คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 314 สืบหาความจริงของการตาย
ตอนที่ 314 สืบหาความจริงของการตาย
สายตาที่ถูกกั้นด้วยความสูงที่ต่างกันของทั้งสองคนชนกันเข้าอย่างจัง สายตาของลู่ซวงซวงกับสายตาของหวาเทียนหันมาประจบเข้ากัน
ขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ทั้งสองคนต่างตกใจจนร้องออกมากันพร้อมกัน——
“คุณนั่นเอง!”
“คุณนั่นเอง!”
ลู่ซวงซวงพูดจบยืนอยู่ตรงหน้าของหวาเทียน แม้ว่าในเรื่องของความสูงจะไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย แต่ในเรื่องของสีหน้าท่าทางแน่นอนว่าชนะห่างแน่นอน
นี่คือการฝึกฝนการแสดงออกที่ลู่ซวงซวงได้เรียนรู้มาจากลั่วหาน
ดังนั้น ไม่รอให้หวาเทียนเปิดปากพูดออกมา ลู่ซวงซวงก็เอ่ยปากพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมาเจอคุณที่นี่ ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วนะหวาเทียน!”
น้ำเสียงของลู่ซวงซวงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน สองตาเต็มไปความเยาะเย้ยและความดูถูกมองหวาเทียนที่สีหน้าท่าทีมึนงงไม่น้อย
หวาเทียนยิ้มให้กับลู่ซวงซวงอย่างนิ่งๆ รอยยิ้มที่มุมปากแฝงไปด้วยความดูถูกไม่น้อย เหมือนกับว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แทบจะอยากฆ่าอีกฝั่งซะให้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอด
“ลู่ซวงซวง ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมาเจอคุณที่นี่ ทำไมเหรอ มาหาเรื่องที่โรงพยาบาลจนติดเป็นนิสัยแล้วหรือไง ไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศก็ขาดคุณไปได้เลยสินะ”
ลู่ซวงซวงแบะปาก สีหน้าเย้ยหยัน ภายในใจไม่รู้ว่าด่าหวาเทียนไปกี่รอบต่อกี่รอบแล้ว“ระยะเวลาสามปี ฉันยังนึกว่าคนที่ภายนอกสวมชุดกาวน์แต่จิตใจเลวทรามต่ำช้าแบบคุณจะถูกไล่ออกไปจากโรงพยาบาลแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าคุณยังกล้าสวมชุดชุดนี้? ฉันถามหน่อยหวาเทียน ทำไมคุณถึงกล้าใส่ชุดนี้ออกมาเจอผู้คนอีก! คุณควรจะไปหาป่าหาหุบเขาไว้หลบซ่อนตัวดีกว่านะ อย่าออกมาทำให้ผู้คนตกใจแบบนี้เลย อาจทำให้คนตกใจตายได้เลยนะ”
หวาเทียนคิ้วขมวดอย่างแน่น สบถ หึ ออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่พอเจอคำด่าทอของลู่ซวงซวงแล้ว แน่นอนว่าเขาจะไม่ตอกกลับไปด้วยวิธีแบบเดียวกันอย่างแน่นอน
“ตอนนี้ดูแล้ว สมองของคุณฉลาดกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะ รู้จักเล่นปากเล่นคำ ผมนึกว่าคุณลู่จะทำเป็นแต่ใช้อาวุธทำร้ายคนเป็นอย่างเดียวซะอีก เป็นผู้ชายที่รู้จักใช้กำลังแต่ไม่ใช้สมอง ในเวลาสามปี ดูแล้วคุณพัฒนาไปเยอะเลยนะ”
ให้ตายสิ!
“หวาเทียน คุณลองพูดอีกสักประโยคสิ!วันนี้ฉันจะฆ่าคุณเอง!ไม่ต้องมาพยายามจะมายั่วโมโหฉันหรอก!”สองมือของลู่ซวงซวงกำแน่น จ้องเขม็งด้วยตาที่เกรี้ยวกราดดุร้าย
ข้างนอกทะเลาะกันจนลุกเป็นไฟ ข้างในมีเสียงของลั่วหานดังขึ้นมา“พวกคุณสองคนรู้จักกันเหรอ?”
ลู่ซวงซวงสีหน้าดูถูกดูแคลนรังเกียจที่ต้องไปข้องเกี่ยวกับหวาเทียน“ฉันยอมไม่รู้จักไอ้ขยะสังคมแบบนี้ตั้งแต่แรกดีกว่า ลั่วลั่ว คุณรู้จักเขาได้ยังไง? คนนี้มันเป็นหมอยอดแย่ไร้เหตุผลของโลกนี้เลยนะ รักษาคนไม่เป็นเลยสักนิด คุณอย่าไปให้ความสนใจกับเขาจะดีกว่านะ”
ลั่วหานหันไปมองหวาเทียนที่ถูกลู่ซวงซวงโกรธใส่จนหน้าซีดเล็กน้อย เห็นได้ไม่บ่อยจริงๆหวาเทียนที่เมื่อก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็มักจะมีสีหน้านิ่งๆดูถูกดูแคลนตลอด คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะถูกลู่ซวงซวงทำซะจนสีหน้าเปลี่ยนขนาดนี้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ
หวาเทียนมือล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อกาวน์ เดินเข้าไปพอเห็นหลงเซียวกับถังจิ้นเหยียน ก็พยักหน้าทักทาย จากนั้นก็พูดขึ้นโดยที่ไม่มองลู่ซวงซวง“หมอฉู่อาการคุณเป็นยังไงบ้าง?”
“ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ การผ่าตัดในช่วงนี้ฉันจัดการเสร็จหมดแล้ว คนไข้ที่ไม่ได้อาการหนักมากก็ยืดเวลาออกไปหน่อย เรื่องอื่นๆคุณกับหมอหลินก็พูดคุยปรึกษากันเองแล้วกัน นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว คุณยังมีอะไรอีกไหม?”
เพื่อประหยัดเวลาในการถามไปถามมา ลั่วหานพูดอย่างรวดเร็ว และครบถ้วน
หวาเทียนที่ตอนแรกกะที่จะถามถึงแผนการผ่าตัดของผู้ป่วยสองสามคน แต่เธอดันบอกมาจนหมดแล้ว เขาจึงไม่มีอะไรจะพูดอีก“ตะกี้หมอฉู่พูดมาจนหมดครบถ้วน ผมทราบแล้ว อย่างอื่นไม่มีแล้วครับ หมอฉู่พักผ่อนเถอะครับ”
พูดจบไปอย่างง่ายๆหวาเทียนหน้ายังคงเย็นชาอยู่เหมือนเดิม สีหน้ากลับคืนมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
ลู่ซวงซวงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“หมอหวาเทียนสุดยอดไม่ใช่เหรอ? อยู่ต่อหน้าไอดอลของฉันพูดไม่ออกเลยเหรอ? ดีจริงๆเลย ตอนนี้คุณมาทำงานอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของไอดอล คุณคอยดูเถอะไอดอลจะต้องทำให้คุณลิ้มรสถึงความรู้สึกโหดร้ายทารุณแน่นอน”
หวาเทียนไม่ได้ให้ความสนใจเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เดินออกจากห้องผู้ป่วยไป ตอนที่เดินออกไปยังขมวดคิ้วอยู่
หลังจากไปแล้ว ลั่วหานก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ“ซวงซวง คุณรู้จักหวาเทียนได้ยังไง เขาเพิ่งจะกลับมาจากอังกฤษได้ไม่นาน พวกคุณสองคนไปรู้จักกันตอนไหน?”
พอพูดขึ้นมาลู่ซวงซวงก็กัดฟัน“ก็ตอนที่ไปอังกฤษ……อ้อใช่ สามปีก่อนตอนที่ไปร่วมงานนิทรรศการที่อังกฤษ พวกเราอยู่โรงแรมเดียวกัน วันหนึ่งฉันบังเอิญไปเก็บหมาจรจัดมาหนึ่งตัว หมาดูเหมือนจะป่วย พอดีไปเจอเข้ากับเขา เขาบอกว่าเขาเป็นหมอ สามารถช่วยชีวิตหมาได้ แต่กลับให้ฉันช่วยเขาดูแลปลาทองในห้องของเขา”
เอ่อ……ลั่วหานใช้คิ้วกับสายตาแสดงปฏิกิริยาตอบกลับหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวน้ำเน่าของพวกเขา“หลังจากนั้นล่ะ?”
ลู่ซวงซวงกัดฟันกรอดๆ โกรธจนแทบอยากจะฉีกหวาเทียนออกเป็นชิ้นๆ“หลังจากนั้นสามวันเขาบอกว่าหมาตายแล้ว”
ลั่วหานไอกระแอมเคลียร์ช่องคอ“ดังนั้นคุณก็เลยใช้อาวุธทำร้ายเขาใช่ไหม? เช่นหยิบของมาทุบเขา?”
ลู่ซวงซวงถูกลั่วหานมองจนทะลุปรุโปร่ง เสยๆผมพร้อมกับพูดขึ้น“จะมาโทษฉันไม่ได้ เพราะเขาทำร้ายหมาก่อน หมอของโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในลอนดอน ฉันไม่เชื่อว่าเขาแม้แต่หมาตัวเดียวจะรักษาให้ไม่ได้ จากนั้นฉันก็โกรธ อุ้มปลาทองของเขาไปหาเขาที่โรงพยาบาล……อือ โยนปลาทองลงต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเขา แล้วยังเอาเครื่องดูดฝุ่นทุบเขาไปหนึ่งฉาก”
ลู่ซวงซวงพูดพลางสายตามองไปมองมาไม่เป็นทิศเป็นทาง สุดท้ายก็กลับมามองยังบรรดาคนที่อยู่ในห้อง
“เรื่องนี้ โทษฉันไม่ได้นะ”
ลั่วหานพยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างมาก“ไม่โทษคุณ? ไม่โทษคุณให้โทษใคร? ? หวาเทียนเป็นหมอ คุณหมอที่รักษาคน ไม่ใช่สัตวแพทย์ คุณไปโยนปลาทองที่เขารักแบบนั้น แถมยังตีเขาต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเขาอีก คุณไม่รู้เหรอว่าผู้ชายกลัวเสียหน้าขนาดไหน?”
ลู่ซวงซวงต่อให้ตายยังไงก็ไม่ยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเอง พูดยืนยันต่อ“ฉันไม่สน ถึงยังไงฉันก็รู้สึกว่าเป็นความผิดของเขา ฉันไม่มีทางยกโทษให้หมอที่ใจคอเหี้ยมโหดแบบนั้นหรอก!”
ลั่วหานหมดคำพูดกับวิธีการที่โหดร้ายป่าเถื่อนของลู่ซวงซวง“เอาเถอะ ไม่ให้อภัยก็ไม่ให้อภัย ฉันค่อยหาโอกาสไประบายให้คุณแล้วกัน”
“ไม่ถูกนะลั่วลั่ว คุณรู้ได้ไงว่านั่นเป็นปลาทองที่เขารักเขาหวง?”เธอไม่ได้บอกอะไรแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าเกิดไม่ใช่ของรักของหวงของเขา เขาจะให้คุณดูแลให้ไหม? เอาคีย์การ์ดห้องของตัวเองให้คุณไปสามวัน คุณคิดว่าเป็นเพราะอะไรล่ะ? แถมสามวันนั้นก็ไม่กลับมาเลย คุณคิดจริงๆเหรอว่าเขาจะไปรักษาหมาของคุณจริงๆ? เขาจะต้องเอาหมาของคุณส่งไปให้กับทางโรงพยาบาลสัตว์แน่นอน จากนั้นก็ไปจัดการธุระกงการของตัวเองต่อมากกว่า ไม่เข้าใจหรือไง?”
ลู่ซวงซวงคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน“ดูเหมือนว่ายังมีเหตุผลอยู่……”
“ดังนั้น ก็เป็นคุณที่ไปรุกรานหวาเทียน ไม่ใช่เขาตั้งใจที่จะไม่รักษาหมา คุณกลับไปคิดดูแล้วกันว่าจะไปชดเชยให้เขายังไง”ลั่วหานพูดจบก็เดินตรงไปข้างหลัง มองดูเพื่อนสนิทด้วยสีหน้ากึ่งๆยิ้ม
ลู่ซวงซวงเศร้าหงอยแล้ว!
ในเวลานี้ มือถือของหลงเซียวดังขึ้น ในขณะเดียวกัน มือถือของลั่วหานก็ดังขึ้นเช่นกัน
หลงเซียวเลื่อนเพื่อรับสาย“ว่า”
เสียงของจี้ตงหมิงดังขึ้นมาในสาย“หัวหน้า ผ่าชันสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ นิติเวชพบสารตกค้างอยู่ในตัวศพเป็นยาพิษแบบฉีดชนิดรุนแรง”
ในตอนนี้ ลั่วหานก็ได้ฟังข้อมูลที่หมอรายงานมาเช่นเดียวกัน“หมอฉู่ ผู้ป่วยกำลังอยู่ในกระบวนการระหว่างให้น้ำเกลืออยู่ มีคนฉีดโพแทสเซียมไนเตรตเข้าไปในสายน้ำเกลือ สารเคมีชนิดนี้กับส่วนผสมในตัวยาของเขาทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นยาพิษ เขาก็ตายเพราะว่าตัวพิษชนิดนี้นี่แหละ”
หลังจากลั่วหานฟังแล้วก็กัดริมฝีปาก นัยน์ตาเผยให้เห็นถึงความโกรธและความเย้ยหยัน“ดูท่าแล้วมีคนคิดที่จะวางแผนใส่ร้ายฉันสินะ!ขอบคุณมากหมอหวัง”
พอสายนี้วางลง ส่วนหลงเซียวก็ยังคงพูดต่อ
“หัวหน้า ตะกี้ผมได้ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในวันนั้นแล้ว มีช่วงเวลาช่วงหนึ่งโดนตัดไป เห็นได้ว่าทางฝั่งนั้นได้ทำการเตรียมตัวมาอย่างดีไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางยืนยันได้เลยว่าฆาตกรเป็นคนของโรงพยาบาลหรือว่าคนนอก”
“ปล่อยข่าวออกไปก่อน ไปแจ้งสื่อต่างๆ พวกเขารู้ดีว่าควรจะเขียนข่าวยังไง”หลงเซียวท่าทางประหลาดใจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา ตอนนี้เขาอยากที่จะบีบคอเพชฌฆาตให้ตายด้วยมือตัวเอง ช่างกล้ามากจริงๆ มาลงมือกับภรรยาของเขาต่อหน้าเขาแบบนี้
“ครับ!”
ลู่ซวงซวงได้ยินก็อึ้งตะลึงไป นี่มันอะไรกัน?
แต่เห็นๆอยู่ว่าเธอไม่มีโอกาสได้เปิดปากพูดเลย
หลังจากที่ถังจิ้นเหยียนได้ฟังข้อมูลแล้ว จึงพูดขึ้น“ฆาตกรรู้ข้อมูลที่สำคัญสองอย่างในเวลาเดียวกัน หนึ่งคือส่วนผสมยาของผู้ป่วย สองคือรู้ว่าส่วนผสมนี้กับโพแทสเซียมไนเตรตจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าไม่ใช่คนใน ก็เป็นคนที่แฝงตัวเข้ามาภายใน”
ลั่วหานกับหลงเซียวพยักหน้าพร้อมกัน“ไม่ผิดแน่นอน สถานการณ์ของผู้ป่วยคนนี้พิเศษมาก ตัวยาก็ผสมแบบพิเศษ คนที่รู้ตัวยาก็ไม่เยอะ ถ้าเกิดสืบเสาะไปตามเบาะแสที่มีล่ะก็จะต้องจับฆาตกรได้แน่นอน”
หลงเซียวพยักหน้า“แจ้งไปทางฝั่งของตำรวจแล้ว ไม่นานก็มีคนมาตรวจสอบ ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะได้รับการสอบสวน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะไม่มีการปล่อยผ่านไป ไม่ว่าภายในของโรงพยาบาลหวาเซี่ยจะมีคนที่แฝงตัวเข้ามาหรืออะไรก็ตาม ก็ต้องลากหัวออกมันมาให้ได้”
ถังจิ้นเหยียนถอนหายใจเบาๆ ก่อนพูดขึ้น“คิดไม่ถึงจริงๆ หลังจากที่เกาหยิ่งจือจากไป ยังมีงูพิษแฝงตัวอยู่ในนี้อีก น่ากังวลใจชะมัด”
เขาพูดไม่ทันจบ ในหัวของลั่วหานก็กระตุกขึ้นมาทันที งูพิษภายในองค์กร……ภายในโรงพยาบาลหวาเซี่ยนอกจากเกาหยิ่งจือแล้ว ยังมีซุนเจียลี่อีกหนึ่งคน
ซุนเจียลี่ในตอนนี้ถ้าเกิดเป็นฝีมือล่ะก็ เส้นทางของเธอก็คงจะจบลงเหมือนกับเกาหยิ่งจือแน่นอน
มีคนบางประเภทไม่ว่าจะให้บทเรียน ตักเตือนชี้แนะยังไง ก็ยังคิดไม่ได้อยู่ดี
ถังจิ้นเหยียนดูเวลา“ผมไปห้องตรวจก่อนนะ คุณพักผ่อนเถอะ ถ้าต้องการความช่วยเหลือบอกผมได้ทุกเมื่อ”
“ได้ คุณไปเถอะ”
ลู่ซวงซวงมองส่งถังจิ้นเหยียนจากไป กระพริบตาทำเสียงต่ำพูดขึ้น“เห้อๆ ลั่วลั่ว มีหมอถังผู้ชายที่อบอุ่นแบบนี้อยู่ข้างๆ ให้ความรู้สึกไม่เลวเลยใช่ไหม? คิดไม่ถึงจริงๆ นานขนาดนี้แล้ว หมอถังไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ยังดีกับคุณขนาดนี้เหมือนเดิม”
สายตาของลั่วหานกวาดมองไปยังลู่ซวงซวง ก่อนจะชำเลืองตาไปที่หลงเซียว ทำให้ลู่ซวงซวงรีบเงียบปากลงทันที
หลงเซียวก็ดูเวลาเช่นกัน“ตำรวจน่าจะถึงแล้วล่ะ ผมลงไปดูหน่อยแล้วกัน”
ลั่วหานรู้ว่าเขากำลังให้เวลาส่วนตัวกับพวกเธอสองคน จึงพยักหน้าอย่างยิ้มๆ“ค่ะ”
หลงเซียวออกไปจากห้องผู้ป่วย บังเอิญมีลิฟต์ขึ้นมาพอดี มือของเขายังไม่ทันได้ไปกดปุ่ม ประตูลิฟต์ก็เปิดออก มีคนสวมชุดสีดำและคนสวมชุดสีแดงอยู่ในลิฟต์ ทั้งสองคนหันมามองหลงเซียวพร้อมกัน สองสามวินาทีแล้วยังไม่มีทีท่าอื่นใด
ในที่สุดคนในลิฟต์ก็เอ่ยปากพูดขึ้น“หลงเซียว นายอยู่ที่นี่เองเหรอ”
ริมฝีปากบางราวกับใบมีดของหลงเซียวยิ้มๆอย่างเย็นชา“พี่มาได้ยังไงครับ?”
หลงยี่ยิ้มๆ จัดเนกไท“ได้ยินว่าน้องสะใภ้ไม่สบายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ฉันกับพี่สะใภ้ของนายก็เลยมาเยี่ยมเธอสักหน่อย”
แววตาของหลงเซียวเยือกเย็นสุดๆ“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับ เธอต้องการพักผ่อน ต้องการความสงบ น้ำใจของพี่กับพี่สะใภ้ผมขอรับไว้แทนเธอแล้วกันครับ”
ผู้หญิงข้างในยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น“หลงเซียว นี่มันได้ยังไงกันล่ะ? คนในครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ลั่วหานป่วยทั้งทีพวกเราไม่ไปเยี่ยมมันคงจะไม่เหมาะมั้ง? ฉันตั้งใจซื้อดอกไม้มาให้ลั่วหานด้วย หวังว่าเธอคงจะชอบ”
หลงเซียวจ้องมองดอกลิลลี่กับดอกกุหลาบเหลืองในมือของเธอ แววตาเย็นยะเยือก“ลั่วลั่วไม่ชอบดอกลิลลี่ แล้วก็ไม่ชอบดอกกุหลาบเหลืองด้วย เธอหลับไปแล้ว”
พูดพลาง หลงเซียวก็เดินเข้าไปในลิฟต์ ไม่รอให้พวกเขาพูดอะไรต่อ กดลิฟต์ชั้น1หนึ่งทันที ลิฟต์เลื่อนลงข้างล่าง