เขาเห็นคุณขาก็อ่อนไปหมดแล้ว”
หลงเซียวพูดตอบกลับไปนิ่งๆ“จิตใจแย่ขนาดนั้น มาเป็นหัวหน้าของคุณได้ยังไง? ผมดูแล้วสถานะของพวกคุณแทบจะสลับกันได้เลยนะ ถ้าให้คุณมาเป็นคณบดี คุณจะว่าไง?”
“ล้อเล่นอะไรอยู่ ฉันไม่ชอบเป็นหัวหน้าคน เป็นหมอตัวเล็กๆแบบนี้ก็พอแล้ว”
หลงเซียวห่มผ้าห่มให้เธอ พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยน“คุณไม่ใช่หมอตัวเล็กๆเลย คุณเป็นคนที่ช่วยชีวิตคนมาตั้งเท่าไรแล้ว?”
ลู่ซวงซวงแอบมองเข้ามาข้างใน เห็นทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ จึงไม่กล้าเข้าไปรบกวน ตัดสินใจสอดส่องดูสถานการณ์จากข้างนอกประตู
ขณะที่เธอกำลังหาโอกาสเข้าไปข้างใน จู่ๆก็มีเสียงที่ทั้งเคร่งขรึมทั้งเย็นชาดังขึ้นมาจากข้างหลัง เป็นเสียงของผู้ชายที่ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ อีกนิดก็จะทำให้ลู่ซวงซวงตกใจตายได้เลย
“คุณเป็นใคร? มาทำอะไรตรงนี้?”
ลู่ซวงซวงเอามือกุมที่หัวใจ“ว้ายแม่!!!!ตกใจหมดเลย!อะไรของคุณเนี่ย!คุณ……”ขณะที่กำลังจะพูดด่า ลู่ซวงซวงเงยหน้าขึ้นมามองต้นตอของเสียง จากนั้นก็หยุดชะงักทันที